แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์สเตชั่น บาย ไซมิส แอสเสท (Landmark At Grand Station By Siamese Asset) เป็นโครงการมิกซ์ยูส บนทำเลศักยภาพ ตรงข้ามแฟชั่นไอส์แลนด์ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทรา เพียง 400 เมตร ภายในห้องออกแบบเป็น 2 ชั้น เพดานสูง 4.15 เมตร เน้นความโปร่ง โล่ง พร้อมออกแบบห้องตามพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องพักสำหรับผู้สูงอายุ คนที่มีสัตว์เลี้ยงหรือห้องพักในรูปแบบ Co-living และห้องพักแบบมาตรฐาน ภายในโครงการครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งพื้นที่พักอาศัย โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และสำนักงาน ราคาเริ่มต้นเพียง 2.90 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
นับเป็นโครงการที่สร้างความฮือฮาตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน เพราะเป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์หรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณย่านพระราม 3 ที่มีจุดขายในเรื่องของทำเลที่ตั้ง หน้าติดแม่น้ำ (เจ้าพระยา) หลังติดถนน (พระราม 3) แม้ขณะนี้ การพัฒนาจะถูกเปลี่ยนมือไป เมื่อเจ้าของเดิมคือ เคแลนด์ หรือ บริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน จำกัด (มหาชน) ซึ่งขณะนี้อยู่ภายใต้การดูแลของกลุ่มโกลเด้นแลนด์ไปแล้ว แต่การเทคโอเวอร์เคแลนด์ของโกลเด้นแลนด์ในครั้งนั้นไม่ได้ครอบคลุมถึงพอร์ทโครงการในแนวสูง ทำให้โครงการ เดอะ พาโน ลิฟวิ่ง ริเวอร์ฟร้อนท์ เซนเซชั่น ในปัจจุบันอยู่ภายใต้การพัฒนาของเจ้าของใหม่ นั่นคืคือ กลุ่มทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ โดยล่าสุด ได้เปิดตัวเฟสใหม่ เป็นตึกแบบโลว์ไรส์ฝั่งที่ติดริมน้ำจริงๆ พร้อมพื้นที่เกาะส่วนตัวและบ่อน้ำขนาดใหญ่ผสานความสวยงามด้วยวิวที่เป็นซิกเนเจอร์ของย่านนี้อย่างสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม ซึ่งในรีวิวนี้ เราจะมาเจาะลึกรายละเอียดของเฟสล่าสุด (ตึกโลว์ไรส์) เนื่องจากห้องชุดในเฟสแรก ซึ่งเป็นตึกไฮไรส์นั้นขายหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 29 เมษายน 2559)
ชื่อโครงการ: เดอะ พาโน ริเวอร์ฟร้อนท์ ลิฟวิ่ง เซนเซชั่น (The Pano Riverfront Living Sensation)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ริเวอร์ไซด์ โฮม ดีเวลลอปเม้นท์
บริหารงานโดย: บริษัท ทีซีซี แคปปิตอลแลนด์ จำกัด
พื้นที่โครงการ: 8-3-15.7 ไร่ (พื้นที่รวมทั้งส่วนของโลว์ไรส์และไฮไรส์)
รูปแบบ: อาคารชุดพักอาศัยแบบโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น
สถานะก่อสร้าง: สร้างเสร็จพร้อมอยู่
ที่จอดรถ: 144 คัน แบบระบุช่องจอด
ระบบความปลอดภัย: รปภ. 24 ชม.
ส่วนกลาง: สระว่ายน้ำ, อ่างจากุซซี่, สปา, สนามเด็กเล่น, สนามเทนนิส, สนามบาส, จุดจำลองปีนผา, ฟิตเนส, ห้องสำหรับเล่นบิลลาร์ดและพูล
สถานะการขาย: ห้องชุดในเฟสอาคารโลว์ไรส์ติดแม่น้ำ สร้างเสร็จพร้อมขาย
ค่าส่วนกลาง: 40 บาท/ตร.ม./ เดือน (ชำระจำนวนล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุน (sinking fund): 600 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว)
ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 19 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร: 145,000 บาท/ตร.ม.
เว็บไซต์โครงการ: www.thepano.com
รูปแบบยูนิต:
Island & River Villa พื้นที่ตั้งแต่ 491-619 ตร.ม.
Duplex 3+1 bedrooms type F พื้นที่ตั้งแต่ 285-328 ตร.ม.
2+1 ห้องนอน type G,H,I พื้นที่ตั้งแต่ 155-232 ตร.ม.
