แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์สเตชั่น บาย ไซมิส แอสเสท (Landmark At Grand Station By Siamese Asset) เป็นโครงการมิกซ์ยูส บนทำเลศักยภาพ ตรงข้ามแฟชั่นไอส์แลนด์ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทรา เพียง 400 เมตร ภายในห้องออกแบบเป็น 2 ชั้น เพดานสูง 4.15 เมตร เน้นความโปร่ง โล่ง พร้อมออกแบบห้องตามพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องพักสำหรับผู้สูงอายุ คนที่มีสัตว์เลี้ยงหรือห้องพักในรูปแบบ Co-living และห้องพักแบบมาตรฐาน ภายในโครงการครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งพื้นที่พักอาศัย โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และสำนักงาน ราคาเริ่มต้นเพียง 2.90 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
[Special Advertising Feature]ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเขตชะอำ-หัวหิน ยังมีแนวโน้มการเติบโต โดยจะเห็นได้จากโครงการพัฒนาที่พักอาศัยในเขตพื้นที่ชะอำ-หัวหิน ที่มีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันของ บมจ.ชาญอิสสระ ดีเวลล็อปเมนท์ บริษัท ไอซีซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และบริษัท สหพัฒนพิบูลย์ จำกัด
หลังจากการประกาศเปิดตัวโปรเจกต์ใหญ่อย่าง ทิวทะเลเอสเตท ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์บนชายหาดชะอำ บนเนื้อที่มากกว่า 110 ไร่ ที่มีพื้นที่ติดชายหาดชะอำยาวกว่า 160 เมตร ซึ่งเป็นที่ดินดั้งเดิมของตระกูลโชควัฒนาไปเมื่อปี 2555 ก็ได้ฤกษ์เผยโฉม 3 โครงการภายใต้ ‘ทิวทะเลเอสเตท’ พร้อมการเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ ‘โรงแรมบาบาบีช คลับ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ต ชะอำ-หัวหิน’ เพื่อปลุกกำลังซื้อในกลุ่มลักซ์ชัวรี่ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
โครงการ บลู (BLU) 1 ใน 3 โครงการคอนโดมิเนียมหรู สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ภายในอาณาจักร “ทิวทะเลเอสเตส” กับการออกแบบตกแต่งด้วยดีไซน์โมเดิร์นแนวเรียบหรูดูมีเอกลักษณ์ (Luxury Coastal Living) อีกทั้งยังสามารถมองเห็นวิวเปิดกว้างของชายหาดชะอำ ในรูปแบบคอนโดมิเนียมแบบ High Rise สูง 21 ชั้น จำนวนห้องทั้งสิ้น 491 ยูนิต บนเนื้อที่ 7 ไร่ โดยแบบห้อง มีให้เลือกทั้งแบบ 1 และ 2 ห้องนอน พร้อมพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 30-60 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้นที่ 1.89 ล้านบาท และเมื่อทุกโครงการภายใน ทิวทะเลเอสเตท แห่งนี้สร้างเสร็จ ที่แห่งนี้ก็น่าจะเป็นเมืองขนาดย่อม ระดับพรีเมียมแห่งเดียวบนริมชายหาดชะอำ-หัวหิน
ชื่อโครงการ: บลู ชะอำ – หัวหิน (BLU Cha am – Huahin)
ผู้พัฒนาโครงการ: ISSARA UNITED CO., LTD. (บริษัทร่วมอิสสระ จำกัด)
ผู้ร่วมพัฒนาโครงการ: Charn Issara Development Co., Ltd ร่วมทุนกับ บริษัทสหพัฒนพิบูลย์ และไอซีซี อินเตอร์เนชั่นแนล
ตัวแทนการขาย: Colliers International Thailand Co., Ltd.
