ผู้สูงอายุกู้ซื้อบ้าน 4 วิธี กู้อย่างไรให้ผ่านฉลุย

DDproperty Editorial Team
ผู้สูงอายุกู้ซื้อบ้าน 4 วิธี กู้อย่างไรให้ผ่านฉลุย
การกู้ซื้อบ้าน นับเป็นการสร้างหนี้ก้อนใหญ่ และต้องใช้ระยะเวลาในการผ่อนชำระค่อนข้างนาน หากยิ่งเริ่มต้นช้า โอกาสที่จะกู้ซื้อบ้านผ่านก็จะยิ่งน้อยลง สำหรับผู้ที่ตัดสินใจซื้อบ้านในวัยสูงอายุ อาจคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะขอกู้ผ่าน แต่ปัจจุบันมีหลายธนาคารที่ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุออกมา การกู้ซื้อบ้านของผู้สูงอายุจึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หากแต่ต้องอาศัยเทคนิคการเตรียมตัวที่ดี
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

เลือกสินเชื่อบ้านเพื่อผู้สูงอายุ

ปัจจุบันธนาคารได้มีการออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุหลากหลายแบบ ผู้สูงอายุที่ต้องการกู้ซื้อบ้านจึงควรสำรวจข้อมูลผลิตภัณฑ์ทั้งหมด แล้วมาเปรียบเทียบในเรื่องของคุณสมบัติผู้กู้ อัตราดอกเบี้ย และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับตนเอง โดยธนาคารที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ ได้แก่

1. สินเชื่อบ้าน Senior Home 4U ธนาคารอาคารสงเคราะห์

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้าน สำหรับผู้สูงอายุ ดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก ปีที่ 1-2 เท่ากับ 2.75% ต่อปี ปีที่ 3 เท่ากับ 3.40% ต่อปี โดยมีรายละเอียดดังนี้
กรณีกู้ใหม่
– เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด
– เพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
– เพื่อต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร
– เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้อชุดจากสถาบันการเงินอื่น
– เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินเปล่าจากสถาบันการเงินอื่น พร้อมปลูกสร้างอาคาร
– เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมอาคารจากสถาบันการเงินอื่น และปลูกสร้างอาคาร หรือต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซม
– เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัยพร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์หลัก
กรณีกู้เพิ่ม
– เพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
– เพื่อต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร
– เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัยพร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์หลัก
– กรณีกู้เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA)
– เพื่อขอกู้พร้อมวัตถุประสงค์หลักของผลิตภัณฑ์นี้เท่านั้น
หมายเหตุ: นิยามคำว่า "อาคาร" หมายถึง บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์เพื่อที่อยู่อาศัย ยกเว้นบ้านเช่าและแฟลต
โดยระยะเวลาผ่อนไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่เกิน 40 ปี อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี คุณสมบัติผู้กู้ต้องมีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
อัตราดอกเบี้ย
วัตถุประสงค์เพื่อที่อยู่อาศัย/ชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA)
ปีอัตราดอกเบี้ย
ปีที่ 1-2= 2.75% ต่อปี
ปีที่ 3= 3.40% ต่อปี
ปีที่ 4-5= MRR-2.25% ต่อปี
ปีที่ 6-7= MRR-2.00% ต่อปี
ปีที่ 8 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป= MRR-0.75% ต่อปี
ปีที่ 8 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อยสวัสดิการ= MRR-1.00% ต่อปี
ปีที่ 8 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีซื้ออุปกรณ์= MRR
กรณีขอกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์ฯ พร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์หลักที่มีการแบ่งจ่ายเงินกู้เป็นงวด ตามผลงานก่อสร้าง บัญชีซื้ออุปกรณ์ฯ ให้ใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้
ปีอัตราดอกเบี้ย
ปีที่ 1 จนถึงตลอดอายุสัญญา= MRR
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา (EIR)
– กรณีลูกค้าสวัสดิการ = 4.593%
– กรณีลูกค้ารายย่อย = 4.681%
– กรณีซื้ออุปกรณ์ฯ = 4.943%
กำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้-30 ธันวาคม 2566

