Solar Rooftop ได้รับความสนใจมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากกระแสของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทำให้คนหันมาใช้พลังงานสะอาดหรือพลังงานสีเขียว และด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปมากทำให้ Solar Rooftop มีราคาไม่แพง และมีขั้นตอนการติดตั้งไม่ยุ่งยาก ลองมาดูกันว่า Solar Rooftop คืออะไร มีกี่ประเภท มีข้อดีอย่างไร และช่วยประหยัดค่าไฟได้เท่าไหร่
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
- Solar Rooftop คืออะไร
- Solar Rooftop ช่วยประหยัดไฟได้เท่าไหร่
- การติดตั้ง Solar Rooftop
- การขออนุญาตติดตั้งและการขายไฟฟ้า
- สินเชื่อเพื่อติดตั้ง Solar Rooftop
- ติดตั้ง Solar Rooftop ลดหย่อนภาษีได้
Solar Rooftop คืออะไร
Solar Rooftop คือ ระบบสร้างพลังงานแสงอาทิตย์ที่นำไปใช้เป็นพลังงานขับเคลื่อนระบบต่าง ๆ ภายในที่อยู่อาศัย อาคาร หรือโรงงานอุตสาหกรรม โดยใช้แทนพลังงานไฟฟ้า เพื่อช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยทั่วไปแล้ว ระบบสร้างพลังงานแสงอาทิตย์หรือ Solar Rooftop จะเปลี่ยนไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current; DC) ให้เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (Alternate Current; AC) จากนั้นจะเชื่อมต่อระบบจำหน่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวงหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยพลังงานแสงอาทิตย์จาก Solar Rooftop จะนำไปขายหรือใช้แทนไฟฟ้าก็ได้ทั้งนั้น

Solar Rooftop มีกี่ประเภท
จริง ๆ แล้ว ประเภทของ Solar Rooftop จะแบ่งตามวัตถุประสงค์ในการนำไปใช้งาน ผู้ที่สนใจติดตั้ง Solar Rooftop สามารถเลือกประเภทการติดตั้งที่เหมาะกับการความต้องการและการใช้งานได้
ประเภทของ Solar Rooftop ตามรูปแบบการใช้งาน
1. Solar Rooftop สำหรับขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้า
การติดตั้ง Solar Rooftop ประเภทนี้ จะติดตั้งเพื่อผลิตพลังงานแสงอาทิตย์และส่งขายให้กับการไฟฟ้านครหลวงหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยต้องติดตั้งมิเตอร์แยกจากมิเตอร์ที่ใช้วัดค่าไฟฟ้าทั่วไป ทั้งนี้ ราคาของหน่วยวัดค่าไฟก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ ที่สำคัญผู้ติดตั้ง Solar Rooftop สำหรับผลิตพลังงานและขายให้กับหน่วยงานดังกล่าวจำเป็นต้องทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร
2. Solar Rooftop สำหรับใช้เอง
หากคุณต้องการติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อผลิตพลังงานไว้ใช้เองและลดค่าไฟนั้นก็ทำได้เช่นกัน โดยพลังงานแสงอาทิตย์จะช่วยทุ่นการใช้พลังงานไฟฟ้า กล่าวคือ เริ่มแรกระบบจะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ช่วยขับเคลื่อนการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในที่อยู่อาศัยหรือโรงงานอุตสาหกรรม
เมื่อพลังงานแสงอาทิตย์ถูกนำมาใช้จนเกือบหมดแล้ว ระบบจะเปลี่ยนมาเชื่อมต่อและใช้พลังงานไฟฟ้าแทน ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ เพราะทำให้เราจำกัดการใช้ไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี
ประเภทของ Solar Rooftop ตามระบบการทำงาน
นอกจากนี้ ยังแบ่งประเภท Solar Rooftop ตามระบบการทำงาน ได้แก่
ประเภทของ Solar Rooftop | จุดเด่น |