ทำเลที่ตั้ง: ถนนเพชรเกษม ก.ม. 196, ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
เว็บไซต์: www.charnissara.com/Bluhuahin
โทร: 095-9915086-7
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ก.พ. 2560)
พื้นที่โครงการ: ที่ดินประมาณ 7-3-34 ไร่
ลักษณะโครงการ: คอนโด High Rise 21 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 491 ยูนิต
สถานะการก่อสร้าง: Q2 2017
ลิฟต์: ลิฟต์โดยสารจำนวน 2 ตัว และลิฟต์ขนของจำนวน 1 ตัว
ที่จอดรถ: 30%
สิ่งอำนวยความสะดวก: Grand lobby,Pool Sunken Lounge,Kid’s Pool,Free-Form Pool, Jacuzzi,Fitness Room,Steam Room,Lush Gardens,Jogging Track, Car Park 24 hrs.Security
ระบบรักษาความปลอดภัย: ระบบ CCTV / Key Card / Security 24 hours
สถานะการขาย: (คิดเป็น 50%)
เงินกองทุนสะสม: 500 บาท / ตร.ม. (จ่ายครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
ค่าส่วนกลาง: 40 บาท / ตร.ม. / เดือน
ราคาเริ่มต้น: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.89 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 62,356 – 110,383 บาท
รูปแบบห้อง:
-1 Bedroom 30-34 ตารางเมตร จำนวน 324 ยูนิต ราคา 1.89 – 3.2 ล้าน
-2 Bedrooms 60-65 ตารางเมตร จำนวน 167 ยูนิต 4.39 – 6.9 ล้าน
*โปรโมชั่น (เริ่ม 1 มีนาคม ถึง 31 พฤษภาคม นี้)
ทุกยูนิตจอง 65,000 พร้อมเข้าอยู่ เริ่ม 1.94 ล้านบาท
ส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท
ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน
ค่าโอน 1%
ค่ากองทุนส่วนกลาง
ค่าส่วนกลาง 1 ปี
ค่ามิเตอร์ประปา ไฟฟ้า
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
ทางโครงการมีสระว่ายน้ำแบบฟรีฟอร์มขนาดใหญ่ถึง 3 สระ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากหมู่เกาะปะการังที่ล้อมรอบไปด้วยทะเล ในเรื่องของการออกแบบทั้งด้านสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน ภูมิทัศน์ สร้างสรรค์ขึ้นโดยต้องการให้มีความเป็นที่พักตากอากาศชายทะเลระดับพรีเมียม โดยใช้การผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความเรียบง่ายและความทันสมัย รวมถึงเลือกใช้โทนสีที่สื่ออารมณ์ของบรรยากาศชายทะเลอย่างสีขาว สีเทา สีคราม เพื่อสร้างความผ่อนคลายให้แก่ผู้พักอาศัย
Master Plan
จากภาพ Master Plan แสดงให้เห็นว่าโครงการ บลู (BLU) ตั้งอยู่ภายในโครงการ “ทิวทะเลเอสเตท” ที่ประกอบไปด้วย เฟส 1 บ้านทิวทะเล “Aquamarine” ที่อยู่ด้านหน้าของโครงการ หรือทางทิศตะวันออก ส่วนเฟส2 “Blue Sapphire” จะอยู่ด้านขวามือของโครงการซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ และโรงแรม อย่าง บาบาบีช คลับ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ต ที่อยู่ใจกลางของโครงการที่ถือว่าเป็นเฟสที่ 4 เนื่องด้วยเป็นโครงการติดทะเล ทำให้โครงการไม่ได้ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ แต่จะอยู่ลึกเข้ามาห่างจากถนนประมาณ 400 เมตร ซึ่งตัวโครงการจะอยู่ห่างจากชายหาดประมาณ 300 เมตร แต่ก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกของเฉพาะโครงการแยกออกจากกันอีกด้วย