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการ เดอะ พาโน ริเวอร์ฟร้อนท์ ถือเป็นอาคารที่มีความสูงเป็นอันดับ 13 ของประเทศและเป็นตึกที่อยู่อาศัยที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 4 การออกแบบตัวอาคารมีรางวัลระดับโลกอย่าง Emporis Skyscrapper Award เป็นเครื่องการันตี ภายในโครงการแบ่งออกเป็น 2 เฟส ได้แก่ เฟสแรกเป็นอาคารสูง ไฮไรส์สูง 57 ชั้น ซึ่งปิดการขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงมีห้อง Sky Penthouse Panoramic View พร้อมขายอยู่บางส่วน และเฟสล่าสุด เป็นอาคารประเภทโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น จำนวน 52 ยูนิต พร้อมที่จอดรถแบบระบุช่องจอดทุกห้อง
ซึ่งความพิเศษของโครงการในเฟสใหม่ ก็คือเป็นโซนที่ติดกับริมน้ำจริงๆ โดยเมื่อออกมาจากห้องจะสามารถเห็นบรรยากาศริมน้ำได้แบบเต็มๆ อีกทั้งทางโครงการยังมีการสร้างในส่วนของบ่อน้ำสะท้อนเงาขนาดใหญ่หรือ reflection pond ที่ผสานกับพื้นที่ริมน้ำที่มีวิวด้านหลังเป็นสะพานวงแหวนได้อย่างลงตัว ในส่วนของเฟสที่เป็นตึกโลว์ไรส์ทั้งหมดจะเรียกว่า “ริเวอร์ฟร้อนท์” (Riverfront) ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มองหาโครงการที่อยู่อาศัยริมน้ำใจกลางเมืองที่ค่อนข้างหาได้ยากในปัจจุบัน
รูปแบบ landscape ของโครงการจะมีการไล่ลำดับความสูงของตึก โดยอาคารที่มีจำนวนชั้นน้อยที่สุดจะอยู่ติดริมแม่น้ำที่สุด ห้องชุดในเฟสดังกล่าวแบ่งออกเป็น 3 แบบดังนี้:
1. วิลล่า
อาคารวิลล่าจะประกอบด้วยอาคารสูง 6 ชั้นจำนวน 4 อาคารหันหน้าชนกันฝั่งละ 2 อาคารในลักษณะ mirror นั่นคือรูปแบบอาคารจะเหมือนกันเป๊ะ โดยชั้นใต้ดินถึงชั้นที่ 2 จะเรียกว่า Island Villa พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 593-619 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่จอดรถใต้ดินจำนวน 5 คันที่สามารถเดินเข้ายูนิตจากทางเข้าใต้ดินได้ทันทีโดยห้องชุดแบบ villa จะมีลิฟท์ส่วนตัว และอีกหนึ่งไฮไลท์คือพื้นที่เกาะส่วนตัวบริเวณด้านหน้ายูนิตที่ติดกับ reflecting pond ของโครงการ รวมถึงสระว่ายน้ำส่วนตัวบริเวณชั้น G ความสูงพื้นจรดเพดานทำออกมาได้ค่อนข้างโปร่งโดยอยู่ที่ 2.9 เมตร ยูนิตประเภทนี้ประกอบด้วย 4 ห้องนอน
สำหรับชั้น 2-5 นั้นจะเป็นยูนิตที่เรียกว่า River Villa พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 491-512 ตร.ม. จุดที่แตกต่างจาก Island Villa คือ River Villa จะไม่มีพื้นที่เกาะส่วนตัวยื่นออกไปแต่จะมีพื้นที่ดาดฟ้าเข้ามาแทน ส่วนความสูงพื้นจรดเพดานเท่ากับ Island Villa นั่นคือ 2.9 เมตร ยูนิตประเภทนี้ประกอบด้วย 3 ห้องนอน layout ก็จะแตกต่างจาก Island Villa
2. ตึกสำหรับห้องดูเพล็กซ์
ประกอบด้วยอาคารสูง 8 ชั้นจำนวน 2 อาคาร อาคารละ 4 ยูนิต สำหรับยูนิตชั้นล่างจะมีพื้นที่ระเบียงด้านหน้าเพิ่มขึ้นมาทำให้มีพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น โดยยูนิตที่มีระเบียงส่วนตัวยื่นออกมาชั้น 1 จะมี 2 ยูนิต (อาคารละยูนิต) สำหรับยูนิตประเภทนี้จะมีสระน้ำส่วนตัวให้เฉพาะยูนิตที่มีขนาด 328 ตร.ม. (F1) สำหรับ layout ของยูนิตประเภทนี้แบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ F1 (2 ยูนิตหรือยูนิตที่อยู่ชั้น 1 มาพร้อมกับพื้นที่เกาะส่วนตัว) และ F2 (6 ยูนิต) layout ยูนิตประเภท F จะเป็นแบบ 3+1 ห้องนอน
3.อาคารสำหรับห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน
ห้องชุดแบบ 2 ห้องนอนนี้ จะมี layout ที่แตกต่างกันถึง 3 แบบนั่นคือ G, H และ I
แบบ G นั้นมีจำนวน 8 ยูนิต โดยจะมีหนึ่งยูนิตที่มีพื้นที่ใช้สอยพิเศษยื่นออกมาด้านหน้าติดกับส่วนของ reflection pond (พื้นที่ใช้สอย 234 ตร.ม.) ส่วนที่เหลืออีก 7 ยูนิตจะอยู่ด้านบน (พื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม.)