แบบ On-Grid | ใช้พลังงานจากแผงโซลาร์และการไฟฟ้าพร้อมกัน ทำให้หมดปัญหาเรื่องไฟตกหรือไฟกระชาก ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ รวมทั้งใช้ได้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด |
แบบ Off-Grid | ผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์ได้ต่างหาก โดยไม่ต้องอาศัยแหล่งกำเนิดไฟฟ้าจากการไฟฟ้า |
แบบ Hybrid | มีระบบแบตเตอรี่สำรองใช้งานเมื่อไม่มีแสงอาทิตย์หรือผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ไม่เพียงพอ |
1. ระบบพลังงานแสงอาทิตย์แบบ On-Grid
ผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์แล้วแปลงกระแสไฟฟ้าตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับด้วยตัวอินเวอร์เตอร์ นิยมใช้ผลิตไฟฟ้าสำหรับนำไปขายให้กับการไฟฟ้านครหลวงหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จุดเด่นของระบบนี้จะใช้พลังงานจากแผงโซลาร์และการไฟฟ้าพร้อมกัน ทำให้หมดปัญหาเรื่องไฟตกหรือไฟกระชาก ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ รวมทั้งใช้ได้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด
2. ระบบพลังงานแสงอาทิตย์แบบ Off-Grid
ผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์ได้ต่างหาก โดยไม่ต้องอาศัยแหล่งกำเนิดไฟฟ้าจากการไฟฟ้า ทำให้ผลิตไฟฟ้าใช้ได้เอง ผู้ติดตั้ง Solar Rooftop ประเภทนี้จึงต้องเลือกโหลดอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะใช้ให้เหมาะสมกับแรงดัน
3. ระบบพลังงานแสงอาทิตย์แบบ Hybrid
ระบบนี้คือ Solar Rooftop ที่รวมเอาการทำงานแบบ On-Grid และ Off-Grid มารวมกัน โดยจะมีระบบแบตเตอรี่สำรองใช้งานเมื่อไม่มีแสงอาทิตย์หรือผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ไม่เพียงพอ
เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไรให้คุ้มค่า
ลองมาดู 5 ปัจจัยเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไรให้คุ้มค่าได้ที่นี่
Solar Rooftop มีข้อดีอย่างไร
ปัจจุบันการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในไทยกำลังได้รับความนิยมและมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยพลังงานแสงอาทิตย์นับเป็นต้นกำเนิดของการพัฒนาพลังสีเขียวอย่างยั่งยืน โดยมีข้อดีดังนี้
1. ลดค่าใช้จ่าย Solar Rooftop ช่วยผลิตพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับนำไปใช้แทนไฟฟ้าได้ ซึ่งช่วยลดการใช้ไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้มากกว่าเดิม
2. อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ช่วยส่งเสริมเรื่องพลังงานสะอาดและการนำทรัพยากรธรรมชาติกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างยั่งยืน
3. ลดการก่อมลพิษ เมื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลง จะช่วยลดระดับคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศได้
4. ลดความร้อน Solar Rooftop ช่วยลดอุณหภูมิได้ประมาณ 10 องศาเซลเซียส
5. กระตุ้นการใช้พลังงานหมุนเวียน การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ถือเป็นการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
6. สร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้ชาติ การผลิตพลังงานแสงอาทิตย์มีส่วนช่วยในการลดหรือชะลอการสร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิล โรงไฟฟ้าน้ำ และนิวเคลียร์ อันนำไปสู่การบรรเทาและประนีประนอมประเด็นความรุนแรงในสังคม