Floor Plan
แปลนชั้น 1 ที่ทางเข้าที่จอดรถมีที่พักของผู้ติดตามอยู่ และมี Drop-off เป็นวงเวียน ที่สามารถเข้าถึง Grand Lobby ที่อยู่กึ่งกลางของอาคารฝั่งใต้ได้ มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ลิฟต์ขนของ 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 245 : 1 และบันไดหนีไฟ 3 จุด คือข้างโถงลิฟต์ สุดทางเดินฝั่งอาคารปีกตะวันออกและใต้อย่างละตัว รอบตัวตึกทำเป็นพื้นที่สีเขียว ปลูกต้นไม้ใหญ่และต้นไม้พุ่มแซมรอบพื้นที่ เพื่อเป็น Jogging Track โดยอาคารจาก Grand Lobby ถือได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของอาคาร ที่เชื่อมโยงกับส่วนอื่นๆ อาทิเช่น สระว่ายน้ำ ระบบน้ำเกลือ ขนาด 50 x 60 เมตร ประกอบไปด้วย Free-Form Pools, Pool Sunken Lounge, Kid’s Pool และ Jacuzzi ห้อง Steam Room ก็อยู่ชั้น 1 และ Fitness Center บนชั้น 1 ห้องออกกำลังกายที่ครบครันด้วยอุปกรณ์อันทันสมัย ลู่วิ่งที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี โดยชั้นนี้จะมีความพิเศษอยู่ที่ทุกห้องของชั้นหนึ่งจะมีระเบียงที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำของโครงการโดยตรง
แปลนชั้น 2 จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยทั้งหมด เฉลี่ย 27 ยูนิตต่อชั้น โดยการจัดเรียงห้องพักแบ่งออกเป็นอาคารฝั่งตะวันออก และอาคารฝั่งใต้ โดยมีผังเป็นรูปตัว L โดย วิวห้องต่างๆ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือห้องปีกตะวันออกหันหน้าไปทางทิศเหนือ จะได้วิวทะเลแบบเยื้องๆ แต่ไม่มีตึกสูงบังในระยะใกล้ เพราะทางทิศเหนือจะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวสูงเพียง 1- 2ชั้น สำหรับวิวกลุ่มที่สองเป็นวิวห้องห้องพักชั้น 1-5 ฝั่งอาคารปีกตะวันออกหันหน้าไปทางทิศใต้ ที่จะได้วิวสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ตรงกลาง ถนนร่วมส่วนบุคคลของโครงการ และ บ้านทิวทะเล เฟส 2 “Blue Sapphire” สุดท้ายคือวิวห้องจากอาคารฝั่งใต้ หันหน้าเข้าทะเลชะอำ-หัวหินฝั่งตะวันออก จะได้วิวด้านล่างเป็นวิวสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ วิวด้านบนเป็นวิวทะเลแบบเต็มๆ ตา
แปลนชั้น 3-10 จะเหมือนกันทุกอย่าง โดยอาคารฝั่งตะวันออกจะจัดการวางห้องเป็นแบบ Double Corridor ตามแนวตึก เพื่อให้สามารถมองเห็นทะเลได้จากทุกห้อง โดยจะมี Type 1 ห้องนอนซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ห้องมุมแต่ละปลายทางเดินจะเป็น Type แบบ 2 ห้องนอน ส่วนอาคารฝั่งใต้ จัดการวางห้องเป็นแบบ Single Corridor หันหน้าตรงเข้าสู่ทะเล โดยไม่มีอะไรมาบดบังวิว โดยมีแบบ 1 ห้องนอนอยู่ในส่วนตรงกลาง และแบบ 2 ห้องนอนอยู่ที่สุดทางเดิน ชั้นนี้มีจำนวนทั้งหมด 28 ยูนิต
แปลนชั้น 11 – 20 เปลี่ยน Type ห้องบนอาคารฝั่งตะวันออกหันหน้าไปทางเหนือและบนอาคารฝั่งใต้เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ทำให้จำนวนยูนิตต่อชั้นน้อยลง รวมทั้งหมด 20 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