แบบ H เป็นห้องแบบ 2+1 ห้องนอน มี 8 ยูนิต มีพื้นที่ใช้สอยขนาดเดียวที่ 158 ตร.ม.
แบบ I มีจำนวน 20 ยูนิต โดยจะมีหนึ่งยูนิตที่มีพื้นที่ใช้สอยพิเศษยื่นออกมาด้านหน้าติดกับ reflection pond โครงการใช้ชื่อยูนิตนี้ว่า I1 พื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 232 ตร.ม. คล้ายกับแบบ G ส่วนแบบ I2 ซึ่งไม่มีระเบียงเพิ่มเข้ามาจะมีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 155 ตร.ม.
ผังโครงการเฟส Riverfront
พื้นที่ส่วนกลาง
พื้นที่ส่วนกลางจะตั้งอยู่บริเวณชั้น 9 ของตึกไฮไรส์ ซึ่งตอบโจทย์ได้ดีสำหรับกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่ชอบออกกำลังกายและมองหาบรรยากาศโล่งโปร่งสบายเพื่อความผ่อนคลาย (ฝั่งตึก Low Rise จะมีเพียงสระน้ำสำหรับชมวิวริมน้ำ ) โดย สิ่งอำนวยความสะดวกที่ชั้น 9 มีดังนี้:
1. สระว่ายน้ำ 2. อ่างจากุซซี่ 3. สระเด็ก 4. พื้นที่เปิด
5. ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและห้องสตีม 6. ยิม 7. ห้องฟังก์ชั่นสำหรับจัดประชุม
8. พื้นที่ออกกำลังกายวิวติดริมน้ำ 9. สปาชาย 10. สปาหญิง
11. ห้องโต๊ะบิลเลียดและพูล 12. ลิฟท์โดยสาร 13. สนามบาสเกตบอล (Half Court)
14. จุดปีนผาจำลอง 15. สนามเทนนิส 16. ฟิตเนส
17. ลานบาร์บีคิว 18. สนามเด็กเล่น 19. สระว่ายน้ำสะท้อนเงา 20. มุมสวน
ภาพสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ
สระว่ายน้ำ Riverfront (บริเวณเดียวกับบ่อ reflection pond) หันหน้าเข้าแม่น้ำเจ้าพระยามีวิวเป็นสะพานวงแหวน
ทางฝั่งตะวันออกของโครงการจะติดกับอาคาร SV Tower ซึ่งเป็นอาคารให้เช่าสำนักงานและร้านค้าปลีก ส่วนด้านหลังของอาคาร เอสวี ทาวเวอร์ จะเป็น River Front Residences เนื้อที่รวมทั้งหมดทั้งในส่วนของที่ดินเปล่าและที่ดินโครงการที่ทาง TCC ได้เทคมามีจำนวนประมาณ 14 ไร่ แต่ดึงมาใช้สำหรับโครงการ The Pano 8 ไร่ ส่วนที่เหลือมีข่าวว่าอาจจะทำเป็น Residences โดยดึงแบรนด์โรงแรมห้าดาวเข้ามาบริหาร ต้องคอยติดตามว่าจะเป็นแบรนด์อะไรเข้ามา ณ พื้นที่ริมน้ำแห่งนี้
รีวิวห้องชุดโครงการ
สำหรับห้องชุดตัวอย่างที่หยิบยกมาเป็นประเภทห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นแบบ Island Villa พื้นที่ใช้สอย 619 ตร.ม.
Layout ห้อง
ชั้นใต้ดินประกอบด้วย: ที่จอดรถ 5 คัน, ทางเข้า, ห้องนอน, ห้องอเนกประสงค์พร้อมระเบียงติดกับบ่อน้ำขนาดเล็ก, ห้องน้ำ
ทางเข้า-ออกห้องประเภทนี้จะค่อนข้างพิเศษเพราะผู้อาศัยจะต้องขับรถเข้าจากทางใต้ดินซึ่งมีที่จอดรถประจำยูนิตด้วยกันถึง 5 คัน
Island Villa ประกอบด้วย 3 ชั้น ได้แก่ basement, ground floor และ ชั้น 2 สไตล์การออกแบบภายนอกจะมีลักษณะเป็นแบบลูกบาศก์ (cube) ขนาดแตกต่างๆ กันมาประกอบกันให้เกิดรูปร่างที่ดูมีลูกเล่นในโทน เทา, ขาว สลับกัน
จากที่จอดรถสามารถเดินไปยังหน้าบ้าน เข้า-ออกด้วยระบบคีย์การ์ด เพื่อมาสู่บริเวณลิฟท์ส่วนตัว หรือสามารถเลือกเดินขึ้นบันไดก็ได้
หรือหากต้องการเข้าไปยังส่วนที่อยู่อาศัยในชั้นนี้ก็เพียงแค่เปิดประตูเข้าไป ประตูของห้องตัวอย่างเป็นไม้สักแต่ของจริงจะเป็นไม้แดง นอกจากนี้ ยังมีบันไดที่สามารถขึ้นไปยังชั้น G ได้อีกด้วย
อาจจะใช้เป็นที่เก็บชุดเครื่องนอนสำรอง หรืออาจจะเป็นเครื่องไม้เครื่องมือช่างเพื่องานซ่อมบำรุงที่สามารถซ่อมได้ด้วยตัวเอง
