รีวิวโครงการ: เดอะ เมทโทร รัตนาธิเบศร์ (The Metro Ratthanathibet)

ถนนหลักของโครงการกว้าง 12 เมตร

ขณะที่ถนนซอยจะกว้าง 8 เมตร

บรรยากาศภายในโครงการค่อนข้างโปร่ง ไม่อึดอัด เนื่องจากบริเวณด้านหน้าของโครงการได้รับการออกแบบให้ด้านหนึ่งเป็นที่ตั้งของสวนส่วนกลางพร้อม Jogging Track ขณะที่อีกด้านหนึ่งเป็นทาวน์โฮม ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด

บรรยากาศสวนส่วนกลาง

นอกจากนี้โครงการยังวางผังให้มีพื้นที่สีเขียวหน้ากว้าง 4 เมตรแทรกอยู่ระหว่างบล็อคของทาวน์โฮมเป็นระยะๆ (แปลงที่อยู่ติดสวนส่วนกลางจะมีราคาสูงกว่าแปลงทั่วไปประมาณ 2 แสนบาทต่อยูนิต) นอกจากนี้โครงการยังคำนึงทิศทางลมและแสงแดดด้วยโดยจัดผังบ้านให้ทุกหลังหันหน้าไปตามแนวทิศเหนือและทิศใต้

ที่ตั้งคลับเฮ้าส์ หรือ Master Club ซึ่งภายในคลับเฮ้าส์มีทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนสรวมถึงห้องสตีมซาวน่าด้วย

บ้านของโครงการมี 2 แบบ คือทาวน์โฮม A และทาวน์โฮม B ทั้งสองรูปแบบมีพื้นที่ใช้สอยและยูนิตเลย์เอาท์ที่เหมือนกันแต่จะแตกต่างกันที่พื้นที่ใช้สอยบริเวณชั้น 3 โดยพื้นที่ของทาวน์โฮม B จะเป็นระเบียงที่เป็นพื้นที่ outdoor ขณะที่พื้นที่ของทาวน์โฮม A จะเป็นพื้นที่ indoor หรือเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาสเตอร์เบดรูม

บ้านตัวอย่างหลังแรกคือหลังที่อยู่ด้านซ้ายมือ มีระเบียงอยู่บริเวณชั้น 3 ส่วนด้านขวามือเป็นบ้านแบบ A บริเวณชั้น 3 จะก่อผนังและกรุกระจกแทนระเบียง

โครงการทำรั้วบ้านแบบพับทาสีดำให้ตามแบบนี้ พื้นที่บริเวณที่จอดรถจะเทปูนและโรยหินกรวดให้ตามแนวร่อง กริ่งและตู้จดหมายหน้าบ้านจะได้ตามแบบที่เห็น

บริเวณด้านหน้าของบ้านตัวอย่าง

ประตูทางเข้าเป็นบานเลื่อนอลูมิเนียมสีขาวบานใหญ่ มีตู้เก็บของบิลท์อินอยู่ด้านข้างของตัวบ้านด้วย

พื้นที่บริเวณชั้น 1 ของตัวบ้าน บรรยากาศค่อนข้างโปร่งเนื่องจากออกแบบให้เพดานสูง 2.7 เมตร ทั้งยังกรุกระจกบานใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของตัวบ้าน

มุมจากด้านหลังบ้านมายังหน้าบ้าน

โซนนั่งเล่นด้านหน้า

โซนรับประทานอาหาร

ครัวเป็นครัวปิด กั้นด้วยบานเลื่อนอลูมิเนียมสีขาว มีกระจกด้านข้างช่วยเพิ่มความโปร่งให้ตัวบ้านด้วย

ชุดครัวบิลท์อินเป็นไอเดียให้ลูกบ้าน แต่สเปคห้องจริงจะเป็นห้องเปล่า หากไม่ต้องการห้องครัวก็สามารถปรับห้องชั้นล่างเป็นห้องนอนอีกหนึ่งห้องหรือจะปรับเป็นห้องทำงานก็ได้