แปลนชั้น 21 จะเป็นชั้นสุดท้าย มีห้องพักแค่เพียงบนปีกอาคารฝั่งตะวันออกเท่านั้น โดยมีจำนวนห้องทั้งหมด 15 ห้อง
สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในโครงการ
Grand Lobby ประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกด้วยล็อบบี้โอ่โถงสีเอิร์ธโทน ซึ่งเป็นสีที่เลียนแบบสีของธรรมชาติ จำพวกโทนสีฟ้า โทนสีขาว โทนสีเทา ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว
Steam Room บนชั้น 1 คลายความอ่อนล้าจากช่วงกลางวันในห้องสตีมส่วนตัว และ Fitness Center ห้องออกกำลังกายที่ครบครันด้วยอุปกรณ์อันทันสมัย ลู่วิ่งที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี โดยมีทางเดินลอยฟ้าผ่านโถงทางเดินกลางไปยังห้องชั้น 2 อาคารฝั่งใต้
ทุกห้องของชั้น 1 มีระเบียงเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำโดยตรงทุกห้อง และ Lush Garden บนชั้น 1 อิ่มเอมกับบรรยากาศของพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่
Unit Plan
– Unit Plan 1 Bedroom 30-34 ตารางเมตร จำนวน 324 ยูนิต
แปลนของห้องแบบ 1 Bedroom จะมีความคล้ายคลึงกัน ต่างเพียงแค่การหมุนของแปลนและตำแหน่งที่ตั้งของห้องเท่านั้น
Unit Plan 2 Bedrooms 60-65 ตารางเมตร จำนวน 167 ยูนิต
Type 2BN- 2BS จะอยู่มุมด้านห้องของอาคารฝั่งตะวันออก ซึ่งจะมีให้เลือกว่าระเบียงจะอยู่ฝั่งทางทิศเหนือหรือทิศใต้
Type 2C เป็นแบบ 2 ห้องนอน จะเป็นแปลนของห้องมุมของอาคารปีกตะวันออกฟากทิศตะวันตก ที่จะมีอยู่เพียงชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น โดยจะมีตั้งแต่ชั้น 1 จนถึงชั้น 21
Type 2d – 2f จะเป็นแบบ 2 ห้องนอน ของอาคารฝั่งตะวันออก ซึ่งจะมีระเบียงให้เลือกว่าจะอยู่ฝั่งทางทิศเหนือหรือทิศใต้
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
• เฟอร์นิเจอร์: โครงการเป็นผู้ออกแบบและสั่งโรงงานทำโดยเฉพาะ ลักษณะพิเศษไม่เหมือนใคร
• พื้น: พื้นเป็นคอตโต้ 30×60
• ผนัง: Fulfill Wall ผนังสำเร็จรูปที่ให้ความทนทานต่อแรงกระแทกและการยึดเจาะ
• พื้นจรดเพดานความสูง: 2.6 เมตร
• เครื่องปรับอากาศ: Daikin
• สุขภัณฑ์: Christina
• ชุดครัว: Modernform
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
– ห้องตัวอย่าง แบบ 1 Bedroom ขนาด 30-34 ตารางเมตร Type 1A โดยมีให้เลือกทั้งแบบห้องเปล่า และแบบ Fully furnished
เมื่อเปิดเข้าไปภายในห้องจะเป็นในส่วนของห้องโถง มีโต๊ะกินข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว ลึกเข้าไปด้านซ้ายเป็นโซฟาและโต๊ะกลาง ด้านขวาเป็นชั้นวางทีวี ด้านในสุดเป็นประตูบานเลื่อนที่สามารถออกไปสู่ระเบียงได้ ระหว่างพื้นที่โต๊ะกินข้าวและโซฟายาว เป็นทางเดินเข้าไปสู่ห้องนอนที่มีกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอนกั้นอยู่ เพื่อแยกห้องอย่างเป็นสัดส่วน ด้านขวาของเตียงมีหน้าต่างบานเลื่อนแบบกระจก เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดี
พื้นที่ด้านหน้าของทางเข้าห้องจะเป็นตู้เย็นขนาด 7 คิว มีกล่องไฟอยู่มุมด้านบน ถัดมาเป็นเคาน์เตอร์ครัว โดยโครงการเป็นผู้ออกแบบและสั่งโรงงานทำโดยเฉพาะ อีกฟากเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร และมี Daikin 1 ตัวด้านหน้าทางเข้า
เคาน์เตอร์ครัวขนาดไม่ใหญ่มาก แต่มีทั้งตู้เก็บของทั้งบนและล่าง ไม่มีเตาและเครื่องดูดควัน พื้นที่เก็บของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจานชามหรืออุปกรณ์ทำครัวให้มาพอดี ส่วนโต๊ะรับประทานอาหารเป็นลายไม้สีครีมอ่อน มีเก้าอี้นั่ง 2 ตัว สีเหล็ก-อลูมิเนียม
โซฟาแบบ 2 ที่นั่ง ยาว 1.50 เมตร นั่งได้สองคนสบายๆ พร้อมโต๊ะกลางและชั้นวางทีวีลายไม้ ระยะระหว่างโซฟา กับชั้นวางทีวีกำลังดี น่าจะอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร ติดกับพื้นที่ระเบียงห้อง
ตัวของโซฟาจะอยู่บริเวณปลายเตียง ไม่ได้วางติดกับบานเลื่อนกั้นระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น มีพื้นที่ด้านข้างโซฟาด้านซ้ายประมาณ 0.5 เมตร แบบ 3 ตอน สามารถเปิดได้ทั้งซ้ายและขวา
ภายในห้องดูสูงโปร่งด้วยความสูง 2.6 เมตร พื้นเป็นคอตโต้ ขนาด 30×60 และผนังบานกระจกทั้งแถบ ซึ่งออกแบบมาให้เห็นวิวทะเลในทุกจุดของห้อง
บริเวณของระเบียงห้องจะเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้ง สำหรับห้องที่อยู่ชั้น 1 ทั้งหมดจะสามารถเดินออกจากระเบียงห้องไปยังส่วนสระว่ายน้ำส่วนกลางแจ้งได้โดยตรง
(มุมมองภายในห้องจากบริเวณระเบียงด้านนอก) ห้องแบบ 1 ห้องนอน จะมีแอร์ 2 ตัว อยู่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้า 1 ตัว และ เหนือประตูห้องน้ำภายในห้องนอนอีก 1 ตัว
เมื่อมีประตูกระจกบานเลื่อนทำให้ห้องนอนดูเป็นสัดส่วนและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และด้วยเพดานสูง 2.65 เมตร ยิ่ง ทำให้ห้องดูไม่แออัดเลยแม้แต่น้อย
ประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน สามารถเปิดเข้าออกได้ทั้ง 2 ทาง ทำให้เห็นพื้นที่ว่างระหว่างโซฟา สามารถเดินลัดจากระเบียงเข้าสู่ห้องนอนได้เลย
ภายในห้องนอนจะมีห้องน้ำในตัวที่มาพร้อมกับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะแต่งหน้าขนาดย่อมเยาว์ ดีไซน์พิเศษเฉพาะโครงการนี้โดยเฉพาะ
มุมมองภายในห้องนอน จากมุมบริเวณปลายเตียงจากทั้ง 2 ด้าน แสดงให้เห็นถึงการออกแบบ และการจัดวางที่ได้สัดส่วนอย่างลงตัว ห้องตัวอย่างเลือกใช้เตียงขนาด 5 ฟุต กำลังพอดีกับตัวห้อง
ภายในห้องน้ำมีที่กั้นส่วนเปียกและแห้งอย่างชัดเจน ให้มาพร้อมกับฉากกั้นอาบน้ำ และยกขอบประตูเพื่อกันน้ำไม่ให้ไหลออกมา
– ห้องตัวอย่างแบบ 2 Bedrooms Type 2A ขนาด 60-65 ตารางเมตร
ประตูทางเข้าเป็นวงกบไม้เนื้อแข็งสีขาว ที่เปิดประตูแบบก้านโยก ใช้กุญแจล็อก 1 ชั้นธรรมดา ไม่มีตาแมว เหมือนกันทั้งโครงการ
เปิดเข้ามาภายในห้องเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ประกอบไปด้วยห้องนั่งเล่น โต๊ะรับประทานอาหาร พร้อมด้วยหน้าต่างบานใหญ่ ที่เปิดรับทั้งแสงและลมได้เป็นอย่างดีและเคาน์เตอร์ครัวซึ่งอยู่ติดกำแพงขวามือ