เดินเลยมาอีกหน่อย ฝั่งซ้ายมือเป็นห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ซึ่งโครงการเลือกแต่งเป็นห้องรับแขก ผู้อาศัยอาจจะเลือกทำเป็นห้องเล่นพูลหรือห้องสันทนาการใต้ดินก็ไม่เลว
ตรงกลางของชั้นใต้ดินเป็นตำแหน่งของห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยหินอ่อน สุขภัณฑ์อ่างล้างหน้า ก็อกน้ำแบรนด์ cotto สำหรับอ่างอาบน้ำเล็กและ shower จะให้เป็นแบรนด์ Kaldewei ที่มาพร้อมกับกระจกกั้นโซนซึ่งพื้นและผนังหินอ่อนให้ความรู้สึกคลาสสิกคล้ายงานสถาปัตย์สไตล์กรีก
ห้องน้ำทุกห้องของ Island Villa จะมีอ่างอาบน้ำ แต่สำหรับห้อง Master Bedroom จะให้มาเป็นขนาดใหญ่ สังเกตตรงมุมจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งอยู่ดังนั้นอาจจะหาม่านขนาดเล็กมาปิดความเปลือยเสียหน่อยหรืออยากจะ see-through ก็ได้เลย
ชั้น G (Ground Floor)
Layout
ชั้น ground floor ประกอบด้วย พื้นที่หน้าบ้าน, ห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร, ห้องน้ำ, ครัวด้านใน, ครัวด้านนอกสำหรับแม่บ้าน, ห้องนอนและห้องน้ำสำหรับแม่บ้าน, พื้นที่หลังบ้าน, ระเบียงส่วนตัวยื่นออกไปยังเกาะส่วนตัว
เมื่อขึ้นมาจากลิฟท์หรือบันไดชั้นใต้ดินก่อนเข้ามาในชั้น G จะพบกับพื้นที่หน้าบ้านที่มีม้าหินขนาดยาวบิ้ลท์มาไว้ให้ล้อมด้วยกำแพงสูง 3 เมตร
จากประตูทางเข้า ฝั่งซ้ายมือจะเป็นห้องรับแขกขนาดใหญ่ที่มีหน้าต่างบานเลื่อนเปิดออกไปสู่ระเบียงขนาด 2 เมตร มองลงไปเห็นสระน้ำที่อยู่ชั้นล่าง
พื้นที่รับประทานอาหารอยู่ทางฝั่งขวามือ สามารถเลือกวางโต๊ะที่รองรับแขกได้ถึง 8-10 คนได้ ส่วนรับประทานอาหารมีประตูบานเลื่อนที่จะมีบันไดลงไปยังพื้นที่เกาะส่วนตัวของ Island Villa ได้
เมื่อเปิดประตูบานเลื่อนมาจากห้องรับประทานอาหารจะพบกับระเบียงไม้ที่มีทางลงไปพื้นที่เกาะติดกับ reflection pond เป็นอีกหนึ่งมุมพักผ่อนส่วนตัวของเจ้าของ Island Villa
เบื้องหน้าเป็นวิวสะพานวงแหวนบนพื้นที่โค้งแม่น้ำแบบ Panorama (สังเกตยูนิตฝั่งตรงข้ามจะเป็นแบบ mirror นั่นคือเหมือนกับยูนิตที่เรายืนอยู่นั่นเอง)
สองอาคารแรกริมซ้ายจะเป็นตึกสำหรับห้องแบบ Island Villa และ River Villa ส่วนอีกสองอาคารถัดมาทางขวาจะเป็นห้องแบบดูเพล็กซ์ทั้งหมด
โซนข้างหลังครัวจะเป็นประตูที่จะเปิดไปยังส่วนของจุดเตรียมครัวของแม่บ้านโดยสามารถดัดแปลงเป็นครัวไทยได้, ประตูห้องรูปทางขวามือเป็นห้องเก็บแผงวงจรไฟฟ้าของบ้าน
เมื่อเปิดประตูออกมาอีกจะเป็นพื้นที่ลานหลังวิลล่า พร้อมรั้วซีเมนต์ฉาบเรียบสูง 3 เมตร และยังตีระแนงไม้กันเป็นที่เก็บ compressor แอร์อย่างเรียบร้อย
ชั้น 2
จากประตูทางเข้าชั้น 2 ฝั่งทิศตะวันตกจะเป็นห้องนอนซึ่งมีประตูบานเลื่อนออกไปสู่ระเบียงโดยมีวิว reflection pond ที่อยู่ทางทิศเหนือของยูนิต
พื้นที่เหลือเฟือโดยผู้อยู่อาศัยสามารถจัดวางชุดโฮมเธียเตอร์ขนาดย่อมเพื่อความบันเทิงฉบับพอเหมาะภายในห้องนอน
สำหรับการตกแต่งโซน shower และทำธุระด้านในจะใช้หินอ่อนสีดำ สุขภัณฑ์เป็นของ Cotto, โซน shower จะเป็นหน้าต่างดังนั้นอย่าลืมติดตั้งม่านกันหวิวด้วย
ในส่วนของฝั่งขวาจะเป็นอีกห้องอเนกประสงค์รองรับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันส่วนขวามือในรูปจะเป็นอีกหนึ่งห้องนอนเล็ก
โครงการจัดเป็นห้องทำงานที่แยกส่วนกันกับห้อง Master Bedroom ที่มีหน้าต่างบาน fixed มองลงไปเห็น reflection pond ด้านล่าง, โครงการบิลท์ชั้นวางหนังสือขนาดใหญ่เป็นตัวกั้นระหว่างห้องน้ำและห้องทำงาน
ถึงแม้จะเป็นห้องนอนเล็กแต่ไซส์เตียงที่สามารถจัดวางได้นั้นสามารถวางได้ถึง 5-6 ฟุต ข้างเตียงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง เปิดรับอากาศด้านนอกได้
ถึงแม้จะเรียกว่าห้องนอนเล็กแต่มีห้องน้ำส่วนตัวภายในห้อง ซึ่งสเปคเหมือนกับห้องน้ำอื่นๆ ภายในบ้าน ยกเว้นห้อง Master Bedroom ที่มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่กว่า และเคาน์เตอร์ทำจากหินอ่อนคนละแบบ
สำหรับยูนิตเปล่าที่มีให้ชมจะเป็นแบบ Duplex ที่มีพื้นที่เกาะส่วนตัว แต่พื้นที่สอยจะเล็กกว่าห้องตัวอย่างในข้างต้น คือ 328 ตร.ม.
ชั้นใต้ดิน
ห้องทางฝั่งซ้ายมือที่ทางยูนิตตัวอย่างก่อนหน้าเลือกแต่งเป็นห้องนั่งเล่น, พื้นปูด้วยไม้สัก พร้อมตู้ built-in ที่มีมาให้ภายในห้อง
ห้องทางฝั่งตะวันออก ในห้องตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องนั่งเล่นที่มีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปเป็นอีกสระน้ำขนาด
ห้องน้ำชั้นใต้ดินสุขภัณฑ์แบรนด์ Cotto อ่างอาบน้ำไซส์เล็กแบรนด์ Kaldewei จากเยอรมัน เคาน์เตอร์หินอ่อน ติดกระจกกั้นโซนเปียก-แห้ง
ชั้น G
สำหรับรูปแบบการจัดวางจะแตกต่างกับห้องตัวอย่างเล็กน้อย โดยพื้นที่ที่สามารถเดินลงสู่บริเวณเกาะส่วนตัวจะมาอยู่ฝั่งตะวันตกแทน พื้นที่บริเวณนี้ ในห้องตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องรับประทานอาหารที่มีครัวอยู่ด้านหลัง
Built-in ครัวเป็นรูปตัว L เครื่องใช้ไฟฟ้า ได้แก่ ตู้เย็น, เตาอบ, เตาไฟฟ้า, ที่ดูดควันให้เป็นแบรนด์เยอรมันดังในห้องตัวอย่างนั่นคือ Gaggenau
*เนื่องจากห้องเปล่ามีพื้นที่ใช้สอยเล็กกว่าห้องตัวอย่าง ดังนั้น บริเวณชั้น G ของยูนิตนี้ ไม่มีห้องน้ำตรงห้องรับประทานอาหาร
ชั้น Duplex
ห้องมุมซ้าย
ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่ลดลง แต่ขนาดห้องที่ทำออกมายังคงกว้างขวาง มีพื้นที่ประมาณ 4×4 เมตร หน้าต่างของห้องเป็นแบบบานกระทุ้ง มองลงไปจะเป็นบริเวณทางเข้าบ้านชั้น G
ห้องนอนเล็กฝั่งขวา
ขนาดของห้องจะเท่ากับทางฝั่งซ้ายมือ, หน้าต่างของห้องฝั่งนี้จะเห็นเป็นวิว reflection pond หรือบ่อน้ำด้านล่าง
ห้อง Master Bedroom
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
ทำเลพระราม 3 ได้รับสมญานามว่าเป็น “ดินแดนเจ้าสัวเก่า” นั่นคือเป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มของประชากรที่มีกำลังซื้อสูงเนื่องจากคนกลุ่มนี้ได้เริ่มย้ายรกรากมาตั้งถิ่นฐานนับตั้งแต่สมัยที่เกิดวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 ส่วนใหญ่จะเข้ามาทำการค้าขายและก่อตั้งบริษัทขึ้นบนทำเลแห่งนี้จนเริ่มก่อร่างสร้างตัวและมีฐานะที่ดีในลำดับต่อมา จุดหนึ่งที่เป็นที่น่าสังเกตและแสดงถึงศักยภาพที่แฝงอยู่ ณ ทำเลแห่งนี้คือการเข้ามาของโชวร์รูมรถหรูตั้งแต่ระดับลักซ์ชัวรี่ไปจนถึงซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ อาทิเช่น Mercedes Benz, BMW, Bentley และล่าสุดค่ายรถคู่ใจพระเอกเจมส์ บอนด์อย่าง Aston Martin ก็เข้ามาเปิดโชว์รูมในย่านนี้
