โครงการอินซิโอ้ เสรีไทย (Incio Serithai) คอนโด Low Rise 8 ชั้น 5 อาคาร และ 5 ชั้น 1 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 508 ยูนิต และห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 5 ยูนิต ออกแบบในสไตล์โมเดิร์น มี 3 สระว่ายน้ำ 4 ฟิตเนส และสวนหย่อมตามจุดต่าง ๆ ราคาเริ่มต้น 2.xx ล้านบาท
สนใจ บ้าน ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
แม้ปัจจุบัน ชื่อของอนันดาฯ จะคุ้นเคยว่าเป็นผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าแถวหน้าของประเทศ แต่ด้วยความเป็นบริษัทอสังหาฯ เบอร์ใหญ่ โปรดักส์ที่พัฒนาย่อมมีความหลากหลาย และนั่นหมายรวมถึงการมีสินค้าแนวราบอย่างบ้านจัดสรรอยู่ในพอร์ทการพัฒนาด้วย โดยโครงการแนวราบที่โครงการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว (ปี 2556) ก็คือบ้านสไตล์รีสอร์ท แบรนด์ “เอโทล” (Atoll) ซึ่งเปิดตัวพร้อมกันถึง 7 โครงการ ได้แก่ เอโทล มัลดีฟส์ ปาล์ม, เอโทล ลันตา รีสอร์ทไลฟ์, เอโทล มัลดีฟส์ บีช, เอโทล ไวกีกิ ชอร์, เอโทล สิมิลัน รีฟ, เอโทล บาหลี บีช และจาวา เบย์ โดยทุกโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ หรือรอบๆ บางนา-สุวรรณภูมิ รวมถึงพื้นที่กำลังพัฒนาเข้าสู่ความเจริญในอนาคตอันเป็นอานิสงส์จากโครงการสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง อย่างถนนหนามแดง
สำหรับโครงการที่เราจะมารีวิวกันแบบเจาะลึกในวันนี้ คือ “เอโทล มัลดีฟส์ บีช” บ้านสไตล์โมเดิร์นที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ สโมสร สระว่ายน้ำ ทะเลเทียม สวนสาธารณะ ในบรรยากาศเสมือนรีสอร์ทจริงๆ โดยกลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้คือกลุ่มครอบครัว ที่ต้องการพื้นที่สำหรับการใช้ชีวิต ในทำเลที่เดินทางสะดวกและอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิอีกด้วย
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2558)
• ชื่อโครงการ: เอโทล มัลดีฟส์ บีช (Atoll Maldives Beach)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ วัน จำกัด
• ทำเลที่ตั้ง: ถนนหนามแดง ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ : 48 ไร่ 1 งาน 47.9 ตารางวา
รูปแบบ: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 32 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มครอบครัว และคนรุ่นใหม่
สถานะก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างเดือนมกราคม 2558 บางส่วนแล้วเสร็จเมื่อเดือนกันยายน 2558 (โซนบ้านมารีน่า)
ระบบความปลอดภัย: Key Card Access Control เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง (บางจุด)
เริ่มเปิดขาย (Pre-sale): วันที่ 5 กันยายน 2558
สถานะการขาย: เปิดขาย 10 ยูนิต ขายได้แล้ว 5 ยูนิต
ราคาขายเริ่มต้น: 5.29 ล้านบาท (พื้นที่เพิ่ม-ลด ตร.ว. ละ 41,000 บาท)
