Grand Bangkok Boulevard เพชรเกษม-กาญจนา โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury 2 ชั้น กับสังคมส่วนตัวเพียง 62 ครอบครัว ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก St. Stephen’s Cathedral กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย รายล้อมด้วยสวนส่วนตัวขนาดใหญ่กว่า 2 ไร่ มอบความร่มรื่นและความสงบอย่างมีระดับ พร้อมคลับเฮาส์หรูดีไซน์ร่วมสมัย บนทำเลที่ศักยภาพบนถนนกาญจนาภิเษก ราคาเริ่มต้น 40-70 ล้านบาท
ปัจจุบันเซกเมนต์ของตลาดแนวราบที่จับกลุ่มตลาดระดับล่างที่ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท มักจะกระจุกตัวอยู่บริเวณชานเมือง และหนึ่งในทำเลยอดฮิตที่มีซัพพลายเข้าไปปักหมุดเป็นจำนวนมากก็คือ โซนบางนา – สุวรรณภูมิ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีอัตราการขยายความเจริญอยู่ตลอดเวลาจากพื้นที่ที่ยังเหลือมาก และสอดคล้องกับการลงทุนในเรื่องของราคาค่าที่ดินที่ยังไม่สูงมากนัก โดยเฉพาะโซนที่เชื่อมต่อกับแหล่งงานขนาดใหญ่อย่าง “สนามบินสุวรรณภูมิ” เป็นแหล่งรวมรวมดีมานด์ชนชั้นกลางที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใกล้แหล่งงาน และหนึ่งในผู้พัฒนาที่เข้ามาซัพพอร์ทกลุ่มดีมานด์ตรงนี้ และมีประสบการณ์กับโปรดักส์ระดับล่างบนพื้นที่ดังกล่าวมาตลอดก็คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่เจาะตลาดแนวราบกับดีมานด์ระดับล่างและประสบคสามสำเร็จมาแล้วกับโครงการ เดอะ คอนเนค สุวรรณภูมิ 1 และ 2 และกำลังจะเตรียมเข้ามาซัพพอร์ทที่อยู่อาศัยเพิ่มกับโครงการใหม่อย่าง เดอะ คอนเนค สุวรรณภูมิ 3 ทาวน์โฮมโครงสร้าง Pre Cast ที่มีความลงตัวโดยไม่ต้องตกแต่งต่อเติมอะไรเพิ่มเติมมาก เพียงย้ายเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านก็สามารถพักผ่อนไปกับแบบบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น 2 รูปแบบกับแบบ 1 ที่จอดรถและ 2 ที่จอดรถได้เลย โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1.89 ล้านบาทเท่านั้น
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: เดอะ คอนเนค สุวรรณภูมิ 3 (The Connect Suvarnabhumi 3)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ซอยกิ่งแก้ว 37 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เว็บไซต์: http://theconnect.pruksa.com
โทร: 1739
รายละเอียดโครงการ (วันที่ 8 กันยายน 2559)
พื้นที่โครงการ: 18 ไร่
รูปแบบ: ทาวน์โฮม 2 ชั้น 209 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: พนักงานเงินเดือน 30,000 – 50,000 ที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยที่มีความเป็นส่วนตัวและเชื่อมต่อกับสุวรรณภูมิได้ไม่ยาก
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้าง มีนาคม 2559
คาดว่าจะแล้วเสร็จ: คาดว่าจะเสร็จบางส่วน กันยายน 59
ที่จอดรถ: ทาวน์โฮมพื้นที่ใช้สอย 96.50 ตร.ม. ที่จอดรถ 1 คัน, ทาวน์โฮมพื้นที่ใช้สอย 113.50 ตร.ม. จอดรถ 2 คัน
ค่าส่วนกลาง: ตร.วาละ 40 บาทต่อเดือน (ชำระล่วงหน้า 3 ปี)
ราคาเริ่มต้น: 1.89 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: ประมาณ 50,000 บาท
รูปแบบห้อง (สามารถรับชมบ้านตัวอย่างทั้งแบบ 360 องศาได้จากด้านล่าง)
ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 Pantry จอดรถ 1 คัน พื้นที่ใช้สอย 96.50 ตร.ม.
ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 Pantry จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 113.50 ตร.ม.
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
ซอยกิ่งแก้ว 37 เป็นถนนแบบรถสวนไปมา 2 เลนส์ บรรยากาศภายในซอยเป็นชุมชนดั้งเดิมและมีโรงงานอุตสาหกรรมท้องถื่นประปรายภายในซอย
ทั้งนี้โครงการจะตั้งอยู่เกือบสุดซอยก็ว่าได้ เมื่อเห็นป้ายโครงการจะรู้สึกว่าบรรยากาศเปลี่ยนไปจากช่วงต้นซอยที่เข้ามา เหมือนพื้นที่โครงการถูกแบ่งแยกออกมาจากพื้นที่ซอยอีกทีเลย
ก่อนทางเข้าโครงการจะเห็นว่าฝั่งตรงข้ามเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ ซอยมีความเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวสูงมากสำหรับตำแหน่งที่ตั้งโครงการ
ทางเข้าโครงการมีทางเป็นทางคู่ขนานเข้าออก กั้นด้วยไม้กระดก เข้า – ออก โครงการด้วย ระบบ Key Card Access พร้อมป้อมยามรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
เมื่อเข้ามาในโครงการหันไปทางขวาจะพบกับสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ มีสนามเด็กเล่นและที่นั่งพักผ่อนตามอัธยาศัย
ถนนหลักภายในโครงการกว้างประมาณ 12 ม. ในจังหวะที่มีการเข้าออกของผู้อยู่อาศัยถือว่าสะดวกสบายมากหากไม่มีรถจอดข้างทาง
โครงการ เดอะ คอนเนค สุวรรณภูมิ 3 เป็นทาวน์โอม 2 ชั้น มียูนิตทั้งหมด 209 ยูนิต แต่ยังคงเป็นความส่วนตัวเนื่องจากภายในโครงการถูกออกแบบมาให้มีซอยย่อยสำหรับที่ตั้งยูนิตถี่มาก โดยถนนในซอยจะกว้างประมาณ 8 ม. เป็นความกว้างที่ให้รถสวนเข้าออกสบาย แต่หากจะจอดรถหน้าบ้านก็เป็นเรื่องที่ต้องรบกวนเพื่อนบ้านพอตัว เพราะถนนไม่ได้กว้างขนาดจะรองรับพื้นที่จอดรถหน้าบ้าน ในส่วนของความเป็นส่วนตัวโครงการสามารถตอบโจทย์ที่อยู่อาศัยแนวราบได้ดีโดยการเน้นซอยย่อยภายในโครงการ เพื่อให้แต่ละซอยมีจำนวนยูนิตต่อซอยน้อย ซึ่งยูนิตต่อซอยจะอยู่ที่ประมาณ 14 – 15 ยูนิตโดยส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีบางซอยที่มียูนิตเยอะๆ แต่ถือเป็นส่วนน้อย การออกแบบตัวบ้านส่วนใหญ่หันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ หากเป็นบ้านแปลงมุมที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งทิศตะวันออก และทิศตะวันตกก็จะได้รับแสงธรรมชาติตามช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ลง แต่ในส่วนของยูนิตอื่นๆ ก็ถือก็จะได้รับอานิสงส์จากลมเหนือ ลมใต้ ทางหน้าบ้านและหลังบ้าน ความแตกต่างของบ้านทั้งสองแบบหากมองในเรื่องของพื้นที่ใช้สอยไม่ได้แตกต่างกันมากแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลและขนาดครอบครัว เพราะสเปคบ้านถูกออกแบบมาให้เน้นพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้าน แตกต่างกันเพียงพื้นที่จอดรถแบบ 1 คัน และ 2 คัน เท่านั้น
Unit Layout
ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 Pantry จอดรถ 1 คัน พื้นที่ใช้สอย 96.50 ตร.ม.