นอกจากค่ายรถหรูแล้ว ทางฝั่งผู้ประกอบการอย่างแลนด์แอนด์เฮ้าส์ยังได้ส่ง “โฮมโปร” มาปักหมุดเป็นสาขาที่ 2 บนถนนพระราม 3 (กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง) สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อในย่านนี้ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง
ในอดีตพื้นที่พระราม 3 ยังคงเป็นพื้นที่ริมน้ำที่มีเพียงแต่ป่ามีถนนตัดเพียงไม่กี่เส้นและการเดินทางสัญจรไม่สะดวกเท่าที่ควรนัก แต่เมื่อเริ่มมีทางด่วนพิเศษมาลงบริเวณนี้ถึงสองเส้นด้วยกัน (ศรีรัชและเฉลิมมหานคร) ส่งผลให้ระบบคมนาคมสะดวกสบายและเป็นที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มคนที่ใช้รถและกำลังมองหาที่อยู่อาศัยในช่วงนั้นผลก็คือการหลั่งไหลของประชากรที่เข้าสู่ทำเลนี้ในจำนวนที่มากขึ้น
จุดที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งของทำเลนี้ คือ “แม่น้ำ” หลายคนอาจจะสงสัยว่าริมน้ำในกรุงเทพฯ จุดไหนก็เหมือนกัน แต่สิ่งที่ริมน้ำพระราม 3 มอบให้ได้มากกว่าพื้นที่ริมน้ำอื่นๆคือ “ความเป็นส่วนตัว” เพราะย่านพระราม 3 ไม่ใช่พื้นที่สัญจรไปมาของเรือโดยสาร ทำให้ไม่พลุกพล่าน เงียบสงบ และที่สำคัญคือแม่น้ำในย่านนี้จะค่อนข้างนิ่งและดูสะอาดตากว่าที่อื่นๆ
ถึงแม้ว่าพื้นที่ริมน้ำที่เป็นจุดที่ตั้งของโครงการจะไม่ติดกับระบบขนส่งมวลชนอย่าง BTS หรือ MRT แต่สามารถเดินทางไปยังโซนศูนย์กลางทางธุรกิจทั้งสาทร และ สุขุมวิท-อโศก ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยจากโครงการสามารถเลือกใช้เส้นนราธิวาสฯ เพื่อเข้าสู่สาทรเหนือได้ เช่นเดียวกันหากเลือกตรงไปแทนที่จะเข้าสู่เส้นนราธิวาสฯ จะเข้าสู่เส้นคลองเตยมุ่งหน้าไปยังสุขุมวิท-อโศก
ริมน้ำฝั่งพระราม 3 ยังเป็นพื้นที่ที่สร้างความแตกต่างในเรื่องทำเลได้อย่างชัดเจนระหว่าง ฝั่งตัวเมือง และฝั่งชานเมือง เมื่อมองจากแผนที่จะพบว่าฝั่งพระราม 3 นั้นเป็นพื้นที่ที่บ่งบอกถึงความศิวิไลซ์กว่าฝั่งพระราม 2 เนื่องจากพระราม 3 อยู่ติดกับโซน CBD ทั้งสาทร และ สุขุมวิท แต่เมื่อข้ามสะพานภูมิพลมายังฝั่งพระประแดงยังพบว่ายังพบความเป็นชานเมืองอยู่มาก โดยส่วนใหญ่พื้นที่ริมน้ำฝั่งพระประแดงจะถูกใช้เป็นคลังเก็บสินค้าโลจิสติกส์เสียเป็นส่วนใหญ่
การเดินทาง
รถยนต์
ให้เลือกใช้ทางด่วนเฉลิมมหานคร (ป้ายบางโคล่-ดาวคะนอง) เพื่อลงป้ายสาธุประดิษฐ์ เมื่อลงมาจะเจอกับแยกสาธุประดิษฐ์หลังจากนั้นขับเลยแยกมาเพื่อตรงไปยังพื้นที่ริมน้ำซึ่งจะมีป้ายทางซ้ายไปยังถนนพระราม 3 ผู้ขับสามารถเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนพระราม 3 ได้จากถนนสาธุประดิษฐ์เช่นเดียวกันแต่ไม่แนะนำเพราะบริเวณต้นถนนสาธุฯ จะเป็นตลาดและปริมาณรถจะหนาแน่น โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน หากเลือกตรงไปเข้าถนนพระราม 3 จะทำเวลาได้เร็วกว่าเนื่องจากปริมาณรถจะเบาบางกว่ามาก
หลังจากนั้นตรงตามทางมาเรื่อยๆ สามารถขึ้นสะพานยกระดับตรงวัดดอกไม้เพื่อช่วยร่นเวลาและเลี่ยงรถติดแยกไฟแดงข้างล่างได้
เมื่อลงสะพานมาจุดสังเกตคืออาคารสูงอาคารแรกที่อยู่ด้านหลังสะพานวงแหวนนั่นคือโครงการ เดอะ พาโน ริเวอร์ฟร้อนท์
สถานที่ lifestyle
1. Sortrel’s Cottage
ร้าน Sortrel’s Cottage เป็นร้านอาหารที่ผสมผสานกันระหว่างไทยและเทศมีการตกแต่งร้านแบบฟาร์มกระท่อม เมนูแนะนำคือ กระทิงคลุกฝุ่น (หมู, เนื้อ) และ เนื้อตุ๋นรวนเหล้า
2. HOBS @ Canapaya
