ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เงินเดือนของคุณ สำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) และ 40(2)

DDproperty Editorial Team
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เงินเดือนของคุณ สำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) และ 40(2)
ช่วงต้นปีของแต่ละปีจะเป็นช่วงเวลาของการยื่นภาษี หลายคนต้องเสียภาษีเพิ่มเติมบ้าง แต่ก็มีบางคนกลับได้ภาษีคืนมากมายเป็นเพราะอะไรกัน ทั้ง ๆ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เงินเดือนของคุณ บริษัทได้หักภาษีไว้แล้ว DDproperty มีคำตอบที่คุณอยากรู้

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เงินเดือนของคุณ จะถูกบริษัทหักภาษีไว้

ความจริงข้อหนึ่งที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนทราบดีจากความจริงที่ปรากฎอยู่บนสลิปเงินเดือนก็คือเงินเดือนที่จ่ายกับเงินเดือนสุทธิที่ได้รับนั้นไม่เท่ากัน เพราะเงินเดือนที่จ่ายนั้นจะถูกหักสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งก็คือ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เงินเดือนของคุณ ที่บริษัทหักไว้และบางคนอาจมีหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพิ่มเติมขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท จากนั้นจึงจะเหลือเป็นเงินเดือนสุทธิที่โอนเข้าบัญชีเงินเดือนของพนักงานแต่ละคน

ทำไมบริษัทต้องหัก ภาษี ณ ที่จ่าย เงินเดือนของคุณ เอาไว้

ตามมาตรา 50 แห่งกฎหมายประมวลรัษฎากรกำหนดให้บุคคล ห้างหุ้นส่วน บริษัท สมาคม หรือคณะบุคคลซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 ต้องหักภาษีเงินได้ไว้ทุกคราวที่จ่ายเงินได้พึงประเมิน

บริษัทคำนวณภาษีที่หักไว้อย่างไร

สำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) และ 40(2) แต่ละงวดจ่าย ถ้าเป็นรายเดือนก็เท่ากับเงินเดือนแต่ละงวด ให้นำเงินได้พึงประเมินรายงวดนี้คูณด้วยจำนวนงวดที่จะต้องจ่ายตลอดทั้งปีภาษี ถ้าเป็นเงินเดือนก็คูณ 12 (1 ปีภาษีจ่ายเงินเดือน 12 ครั้ง) จะได้จำนวนเงินได้พึงประเมินทั้งหมดที่จ่ายออกไปตลอดปีภาษี
จากนั้นให้นำเงินได้พึงประเมินตลอดทั้งปีนี้ไปคำนวณภาษีตามอัตราภาษีตามเกณฑ์ในมาตรา 48 จะได้จำนวนภาษีที่จะต้องหักไว้ ณ ที่จ่ายทั้งปี แล้วหารกลับด้วยจำนวนงวดที่ต้องจ่ายทั้งปีอีกครั้ง ก็จะได้จำนวนเงินภาษีที่บริษัทจะต้องหักเอาไว้ ณ ที่จ่ายในแต่ละงวด
ในกรณีที่ที่หารภาษีทั้งหมดที่ต้องหักไว้ด้วยจำนวนงวดแล้วเหลือเศษ ให้นำเศษนั้นไปรวมเข้ากับเงินภาษีที่จะต้องหัก ณ ที่จ่ายในงวดสุดท้ายของปีภาษี ซึ่งเมื่อรวมจำนวนเงินภาษีที่ต้องหัก ณ ที่จ่ายในแต่ละงวดเข้าด้วยกันก็จะเท่ากับจำนวนเงินภาษีทั้งหมดที่ต้องหักไว้ซึ่งคำนวณได้ก่อนหน้า
capture-20200213-181022

ตัวอย่าง การคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย เงินเดือนของคุณ ซึ่งบริษัทหักไว้

หากพนักงานมีเงินเดือน 30,000 บาท ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เงินเดือนของคุณ แต่ละงวดจะถูกหักภาษีไว้แต่ละงวดเท่าไร และเหลือเงินเดือนสุทธิเท่าไร

เงินได้พึงประเมิน

เงินได้พึงประเมินรายงวด = 30,000 บาท
เงินได้พึงประเมินของพนักงานตลอดทั้งปี (จ่าย 12 งวดทุกเดือน) = 30,000 x 12 = 360,000 บาท

รายการหักเบื้องต้น

หัก ค่าใช้จ่าย 50% (ไม่เกิน 100,000 บาท) = 100,000 บาท
หัก ค่าลดหย่อนส่วนตัว = 60,000 บาท
หัก เข้ากองทุนประกันสังคม = 750 x 12 = 9,000 บาท

เงินได้พึงประเมินสุทธิ

เงินได้พึงประเมินสุทธิที่ต้องนำไปคำนวณภาษี = 360,000 – (100,000 + 60,000 + 9,000) = 191,000 บาท

คำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้าของภาษีเงินได้

หลังจากที่ได้ เงินได้พึงประเมินสุทธิที่จะต้องนำไปคำนวณภาษีแล้ว จะต้องนำไปคำนวณตามอัตราก้าวหน้าของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ดังนี้
0-150,000
ยกเว้นภาษี
150,000
0
150,001-300,000
5%
150,000
7,500
300,001-500,000
10%
200,000
20,000
500,001-750,000
15%
250,000
37,500
750,001-1,000,000
20%
250,000
50,000
1,000,001-2,000,000
25%
1,000,000
250,000
2,000,001-5,000,000
30%
3,000,000
900,000
เกิน 5,000,000 ขึ้นไป
35%
150,000 บาทแรกยกเว้นภาษี
ส่วนที่เกินมา (191,000 – 150,000) = 41,000 บาท เสียภาษี 5% = 2,050 บาท
เงินได้พึงประเมินสุทธิทั้งปี 191,000 บาท ต้องเสียภาษีทั้งปี 2,050 บาท

จำนวนภาษีหัก ณ ที่จ่าย เงินเดือนของคุณ ที่บริษัทต้องหักภาษี

จำนวนเงินที่ต้องหักไว้ ณ ที่จ่ายทั้งปี 2,050 บาท
จำนวนภาษีหัก ณ ที่จ่าย เงินเดือนของคุณ ที่บริษัทต้องหักภาษี แต่ละเดือน (งวด) = 2,050 ÷ 12 = 170.8 บาท

เงินเดือนสุทธิ

ดังนั้น ในแต่ละเดือนพนักงานจะเหลือ
เงินเดือนสุทธิ = เงินเดือน – กองทุนประกันสังคม – ภาษีหักไว้ ณ ที่จ่าย
เงินเดือนสุทธิ = 30,000 – 750 – 170 = 29,080 บาท

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เงินเดือนของคุณ ที่บริษัทหักภาษีไว้มากเกินไปทำอย่างไร

เมื่อยื่นแบบแสดงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.) แล้วบางคนได้คืนภาษีจำนวนมาก สาเหตุหนึ่งนั้นมาจากการที่บริษัทหักภาษี ณ ที่จ่าย เงินเดือนของคุณเอาไว้มากเกินไป จากการที่บริษัทไม่ทราบว่าพนักงานมีรายการลดหย่อนภาษีอื่น ๆ เช่น คู่สมรส บุตร ค่าอุปการะคนพิการ เบี้ยประกันสุขภาพ เบี้ยประกันชีวิต กองทุนต่าง ๆ ดอกเบี้ยเงินกู้อสังหาฯ
ทำให้เงินได้พึงประเมินของพนักงานที่บริษัทนำไปคำนวณภาษีที่ต้องหักไว้มีสูง และหักภาษีแก่พนักงานเอาไว้มาก แต่พนักงานก็สามารถแจ้งข้อมูลการลดหย่อนต่าง ๆ ที่พนักงานมีอยู่แก่บริษัทได้โดยการกรอกแบบแจ้งรายการเพื่อการหักลดหย่อน (ล.ย.01)
รายการเพื่อการหักลดหย่อน (ล.ย.01)

ทำไมต้องจ่ายเงินภาษีเพิ่มจำนวนมาก

กรณีนี้ตรงข้ามกับประเด็นก่อนหน้าคือบริษัทหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้น้อยเกินไป ซึ่งมักเกิดขึ้นกับผู้ที่ย้ายงานในช่วงปีภาษี โดยที่ทำงานแห่งที่ 2 จะประเมินเงินได้พึงประเมินของทั้งปีโดยคูณด้วยจำนวนเดือนที่เหลือในปีภาษี ทำให้จำนวนเงินได้นั้นถูกนำไปคิดภาษีในอัตราที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น หรืออาจจะไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษีเลยก็ได้
ทำให้สุดท้ายแล้วบริษัทหักภาษีไว้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อสิ้นปีภาษีแล้วนำเงินได้จากที่ทำงานทั้ง 2 แห่งมารวมกันจึงพบว่ามีภาษีที่ต้องเสียเพิ่มจำนวนมาก
หากมีข้อสงสัยเรื่องภาษีสอบถามได้ที่คอลเซ็นเตอร์กรมสรรพากร 1161 หรือบริการสอบถามออนไลน์ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ Online Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kittikom@ddproperty.com
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า

คำนวณยอดผ่อนต่อเดือนตามระยะเวลากู้

เพียงใส่ยอดเงินกู้ที่คุณต้องการ เราจะคำนวณให้คุณเห็นถึงยอดผ่อนชำระต่อเดือนตามระยะเวลาผ่อนและอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน

คำนวณยอดผ่อนต่อเดือน

คำนวณยอดผ่อนชำระต่อเดือนตามอัตราดอกเบี้ยของคุณด้วยเครื่องมือคำนวณสินเชื่อนี้

คำนวณวงเงินกู้สูงสุด

คำนวณสินเชื่อบ้าน ยอดวงเงินกู้บ้านใหม่ที่คาดว่าจะได้รับจากแบงก์และยอดผ่อนชำระในแต่ละเดือน

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย คืออะไร

เงินเดือนที่จ่ายนั้นจะถูกหักสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งก็คือ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เงินเดือนของคุณ จากนั้นจึงจะเหลือเป็นเงินเดือนสุทธิที่โอนเข้าบัญชีเงินเดือนของพนักงานแต่ละคน

ตามมาตรา 50 แห่งกฎหมายประมวลรัษฎากรกำหนดให้บุคคล ห้างหุ้นส่วน บริษัท สมาคม หรือคณะบุคคลซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 ต้องหักภาษีเงินได้ไว้ทุกคราวที่จ่ายเงินได้พึงประเมิน