ราคาขายเฉลี่ย: 87,000 บาท/ ตร.ว. (แปลงติดสวน สโมสร และหลังมุม คิดเพิ่ม 100,000 บาท)
ค่าส่วนกลาง: 20 บาท/ ตร.วา/ เดือน (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)
เงื่อนไขการชำระเงิน: จอง 10,000 บาท ทำสัญญาเริ่มต้น 75,800 – 93,800 บาท (ขึ้นอยู่กับพื้นที่ใช้สอย)
โปรโมชั่น: จองพร้อมทำสัญญาตอนนี้ (สำหรับแปลง 279-286) รับทันที
– ฟรีแอร์ซัมซุง จำนวน 3 เครื่อง (ห้องนอนชั้นบน)
– ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 1 %
– ค่าส่วนกลางล่วงหน้า 1 ปี
– ค่ามิเตอร์น้ำ + มิเตอร์ไฟฟ้า
– ชุดครัว (ตามแบบมาตรฐานโครงการ)
– ระบบสัญญาณกันขโมย
– ฉากกั้นอาบน้ำ (เฉพาะห้องน้ำชั้นบน)
– ถังน้ำ ปั๊มน้ำ จัดสวน (ตามแบบโครงการ)
เว็บไซต์โครงการ: ananda.co.th
รูปแบบบ้าน:
Marina 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถ 3 คัน ขนาดที่ดิน 60.80 – 78.90 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการเอโทล มัลดีฟส์ บีช ตัวบ้านสร้างด้วยอิฐมวลเบา ซึ่งมีข้อดีในการเป็นฉนวนความร้อน ทำให้ช่วยประหยัดพลังงานภายในบ้าน อีกทั้งยังถูกดีไซน์ในสไตล์โมเดิร์น บรรยากาศแบบรีสอร์ท พร้อมจัดพื้นที่ส่วนบ้านพักอาศัย และส่วนกลางอย่างเหมาะสม คำนึงถึงความเป็นส่วนตัว รองรับการใช้สอยสูงสุด อาทิ ถนนภายในโครงการมีความกว้าง 16 เมตร, ระบบ Key Card Access ในการเข้า-ออก รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยจากกล้อง CCTV (บางจุด เช่น บริเวณด้านหน้าโครงการและป้อมยาม เป็นต้น) และรปภ. ตลอด 24 ชั่วโมง
บริเวณป้อมยาม หน้าทางเข้าหมู่บ้าน จะมีระบบ Key Card Access ในการเข้า-ออก
ด้านหน้าหมู่บ้านจะมีที่จอดรถจักรยานสำหรับผู้อยู่อาศัยของโครงการ นอกจากนี้ หากต้องการใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ หรือแท็กซี่สามารถเรียกใช้ได้ โดยแจ้งกับ รปภ.
ส่วนของสำนักงานขาย จะมีรถกอล์ฟไว้คอยบริการพาผู้สนใจไปชมบรรรยากาศโดยรอบของโครงการ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
ด้วยความต้องการให้ลูกบ้านในเอโทล มัลดีฟส์ บีช ได้สัมผัสรูปแบบการอยู่อาศัยประหนึ่งบ้านพักตากอากาศริมทะเล จึงได้ออกแบบสโมสรสไตล์มัลดีฟส์ พร้อมจำลองทะเลเทียมขนาดใหญ่ ระบบคลอรีน รวมถึงสถานีออกกำลังกายกระจายทุกจุดตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้ายโครงการ ทั้งในส่วนชั้น 2 ของสโมสร หรือภายในสวนสาธารณะ ท่ามกลางความสงบร่มรื่น และความเป็นส่วนตัว
เมื่อเดินเข้ามาข้างใน จะให้ความรู้สึกบรรยากาศเหมือนเดินเข้ามาล็อบบี้รีสอร์ทแถวเมืองท่องเที่ยวริมทะเลอย่างแท้จริง
รีวิวภายในบ้านตัวอย่าง
พื้น: แกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 บริเวณชั้นล่าง และลามิเนตหนา 8 มม. ในชั้น 2
ความสูงพื้นจรดเพดาน: 2.6 เมตร ยกเว้นพื้นที่โถงรับรองสูง 4,30 เมตร
ความลึก: เริ่มต้น 4 เมตร
พื้นที่ใช้สอย: 190 ตร.ม.