ร้าน HOBS @ Canapaya จะแตกต่างจากสาขาอื่นตรงที่จะเป็นร้านริมโค้งแม่น้ำเห็นวิวสะพานวงแหวน ร้านจะเช่าพื้นที่ของโครงการคณาพญา เรสซิเดนซ์ อยู่ตอนนี้ เมนูแนะนำ ไก่ทอดหมักซอส
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
เนื่องจาก ณ ปัจจุบัน (วันที่ 12 พฤษภาคม 2559) โครงการเพิ่งเปิดขาย ทำให้ราคายังคงอยู่ในระดับเริ่มต้นที่ 145,000 บาท/ ตร.ม. แต่การขยับของราคาในส่วนไฮไรส์นั้นถือว่าเป็นไปในระดับที่ค่อนข้างน่าพอใจสำหรับผู้ที่ซื้อไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว จากประมาณ 8x,xxx บาท/ ตร.ม.ในช่วงเปิดตัวมาแตะที่ 120,000 บาทหรือเพิ่มขึ้นประมาณ 45-50% คล้ายกับกรณีโครงการใกล้เคียงกันอย่าง คณาพญา เรสซิเดนซ์ ที่ราคาเปิดตัวในช่วงพรีเซลอยู่ที่ 170,000 บาท/ตร.ม. มาแตะที่ประมาณ 230,000 บาท/ตร.ม. หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 35-40%
ในส่วนของการปล่อยเช่าอาจจะยังคงไม่มีดีมานด์เข้ามา เนื่องจากยูนิตโลว์ไรส์ของโครงการราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 19 ล้านบาท (ขนาดห้อง 155 ตร.ม.) ซึ่งคนที่ซื้อส่วนใหญ่จะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองเสียมากกว่า แต่จากการตรวจสอบราคาค่าเช่า ณ ปัจจุบันของโครงการริมน้ำเจ้าพระยาจะอยู่ที่ประมาณ 700-800 บาท/ตร.ม. หรือประมาณ 20,000 – 24,000 บาทสำหรับขนาดห้องเริ่มต้นที่ 30 ตร.ม.
เมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาโครงการคอนโดฯ ริมแม่น้ำมีการขยับขึ้นของราคาต่อตารางเมตรเข้ามาใกล้กับโครงการที่อยู่ในศูนย์กลางธุรกิจหรือ CBD มากขึ้นเรื่อยๆ โดยราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรของโครงการริมน้ำนั้นอยู่ที่ประมาณ 170,000-230,000 บาท/ตร.ม. ในขณะที่โครงการในโซน CBD มีราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม. อยู่ที่ 200,000-250,000 บาท อาจจะเป็นไปได้ว่าในอนาคตข้างหน้าดีมานด์ด้านการอยู่อาศัยจริงๆ ของประชากรในเมืองอาจจะค่อยๆ ย้ายออกมาจากโซนใจกลางเมือง เนื่องจากราคาต่อ ตร.ม. ที่บางครั้งหลายคนบ่นว่า overpriced จนเกินไป ในบางครั้งผู้บริโภคก็ถวิลหาโครงการที่ไม่ต้องติดกับระบบขนส่งมวลชนในชนิดที่เดินเพียงไม่กี่ร้อยเมตรแต่ขอเป็นโครงการที่สามารถเข้าถึงใจกลางเมืองหรือแนวรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้ CBD โดยใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 15 นาทีเพื่อเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนประเภทนี้ ด้วยราคาที่ถูกกว่า 25-30% ที่สำคัญมีบรรยากาศริมแม่น้ำที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ดังนั้นจึงต้องคอยเฝ้าติดตามว่าเส้นระดับราคาของโครงการริมแม่น้ำจะขยับขยายไปในทิศทางใดในอนาคต
เปรียบเทียบโครงการ
1. Canapaya Residences
ชื่อโครงการ: คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท คณาพญา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถนนพระราม 3
พื้นที่โครงการ: 12.5 ไร่ (20,000 ตร.ม.) ส่วนของเรสซิเดนซ์ 4-0-51 ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมความสูง 57 ชั้น
ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นต่อตารางเมตร: 230,000-250,000 บาท
ราคาห้องชุดเริ่มต้น: ประมาณ 10 ล้านบาท
แบบห้องพัก
1 ห้องนอน ขนาด 45, 68 ตร.ม.