ห้องน้ำบริเวณใต้บันได ปูพื้นด้วยกระเบื้องกันลื่น กรุผนังด้วยกระเบื้องเซรามิค สุขภัณฑ์และก็อกน้ำทั้งหมดเป็นของ COTTO

บริเวณชั้นวางทีวีและบันไดที่จะขึ้นไปชั้น 2 บันไดเป็นคอนกรีต ขั้นบันไดเป็นไม้อัดยาง

พื้นที่บริเวณชั้น 2 มีราวบันไดกั้น บริเวณโถงทางเดิน สุดปลายโถงไปทางด้านหลังบ้านจะเป็นห้องน้ำ พื้นตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไปจะปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม.

ประตูทางเข้าห้องนอนเล็กทั้งสองห้อง ส่วนปลายทางก่อนขึ้นไปชั้น 3 มีพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดเล็ก สามารถดัดแปลงเป็นมุมทำงานเล็กๆ ได้

ห้องนอนหลักของชั้น 2 พื้นที่ค่อนข้างกว้าง กรุบานเลื่อนขนาดใหญ่ซึ่งสามารถเปิดออกสู่ระเบียงได้

บรรยากาศภายในห้องนอนหลักของชั้น 2

ห้องนอนเล็กก็ยังเน้นการกรุกระจกบานใหญ่เพื่อให้ห้องดูโปร่งและเอื้อให้แสงธรรมชาติเข้าถึง

บรรยากาศภายในห้องนอนเล็ก

ห้องน้ำบริเวณชั้น 2

พื้นที่อเนกประสงค์ที่อยู่บริเวณชานพักบันไดก่อนขึ้นไปยังชั้น 3

มุมทำงานบริเวณชานพักบันได

ชั้น 3 ออกแบบให้เป็นเพนท์เฮ้าส์เบดรูม หรือห้องนอนขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ของชั้น 3

ตัวห้องกรุกระจกบานใหญ่ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นไปอีก

กระจกเป็นแบบเข้ามุม มีประตูเปิดออกสู่พื้นที่ระเบียงด้านนอก

มาสเตอร์เบดรูมมีห้องน้ำในตัว

ความพิเศษของห้องน้ำของมาสเตอร์เบดรูมคือมีระเบียงเล็กๆ ด้านหลังซึ่งสามารถจัดมุมสวนเล็กๆ เพิ่มความสดชื่นและช่วยสร้างบรรยากาศได้

มุมสวนอีกแห่งหนึ่งของบ้านอยู่บริเวณด้านหลังบ้าน

หลังบ้านมีส่วนที่เทปูนและเดินท่อน้ำไว้สำหรับติดตั้งปั๊มและแทงค์น้ำ

บ้านตัวอย่างหลังที่ 2 เป็นบ้านแบบ A บ้านตัวอย่างหลังนี้จะเป็นบ้านเปล่า ให้ลูกค้าได้เห็นสเปคของบ้านที่จะได้รับตามจริง เลย์เอาท์ทางเข้าหน้าบ้านก็เหมือนกับบ้านแบบแรก

บรรยากาศพื้นที่ด้านใน ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ซม.

บริเวณห้องครัวชั้นล่าง

พื้นที่นอกบ้านเทหินกรวดไว้ให้ มีพื้นที่เทปูนสำหรับวางปั๊มน้ำและแทงค์น้ำ

พื้นที่บริเวณชั้น 2 ปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มม.

ชั้น 3 เป็นเพนท์เฮ้าส์เบดรูม กรุกระจกบานใหญ่ให้โปร่ง

ขยายพื้นที่อนเกประสงค์สำหรับเป็นมุมพักผ่อนแบบอินดอร์

ระยะห่างระหว่างตัวบ้านที่หันหลังติดกัน

บ้านแปลงมุม ด้านนอกตัวบ้านโครงการก็มีการจัดสวนบริเวณฟุตบาทให้ด้วย