ประตู: ประตูไม้บานสปริง พร้อมก้านโยก และระบบล็อก 2 ชั้น
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: Cotto และ Mogen หรือเทียบเท่า
ภาพ Perspective แสดงให้เห็นบรรยากาศบ้านสไตล์ Marina ที่โดดเด่นเรื่องเพดานสูง ในบริเวณโถงห้องนั่งเล่น
บ้านตัวอย่างแบบ Marina ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ขนาด 60.80 – 78.90 ตร.ว โดยตั้งอยู่ด้านหน้าของโครงการ
ทางโครงการได้ออกแบบประตูบ้าน ในลักษณะบานสปริง โดยมีขนาดสูงเท่ากับเพดานฝั่งโถงห้องนั่งเล่น พร้อมเลือกวัสดุเป็นไม้ และตัวเปิดเป็นก้านโยก ระบบล็อก 2 ชั้น
บริเวณโถงห้องนั่งเล่น จะถูกล้อมรอบด้วยหน้าต่างกระจก ซึ่งถือว่ามีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้าง โดยสังเกตว่าสามารถนำโซฟาขนาดใหญ่มาวาง แล้วยังมีพื้นที่เหลือให้สามารถตกแต่งเพิ่มเติมได้อีก พร้อมทั้งยังให้ความรู้สึกโปร่งจากเพดานสูงถึง 4 เมตร
อีกทั้งยังนำตู้หนังสือ หรือโต๊ะวางทีวีขนาดพอเหมาะมาวางเพิ่มเติมได้ โดยทางโครงการได้ติดตั้งปลั๊กไฟและเสียบเสาอากาศไว้ให้แล้ว
นอกจากนี้ในบริเวณโถงนั่งเล่น เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างมาก จึงสามารถทำ Built-in มุมนั่งเล่น พร้อมโต๊ะกินข้าวเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เพิ่มเติม จากไอเดียของโครงการดังรูปได้
ห้องอเนกประสงค์นี้ ถูกตกแต่งให้เป็นห้องทำงาน ซึ่งสามารถดัดแปลงเป็นห้องนอนสำหรับบรรดาญาติผู้ใหญ่ ที่ไม่สะดวกจะเดินขึ้นชั้น 2 ได้
ส่วนฝั่งนี้ เนื่องจากเป็นห้องอเนกประสงค์ เพราะฉะนั้นหากนำโต๊ะวางทีวีมาวางอาจจะดูทำให้ห้องแคบได้ ดังนั้นทางโครงการจึงนำไอเดียการแขวนทีวี มาไว้เป็นทางเลือกแก่ผู้อยู่อาศัย พร้อมติดตั้งปลั๊กไฟ และตัวเสียบเสาอากาศไว้ให้ด้วย
ส่วนของชั้น 1 ของบ้าน ยังมีห้องน้ำขนาดพอเหมาะ โดยทางโครงการเลือกใช้สุขภัณฑ์จาก Cotto และ Mogen หรือเทียบเท่า
นอกจากนี้ยังออกแบบให้มีส่วนของที่อาบน้ำ แต่จะไม่มีกระจกกั้น มีเพียงฝักบัว รวมทั้งยังดีไซน์ที่นั่งให้ดังรูป พร้อมติดตั้งเครื่องดูดอากาศและหน้าต่างบานกระทุ้งเพิ่มเติมให้ด้วย
ส่วนทางขึ้นชั้นลอย บริเวณที่พักบันได ได้ติดตั้งหน้าต่างกระจกบานเลื่อนทำให้สามารถเปิดถ่ายเทอากาศ หรือรับลม แสงแดดยามเช้าจากทางด้านหน้า หรือทิศตะวันออกได้
และเมื่อเดินขึ้นไป จะพบทางเดิน Corridor ที่มีความกว้างประมาณ 1 เมตร โดยฝั่งของห้องนอนเล็ก 1 และ 2 จะอยู่ด้านขวามือ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านในสุด
ห้องนอนเล็ก 1 นั้น มีขนาดไม่กว้างมากนัก แต่ยังคงมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนอยู่ โดยสามารถนำเตียงเดี่ยวขนาด 3 – 4 ฟุตมาวางได้ และทำให้ห้องไม่ดูแคบ
และเมื่อเดินมาอีกห้อง จะมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า โดยสามารถนำเตียงขนาด 5 ฟุต มาวางได้อย่างสบายๆ แต่จากไอเดียของโครงการจะเห็นว่านำเตียวเดี่ยวขนาด 3 ฟุตมาติดตั้ง เพราะต้องการให้มีพื้นที่ด้านข้างเตียง เหลือไว้สำหรับโต๊ะอ่านหนังสือ