ด้านขวามือของทางเข้าจะเป็นช่องวางตู้เย็น ที่สามารถวางตู้เย็นขนาด 10 คิวบ์ได้สบายๆ ถัดมาเป็นเคาน์เตอร์ครัวที่มีทั้งด้านบนและล่าง แบบ 2 ห้องนอน จะได้ Hob and Hood ด้วย เพราะเป็นรูปแบบครบครัน ข้างโต๊ะอาหารด้านข้างมีบานกระจกเลื่อนที่มีม่านกั้น สามารถช่วยในการระบายอากาศได้เป็นอย่างดีหลังจากทำอาหาร ด้านล่างมีหน้าต่างบานฟิกเพิ่มแสงให้กับส่วนโถงอีกด้วย
โต๊ะกินข้าวให้มาพร้อมกับเก้าอี้นั่งแบบมีพนัก 2 ตัว และแบบไม่มีพนัก 2 ตัว ด้วยขนาดพื้นที่ สามารถเพิ่มเก้าอี้ทานข้าวไปได้อีก 2 ตัว บริเวณหัวและท้าย ทำให้สามารถนั่งได้ 6 ที่ การเปิด-ปิดของเคาน์เตอร์ครัวทั้งด้านล่างและด้านบน การเปิดปิดตู้แบบเลื่อนผสมกับแบบธรรมดาไม่ได้ Soft-Closed แต่อย่างใด ตอนปิดก็ระวังกันหน่อย
เคาน์เตอร์ครัวหน้ากว้างเกือบ 2 เมตร ประกอบไปด้วย ด้านซ้ายมือ เตาไฟฟ้า แบบ 2 หัว และที่ดูดควันด้านบน มีพื้นที่เตรียมอาหารตรงกลางและซิ้งค์ล้างจานพร้อมที่พักวางของ
ภายให้ห้องโถงถือว่าเป็นพื้นที่ส่วนกลางในการทำกิจกรรมต่างๆ ทางโครงการจึงออกแบบให้มีความกว้างเกือบ 2 ใน 3 ของพื้นที่ห้อง
ความกว้างจากผนังของทั้งสองฟากประมาณ 5 เมตรได้ ภายในห้องดูสูงโปร่งด้วยความสูง 2.65 เมตร พร้อมประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอน เปิดตรงกลาง ทำให้ภายในห้องยิ่งดูสว่างทั้งที่บริเวณนี้มีไฟเพียง 2 ดวง
ระยะห่างจากโซฟาถึงชั้นวางทีวีประมาณ 3.2 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่ดูทีวีได้อย่างสบายตา ให้มาพร้อมกับโต๊ะกลางขนาดใหญ่
ชุดโซฟายาว 2.50 เมตร นั่ง 4 คนได้สบายๆ แต่ถ้าอยากให้นั่งได้เยอะกว่านี้ก็เปลี่ยนเป็นชุดโซฟาตัว L แต่จริงๆ แล้ว ซื้อแบบคู่ หรือแบบเดี่ยวมาเพิ่มทั้ง 2 ฝั่ง ก็ได้ ตามแต่ต้องการ
ความพิเศษของโครงการนี้ คือ ห้องบริเวณชั้น 1 ทุกห้องจะมีระเบียงที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำกลางแจ้งได้เลย และนี่เป็นมุมมองจากทั้งด้านนอกและด้านใน เนื่องจากเป็นประตูแบบบานเลื่อนซ้ายขวา และเพิ่มช่องเปิดบานฟิกเข้าไปอีกด้านละบาน ทำให้สามารถเปิดรับแสงและมุมมองได้อย่างเต็มตา
มุมมองภายในห้องโถงด้านหน้าที่แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ห้องนั่งเล่น โต๊ะกินข้าว และห้องครัวแบบเปิด โดยห้องนี้ใช้ไฟแค่เพียง 4 ดวงเท่านั้น เพราะมีช่องแสงขนาดใหญ่ถึง 2 จุดที่บริเวณระเบียง และ โต๊ะรับประทานอาหาร
บริเวณนี้จะเป็นส่วนของทางเดินที่จะไปยังห้องนอนและห้องน้ำ มี 2 ห้องนอน และ 2 ห้องน้ำ พื้นเป็นคอตโต้ 30×60 ผนังแบบ Fulfill Wall ผนังสำเร็จรูปที่ให้ความทนทานต่อแรงกระแทกและการยึดเจาะ
ทางโครงการเลือกใช้เตียงขนาด 5 ฟุตสำหรับห้องนอนเล็ก แต่ก็สามารถวางได้พอดี ระดับเตียงสูงเท่ากับขอบหน้าต่างบานฟิก 2 บานล่าง และบานเลื่อนของอะลูมิเนียม 2 บานบน
อีกด้านของห้องจะเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะแต่งหน้าขนาดเล็กที่ถูกออกแบบเพื่อโครงการนี้โดยเฉพาะ มีพื้นที่เหลือเล็กน้อย
มุมมองภายในห้องนอนใหญ่ มีหน้าต่างบานเลื่อนภายในห้องเปิดรับวิว อีกทั้งในห้องตัวอย่าง วางเตียง 5 ฟุตได้แบบสบายๆ พร้อมมีพื้นที่ด้านข้างเหลือทั้ง 2 ฝั่ง
ทางโครงการเลือกใช้เตียงขนาด 5 ฟุต แต่จริงๆ แล้ว ว่างเตียงขนาด 6 ฟุตได้ เพราะมีพื้นที่ด้านข้างเหลือพอสมควร