แปลนบ้านแบบ 1 ที่จอดรถ ออกแบบเป็นรูปตัวแอล มีประตูทางเข้าออกหลักเพียงประตูเดียว ด้วยพื้นที่ที่สามารถจอดรถได้คันเดียว แต่ความกว้างหน้าบ้านที่ที่กว้างพอๆ กับแบบบ้านที่จอดรถได้สองคัน จึงพื้นที่ด้านข้างจึงสามารถจัดสวนได้ พร้อมพื้นที่ใช้สอยห้องนั่งเล่นในตัวบ้านที่ยื่นออกมา ถึงแม้จะจอดรถได้เพียงคันเดียว แต่พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านแทบไม่แตกต่างอะไรกับบ้านแบบ 2 ที่จอดรถ ที่ชั้นสองดครงการออกแบบห Master Bedroom ให้อยู่ทางหน้าบ้าน พร้อมระเบียงเล็กๆ ที่สามารถยืนรับลมได้ โถงบันไดไม่ใหญ่มาก ห้องนอนไม่มีห้องน้ำในตัว แต่มีห้องน้ำกลางอยู่บริเวณกลางชั้น 2
ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 Pantry จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 113.50 ตร.ม.
บ้านแบบ 2 ที่จอดรถ มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นจากบ้านแบบแรกประมาณ เกือบ 15 ตร.ม. ซึ่งอาจจะดูไม่มาก แต่หากเปรียบเทียบกันดูจะเห็นได้ชัดเลยว่านอกจากจอดรถได้สองคันแล้ว ฟังก์ชันที่เพิ่มเขามาในชั้นล่างก็คือ พื้นที่ในส่วนของโต๊ะรับประทานอาหารที่กว้างมาก ส่วนชั้นสองถ้าสังเกตจากโถงบันไดจะเห็นว่าทางเชื่อมไปสู่แต่ละห้องมีขนาดเล็กมาก รวมไปถึงขนาดห้องน้ำที่มีความแตกต่างจากแบบบ้านที่หนึ่งชัดเจน ดังนั้นห้องนอนทั้งสามห้องจึงมีขนาดกว้างกว่าบ้านแบบที่หนึ่งมากพอสมควร
การวางทิศทางโครงการ
ทิศเหนือ: ติดกับหมู่บ้าน Prime Nature Villa
ด้านทิศใต้: เป็นถนนด้านหน้าโครงการกว้าง ฝั่งตรงข้ามเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่
ด้านทิศตะวันออก: ติดกับที่ดินเปล่า ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นพื้นที่ของโครงการในเฟสต่อไปหรือไม่
ด้านทิศตะวันตก: ติดกับโครงการ The Connect 2
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
สวนส่วนกลาง
การรักษาความปลอดภัย 24 ชม.
CCTV บริเวณภายในโครงการ
เข้า – ออก โครงการด้วย ระบบ Key Card Access
รีวิวภายในบ้านตัวอย่างทั้งหมด
บ้านตัวอย่าง ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 Pantry จอดรถ 1 คัน พื้นที่ใช้สอย 96.50 ตร.ม.
