HIGHLIGHTS
-
เบิกค่าคลอดบุตรได้ 13,000 บาทต่อการคลอดบุตรแต่ละครั้ง โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง
-
รับเงินสงเคราะห์บุตร เพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 600 บาท
การตัดสินใจมีบุตรสักคน นับเป็นเรื่องสำคัญของครอบครัว ไม่ต่างอะไรกับการตัดสินใจซื้อบ้านสักหนึ่งหลัง นอกจากจะต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตแล้ว เรื่องของค่าใช้จ่ายก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการมีบุตร เริ่มตั้งแต่การฝากครรภ์ การคลอดบุตร การเลี้ยงดูบุตร ซึ่งมักจะเป็นค่าใช้จ่ายที่มีจำนวนเงินที่สูง แต่สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์และอยู่ในระบบประกันสังคม อาจจะสามารถแบ่งเบาค่าใช้จ่ายดังกล่าว โดยการใช้สิทธิประโยชน์จากประกันสังคมได้ K-Expert ขออัพเดทสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของคนเป็นแม่ได้
สิทธิค่าตรวจและการฝากครรภ์ (ใหม่)
ประกันสังคมได้มีการเพิ่มประโยชน์ทดแทนค่าตรวจครรภ์และฝากครรภ์ให้แก่ผู้ประกันตนอีก 1,000 บาท โดยแนวทางการขอรับประโยชน์ทดแทน จะต้องมีการจ่ายเงินเข้าประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือนภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนเดือนที่ใช้สิทธิ
เช่น ถ้าเริ่มตั้งครรภ์เดือนมีนาคม 2562 ประกันสังคมจะนับย้อนหลังไป 15 เดือนจากเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งภายในช่วงเวลาดังกล่าว ต้องมีการจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือน และจะต้องมีหลักฐานการเข้ารับบริการจากสถานพยาบาลที่ไปใช้บริการฝากครรภ์ในแต่ละครั้ง ทั้งนี้ สิทธิการตรวจและการฝากครรภ์ให้มีผลบังคับใช้ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 โดยประกันสังคมจะจ่ายผลประโยชน์ทดแทนให้ตามอายุครรภ์ โดย
- อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ ประกันสังคมจะจ่ายให้ตามจริง แต่ไม่เกิน 500 บาท
- อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ ประกันสังคมจะจ่ายให้ตามจริง แต่ไม่เกิน 300 บาท
- อายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 28 สัปดาห์ ประกันสังคมจะจ่ายให้ตามจริง แต่ไม่เกิน 200 บาท
โดยผู้ประกันตนสามารถยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนในส่วนค่าตรวจและรับฝากครรภ์เพิ่มเติมได้ โดยไม่ต้องรอให้มีการคลอดบุตร หรือจะยื่นขอรับพร้อมกับการยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีคลอดบุตรก็ได้ กรณีสามีและภรรยาเป็นผู้ประกันตนทั้งคู่ ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้มีสิทธิได้รับค่าตรวจและรับฝากครรภ์เพียงฝ่ายเดียว ไม่สามารถใช้สิทธิพร้อมกันในการตั้งครรภ์แต่ละครั้ง
สิทธิค่าคลอดบุตร (ใหม่)
คุณพ่อหรือคุณแม่สามารถเบิกค่าคลอดบุตรได้ 13,000 บาทต่อการคลอดบุตรแต่ละครั้ง จากเดิมไม่เกิน 2 ครั้ง มาเป็น ไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยสามารถเบิกค่าคลอดบุตรได้เมื่อมีการจ่ายเงินเข้าประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนเดือนคลอดบุตร โดยนำสูติบัตรมาประกอบการยื่นเรื่องเบิกได้ที่สำนักงานประกันสังคม กรณีสามีและภรรยาเป็นผู้ประกันตนทั้งคู่ ให้ใช้สิทธิในการเบิกค่าคลอดบุตรฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น
สิทธิการลาคลอด
คุณแม่ที่เป็นผู้ประกันตนสามารถลาคลอดได้ 90 วัน และจะได้รับเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรไม่เกิน 2 ครั้ง ในอัตราครั้งละร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย (ฐานเงินค่าจ้างสูงสุดที่นำส่งประกันสังคมอยู่ที่ 15,000 บาท) เป็นเวลา 90 วัน
ตารางแสดงผลประโยชน์ทดแทนที่ได้รับจากประกันสังคมจากการคลอดบุตร 1 ครั้ง (หน่วยเป็นบาท)
6,000
9,000
13,000
1,000
23,000
8,000
12,000
13,000
1,000
26,000
10,000
15,000
13,000
1,000
29,000
12,000
18,000
13,000
1,000
32,000
14,000
21,000
13,000
1,000
35,000
15,000
22,500
13,000
1,000
36,500
สิทธิเงินสงเคราะห์บุตร (ใหม่)
ประกันสังคมได้เพิ่มประโยชน์การรับเงินสงเคราะห์บุตรให้คุณพ่อหรือคุณแม่ผู้ประกันตนเพิ่มขึ้นจากเดือนละ 400 บาทต่อบุตร 1 คน เป็นเดือนละ 600 บาทต่อบุตร 1 คน และเบิกได้ไม่เกิน 3 คน โดยให้มีผลย้อนหลังใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 โดยจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตร เมื่อมีการจ่ายเงินเข้าประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน
ในการรับสิทธิเงินสงเคราะห์บุตรต้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย มีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ (ไม่รวมบุตรบุญธรรม หรือบุตรที่ได้ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของผู้อื่น) แม้ว่าคุณพ่อหรือคุณแม่ที่ใช้สิทธิเกิดทุพพลภาพหรือเสียชีวิตก่อนลูกมีอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์ ประกันสังคมก็ยังจ่ายเงินสงเคราะห์บุตรจนบุตรมีอายุ 6 ปีบริบูรณ์ โดยจ่ายให้กับผู้อุปการะบุตร ซึ่งผู้อุปการะสามารถยื่นคำขอเพื่อรับสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตรได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่
ตารางแสดงการจ่ายเงินของประกันสังคม กรณีจ่ายเงินสงเคราะห์บุตรเพิ่มย้อนหลัง ตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป
- กลุ่มที่ 1 กรณีผู้ประกันตนที่มีการบันทึกอนุมัติให้ได้สิทธิก่อนวันที่ 15 พฤศจิกายน 2557 ซึ่งมีระยะเวลาตัดจ่ายย้อนหลัง 1 เดือน จะได้รับเงินสงเคราะห์บุตร ดังนี้
31 มกราคม 2562
ธันวาคม 2561
600
รายเดือน
31 มกราคม 2562
มกราคม – พฤศจิกายน 2561
2,200
เงินก้อนย้อนหลัง
28 กุมภาพันธ์ 2562 และ ทุก ๆ สิ้นเดือน
มกราคม 2562 ถึงบุตรอายุครบ 6 ปี (กรณีเป็นผู้ประกันตนต่อเนื่อง)
600
รายเดือน
- กลุ่มที่ 2 กรณีผู้ประกันตนที่มีการบันทึกอนุมัติให้ได้สิทธิตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2557 ซึ่งมีระยะเวลาตัดจ่ายย้อนหลัง 3 เดือน จะได้รับเงินสงเคราะห์บุตร ดังนี้
31 มกราคม 2562
ตุลาคม 2561
600
รายเดือน
31 มกราคม 2562
มกราคม – กันยายน 2561
1,800
เงินก้อนย้อนหลัง
28 กุมภาพันธ์ 2562 และ ทุก ๆ สิ้นเดือน
พฤศจิกายน 2561 ถึงบุตรอายุครบ 6 ปี (กรณีเป็นผู้ประกันตนต่อเนื่อง)
600
รายเดือน
ดังนั้น หากภายในวันที่ 31 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา คุณพ่อคุณแม่ผู้ประกันตนยังไม่ได้รับเงินสงเคราะห์บุตรย้อนหลัง แนะนำให้รีบติดต่อสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ เพื่อขอรับเงินสงเคราะห์บุตรย้อนหลัง หรือโทรตรวจสอบสิทธิรับเงินสงเคราะห์บุตรย้อนหลังได้ที่ 1506
ทั้งนี้ นอกจากคุณแม่คุณพ่อผู้ประกันตนจะได้สิทธิประโยชน์ทดแทนจากประกันสังคมมาช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายสำหรับการมีบุตรแล้ว สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ยังมีรายได้ที่ต้องเสียภาษี K-Expert แนะนำว่าอย่าลืมนำค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตรหลังหักสิทธิประโยชน์ทดแทนจากประกันสังคมและสวัสดิการอื่น ๆ ในส่วนที่ยังไม่เกิน 60,000 บาท และค่าลดหย่อนบุตรตามเกณฑ์ของกรมสรรพากรมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้คุณพ่อคุณแม่จะสามารถใช้สิทธิประโยชน์จากประกันสังคมและสิทธิลดหย่อนภาษีแล้ว แต่การมีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาในครอบครัวจะมีค่าใช้จ่ายที่มากพอสมควรในการเลี้ยงดูบุตรให้เติบโต ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลย แนะนำให้เตรียมความพร้อมด้วยการวางแผนทางการเงิน
โดยหากเป็นค่าใช้จ่ายระยะสั้นเมื่อเริ่มตั้งครรภ์จนกระทั่งทำคลอด และค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรช่วงแรกเกิดถึงอายุ 2 ปี แนะนำคุณพ่อคุณแม่วางแผนเก็บสะสมในรูปกองทุนตลาดเงิน หรือกองทุนตราสารหนี้ แต่หากเป็นการวางแผนการศึกษา ซึ่งเป็นการวางแผนทางการเงินระยะยาว มีวิธีการลงทุนหรือออมหลากหลายที่จะช่วยสร้างความมั่นคงด้านชีวิตและทางการเงินไปพร้อมกัน เช่น การลงทุนในกองทุนรวมผสม หรือการทำประกันชีวิตแบบจ่ายแล้วได้รับเงินคืนระหว่างสัญญา ครบกำหนดรับเงินคืนเป็นก้อนไว้สำหรับเป็นเงินทุนสนับสนุนการศึกษาของลูกในอนาคต เป็นต้น
หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการซื้อบ้าน อ่าน คู่มือซื้อขาย ที่สามารถเป็นตัวช่วยตอบได้ทุกคำถาม พร้อมบอกรายละเอียดการคำนวณสินเชื่อบ้าน ที่เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือน เพื่อให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