จากวิวบรรยากาศนอกหน้าต่างกระจกบานเลื่อน (กรอบอลูมิเนียมสีดำ) นั้นเป็นทางด้านหลังบ้าน ฝั่งทิศตะวันตก ซึ่งจะติดกับพื้นที่ทุ่งหญ้าโล่งดังรูป โดยในอดีตพื้นที่โครงการก่อนมีการก่อสร้างโครงการเอโทล มัลดีฟ ศรีนครินทร์ – หนามแดงมานั้น ก็เป็นเช่นนี้มาก่อน
โดยจากไอเดียการตกแต่งของโครงการ ต้องการให้พื้นที่ใช้สอยในบ้านนั้นรองรับประโยชน์ใช้สอยสูงสุด แต่ยังคงยึดแนวคิดให้บ้านดูโปร่ง ดังนั้นจึงนำไอเดียแขวนทีวีมาช่วยให้ได้พื้นที่ในการวางโต๊ะ ชั้น ตู้ ของตกแต่งเพิ่มเติมได้
ส่วนข้างเตียงอีกฝั่ง สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ดังรูปได้ สำหรับห้องนี้ จะเพิ่มหน้าต่างบานกระทุ้งให้ด้วย
ห้องน้ำสุขภัณฑ์ทั้งหมดยังคงเป็นของ Cotto และ Mogen หรือเทียบเท่า โดยมีการติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้งในการระบายอากาศ
ส่วนของที่อาบน้ำ ยังคงไม่มีกระจกกั้น เป็นเพียงการทำพื้นต่างระดับลงไปประมาณ 1 คืบ พร้อมปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีเทาขนาด 30 x 30 ซม.
ส่วนบันไดทางขึ้นชั้น 2 ไปห้อง Master Bedroom สังเกตว่าผนังจะออกแบบให้มีพื้นที่สามารถวางของตกแต่งอย่างแจกัน เพื่อความสวยงามได้
ส่วนห้องน้ำ จะอยู่ในตัวห้อง Master Bedroom โดยสามารถเดินทะลุส่วนของพื้นที่กั้นเป็นห้องแต่งตัวได้ อีกทั้งยังมีความพิเศษตรงทางโครงการได้ให้อ่างอาบน้ำด้วย
นอกจากอ่างอาบน้ำแล้ว ยังมีพื้นที่ของการชำระร่างกายด้วยฝักบัว และชักโครก โดยมีการออกแบบอย่างเป็นสัดส่วน
รีวิวภายในบ้านจริง
ส่วนของตัวบ้านจะออกแบบในโทนสีเทา เป็นลักษณะแนวสูง ซึ่งมีระยะห่างกับเพื่อนบ้านเพียง 1.20 เมตร (ตัวผนังบ้านถึง center รั้วแบ่งแปลง)
เมื่อมาดูบ้านจริง จะเห็นว่าตัวกระจกของหน้าต่าง จะเป็นเป็นแบบย้อมสีเขียว ตัดแสง พร้อมกรอบอลูมิเนียมสีดำ
พื้นที่ของห้องเก็บของจะเป็นลักษณะแนวลึก มากกว่ากว้าง เพราะฉะนั้นสามารถเก็บพวกอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ ได้
ถัดมาดูส่วนของห้องครัว ยังคงมีประตูออกไปพื้นที่สวนด้านหลังบ้าน ส่วนหน้าต่างจะไม่ได้เป็นบานกระทุ้ง เหมือนบ้านตัวอย่าง
นอกจากนี้ยังมีหน้าบานกระตุ้งเพิ่มเติมให้ด้วย โดยส่วนของพื้นชั้นล่าง จะถูกปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลโครงการ
โครงการตั้งอยู่ในถนนหนามแดง แถบจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งถือว่าเป็นย่านที่ได้รับการพัฒนาให้มีความเจริญเทียบเท่าทำเลแถบเส้นศรีนครินทร์ และบางตราดอย่างต่อเนื่อง โดยแตกต่างจากอดีตที่มีเพียงทุ่งหญ้ารกร้าง รวมถึงโกดัง โรงงานจำนวนมาก เนื่องจากอยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมือง แต่แล้วเมื่อมีการขยายถนน พร้อมสร้างถนนวงแหวนรอบนอกหรือกาญจนาภิเษก (ทิศใต้) รวมระยะทางกว่า 36 กม. คือ ช่วงสุขสวัสดิ์-พระราม 2 ระยะทาง 13.5 