ดีไซน์ภายนอกของบ้านแบบหนึ่งที่จอดรถ ออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยห้องนั่งเล่นยื่นออกมา บริเวณที่จอดรถจึงเป็นผนังดร็อปเข้าไปตามภาพ และมีความลึกประมาณ 1 ส่วน 2 ของตัวรถ เวลาเข้าออกผู้โดยสารที่นั่งอยู่ประตูหลังควรขึ้น ลง ก่อนที่รถจะเข้าช่องจอดเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน
บริเวณหน้าบ้านโครงการปูกระเบื้องสีโทนอ่อนลับกับตัวบ้าน สร้างบรรยากาศโมเดิร์นให้กับบ้าน ทำให้รู้สึกว่าบ้านใหม่อยู่เสมอ
เฉลียงบ้านยื่นออกมาประมาณ 60 ซม. พื้นบ้านถูกยกระดับขึ้นมาพอสมควร ไม่ต้องระวังเรื่องน้ำขังตามพื้นบ้านในฤดูฝน
Layout บ้านชั้นล่างเป็นรูปตัวแอล บริเวณที่ยื่นออกมาตรงลานจอดรถจึงเป็นพื้นที่ใช้สอยส่วนแรกที่มีขนาดใหญ่พอสมควร
บันไดทางขึ้นชั้นสองอยู่บริเวณกลางบ้าน ประตูบานเลื่อนกระจกใสที่มีความสูงโปร่งกับกระเบื้องแกรนิตโต้สีอ่อนขนาดใหญ่ 60×60 ซม. ให้อารมณ์เหมือนบ้านเดี่ยว
ถัดมาเป็นพื้นที่ในส่วนของโต๊ะรับประทานอาหารและพื้นที่ว่างกลางบ้าน สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นมุมทำงานได้
อีกฝั่งของมุมโต๊ะรับประทานอาหาร ผนังบ้านระหว่างบันไดและห้องครัวมีการดรอปลงไปตามภาพสามารถหาตู้หรือชั้นวางของมาใช้งานได้
โครงการกั้นห้องครัวด้วยประตูบานเลื่อนปิดผิวไม้ เปิดโล่งด้วยบานกระจกใสทำให้ห้องครัวดูมีขนาดกว้างขึ้น แต่เรื่องจริงหากใช้ประตูบานเลื่อนแบบนี้ตกแต่งในส่วนของครัวอาจมีปัญหาในเรื่องของการสะสมคราบน้ำมันได้
โครงการตกแต่งห้องครัวด้วยเคาท์เตอร์รูปตัวแอลขนาดใหญ่ และเว่นพื้นที่วางตู้เย็นขนาด 9.1 คิวแบบประตูเดียวไว้
ฝั่งตรงข้ามห้องครัว เป็นส่วนของห้องน้ำกลางชั้นล่าง การใช้พื้นกระเบื้องสีอ่อนอาจจะดูเป็นนเรื่องที่ดูแลยาก แต่แท้จริงแล้วมันจะช่วยเตือนผู้ใช้งานให้รักษาความสะอาดอยู่ตลอด
ประตูบานเลื่อนบริเวณหลังบ้านสามารถล็อคได้จากด้านใน ผนังบ้านตัวอย่างเป็นวอลเปเปอร์ลายไม้ แต่แบบบ้านจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาวธรรมดา
พื้นที่ด้านหลังบ้านมีขนาดกว้างประมาณ 2 ม. แบบบ้านจริงจะกว้างกว่านี้ เพราะไม่มีในส่วนของกระถางต้นไม้ทางฝั่งซ้ายมือ
ทางเดินขึ้นลงบันไดกว้างประมาณ 80-90 ซม. วัสดุลูกตั้ง ลูกนอน เป็นไม้ยางพารา เคลือบมัน จังหวะที่มีการใช้งานบันไดอาจมีปัญหาเรื่องการเดินสวนขึ้นลงกันบ้าง แต่สำหรับบ้านสองชั้นที่จำกัดปริมาณครอบครัว คงไม่เกิดปัญหานี้บ่อยนัก
บริเวณโถงบันไดชั้นสองเป็นทางเชื่อมสู่ห้องต่างๆ มีขนาดไม่กว้างมาก แต่พื้นจรดความสูงของชั้นสองที่ 2.55 ทำให้บรรยากาศก่อนเข้าห้องดูโปร่งโล่งมาก
มาที่ตัวห้องน้ำ มีธรณีกั้นน้ำไหลที่เป็นแทบสีดำ บางโครงการใช้วิธีดรอปพื้นห้องน้ำลงไป สามารถกันน้ำไหลสู่พื้นบ้านได้ก็จริง แต่การกระทำแบบนั้นน้ำอาจจะถูกซึมเข้าสู้พื้นลามิเนตของบ้านได้ง่ายกว่า
ภายในห้องน้ำชั้นสองมีขนาดกว้างและสามารถใช้งานได้สะดวกสบายกว่าห้องน้ำกลาง ประกอบไปด้วย อ่างล้างหน้า ชั้นใต้อ่าง ตู้อาบน้ำแบบที่สามารถเปิดประตูกว้างๆ เข้าออกได้สบาย โดยมีโถสุขภัณฑ์อยู่ในตำแหน่งด้านข้างห้องอาบน้ำ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 90×90 ซม. พร้อม Floor Drain แบบกันกลิ่น ด้วยขนาดที่ไม่กว้างมากรัศมีการถูสบู่ที่ต้องกางแขนกางขาอาจจะฟาดงวงฟาดงาไปโดนกำแพงบ้างก็เป็นเรื่องที่ต้องระวังส่วนบุคคล
ตำแหน่งของโถสุขภัณฑ์วางอยู่บริเวณผนังห้องที่ดรอปเข้าไปตามภาพ เวลาใช้งานอาจจะดูอึดอัดไปสักนิดจากผนังที่ล้อมรอบ แต่พื้นที่ที่ไม่ได้แคบมากก็สามารถกางแขนกางขาออกท่าทางทุกอริยาบถได้สบายๆ
มาที่ Master Bedroom ไฮไลท์เด่นของตัวบ้านที่มีขนาดยาวเท่าหน้าบ้าน โครงการตกแต่งให้มีผนังกั้นครึ่งห้องแบ่งเป็นโซนพักผ่อนกับห้องแต่งตัว
ฝั่งห้องนอนในภาพเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต จากมุมนี้ดูจากพื้นที่รอบเตียงสามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้ แต่ถ้าสังเกตที่ด้านในจะมีตำแหน่งปลั๊กไฟคาบเกี่ยวอยู่ เตียงที่มีขนาดกว้างขึ้นอาจปิดการใช้งานในส่วนนั้น อาจแก้ไขได้ด้วยการต่อปลั๊กพ่วงออกมาที่ด้านนอก
พื้นที่ระเบียงมีความกว้างแค่ 30 ซม. แต่ก็เพียงพอสำหรับการออกไปยืนรับลมได้ พร้อมที่กั้นตกเป็นโครงเหล็กสูงประมาณ 1.20 ม.