แบบบ้านประหยัดพลังงาน
แบบบ้านประหยัดพลังงาน ไอเดียบ้านเพื่ออนาคต ลดค่าใช้จ่ายมีลักษณะอย่างไรดูได้ที่นี่
Solar Rooftop ช่วยประหยัดไฟได้เท่าไหร่
ขนาดของแผงโซลาร์ 120 X 60 เซนติเมตร จะมีพื้นที่ 0.72 ตารางเมตร และมีกำลังการผลิตแผงละ 102 วัตต์จะต้องใช้แผงทั้งสิ้นประมาณ 10 แผง ดังนั้น ทุก ๆ 1 กิโลวัตต์ของแผงโซลาร์ จะกินพื้นที่บนหลังคาเท่ากับ 7.2 ตารางเมตร
โดยทั่วไปแผงโซลาร์เซลล์จะผลิตกระแสไฟฟ้าได้ดีที่สุด คือ ช่วง 10.00-15.00 น. ซึ่งเท่ากับว่าช่วงเวลานั้นบ้านที่ติด Solar Rooftop จะได้ใช้ไฟฟรีทันทีโดยตรงผ่าน Inverter ยกตัวอย่าง
แผงขนาด 3 กิโลวัตต์ จะผลิตไฟฟ้าได้ 4,380 หน่วย/ปี ใช้พื้นที่ติดตั้งประมาณ 20-25 ตารางเมตร ใช้ได้กับ หลอดไฟ 14 วัตต์ 10 ดวง, โทรทัศน์ LED ขนาด 42 นิ้ว 3 เครื่อง, ตู้เย็น 15 คิว 2 เครื่อง, แอร์ 12,000 BTU 2 เครื่อง ช่วยประหยัดไฟได้ถึง 945,295 บาท ใน 25 ปี
แผงขนาด 5 กิโลวัตต์ จะผลิตไฟฟ้าได้ 7,300 หน่วย/ปี ใช้พื้นที่ติดตั้งประมาณ 35-40 ตารางเมตร ใช้ได้กับ หลอดไฟ 14 วัตต์ 20 ดวง, โทรทัศน์ LED ขนาด 42 นิ้ว 5 เครื่อง, ตู้เย็น 15 คิว 3 เครื่อง, แอร์ 12,000 BTU 4 เครื่อง ช่วยประหยัดไฟได้ถึง 1,575,491 บาท ใน 25 ปี
แผงขนาด 10 กิโลวัตต์ จะผลิตไฟฟ้าได้ 14,600 หน่วย/ปี ใช้พื้นที่ติดตั้งประมาณ 70-80 ตารางเมตร ใช้ได้กับ หลอดไฟ 14 วัตต์ 40 ดวง, โทรทัศน์ LED ขนาด 42 นิ้ว 6 เครื่อง, ตู้เย็น 15 คิว 3 เครื่อง, แอร์ 12,000 BTU 6 เครื่อง ช่วยประหยัดไฟได้ถึง 3,150,982 บาท ใน 25 ปี
(ข้อมูลจาก บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์)

Solar Rooftop ติดตั้งด้วยตัวเองอย่างไร
โดยทั่วไปแล้ว การติดตั้ง Solar Rooftop ทำได้กับหลังคาบ้านหรือกันสาดแทบทุกแบบ เพราะการถ่ายน้ำหนักของแผงโซลาร์บนหลังคาน้อยมาก ซึ่งจะถ่ายน้ำหนักลงบนหลังคาประมาณ 10-12 กิโลกรัม/ตารางเมตร
ทั้งนี้ เจ้าของบ้านอาจคำนึงถึงปัจจัยอื่นประกอบ เพื่อปรึกษากับผู้ติดตั้งได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัสดุหลังคา ขนาด อายุการใช้งาน และน้ำหนักที่รับได้ของประเภทหลังคาหรือกันสาดแต่ละประเภทว่ารับได้เท่าไหร่
เมื่อจะเริ่มติดตั้ง Solar Rooftop ลองมาทำความรู้จักอุปกรณ์ ข้อควรรู้ก่อนติดตั้ง ขั้นตอนติดตั้ง วิธีการดูแลรักษา ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
1. อุปกรณ์สำคัญของการติดตั้ง Solar Rooftop
– แผงเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Module)
– โครงรองรับแผง (Mounting Structure)
– ตู้ไฟฟ้า DC BOX และตู้ไฟ AC (MDB Solar to Main Owner)
– เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าแบบเชื่อมต่อระบบจำหน่าย (Grid-tie INVERTER)
2. ข้อควรรู้ก่อนติดตั้ง
– ควรเลือกบริเวณติดตั้งที่แสงเข้าถึงได้ ไม่ถูกเงาบัง
– ควรเลี่ยงติดตั้ง Solar Rooftop บนหลังคาที่ทำจากไม้หรือหลังคาที่ไม่มีคุณสมบัติรองรับได้
– ควรเลี่ยงติดตั้ง Solar Rooftop บนหลังคาที่มีอายุการใช้งานนาน 10 ปี
– ควรเลือกแผงโซลาร์ที่มีการรับประกันคุณภาพนาน 10 ปี
– ควรเลือกโซลาร์อินเวอร์เตอร์ที่มีประกันคุณภาพนาน 5 ปี รวมทั้งมีตัวอินเวอร์เตอร์พร้อมเปลี่ยนให้ทันที
3. ขั้นตอนการติดตั้ง
– จัดเตรียมอุปกรณ์และโครงสร้างสำหรับยึดแผงโซลาร์ โดยเลือกวัสดุที่ทำจากโลหะ กันสนิม รวมทั้งรับน้ำหนักและทานแรงลมได้