กม. และบางพลี-สุขสวัสดิ์ 22 กม. โดยเปิดให้ใช้งานมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2550 ที่ผ่านมา เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้เดินทางเข้า-ออกระหว่างใจกลางเมืองกับชุมชนรอบนอกได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมทั้งถนนเส้นหนามแดง ยังสามารถเชื่อมต่อกับทางฝั่งเทพารักษ์ บางพลี ตัดออกบางนา-ตราด และมุ่งหน้าไปสนามบินสุวรรณภูมิ ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้เหล่าผู้ประกอบการอสังหาฯ หันมาให้ความสำคัญกับที่ดินเปล่าในระแวกนี้มากขึ้น และเดินหน้าพัฒนาหมู่บ้านจัดสรรในราคาที่ยังจับต้องได้ (ไม่เกิน 5 ล้านบาท) นอกจากนี้ การเดินทางในย่านนี้ยังมีรถสาธารณะ ทั้งวินมอเตอร์ไซค์ รถสองแถว ทำให้คนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวก็ได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางเช่นกัน
ทั้งนี้ ในอนาคตจะมีการสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง โดยเชื่อมต่อกับแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ผ่านแยกพัฒนาการ ศรีนุข ศรีอุดมสุข ศรีเอี่ยม ศรีเทพา จากนั้นแนวเส้นทางจะไปทางทิศตะวันตกตามแนวถนนเทพารักษ์ ผ่านจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่สถานีสำโรง และสิ้นสุดแนวเส้นทางบริเวณถนนปู่เจ้าสมิงพราย รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 30.4 กิโลเมตร และหากโครงการนี้เกิดขึ้นจริงและเปิดให้บริการ เชื่อได้เลยว่าที่ดินตลอดแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้จะได้รับอานิสงส์กันถ้วนหน้าเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในทำเลที่เป็นแนวรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้วในปัจจุบันที่มูลค่าที่ดินและอสังหาฯ มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
การเดินทาง
ด้วยที่ตั้งโครงการ อยู่บนนถนนหนามแดง ซึ่งเป็นพื้นที่กำลังพัฒนาเส้นทางการเดินทาง โดยในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองวิ่งผ่าน แต่ในปัจจุบันยังคงต้องอาศัยการเดินทางด้วยรถยนต์ไปก่อน แต่ผู้ที่ต้องการนั่งรถเมล์ สามารถนั่งสาย 116 หรือ ปอ.11 เพื่อมาลงบริเวณแยกหนามแดง จากนั้นใช้บริการรถสองแถวค่าบริการ 8 บาทนั่งไปถึงหน้าโครงการได้
– รถยนต์
ทางเลือกที่ 1 หากมุ่งหน้ามาจากเส้นถนนบางนา-ตราด ให้เลี้ยวเข้าถนนกิ่งแก้ว บริเวณ กม. 12 จากนั้นมุ่งหน้าไปทางเส้นเทพารักษ์ (ประมาณ 3 กม.) แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนหนามแดง (ประมาณ 2 กม.) สังเกตป้ายโครงการอยู่ด้านขวามือ
ทางเลือกที่ 2 หากมาจากเส้นศรีนครินทร์ ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ จากนั้นให้สังเกตป้ายถนนหนามแดง ด้านซ้ายมือ เพื่อเลี้ยวซ้าย และมุ่งหน้าไปประมาณ 2 กม.โครงการอยู่ด้านซ้ายมือ