มองจากมุมนี้จะเห็นว่าโครงการตกแต่งพื้นที่อีกฝั่งให้เป็นเหมือน Walk in Closet โดยการติดตั้งผนังกั้นครึ่งห้องเพื่อแบ่งส่วนห้องนอนกับห้องแต่งตัว
โครงการติดตั้งระบบไฟและระบบสัญญาณทีวีให้เรียบร้อย บริเวณผนังกั้นห้อง แต่แบบบ้านจริงระบบไฟทั้งสองส่วนนี้น่าจะติดอยู่บริเวณผนังห้องด้านใดด้านหนึ่งที่ไม่ใช่ผนังห้องในส่วนนี้
บรรยากาศภายในห้องแต่งตัว ดูจากภาพมีความกว้างพอสมควร จนสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับห้องนอนยังได้เลย
บรรยากาศห้องนอนที่หนึ่ง เป็นห้องแบบ 1 มุมหน้าต่าง มีแสงเข้าเพียงพอต่อขนาดห้องในช่วงกลางวัน จากภาพโครงการจัดสรรไอเดียเป็นห้องนอนเดี่ยวใช้เตียงขนาด 3.5 ฟุต สัดส่วนของห้องจึงออกมาลงตัว สามารถวางโต๊ะ ตู้เตียงได้อย่างสมดุล แต่หากจะเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงคู่ก็สามารถทำได้ แต่ต้องลดทอนเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ออก
ห้องนอนที่สอง เป็นห้องหนึ่งมุมหน้าต่างเหมือนห้องนอนแรก มีขนาดไม่แตกต่างกันมาก ฟังก์ชันการใช้งานคล้ายคลึงกัน
ส่วนสุดท้ายคือบริเวณโถงบันไดเป็นพื้นที่ทางเดินไม่กว้างมากเชื่อมต่อไปสู่ห้องต่างๆ ไม่น่าจะใช้ประโยชน์จากพื้นที่ใช้สอยตรงนี้ได้มากเท่าไหร่ แต่ถ้าจะประดับผนังหรือติดตั้งหิ้งพระบริเวณผนังหน้าห้อง Master Bedroom ก็ยังสามารถทำได้อยู่
บ้านจริง ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 Pantry จอดรถ 1 คัน พื้นที่ใช้สอย 96.50 ตร.ม.
ดีไซน์ด้านบนของหน้าบ้านเป็นในส่วนของห้อง Master Bedroom จะเห็นระเบียงขนาดไม่กว้างมากแต่สามารถใช้งานได้จริง กับช่อง Void รับแสงอีกฝั่งที่เป็นฟังก์ชั่นห้องนอนใหญ่ที่สามารถแบ่งได้เป็น 2 โซนในห้องเดียว
ภายในบ้านมองจากประตูฝั่งหน้าบ้านจะเห็นประตูเชื่อมต่อหลังบ้านอยู่ตรงกันพอดี หากไม่ถือเรื่องฮวงจุ้ยว่าประตูหน้าบ้านหรือหลังบ้านห้ามตรงกัน สเปคบ้านแบบนี้จะช่วยให้บ้านมีความโล่งปรอดโปร่งพอสมควรจากทิศทางรับแสงทั้งสองฝั่ง
นอกจากสุขภัณฑ์ต่างๆ อาทิ โถ อ่างล้างหน้า โครงการยังมอบฝักบัว ที่ดูดอากาศ ชั้นวางสบู่ และที่แขวนผ้าเช็ดตัวให้ด้วย
รั้วบ้านสูงประมาณ 1.5 ม. เป็นรั้วโครงสร้างอิฐมวลเบาฉาบเรียบสีขาว ทำให้พื้นที่หลังบ้านดูกว้างขึ้นมากกว่าสีอื่นๆ
ห้องอาบน้ำมีขนาดประมาณ 90×90 ซม. ไม่เล็กไม่ใหญ่ เพียงพอกับการใช้งาน 1 ท่าน มีฉากกั้นห้องน้ำเป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอนมาบรรจบการจากมุมขวาและมุมซ้ายตามภาพ
พื้นที่ใช้สอยโดยรวมของห้องนอนใหญ่ โครงการเลือกใช้ไฟห้องแบบโคมซาลาเปา ที่ให้แสงสว่างทั่วถึงมากกว่าดาวน์ไลท์ และประหยัดไฟมากกว่า
พื้นที่ของห้องนอนที่หนึ่ง ไม่เล็กไม่ใหญ่เพียงพอสำหรับจัดทำห้องนอน 1 ห้องนอน มีบานหน้าต่างหนึ่งมุมที่สามารถเลื่อนเปิดออกมารับลมได้
โถงบันไดทางเชื่อมเดินไปยังห้องต่างๆ มีขนาดประมาณ 1.2 ม. ซึ่งเป็นระยะที่เดินสวนไปสวนมาแบบไหล่ไม่ชนกันก็ได้อยู่
บ้านตัวอย่าง ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 Pantry จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 113.50 ตร.ม.
บ้านแบบ 2 ที่จอดรถ ด้านหน้าบ้านเห็นถึงความแตกต่างจากบ้านแบบ 1 ที่จอดรถได้ชัดเจน หน้าบ้านเป็นแนวราบขนาดกันทั้งแนว มีเฉลียงและชานบ้านด้านบนยื่นออกมาประมาณ 2 ม. แต่ที่บริเวณชั้นสองในส่วนของ Master Bedroom บริเวณช่อง Void รับแสงด้านบน โครงการตกแต่งด้านนอกด้วยการติดกริลล์ อาจจะช่วยในเรื่องของการลดความร้อนจาก Void ด้านนั้น
หน้าบ้านโครงการติดตั้งระบบไฟให้หนึ่งจุด บริเวณทางขวาของตัวบ้าน วัสดุบานประตูเป็นที่จับแบบก้านโยกสามารถล็อคกุญแจได้จากด้านนอก ถึงแม้จะดูเสียเวลากว่าแบบกลอนล็อคธรรมดาที่ล็อคจากด้านในแล้วปิดประตูออกมาได้เลย แต่ให้ความปลอดภัยมากกว่า รวมถึงดูดีมีสไตล์กว่ากลอนลูกบิดธรรมดาแน่นอน
เมื่อเปิดประตูมา โครงการตกแต่งทางเข้าให้เป็นเหมือน Floyer เชื่อมต่อกับตัวบ้าน ให้อารมณ์เสมือนบ้านเดี่ยว
หันไปทางขวาเป็นทางขึ้นบันไดสู่ชั้นสอง ใช้วัสดุไม้ยางพาราปิดผิวบันได ไม่มีราวจับ แต่มีผนังกั้นทางขึ้นตั้งแต่พื้นจรดเพดานชั้นสอง ทางขึ้นกว้างประมาณ 90 ซม.