– ดูค่าแรงดันไฟฟ้าวงจรเปิดและค่ากระแสไฟฟ้าลัดวงจรของแผงโซลาร์ทุกแผงก่อนติดตั้งและยึดแผงโซลาร์บนโครงสร้าง
– ค่อย ๆ ติดตั้งแผงโซลาร์ตามรายละเอียดในคู่มือ โดยนำหัวต่อต่อเข้ากับแผงโซลาร์
– ติดตั้งตู้รวมสายไฟกระแสตรง อินเวอร์เตอร์ และอุปกรณ์อื่น ๆ ตามคำแนะนำของผู้ผลิตและคู่มือ
– นำสายไฟของแผงโซลาร์มาไว้ที่ตู้รวมสายไฟกระแสตรงทีละวงจร จากนั้นจึงนำสายไฟไปเชื่อมกับแผงโซลาร์ เพื่อเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าและระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์
– นำสายไฟที่เชื่อมไว้ตรงตู้รวมสายไฟกระแสตรงมาเชื่อมต่อกับอินเวอร์เตอร์
– นำสายไฟที่เชื่อมต่ออินเวอร์เตอร์มาที่เบรกเกอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ จากนั้นไล่ปิดวงจรระบบทีละชุดจนครบทุกเบรกเกอร์
– ตรวจสอบระบบและค่าต่าง ๆ ให้เป็นไปตามคู่มือ
วิธีดูแลรักษา Solar Rooftop หลังติดตั้ง
– อ่านคู่มือการใช้งานและการทำความสะอาดแผงโซลาร์ให้ละเอียด
– หมั่นตรวจสอบแผงทำงานว่าเรียบร้อย อยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ มีตรงไหนหลุดหรือเสียหายหรือไม่
– หมั่นตัดเล็มกิ่งไม้ไม่ให้เกยบน Solar Rooftop
– ใช้ผ้าสะอาดหรือโฟมชุบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ปราศจากสารเคมีกัดกร่อนโลหะ มาทำความสะอาดแผงโซลาร์บ้าง

ก่อนติดตั้งต้องขออนุญาตกับการไฟฟ้าและการขายไฟฟ้า
การไฟฟ้านครหลวง (MEA) ส่งเสริมให้ผู้ใช้ไฟฟ้าติดตั้ง Solar Rooftop ภายในบ้านอยู่อาศัย อาคารหรือสถานประกอบการ ในเขตพื้นที่ให้บริการ คือ กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ
โดยหากต้องการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้านั้น ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องขออนุญาตเชื่อมต่อกับระบบโครงข่ายไฟฟ้าและติดตั้งอุปกรณ์ตามมาตรฐานของ MEA โดยจะต้องผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ชำนาญการเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ไฟฟ้า รวมถึงป้องกันเหตุอันตรายกับเจ้าหน้าที่ MEA ที่ปฏิบัติงาน อีกทั้งไม่ให้เกิดความเสียหายกับอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและคุณภาพโครงข่ายระบบจำหน่ายไฟฟ้า
ปัจจุบันผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อเชื่อมต่อกับ MEA ได้ 2 รูปแบบ ดังนี้
1. การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้ภายในอาคาร
ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทสามารถติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนานกับระบบจำหน่ายไฟฟ้าของ MEA เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ภายในบ้านอยู่อาศัย อาคารหรือสถานประกอบการเป็นหลัก โดยไม่ขายไฟฟ้าให้กับ MEA
โดยการยื่นแบบคำขอเชื่อมต่อกับระบบโครงข่ายไฟฟ้าของ MEA ได้ตามวันและเวลาทำการ เพื่อให้พิจารณาตามระเบียบ MEA ว่าด้วย ข้อกำหนดการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้า การใช้บริการระบบโครงข่ายไฟฟ้า และการปฏิบัติการระบบโครงข่ายไฟฟ้า ซึ่งประกาศใช้ ณ ปัจจุบัน ผู้ใช้ไฟฟ้าที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ทุกเขตบริการของ MEA
2. การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้ภายในอาคาร และขายส่วนที่เหลือให้ MEA
2.1 โครงการ Solar ภาคประชาชน
การจัดหาไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา ประเภทบ้านอยู่อาศัย โดยต้องเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 ตามประกาศอัตราค่าไฟฟ้าของ MEA ที่ติดตั้งแผงเซลล์ผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา
โดยติดตั้งเพื่อใช้เองเป็นหลักและขาย ส่วนที่เหลือให้กับ MEA ในอัตรารับซื้อไฟฟ้า 2.20 บาท/หน่วย มีระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 10 ปี
2.2 โครงการ Solar กลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา โรงพยาบาล
การจัดหาไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา สำหรับกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา โรงพยาบาล และสูบน้ำเพื่อการเกษตร (โครงการนำร่อง) พ.ศ. 2564 ที่ติดตั้งแผงเซลล์ผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา
โดยติดตั้งเพื่อใช้เองเป็นหลักและขายส่วนที่เหลือให้กับ MEA ในอัตรารับซื้อไฟฟ้า 1 บาท/หน่วย มีระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 10 ปี
ผู้ใช้ไฟฟ้าที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่นี่
สินเชื่อเพื่อติดตั้ง Solar Rooftop
1. ธนาคารออมสิน
ธนาคารออมสิน ออกสินเชื่อ GSB Go Green เปิดให้กู้ติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ หนุนใช้พลังงานทดแทนลดปัญหาโลกร้อน ลดค่าใช้จ่ายระยะยาว วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาท ผ่อนนาน 30 ปี
สินเชื่อ GSB Go Green สำหรับผู้ที่มีอาชีพและรายได้แน่นอน มีอายุครบอายุ 20 ปีขึ้นไป และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี เพื่อติดตั้งหรือซื้ออุปกรณ์ที่ช่วยลดมลภาวะ เช่น Solar cell/Solar rooftop
ติดตั้ง EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รถยนต์ไฮบริด รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ที่ช่วยประหยัดพลังงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง
กรณีไม่มีหลักประกัน (Clean Loan) ให้กู้ไม่เกิน 10 เท่าของรายได้ รวมสูงสุดไม่เกินรายละ 500,000 บาท ชำระเงินกู้ไม่เกิน 7 ปี หากใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ได้แก่ บ้านพร้อมที่ดิน คอนโดฯ ที่ดินเปล่า ให้กู้สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่อนชำระไม่เกิน 30 ปี ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2567 เป็นต้นไป
2. ธนาคารทหารไทยธนชาต
สินเชื่อเพื่อติดตั้ง Solar Rooftop ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb solar rooftop solution) สำหรับธุรกิจ โดยเป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อเงินกู้ระยะยาว สนับสนุนเงินลงทุนเพื่อติดตั้งและบำรุงรักษา Solar Rooftop พร้อมมีพันธมิตรดูแลแบบครบวงจร ตั้งแต่การจัดหาผู้ติดตั้งที่มีความชำนาญสูงและมีประสบการณ์ติดตั้ง Solar Rooftop ให้กลุ่มธุรกิจชั้นนำในประเทศไทย เพื่อที่จะเข้าไปประเมินหน้างานจริง ให้คำแนะนำ คำนวณความเหมาะสมของขนาดในการติดตั้ง
มีการติดตั้งด้วยแผงและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ ช่วยดำเนินการแทนลูกค้าในการขออนุญาตติดตั้งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจในประสิทธิภาพของการผลิตกระแสไฟฟ้า จะมีการออกหนังสือค้ำประกันการผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่ลูกค้า รวมถึงดูแลบำรุงรักษาแผงโซลาร์ตลอดอายุสินเชื่อ
ประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับ
1. ประหยัดต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายค่าไฟในระยะยาว เพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจ และไม่ต้องเสียค่าประเมินราคาหลักประกันแผงโซลาร์
2. ประหยัดเวลาในการติดตั้ง สะดวก ไม่ยุ่งยาก ด้วย ttb solar rooftop solution ที่พร้อมดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่จัดหาผู้ติดตั้งที่มีความเชี่ยวชาญ จนถึงการขออนุญาตติดตั้ง โดยที่ลูกค้าไม่ต้องดำเนินการเอง
3. มั่นใจได้ ผู้ติดตั้งจะมีการออกหนังสือค้ำประกันการผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับลูกค้า และธนาคารสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับค่าธรรมเนียมบำรุงรักษาล่วงหน้าตลอดระยะเวลาสินเชื่อ
4. รับวงเงินกู้สูงสุด 100% ของมูลค่าการลงทุนแผงโซลาร์
คุณสมบัติ
1. ลูกค้านิติบุคคล
2. เป็นผู้ประกอบการสัญชาติไทยจดทะเบียน และดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศไทย
3. เปิดกิจการตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป
4. ยอดขายรวมกลุ่มธุรกิจไม่เกิน 1,000 ล้านบาทต่อปี
5. มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ไม่มีประวัติคดีความทางการเงินหรือล้มละลาย
3. ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทย มีโครงการสินเชื่อธุรกิจเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม เพื่อการติดตั้ง Solar Cell/Solar Rooftop และการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้า EV Charger ลดต้นทุนให้ธุรกิจด้วยพลังงานสะอาด
จุดเด่นผลิตภัณฑ์
1. ให้วงเงินสูง ตามใบเสนอราคา (Quotation)
2. ระยะเวลากู้นานสุด 7 ปี
3. ในกรณีไม่ต้องใช้หลักประกัน ให้วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาท
อัตราดอกเบี้ย
ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กที่มียอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาท
3 ล้านบาท
เริ่มต้น MRR-0.50%
ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่มียอดขายมากกว่า 100 ล้านบาท
5 ล้านบาท
เริ่มต้น MLR-0.50%
คุณสมบัติผู้กู้
1. เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล
2. มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจไม่ต่ำกว่า 3 ปี
3. มีเอกสารใบเสนอราคาในการติดตั้ง Solar Cell/Solar Rooftop/EV Charger
4. ไม่มีความสัมพันธ์กับบริษัทผู้ขาย
4. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีโครงการสินเชื่อ Solar Rooftop เพื่อผู้ประกอบธุรกิจ สินเชื่อเพื่อสนับสนุนให้มีการใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้นสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ ทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานจากการใช้พลังงานสะอาด
โดยเป็นสินเชื่อระยะยาว ระยะเวลาผ่อนชำระสูงถึง 8 ปี และให้วงเงินสูงถึง 100% และเลือกติดตั้งโซลาร์รูฟจากผู้ให้บริการแผงโซลาร์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงและใช้อุปกรณ์มาตรฐาน Tier 1 และแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่เป็นพันธมิตรกับธนาคาร
จุดเด่นผลิตภัณฑ์
1. เป็นพลังงานทางเลือก