ทางเลือกที่ 3 หากมาจากถนนเทพารักษ์ ให้เลี้ยวเข้าซอยบุญธรรมนุสรณ์ หรือ ซอยแฟร์เท็กซ์ (ฝั่งตรงข้ามซอยมังกรนาคดี) บริเวณ กม. 8 เพื่อเข้าเส้นถนนหนามแดง ขับมุ่งหน้าไปประมาณ 2 กม. โครงการอยู่ด้านขวามือ
ภาพจาก Google Map จะเห็นว่าใช้เส้นทางจากถนนศรีนคริทร์ หรือเทพารักษ์เข้าถนนหนามแดง จะสะดวกกว่า โดยโครงการจะอยู่ติดกับถนน
ทางเข้าโครงการ บรรยากาศด้านหน้า ถูกตกแต่งในสไตล์มัลดีฟ บีช
ถนนหนามแดง ด้านหน้าโครงการ ตรงไปจะสามารถทะลุกิ่งแก้วได้
สถานที่แนว Lifestyle
ร้านบ้านใหม่ แสนแซ่บ
ในย่านหนามแดง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการนั้น หากจะหาที่ท่องเที่ยวในสไตล์ห้างสรรพสินค้า หรือคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่เหมือนกับใจกลางเมืองคงต้องออกไปทางเส้นบางนา-ตราด อย่างเมกา บางนา (ห่างจากโครงการประมาณ 4 กม.) แต่หากอยากได้ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ต้องไปทางเทพารักษ์ ซึ่งจะมีเทสโก้ โลตัส ตลาดนัดศรีนครินทร์ พลาซ่า (ห่างจากโครงการประมาณ 3 กม.) แหล่งรวมเสื้อผ้า ของจิปาถะมากมายตั้งแต่ 07.00-22.00 น. นอกจากนี้ทางฝั่งเส้นศรีนครินทร์ ยังมีบิ๊กซี แม็คโคร (ห่างจากโครงการประมาณ 3 กม.) ไว้รองรับกลุ่มผู้อยู่อาศัยในย่านนี้ด้วย ส่วนทางเส้นถนนหนามแดงนั้น แหล่งไลฟ์สไตล์จะเป็นลักษณะชุมชนมากกว่า เพราะส่วนใหญ่แล้วพื้นที่ในซอยนี้กำลังอยู่ระหว่างปรับปรุง นอกจากนี้ ช่วงตั้งแต่ต้นถึงท้ายซอย ยังมีร้านอาหารขึ้นชื่อมากมาย อาทิ ร้านบ้านใหม่ แสนแซ่บ ตั้งอยู่ซอยหลังวัดหนามแดง มีอาหารหลากหลายสไตล์ให้เลือก ทั้งไทย ฝรั่ง หรืออีสาน แต่ที่เมนูจานฮิต คงหนีไม่พ้นส้มตำปูม้า และกุ้งเผา แต่หากใครอยากกินอะไรง่ายๆ แบบรวดเร็ว และชอบทานเนื้อ ขอแนะนำ ร้านนายหมี เกาเหลา ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น สูตรไหหลำ (ห่างจากโครงการประมาณ 400 เมตร) เพราะเด็ดทั้งความเปื่อยของเนื้อที่ผ่านกรรมวิธีการหมักจนน้ำปรุงรสเข้าเนื้อได้ดี หรือจะเป็นน้ำซุปสุดเข้มข้น ที่ทำให้ใครที่ขับรถผ่านไปมาในย่านนี้ต้องแวะลิ้มลองความอร่อย
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ
เนื่องจากทำเลชานเมืองของกรุงเทพฯ อย่างจังหวัดสมุทรปราการเริ่มได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านคมนาคม และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัย รวมถึงโครงการที่อยู่อาศัยที่เกิดขึ้นบนถนนศรีนครินทร์ โดยส่วนใหญ่มักเป็นแนวราบ และมีระดับราคาขายอยู่ในช่วง 3 – 6 ล้านบาท ใกล้เคียงกับย่านบางนา-ตราด หรือเส้นพัฒนาการ รวมถึงยังมีการประกาศจากภาครัฐว่าปี 2559 นั้น ราคาประเมินที่ดินจะสูงขึ้นประมาณ 15% ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การลงทุนในอสังหาฯ ย่านนี้เริ่มคึกคัก โดยเป็นลักษณะปล่อยขายต่อมากกว่าเช่า ซึ่งจะได้กำไรประมาณ 20% จากราคาต้นทุน และหากปล่อยเช่าจะอยู่ประมาณ 30,000 – 45,000 บาท / เดือน สำหรับบ้านเดี่ยว เนื้อที่ไม่เกิน 60 ตร.ว.