มองจากมุมนี้จะเห็นพื้นที่ใช้สอนของห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ สามารถปรับทิศทางของโซฟาให้หันไปได้ทุกทิศตามใจชอบ แต่ในภาพโครงการจัดให้โซฟาหันเข้าไปในตัวบ้าน
มองจากด้านนี้จะเห็นว่าโครงการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ แต่แบบบ้านจริงโครงการมอบบ้านเปล่าให้พื้นที่ในส่วนนี้จะมีขนาดกว้างไปถึงบริเวณทางขึ้นบันไดเลย
ภาพนี้เป็นภาพจากมุมด้านในสุดของบ้านโครงการตกแต่งผนังด้วยกระจกเงา พร้อมบิลท์อินเพดานเป็นสเตป ทำให้บ้านดูกว้าง และแบ่งส่วนต่างๆ อย่างชัดเจน ทำให้ไอเดียการแต่งบ้านตัวอย่างนี้ดูหรูหรา พอเข้าไปสัมพัสบรรยากาศด้านในรู้สึกเหมือนเข้ามาบ้านเดี่ยวเลย
มุมนั่งเล่นเป็นพื้นที่ใช้สอยที่มีหน้าต่างสองมุม เฉพาะแปลงมุมเท่านั้น ส่วนหน้าต่างด้านหน้าสามารถเปิดรับลมได้ ส่วนใหญ่จะหันออกไปทางทิศเหนือและทิศใต้ จะได้รับลมเหนือ ลมใต้ ตลอดเวลา
ความกว้างของโต๊ะรับประทานอาหารเรียกได้ว่าวางแจกันขนาดใหญ่ได้สองถึงสามอันประดับได้ ดังนั้นการร่วมรับประทานอาหารกันที่ 5-6 ที่นั่งพร้อมกับอาหาร 6-7 ชุด คงไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร
ถัดมาอีกมุมนึงเป็นประตูบานเลื่อนสองตอนเชื่อมไปสู่พื้นที่หลังบ้าน ส่วนภายในบ้านเป็นห้องครัวที่โครงการออกแบบให้เป็นห้องครั้วปิดโดยใช้ประตูบ้านเลื่อนกั้นโซน
ไอเดียที่โครงการให้เป็นประตูแบบใช้นิ้วเกี่ยวช่องเปิดบานตามภาพ ไม่สามารถล็อคได้ แบบบ้านจริงจะไม่ได้ในส่วนนี้
บรรยากาศภายในห้องครัวที่โครงการจัดสรรให้เป็นไอเดียเท่านั้น จากภาพดูแล้วสามารถเข้าไปเตรียมครัวได้ถึง 2-3 คน
พื้นบ้านเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ห้องน้ำกลางเชื่อมต่ออยู่กับห้องครัว โครงการออกแบบให้ห้องน้ำนี้ถูกดรอปพื้นลงไปเพื่อป้อนกันน้ำไหลออกมาสู่ตัวบ้าน
จากภาพคงแสดงให้เห็นถึงพื้นที่ใช้สอยจริงของครัวได้ว่ามีขนาดกว้างมากจริงๆ
โครงการตกแต่งพื้นครัวด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวมัน แต่เป็นขนาด 30×30 ซม. ทำให้มีร่องยาแนวเยอะกว่ากระเบื้องขนาดใหญ่และทำความสะอาดยากกว่า
ห้องน้ำกลางชั้นล่างแตกต่างจากบ้านแบบ 1 ที่จอดรถชัดเจน เพราะมีห้องอาบน้ำมอบให้และแบ่งส่วนการใช้งานอย่างชัดเจน แต่ไม่มีฉากกั้นให้ สามารถออกแบบตกแต่งเพิ่มได้
พื้นที่หลังบ้านกว้างประมาณสองเมตร เหมาะสำหรับตกแต่งเป็นพื้นที่พักผ่อนหรือตกแต่งเป้นครัวนอกก้ไม่มีปัญหา หากเป็นแปลงมุมจะได้พื้นที่ในส่วนของด้านข้างบ้านเพิ่มเติม
แปลงมุมจะได้พื้นที่ข้างบ้านเพิ่มเติม แบบบ้านจริงจะเป็นพื้นปูหญ้าธรรมดามีความว้างประมาณ 2 เมตร ตามกฎหมายกำหนด
กลับมาที่ชั้นสอง มองจากมุมนี้จะเห็นว่าบริเวณชานพักบันไดมีช่อง Void ที่ผนังเพื่อช่วยเพิ่มแสงให้กับทางเดินบันได ที่มีผนังปิดทั้งสองฝั่งเอาไว้
พื้นที่โถงบันไดชั้นสองจากมุมนี้จะเห็นว่าเป็นทางเดินเชื่อมรูปตัวแอลที่เพิ่มพื้นที่เข้ามาในมุมที่มีที่กั้นตกน่าจะสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งสำหรับนั่งอ่านหนังสือชิลล์ๆ ได้
ห้องอาบน้ำมีขนาดกว้างมากสามารถ สามารถใช้งานร่วมกันสองคนได้สำหรับคนที่ต้องการความโรแมนติกในการอาบน้ำแบบคู่รัก มาพร้อมฉากกั้นแบบประตูบานเลื่อนที่สามารถเปิดปิด เดินเข้าออกได้โดยไม่ต้องเปลืองรัศมีบานกั้น
ภายในห้องอาบน้ำมีบานเลื่อนตามภาพ รับแสงธรรมชาติทั่วถึง โครงการมอบเครื่องดูดอากาศให้ตามตำแหน่งในภาพ และเดินสายไฟเครื่องทำน้ำอุ่นฝังผนังให้เป็นที่เรียบร้อย
มาที่ห้อง Master Bedroom โครงการจัดวางเตียงขนาด 5 ฟุตให้ดูเป็นตัวอย่าง ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เหลือพื้นที่ให้เดินรอบเตียงสบายๆ ปลายเตียงสามารถวางชุดโซฟาขนาดสองที่นั่งได้
บริเวณโซนที่พักผ่อนไม่มีมุมหน้าต่างเลย แต่มีประตูบานเลื่อนสองตอนที่เชื่อมต่อออกไปส่ระเบียงคอยรับแสงธรรมชาติให้กับห้อง
จากมุมหัวนอนมองไปที่ปลายเตียงนับจากปลายโซฟาถึงผนังกั้นห้องน่าจะมีรายะประมาณ 1.5 – 2 เมตรได้ หากนำทีวีขนาดประมาณ 45-60 นิ้วมาติดน่าจะยังอยู่ในระยะที่ดูได้สบายตา
ระหว่างห้องนอนและระเบียง โครงการทำธรณีกั้นน้ำไหลขึ้นมาเล็กน้อย เวลาเดินเข้าออกต้องระมัดระวัง เพราะสูงพอสมควร
ออกมาจากระเบียงหันไปทางขวาเป็นชานพักยื่นออกไป พร้อมกริลล์ช่วยบดบังทัศนียภาพ เมื่อนำคอมเพรสเซอร์แอร์มาวาง