2. ประหยัดค่าไฟสูงสุด 40% ต่อปี จากการศึกษาค่าเฉลี่ยการประหยัดพลังงานโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเพียงข้อมูลในเบื้องต้นเท่านั้น ทั้งนี้ ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ ในการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
3. วงเงินสูงสุด 100% การอนุมัติวงเงินสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร
4. ติดตั้งสะดวกด้วยพันธมิตรของธนาคาร
คุณสมบัติเบื้องต้น
1. บุคคลธรรมดา อายุ 20-65 ปี มีสัญชาติไทยที่ประกอบกิจการในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 2 ปี
2. นิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย ที่ประกอบกิจการไม่ต่ำกว่า 3 ปี
3. มีผลประกอบการและประวัติทางการเงินที่ดี
4. คุณสมบัติอื่น ๆ ตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด
5. ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารกสิกรไทย มีโครงการสินเชื่อ Solar Rooftop โดยเป็นสินเชื่อเงินกู้ระยะยาว/สินเชื่อลิสซิ่งเครื่องจักร วงเงินสูงสุด 100% ของมูลค่าลงทุน ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 8 ปี
อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม 2568
– MLR-1.00% ต่อปี (ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 5 ปี)
– MLR-0.80% ต่อปี (ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 8 ปี)
หมายเหตุ: อ้างอิงตามอัตรา MLR ปัจจุบันตามประกาศของธนาคาร
คุณสมบัติผู้กู้
– นิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทยหรือบุคคลธรรมดาที่จดทะเบียนพาณิชย์
– ดำเนินธุรกิจมาไม่ต่ำกว่า 3 ปี
การใช้พลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานหมุนเวียนไม่เพียงช่วยลดค่าไฟฟ้าลดลง ซึ่งเป็นผลดีที่เราเห็นได้ชัดจากการติดตั้ง Solar Rooftop แต่ยังช่วยส่งเสริมทรัพยากรธรรมชาติและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนด้วย
ติดตั้ง Solar Rooftop ลดหย่อนภาษีได้
จากมาตรการส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop ในบ้านอยู่อาศัยด้วยมาตรการทางภาษี ทำให้ผู้ที่ติดตั้ง Solar Rooftop ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุด 200,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
เงื่อนไขของผู้ใช้สิทธิ
– บุคคลทั่วไปที่ทำงานมีรายได้ และเสียภาษีตามปกติ (ไม่รวมห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล)
– ชื่อผู้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีต้องตรงกับชื่อเจ้าของมิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านอยู่อาศัยนั้น ๆ
– สิทธิการลดหย่อนภาษี 1 บุคคล ต่อ 1 มิเตอร์ ต่อ 1 ระบบ (กรณีที่มีชื่อเป็นเจ้าของหลายมิเตอร์ ก็สามารถใช้สิทธิได้เพียงมิเตอร์เดียว)
เงื่อนไขการติดตั้ง Solar Rooftop
– เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 (เฉพาะบ้านอยู่อาศัยเท่านั้น ไม่รวมร้านค้า หรือโรงงาน)
– ระบบ Solar Rooftop ที่ติดตั้งต้องเป็นระบบ On-grid (ระบบที่ไม่มีแบตเตอรี่เก็บไฟสำรอง) และมีกำลังการผลิตไม่เกิน 10 kWp ต่อหลัง
– ต้องเป็นระบบที่มีการจัดซื้อ, ติดตั้ง และยื่นขออนุญาตเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (บ้านที่มีการติดตั้งไปแล้วก่อนหน้าที่มาตรการจะมีผลบังคับใช้ จะไม่สามารถใช้สิทธิได้)
โดยมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2570
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