2. สินเชื่อบ้านยูโอบี ธนาคารยูโอบี

เป็นสินเชื่อเพื่อการนำไปซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสอง คอนโด หรือปลูกสร้างบ้าน เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย
คุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อบ้าน ต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 20,000 บาท อายุการทำงานอย่างน้อย 2 ปี (หรือ 3 ปี สำหรับเจ้าของกิจการ)
อายุไม่เกิน 70 ปี สำหรับผู้กู้ที่มีรายได้เป็นเงินเดือนประจำทั่วไป และหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ
อายุไม่เกิน 75 ปี สำหรับเจ้าของกิจการ
อัตราดอกเบี้ยพิเศษ กู้ซื้อบ้านใหม่ และบ้านมือสอง อนุมัติวงเงินกู้สูงสุด 100%

3. สินเชื่อเคหะ ธนาคารออมสิน

สินเชื่อบ้านใหม่ และบ้านมือสอง เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด, ปลูกสร้างหรือต่อเติมซ่อมแซมอาคาร, ซื้อที่ดินที่มีอาคารของตนเอง ปลูกสร้างแล้ว หรือไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่นพร้อมปลูกสร้างอาคาร
ระยะเวลาชำระเงินกู้
– กรณีกู้เพื่อจัดหาที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 40 ปี และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี
– กรณีกู้เพิ่มเติมเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบ้าน หรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย ไม่เกิน 40 ปี ทั้งนี้ ต้องไม่เกินระยะเวลาชำระเงินกู้ตามกรณีกู้เพื่อจัดหาที่อยู่อาศัย
– กรณีกู้เพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ และ/หรือกรณีที่มีการกู้เพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย ไม่เกิน 30 ปี
สินเชื่อบ้านธนาคารออมสิน-ธอส.

สินเชื่อบ้านธนาคารออมสิน-ธอส.

ระยะเวลาการผ่อนชำระกับการตัดสินใจขอสินเชื่อ

สำหรับผู้สูงอายุกู้ซื้อบ้าน หลังเลือกผลิตภัณฑ์สินเชื่อได้เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ควรรีบดำเนินการคือตัดสินใจขอสินเชื่อ เนื่องจากสินเชื่อแบบต่าง ๆ จะมีเงื่อนไขของกรอบระยะเวลาในการผ่อนชำระอยู่
ดังนั้นยิ่งขอสินเชื่อได้เร็วก็ยิ่งเป็นเรื่องดี เพราะนอกจากจะได้จำนวนปีในการผ่อนที่ยาวนานขึ้น ยังช่วยแบ่งเบาภาระค่าผ่อนต่องวดได้ และไม่กลายเป็นภาระที่หนักเกินไปในวัยสูงอายุ

อาชีพและรายได้ที่มีผลต่อผู้สูงอายุกู้ซื้อบ้าน

สำหรับผู้สูงอายุกู้ซื้อบ้าน ธนาคารเปิดกว้างให้ทุกอาชีพ ทั้งพนักงานประจำทั่วไป ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือเจ้าของกิจการ แม้จะอยู่ในวัยเกษียณ
อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุกู้ซื้อบ้านก็ต้องแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงทางอาชีพหรือธุรกิจที่ทำอยู่ รวมทั้งรายได้ที่สม่ำเสมอ เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับสถาบันการเงินในการอนุมัติสินเชื่อ ตลอดจนสะท้อนถึงความสามารถในการผ่อนชำระค่างวด
ทั้งนี้ หากอาชีพที่ทำไม่มีความมั่นคง หรือมีรายได้ไม่สม่ำเสมอ โอกาสที่จะขอกู้ผ่านก็จะมีน้อยลง
รู้จักกับ Reverse Mortgage

รู้จักกับ Reverse Mortgage

เทคนิคกู้ให้ผ่านที่ผู้สูงอายุกู้ซื้อบ้านควรรู้

นอกจากอาชีพการงานมั่นคง มีรายได้สม่ำเสมอ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทางธนาคารจะนำมาพิจาณาประกอบการอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งก่อนทำเรื่องขอกู้ซื้อบ้าน มีเทคนิคที่ผู้สูงอายุกู้ซื้อบ้านควรรู้ ดังนี้

1. รายการเดินบัญชีดี

ในการยื่นขอกู้เงินซื้อบ้าน ธนาคารจะมีการพิจารณารายการเดินบัญชีช่วงระยะเวลา 6-12 เดือนก่อนการยื่นกู้ ในช่วงเวลาดังกล่าวผู้สูงอายุกู้ซื้อบ้านจึงควรนำเงินเข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมอ
ในกรณีที่ทำงานประจำหรือมีเงินเดือน หรือข้าราชการผู้รับบำนาญหรือผู้รับบำเหน็จรายเดือน เมื่อเงินเข้าบัญชี ไม่ควรเบิกเงินจำนวนนั้นออกมาทั้งหมดในทันที ควรทยอยนำออกมาใช้ และควรมีเงินเหลือติดบัญชีไว้ทุกเดือน
ขณะที่ผู้สูงอายุกู้ซื้อบ้านที่เจ้าของธุรกิจ ก็ควรนำเงินเข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมอในช่วงระยะเวลาดังกล่าวเช่นกัน

2. มีเครดิตการเงินดี

สำหรับผู้สูงอายุกู้ซื้อบ้าน หากมีประวัติการผ่อนชำระสินค้า การใช้บัตรเครดิต และมีประวัติการชำระที่ตรงเวลา จะเป็นหลักฐานที่สร้างความน่าเชื่อถือและโอกาสในการได้รับวงเงินกู้สูงกว่าผู้ที่ไม่เคยมีประวัติการทำธุรกรรมในลักษณะนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตาม ก่อนการยื่นกู้ ผู้สูงอายุกู้ซื้อบ้านควรชำระหนี้อื่น ๆ ให้หมดเสียก่อน เพราะธนาคารจะพิจารณาทั้งรายรับและภาระค่าใช้จ่ายในปัจจุบันประกอบกัน ยิ่งมีภาระหนี้น้อย วงเงินกู้ที่ได้รับก็จะยิ่งสูงขึ้น แต่หากมีภาระหนี้สูงก็อาจถูกปฏิเสธการยื่นขอกู้ซื้อบ้านได้

3. ยกเลิกบัตรเครดิตที่ไม่จำเป็น

การมีบัตรเครดิตหลายใบ จะทำให้ธนาคารจะมองว่าผู้กู้มีโอกาสสร้างหนี้สูงขึ้นในภายหลัง ทำให้โอกาสการอนุมัติสินเชื่อบ้านต่ำลง
วิธีใช้บัตรเครดิตให้กู้บ้านได้ง่าย

วิธีใช้บัตรเครดิตให้กู้บ้านได้ง่าย

ไม่ว่าจะเป็นคนวัยหนุ่มสาว หรือผู้สูงอายุกู้ซื้อบ้าน ปัจจัยสำคัญในการขอสินเชื่อไม่ได้แตกต่างกันมากนัก โดยต้องเริ่มจากค้นหาสินเชื่อที่เหมาะสม จากนั้นก่อนยื่นกู้ต้องมีการวางแผนทางด้านการเงิน ทำให้ธนาคารเห็นว่ามีรายได้ที่มั่นคง มีความสามารถในการผ่อนชำระไหว และไม่มีภาระหนี้สินผูกพันที่อาจทำให้เป็นปัญหา
เพียงเท่านี้โอกาสที่จะขอสินเชื่อบ้านผ่านก็ไม่ใช่เรื่องยาก แม้จะอยู่ในวัยสูงอายุก็ตาม
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ

คำถามยอดนิยม

ผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป หรือผู้สูงอายุ สามารถกู้ซื้อบ้านได้ ถ้าเลือกธนาคารที่มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่รองรับผู้สูงอายุ เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารยูโอบี และธนาคารออมสิน