ถัดมาจากห้องนอนเป็นห้องแต่งตัว โครงการออกแบบตกแต่งโดยใช้เฟอร์นิเจอร์ลายไม้ให้ลับกับพื้นห้องที่เป็นพื้นลามิเนต
ห้องนอนที่หนึ่งของบ้านแบบ 2 ที่จอด ถูกจัดสรรให้เป็นห้องเดี่ยวเฟอร์นิเจอร์ในห้องจึงประกอบไปด้วยตู้เสื้อผ้่า ชั้นข้างเตียง โต๊ะหนังสือ โดยเหลือพื้นที่ใช้สอยในห้องอีก จากเตียงเดี่ยวที่มีขนาดไม่กว้าง หากจะเปลี่ยนไปใช้เตียงขนาด 6 ฟุต ก็สามารถลดทอนเฟอร์นิเจอร์บางส่วนเช่น ชั้นข้างเตียง ตู้เสื้อผ้าแบบประตูเดี่ยวก็ยังสามารถออกแบบตกแต่งให้เป็นไปตามนั้นได้
ห้องนอนที่สองมีขนาดเล็กกว่าห้องนอนที่หนึ่ง โครงการตกแต่งให้เป็นห้องนอนคู่ วางเตียงสองชั้นตามภาพ โดยเหลือพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้า โต๊ะหนังสือสบายๆ
บ้านจริง ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 Pantry จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 113.50 ตร.ม.
แบบบ้านนี้มีที่เก็บของใต้บันไดอยู่ด้านในบ้าน ทางเดินเข้าบ้านออกแบบให้ลับกับผนังในบ้าน ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นทาวน์โฮมที่มี Floyer เลย
มองจากด้านในจะเห็นว่าโครงการออกแบบเพดานคนละสเตป ในส่วนของห้องนั่งเล่นจะมี ความสูงมากกว่า พร้อมกระจกบานเลื่อนด้านหน้าที่สามารถเปิดรับลมได้
ประตูห้องน้ำเป็นวัสดุ HDF มีช่องระบายอากาศด้านล่าง กลอนเป็นแบบลูกบิด มีห้องอาบน้ำที่ไม่ได้กั้นฉากกันเปียกไว้ แต่มีการยกธรณีกันน้ำไหลขึ้นมา
ประตูห้องทุกห้องเป็นวัสดุ HDF มีกลอนประตูเป็นแบบลูกบิดทุกครั้ง ล็อคได้จากด้านในอย่างเดียว ใช้ระบบไขกุญแจปลดล็อค
ห้องนอนที่หนึ่งมีมุมหน้าต่างที่สามารถเลื่อนเปิดรับลมได้หนึ่งบาน ขนาดห้องไม่เล็กไม่ใหญ่ สามารถวางเตียงนอนขนาดใหญ่สุดได้สบาย
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น: ชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ซม. ,พื้นชั้นบนเป็น Hoffen Laminate สี Imperial Trek หนา 8 มม.
ผนัง: ฉาบเรียบทาสีขาว
พื้นจรดเพดานความสูง: ชั้น 1 สูง 2.6 เมตร, ชั้น 2 สูง 2.5 เมตร
บันได: พื้นบันได ราวจับ เป็นไม้ยางพารา
สุขภัณฑ์: Kohler พร้อมฉากกั้นห้องน้ำกระจก Temper หนา 6 มม.
อุปกรณ์ไฟฟ้า: Schenider Set
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
จากภาพนับจากที่ตั้งโครงการถนนกิ่งแก้วคือถนนสายหลักที่นำพาไปยังจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นถนนบางนา – ตราด ที่เชื่อมกับทางพิเศษบูรพาวิถี และสามารถเข้าสู่ทางพิเศษเฉลิมมหานครออกไปยังโซนพระราม 2 ที่เป็นพื้นที่ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้ถึงแม้ระยะทางจะไกลพอสมควร ซึ่งในส่วนนี้อาจไม่ได้มีผลกระทบต่อชีวิตของดีมานด์บนทำเลบางนา – สุวรรณภูมิเท่าไหร่ แต่จากแผนภาพหากเขยิบเข้ามาในรัศมีโครงการที่ 5 กม. จะเห็นว่าสิ่งที่ช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับทำเลนี้มากที่สุดก็คือแหล่งงานขนาดใหญ่ที่รวบรวมดีมานด์ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเดินทางได้อย่างสะดวกสบายอย่าง “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ซึ่งเป็นเหมือนเซ็นเตอร์พอยท์บริเวณนี้ และช่วยเพิ่มภาษีของที่ดินให้มีมูลค่า โดยเฉพาะทางฝั่งอ่อนนุช ศรีนครินทร์ บางนา และที่ตั้งโครงการบริเวณถนนกิ่งแก้ว ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนคือบริเวณทิศนี้เป็นทิศที่อยู่คนล่ะแนวแลนดิ่งเครื่องบินเข้า-ออกจากสนามบิน ดังนั้นเรื่องเสียงจึงได้รับผลกระทบบ้างในบางจังหวะ แต่ก็ถือว่าน้อยกว่าทิศอื่นๆ ดังนั้นด้วยผลกระทบจากมลภาวะเรื่องเสียงของเครื่องบินที่น้อยกว่าโซนอื่นจึงทำให้พื้นที่เปล่าบริเวณฝั่งนี้ทั้งภายในซอย และติดถนนกิ่งแก้วจึงเต็มไปด้วยโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ
นอกจากอานิสงส์ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว เรื่องของศักยภาพทำเลที่สามารถเชื่อมต่อไปยัง เมกะบางนา หรือบริเวณแยกบางนาที่กำลังจะขยายเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ในอนาคตได้ไม่ยากก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่เข้ามาซัพพอร์ทภาษีที่ดีให้กับโครงการไม่ว่าจะเป็น บริเวณ เมกะบางนาเอง หรือ แยกบางนาที่กำลังมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจและกลายเป็น New CBD ฝั่งตะวันออกในอนาคต จากการพัฒนาทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ อาทิ Bangkok Mall ลัคซูรี่ชอปปิ้งมอลล์ที่จะทำให้บริเวณบางนามีความเป็นเมืองมากขึ้น หรือในส่วนของการเชื่อมต่อไปสู่ ARL บ้านทับช้างก็ถือว่ายังอยู่ในจุดที่สะดวกหากจำเป็นต้องใช้การคมนาคมของรถไฟฟ้าเป็นครั้งคราว รวมไปถึงโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเหลือง สำโรง – ลาดพร้าวในอนาคตเองก็ยังอยู่ในรัศมีที่ไปถึงได้ง่ายของโครงการ ซึ่งหากการพัฒนาดังกล่าวสำเร็จลุล่วง สิ่งที่โครงการจะได้รับจากความเจริญ ณ จุดนี้ไม่ใช่ราคาค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากโครงการไม่ได้จัดอยู่ในเซกเมนต์ของการลงทุน แต่สิ่งที่จะได้รับอย่างเห็นได้ชัดก็คือชีวิตความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายขึ้นเรียกได้ว่าพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
โครงการตั้งอยู่ในซอยกิ่งแก้ว 37 ตำแหน่งของโครงการแทบจะอยู่สุดซอย ถนนในซอยเป็นแบบทูเวย์เป็นถนนขนาดมาตรฐานประมาณ 6-8 ม. สามารถขับรถสวนกันได้แต่ต้องระวังเรื่องของทางโค้งหักสอกเล็กน้อยเพราะบรรยากาศภายในซอยที่ตั้งโครงการจะมีโรงงานอุตสาหกรรมเป็นจุดๆ มีรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าออกซอยตลอดเวลา จากหน้าปากซอยกิ่งแก้วไปจนถึงตัวโครงการต้องบอกตรงๆ ว่าน่าตกใจมาก เพราะตอนที่เจอปากทางเข้าโครงการบรรยากาศกลับเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากความลึกของที่ตั้งโครงการประกอบกับด้านหน้าโครงการที่มีทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เป็นเสมือนกำแพงที่มอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดให้กับผู้อยู่อาศัย ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นหลักของโครงการกับความเป็นส่วนตัวที่มาพร้อมกับราคาที่ตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใกล้แหล่งงานย่านบางนา – สุวรรณภูมิ
ส่วนในเรื่องของการเชื่อมต่อไปยังสาธารณูปโภคต่างๆ เพียงแค่ออกมาจากซอยบนถนนกิ่งแก้วก็เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมท้องถิ่น กลุ่มพนักงานลูกจ้างจึงกระจุกตัวอยู่พื้นที่นี้เยอะ การเข้ามาของสิ่งอำนวยความสะดวกจึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หากมองภาพรวม นอกจากสุวรรณภูมิที่เป็นจุดศูนย์กลางของศักยภาพทำเลบริเวณนี้แล้ว ภายในรัศมีไม่เกิน 10 กม. วัดจากเส้นทางของถนนที่เชื่อมต่อไปยังภาคส่วนต่างๆ ก็สามารถเชื่อมต่อไปยังเมกะบางนา แยกบางนา จากโครงการสามารถเดินทางไปไปยังส่วนต่างๆ ได้ในเวลาที่ไม่เกิน 10-15 นาที
การเดินทาง
การเดินทางขอเริ่มต้นจากฝั่งในเมืองที่สะพานราชปรารภ เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมต่อของทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นทางดินแดง อโศก พระราม 9 เพชรบุรี รัชดาภิเษก
จากนั้นให้วิ่งตรงไปเรื่อยๆ จะมีสะพานเชื่อมต่อไปยังถนนพระราม 9 เมื่อลงจากสะพานให้เบี่ยงขวาเข้าสู่เส้นทางคู่ขนาน
เมื่อเบี่ยงขวามาให้มุ่งตรงขึ้นสะพานลอย ตามป้ายรามคำแหง ตรงไปสักพักจะเจอป้ายทางแยกรามคำแหง กับ ศรีนครินทร์ ใเห้เบี่ยงขวาแล้วมุ่งไปทางศรีนครินทร์
ในขณะที่อยู่บนมอเตอร์เวย์ให้มุ่งตรงมาเรื่อยๆ เมื่อสังเกตเห็นป้ายทางออกถนนกิ่งแก้วให้เตรียมตัวเบี่ยงซ้ายเพื่อออกไปสู่ทางคู่ขนาน
จากนั้นให้มุ่งตรงยาวๆ ไปเรื่อยๆ จนสังเกตุเห็น Cockpit ตามภาพ ให้เตรียมเข้าช่องขวามือไว้เพื่อกลับรถไปอีกฝั่ง
เมื่อเลี้ยวเข้ามาในซอยกิ่งแก้ว 37 จะมีป้ายโครงการบอกทางอยู่ตลอดแนว ขับไปตามทางประมาณไม่เกิน 2 กม. ก็จะพบกับที่ตั้งโครงการ
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์จะอยู่ในระยะขับรถไปถึงได้ไม่ยาก ซึ่งภาพรวมจะมีสาธารณูปโภคครบครันตั้งแต่ชอปปิ้งมอลล์ ไฮเปอร์มอลล์ รวมไปถึง คอมมิวนิตี้มอลล์ รวมไปถึง โรงพยาบาล โรงเรียน สถานที่ราชการที่เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ ต้องบอกว่าพื้นที่บางนา – สุวรรณภูมิกำลังก้าวเข้าสู่ความเป็นเมืองทางฝั่งตะวันออกมากขึ้น ไลฟ์สไตล์คนพื้นที่กำลังถูกยกระดับขึ้นมาให้มีความโมเดิร์นสไตล์ในตำรับของคนที่ใช้รถยนต์เป็นฉนวนนำทางไปยังสถานที่ต่างๆ
เมกา บางนา
โฮมโปร
โลตัส กิ่งแก้ว
เซ็นทรัล บางนา
บิ๊กซี บางนา
The Paseo Mall
โรงพยาบาล
โรงพญาบาลจุฬารัตน์
โรงพยาบาลบางนา 3