2 ห้องนอน ขนาด 69, 85, 90, 91, 96 ตร.ม.
2 ห้องนอน (ดูเพล็กซ์) ขนาด 77, 78 ตร.ม.
3 ห้องนอน ขนาด 92, 100, 136, 152, 156, 159, 162, 163, 199 ตร.ม.
4 ห้องนอน ขนาด 238, 241, 247, 248 ตร.ม.
Penthouse Duplex ขนาด 188, 228, 301, 422, 473, 652 ตร.ม.
เว็บไซต์โครงการ: www.canapaya.com
2. The River
ชื่อโครงการ: The River (เดอะ ริเวอร์)
เจ้าของโครงการ: บริษัท ไรมอนด์ แลนด์ จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้ง: ถนนเจริญนคร เขตคลองสาน
ประเภทโครงการ: คอนโดไฮไรส์ 2 อาคาร (South Tower สูง 71 ชั้นและ North Tower สูง 41 ชั้น) และอาคารร้านค้า 3 ชั้น 2 อาคารด้านหน้าของโครงการ
เนื้อที่โครงการ: 12-3-41 ไร่
จำนวนยูนิต: South Tower 519 ยูนิต North Tower 307 ยูนิต รวม 826 ยูนิต
ประเภทห้อง:
-1 ห้องนอน 56-69 ขนาด ตร.ม.
-2 ห้องนอน ขนาด 78-232 ตร.ม.
-2 ห้องนอน (duplex) ขนาด 136-137 ตร.ม.
-3 ห้องนอน ขนาด 149-231 ตร.ม.
-Loft Duplex ขนาด 247.55-409.92 ตร.ม.
-Penthouse ขนาด 588.78-637.46 ตร.ม.
ราคาเฉลี่ย: เริ่มต้นที่ 250,000/ตร.ม.
ราคาห้องชุดเริ่มต้น: 14.7 ล้านบาท
เว็บไซต์โครงการ: www.theriverbangkok.com
3. Star View
ชื่อโครงการ: Star View Rama 3 (สตาร์วิว พระราม 3)
เจ้าของโครงการ: บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้ง: ถนนพระราม 3 ตรงข้ามสวนเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา
ประเภทโครงการ: ไฮไรส์ 2 อาคาร อาคาร A 44 ชั้น อาคาร B 54 ชั้น
เนื้อที่โครงการ: 7-0-25 ไร่
จำนวนยูนิต: 556 ยูนิต
ประเภทห้อง: 1 ห้องนอน และ 3 ห้องนอน ขนาด 77-159 ตร.ม.
ราคาเฉลี่ย: 8.9 ล้านบาท (ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 77 ตร.ม.)
เว็บไซต์โครงการ: www.estarpcl.com
สรุป
โครงการมีจุดเด่นตรงที่นำโครงการแบบโลว์ไรส์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ริมน้ำ ซึ่งจะให้วิวในอีกบรรยากาศที่แตกต่างจากอาคารสูงแบบไฮไรส์ รวมทั้งเพิ่มพื้นที่เกาะส่วนตัวและ reflection pond ที่จัดวางได้อย่างดีจนบางครั้งทำให้ดูเหมือนเป็นพื้นที่ที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติ ประกอบกับความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัวมากๆ เนื่องจากพื้นที่โครงการของเฟสใหม่ (โลว์ไรส์) นี้จะอยู่ค่อนข้างห่างจากปากทางเข้าโครงการทำให้ไม่ได้ยินเสียงรถสัญจรไปมาแต่อย่างใด และวิวสะพานวงแหวนบรรจบสายตา หากจะดูไปดูมารูปแบบการออกแบบโดยเพาะในส่วนของ Island Villa นั้นเสมือนว่าผู้อยู่อาศัยได้อยู่ในบ้านพักตากอากาศส่วนตัวที่มีภาพเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่เบื้องหน้า อาจเรียกได้ว่าเป็นโครงการเดียวที่ตอบโจทย์คำว่า “บ้านริมน้ำ” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ บวกกับพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางที่มีมากกว่า 1,900 ตร.ม. และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในตัวอาคารอย่างครบครัน อาทิเช่น สระว่ายน้ำขนาดใหญ่, สนามเทนนิส,ห้องสันทนาการ รวมถึงพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมภายนอกตัวอาคารอีกด้วย
ในเรื่องของราคาอาจถือได้ว่าเปิดมาค่อนข้างถูกกว่าคู่แข่งที่ต่างกันพาไปเริ่มต้นที่ประมาณ 200,000 บาท/ ตร.ม. แต่ด้วยขนาดยูนิตที่ใหญ่ทำให้ราคาเริ่มต้นก็ถือว่าแรงทีเดียว สำหรับคนที่มีเงินเย็นและกำลังมองหาที่อยู่อาศัยริมน้ำที่มีความเป็นส่วนตัว เดอะ พาโน เฟสนี้ ถือว่าตอบโจทย์ได้ค่อนข้างดีทีเดียว
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