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
เดอะแพลนท์ ศรีนครินทร์-หนามแดง
โครงการบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด 2 ชั้น โดยบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ถนนหนามแดง ตำบล บางพลีใหญ่ อำเภอ บางพลี สมุทรปราการ พื้นที่โครงการ 46 ไร่ จำนวน 231 ยูนิต ในพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 135 ถึง 180 ตร.ม.กับรูปแบบบ้าน Pride, Prima, Proud, Present และ Prestige 3 ห้องนอน 2-3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พร้อมส่วนกลาง ประกอบด้วยคลับเฮาส์ สวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ และฟิตเนส ราคาขายเริ่มต้น 4 – 6 ล้านบาท
มัณฑณา ศรีนครินทร์-บางนา
โครงการบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด 2 ชั้น โดยบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ถนนหนามแดง ตำบล บางพลีใหญ่ อำเภอ บางพลี สมุทรปราการ พื้นที่โครงการ 98 ไร่ จำนวน 414 ยูนิต ในพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 136 ตร.ม. กับรูปแบบบ้าน Walnut และ Spazio 3 ห้องนอน 2-3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พร้อมส่วนกลาง ประกอบด้วยสวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น
สระว่ายน้ำ ซาวน่าและฟิตเนส ราคาขายเริ่มต้น 5 – 15 ล้านบาท
ศุภาลัย การ์เด้น วิลล์ ศรีนครินทร์-บางนา
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ของบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ซอยศรีด่าน 22 ตำบล บางพลีใหญ่ อำเภอ บางพลี สมุทรปราการ พื้นที่โครงการ 26 ไร่ จำนวน 123 ยูนิต ในพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 150 – 230 ตร.ม. กับรูปแบบบ้าน ศุภดำรง ศุภลักขณา และศุภวัฒนา 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พร้อมสวนส่วนกลาง ราคาขายเริ่มต้น 4 ล้านบาท
สรุป
เอโทล มัลดีฟส์ บีช ถือได้ว่าเป็นโครวการบ้านเดี่ยว ภายใต้การพัฒนาของอนันดาฯ ที่มีจุดขายอยู่ที่การเป็นบ้านใกล้เมืองสไตล์รีสอร์ท ในทำเลโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ โดยได้เปิดเฟสใหม่อย่าง Marina ซึ่งถือว่าเป็นรูปแบบบ้านที่มีความทันสมัยขึ้นจากเดิม อย่าง ATOLL D-1 105, Duplex DH120, Neka Male, Single HS140 และ Vilu Faru 142 โดยมีการออกแบบทั้งตัวสถาปัตกรรมภายนอก รวมถึงการตกแต่งภายในที่รองรับการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ใช้สอยสูงสุด พร้อมเพิ่มความสูงเพดานบริเวณโถงห้องนั่งเล่นถึง 4 เมตร ทำให้ตัวบ้านดูโปร่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีสวนด้านหลังที่มีความลึกค่อนข้างมาก ซึ่งนับว่าเป็นไฮไลท์ของบ้านแบบ Marina เลยก็ว่าได้ แม้ว่าหลายคนอาจจะติดใจเรื่องทำเลที่ค่อนข้างห่างจากใจกลางเมือง แต่ถ้าหากมองถึงอนาคตอันใกล้เมื่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง พร้อมเปิดบริการ เชื่อเถอะว่าถนนเส้นหนามแดงจะเข้าสู่ระดับความเจริญไม่แพ้แถบเส้นศรีนครินทร์ หรือบางนา-ตราด อย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้จึงอาจทำให้มีนักลงทุนบางรายเริ่มหันมาจับตาลงทุนอสังหาฯ ในลักษณะขายต่อในย่านนี้มากขึ้น
สนใจ บ้าน ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