สถานศึกษา
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา
โรงเรียนนานาชาติ Concordian
โรงเรียนราชวินิชบางแก้ว
สถานที่ราชการ
สนามบินสุวรรณภูมิ
สวนหลวง ร.9
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตรผลตอบแทนที่จะได้รับ
โครงการไม่ได้จัดอยู่ในเซกเมนต์ของนักลงทุน แต่ในเรื่องของที่อยู่อาศัยกับความเป็นไปได้ในอนาคตก็คือเรื่องของความสะดวกสบายสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ จากโครงการสามารถเชื่อมต่อไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ ได้ไม่ยากทั้งปัจจุบันและในอนาคต โดยเฉพาะบริเวณแยกบางนาที่กำลังมีการพัฒนาทั้งด้านของการลงทุนภาคเอกชน และเส้นทางคมนาคมในอนาคตที่จะสามารถดึงดีมานด์ผู้คนในพื้นที่ได้ หากนำภาคส่วนนี้ไปผนวกกับดีมานด์ของพนักงานในสุวรรณภูมิอาจเรียกได้ว่าพื้นที่บางนา – สุวรรณภ–มิ มีแรงงานกว่า 100,000 คนก็ไม่ขัดข้องใจอ่ะไร เพราะบุคลากรที่ทำงานในสนามบินก็ปาเข้าไปที่ประมาณ 50,000 คนแล้ว โดยสิ่งที่จะได้รับจากตรงนี้ก้คือเมื่อตอนที่ผุ้อยู่อาศัยกำลังถีบตัวขึ้นไปในกลุ่มครอบครัวขยายและมองหาบ้านเดี่ยว คิดจะปล่อยขายโครงการก็คงไม่ยากจากความสอดคล้องของจำนวนดีมานด์ที่มาก รวมไปถึงดีมานด์ที่ไม่มั่นใจว่าจะลงหลักปักฐานกับที่อยู่อาศัยสักแห่งก็สามารถปล่อยเช่าได้ในราคาถูก จากราคาของทาวน์โฮมที่ไม่แพงมาก
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
กัสโต้ บางนา-สุวรรณภูมิ (Gusto Bangna-Suvarnabhumi)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท กัสโต้ วิลเลจ จํากัด
ที่ตั้งโครงการ: ถ.ลาดกระบัง แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
พื้นที่โครงการ: 38-1-61 ไร่
รูปแบบโครงการ: ทาวน์โฮม 2 ชั้น 407 ยูนิต
รูปแบบบ้าน: Type A พื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ, Type B พื้นที่ใช้สอย 132 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ราคาเริ่มต้น: 1.95 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 108,333 บาทต่อตร.วา
เมททาวน์ บางนา (Mettown Bangna)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท แสนสิริ จำกัด มหาชน
ที่ตั้งโครงการ: ถนนบางนา-ตราด ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
พื้นที่โครงการ: 34-1-20.8 ไร่
รูปแบบโครงการ: ทาวน์โฮม 2 ชั้น 409 ยูนิต
รูปแบบบ้าน: ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 111 ตร.ว. ที่ดิน 18.5 ตร.ว. ขึ้นไป
ราคาเริ่มต้น: 1.99 ล้านบาท
สรุป
โครงการ เดอะ คอนเนค สุวรรณภูมิ 3 เป็นโครงการทาวน์โฮมที่เหมาะสำหรับกลุ่มพนักงานที่มีเงินเดือน 30,000 ถึง 50,000 บาทขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มดีมานด์ของบุคลากรที่ทำงานในสุวรรณภูมิ ที่ส่วนใหญ่มักมีการเดินทางด้วยรถยนต์ ดังนั้นการที่ดีมานด์เหล่านี้มองหาที่อยู่อาศัยสักที่จึงมองในเรื่องของราคาและความเป็นส่วนตัว โดยตัดเรื่องของความสะดวกสบายในการเดินทางโดยระบบขนส่งมวลชนไปได้เลย เพราะส่วนใหญ่จะใช้รถยนต์เป็นหลักตามที่กล่าวมา ดังนั้นในเรื่องของการเชื่อมต่อสาธารณูปโภคจึงไม่ใช่ประเด็นหลักอะไร เนื่องจากบริเวณสุวรรณภูมิเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ ความสะดวกสบายที่เข้ามารองรับก็จะเข้ามาซัพพอร์ทเรื่อยๆ ตามลำดับอยู่แล้ว แต่ประเด็นที่ไม่ควรมองข้ามก็คือการขึ้น – ลง ของเครื่องบิน ในรัศมีที่ใกล้สุวรรณภูมิไม่เกิน 5 กม. จะบอกว่าไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยคงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นการตัดสินใจของดีมานด์ที่ต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบจึงถูกมองไปที่ปัจจัยอื่นๆ โดยข้อได้เปรียบของโครงการ เดอะ คอนเนค สุวรรณภูมิ 3 ที่สามารถตอบโจทย์ดีมานด์ย่านนี้ได้ว่าโครงการอื่นๆ ก็คือชื่อเสียงของดีเวลลอปเปอร์ที่เป็นผู้นำตลาดแนวราบ เรื่องความปลอดภัยจึงถือเป็นส่วนสำคัญในย่านที่กำลังพัฒนา ซึ่งสอดคล้องกับดีมานด์ส่วนใหญ่ที่ทำงานอยู่ในสนามบิน ถึงแม้จะเป็นพนักงานระดับล่างแต่ก็ไม่ได้มีเงินเดือนน้อย การเลือกบ้านสักหลังจึงมักดูความคุ้มค่า และเลือกดีเวลลอปเปอร์ที่มีชื่อเสียงเป็นส่วนใหญ่ เพื่อการันตีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบายของตัวเอง