หน้าที่ของนายหน้าที่คุณอาจไม่รู้ว่าสามารถทำให้ได้

หนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการซื้อบ้านที่เรียกได้ว่าสามารถตัดสินชี้ชะตาผู้ซื้อเลยก็ว่าได้คือ "การขอสินเชื่อ" ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากพอสมควร แต่รู้ไหมว่าหนึ่งในตัวช่วยสำคัญในเรื่องนี้คือนายหน้าหรือเอเจนต์นั่นเอง โดยถือเป็นหนึ่งในหน้าที่ของนายหน้าที่สามารถช่วยคุณได้ รวมถึงหน้าที่อื่น ๆ ของนายหน้าที่คุณอาจไม่รู้ มีอะไรบ้างดูได้ที่นี่

เชื่อว่าผู้ที่ต้องการซื้อบ้านหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า ถ้าหากใช้บริการซื้อบ้านกับนายหน้า คุณสามารถให้นายหน้ายื่นสินเชื่อเพื่อทำธุรกรรมแทนได้ เพราะนายหน้าเป็นผู้ที่มีความรู้และความเข้าใจรวมถึงเชี่ยวชาญในเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี จึงสามารถช่วยแนะนำผู้ซื้อเพื่อลดความเสี่ยงในขั้นตอนเหล่านี้ได้มากขึ้นนั่นเอง

เนื่องจากการขอสินเชื่อกับธนาคารนั้นมีรายละเอียดและเงื่อนไขมากมาย อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่มอีกด้วย จึงไม่ใช่ว่าจะสามารถเลือกขอสินเชื่อกับธนาคารไหนก็ได้ ด้วยเหตุนี้ก่อนที่นายหน้าขอสินเชื่อจึงต้องมีความรู้ข้อมูลของแต่ละธนาคารมากพอสมควร

ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้ากลุ่มข้าราชการควรไปขอสินเชื่อจากกลุ่มธนาคารของรัฐบาล เพราะสามารถปล่อยสินเชื่อออกได้ง่าย อาทิ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งธนาคารเหล่านี้มักจะมีดีลพิเศษกับแต่ละหน่วยงานข้าราชการอยู่แล้ว แถมมีดอกเบี้ยต่ำและวงเงินสูงอีกด้วย

ขณะเดียวกัน หากว่าลูกค้าทำงานบริษัทเอกชนหรืออาชีพฟรีแลนซ์ ก่อนที่นายหน้ายื่นสินเชื่อจะต้องพิจารณาว่าเงินสดส่วนใหญ่นำเข้าธนาคารไหน เพราะธนาคารจะพิจารณาประวัติการเงินเป็นหลัก โดยยึดจากเอกสาร statement ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีเงื่อนไขแตกต่างกัน หน้าที่ของนายหน้าจะช่วยคัดกรองเบื่องต้นแล้วค่อยส่งเอกสารไปให้ถูกแต่ละธนาคารเพื่อง่ายต่อลูกค้า สะดวก ทำให้ปิดงานได้เร็ว

ดังนั้น ผู้ที่ทำหน้าที่นายหน้าส่วนใหญ่จึงมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบ้านหรือคอนโดที่จะขายและรู้จักผู้ซื้อเป็นอย่างดี เพื่อช่วยสร้างโอกาสให้นายหน้ายื่นสินเชื่อผ่านง่ายขึ้น

หน้าที่หลักของนายหน้า คือเป็นคนกลางที่คอยเชื่อมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยจะให้ข้อมูลตามที่ได้รับมาจากผู้ขายหรือเจ้าของบ้าน มีหน้าที่พาชมสภาพแวดล้อมบริเวณบ้าน ความพึงพอใจของทั้งสองฝ่ายขึ้นอยู่กับการพูดคุย และบริการจากนายหน้า ถ้าหากนายหน้าสามารถปิดการขายกับผู้ซื้ออย่างเราได้

โดยทั่วไปจะคิดค่าคอมมิชชันกับเจ้าของบ้าน ในอัตรา 3% จากราคาขาย หรืออาจสูงและต่ำกว่านั้น โดยนายหน้าอสังหาฯ สามารถแบ่งได้หลายประเภท ได้แก่ นายหน้าท้องถิ่น, นายหน้าตัวแทน, นายหน้าโครงการ และนายหน้าโบรกเกอร์ หรือนายหน้าสมทบ

บทบาทหน้าที่นายหน้า คือ การเป็นตัวแทนของผู้ซื้อหรือผู้ขาย นอกจากการยื่นสินเชื่อให้กับผู้ซื้อบ้านแล้ว หน้าที่ของนายหน้าที่ที่ผู้ซื้อบ้านอาจยังไม่รู้ว่าเขาสามารถช่วยเหลืออะไรเราได้บ้าง มีดังนี้

– แนะนำเรื่องราคาตลาดของอสังหาริมทรัพย์ของผู้ขาย

– สร้างแผนการตลาดเพื่อขาย/ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ของผู้ขายแบบมืออาชีพ

– สามารถเข้าถึงระบบเครือข่ายนายหน้าที่จะช่วยทำการตลาดให้กับอสังหาริมทรัพย์ของผู้ขายผ่านนายหน้าจากเอเจนซี่อื่น ๆได้

– ทำการตลาดทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ให้กับอสังหาริมทรัพย์ของผู้ขาย โดยค่าใช้จ่ายจะตกอยู่ที่ตัวนายหน้าเอง

– คัดกรองผู้ซื้อที่ดีแทนผู้ขาย

– จัดการ การนัดขอเข้าชมอสังหาริมทรัพย์แทนผู้ขาย

– จัดการเอกสารสัญญาต่าง ๆ แทนผู้ขาย

– ยินดีทำตามคำสั่งหรือข้อเรียกร้องอันสมเหตุสมผลที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม

– ให้คำแนะนำแก่ผู้ซื้อว่า ควรซื้อ/เช่าที่อสังหาริมทรัพย์ประเภทใดที่อยู่ในงบประมาณของผู้ซื้อ

– เสาะหาและคัดเลือกอสังหาริมทรัพย์ตามเกณฑ์ที่ผู้ซื้อต้องการ

– สามารถเข้าถึงระบบเครือข่ายนายหน้าที่จะช่วยผู้ซื้อหาอสังหาริมทรัพย์แบบที่ผู้ซื้อต้องการผ่านนายหน้าจากเอเจนซี่อื่น ๆ ได้

– จัดการการนัดขอเข้าชมอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนไปชมอสังหาริมทรัพย์นั้น ๆ กับผู้ซื้อ

– จัดการเรื่องการเจรจาต่าง ๆ แทนผู้ซื้อ (หากผู้ซื้ออนุญาต)

– เตรียมเรื่องเอกสารสัญญาต่าง ๆ แทนผู้ซื้อ

1. หน้าที่ของนายหน้าจะช่วยประเมินว่าผู้ซื้อ สามารถกู้เงินเพื่อซื้อบ้านได้เท่าไร และบ้านมือสองหรือคอนโดมือสองราคาประมาณไหนเหมาะกับกำลังทรัพย์บ้าง รวมถึงคำนวณค่าผ่อนบ้านในแต่ละเดือนให้ด้วย

จากนั้นผู้ซื้อก็จะเลือกบ้านหรือคอนโดที่นายหน้ามีอยู่ ซึ่งหน้าที่ของนายหน้าคือการหาบ้านหรือคอนโดดี ๆ มาอยู่ในมือให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายและดึงดูดลูกค้า

2. หน้าที่ของนายหน้าต้องพิจารณาจากสิ่งที่จำเป็นและขาดไม่ได้ที่สุดสำหรับผู้ซื้อก่อน เช่น ต้องอยู่ทำเลนี้เท่านั้น คอนโดต้องติดรถไฟฟ้า บ้านต้องมีอย่างน้อย 2 ห้องน้ำและจอดรถได้ 2 คัน เพื่อตีกรอบให้แคบลง

หลังจากนั้นค่อยพิจารณาปัจจัยที่สำคัญรองลงไป อาจจะไม่ได้จำเป็นแต่มีความชอบส่วนตัว เช่น มีครัวไทยแยก ห้องอาบน้ำมีอ่างอาบน้ำ บริเวณสวนกว้างขวาง เป็นต้น

3. เมื่อตัดสินใจเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดที่ต้องการได้แล้ว หน้าที่ของนายหน้าอันดับต่อไปก็จะเริ่มเดินเรื่องขอ Pre-approval กับธนาคารให้ผู้ซื้อ หรือการประเมินจากทางสถาบันการเงินว่าผู้ซื้อมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะกู้เงินเพื่อไปซื้อบ้านได้หรือไม่

เมื่อการยื่น Pre-approval ผ่านแล้ว ผู้ซื้อก็จะรู้ว่าธนาคารจะปล่อยกู้ให้สูงสุดได้เท่าไร ซึ่งนั่นก็คือราคาบ้านสูงสุดที่เราสามารถซื้อได้ จากนั้นก็นำราคานี้ไปประกอบการตัดสินใจเลือกทรัพย์ในขั้นสุดท้ายอีกครั้งหนึ่ง

หน้าที่ของนายหน้าข้างต้นอาจไม่ครบถ้วนทั้งหมดตามที่กล่าวมา ผู้ใช้บริการควรสอบถามให้แน่ใจอีกครั้งว่านายหน้าแต่ละท่าน หรือแต่ละบริษัทให้บริการครอบคลุมส่วนไหนบ้าง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีนายหน้าช่วยทำหน้าที่คัดเลือกบ้านหรือคอนโดที่ต้องการให้ก็ตาม แต่ในฐานะผู้ซื้อเองก็ควรตรวจสอบราคาบ้านและตลาดการซื้อขายบ้านในทำเลที่เราจะซื้ออีกครั้งหนึ่งด้วย เพื่อให้ได้บ้านในราคาที่คุณพอใจและไม่สูงจนเกินไปนั่นเอง