พื้นที่รอบเตียงมีประมาณ 0.5 เมตร กำลังดี ทำให้เดินรอบเตียงได้สบายๆ ส่วนใครที่ติดทีวี ก็ต้องใช้เป็นแบบจอแบนติดผนังแทน
ผนังด้านซ้ายมือ หรือหน้าประตูทางเข้าห้องนอนจะมีโต๊ะและตู้แบบเดียวกันมาให้ พร้อมกระจกบานสูงมาให้อีก 1 บาน และด้านหลังก็จะเป็นห้องน้ำส่วนตัว สำหรับห้องนอนใหญ่
ทําเล & การเดินทาง
ศักยภาพทำเล
ทำเลชะอำ-หัวหิน ยังคงมีเอกลักษณ์และความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงความสะดวกสบายด้านการเดินทางเพื่อมาพักผ่อนเพราะเป็นทำเลที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถสัมผัสกลิ่นอายของทะเลได้ เป็นอีกปัจจัยที่ยิ่งช่วยสนับสนุนให้การท่องเที่ยวชะอำ-หัวหินเติบโตได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
สำหรับปัจจัยที่จะช่วยสนับสนุนให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตชะอำ หัวหิน มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มองว่าทิศทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักผ่อนในประเทศไทย มีแนวโน้มและปัจจัยในภาพรวมอยู่หลายประการด้วยกัน ทั้งในด้านของปัจจัยที่ส่งเสริมและสนับสนุนกิจการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการท่องเที่ยว ได้แก่ ปัจจัยด้านการคมนาคม การขนส่งทางบกและทางทะเล ซึ่งสนามบินนานาชาติเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวในอนาคตของไทยให้เติบโต
ทำเลที่ตั้งโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการค่อนข้างเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวอย่างมาก เนื่องจากที่ดินแถวนี้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล หรือไม่ก็ถูกพัฒนาเป็นโครงการเกือบหมดแล้ว จึ่งไม่มีชุมชนชาวบ้านอยู่ใกล้ รวมไปถึงร้านอาหารอยู่ใกล้ๆ ในระยะเดินทางแค่เพียง 5 กม. ห่างจากโครงการก็ถึงหาดชะอำ ที่เป็นแหล่งรวมทั้งร้านอาหารของกินของใช้ หรือจะเข้าหัวหินก็ประมาณ 25 กม. มีทุกอย่างครบไม่ต่างจากกรุงเทพฯ เลยแม้แต่น้อย และเมื่อไหร่ที่มีการพัฒนาครบ พื้นที่ติดหาดจะมีทั้ง บ้านทิวทะเลเฟส 1 บ้านทิวทะเล “Aquamarine” เฟส2 “Blue Sapphire” และโรงแรมอย่าง “บาบาบีช คลับ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ต” ไม่จำเป็นต้องออกไปไหนไกล เพราะมีทุกอย่างครบจบภายในโครงการ
อีกทั้งภายในโครงการยังมีการแยกเรื่องความปลอดภัยในแต่ละเฟสออกเป็นส่วนๆ ทำให้หมดกังวลเรื่องสภาพแวดล้อมและความปลอดภัยได้ ส่วนเรื่องทัศนวิสัย หรือเรื่องวิวที่จะถูกบดบังก็หมดห่วง แต่อาจจะติดวิวของ เฟส 2 ทางฝั่งขวานิดหน่อย แต่ระยะห่างไกลกันอยู่จึงไม่น่าเป็นปัญหา แม้ตัวโครงการจะอยู่ห่างจากหาดประมาณ 300 เมตร
การเดินทาง
การเดินทางมายังโครงการนั้นก็ไม่ต่างจากการขับรถจากกรุงเทพฯ มาชะอำ – หัวหิน ที่ตั้งของคอนโดฯ ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม กิโลเมตรที่ 196 มุ่งหน้าหัวหิน ระหว่างโรงแรม Grand Pacific และโรงแรม Springfield Veranda Resort and Spa หรือสังเกตง่ายๆ พอถึงสี่แยกชะอำ ให้ตรงไปอีกประมาณ 4.5 กม. ก็จะถึงด้านหน้าทางเข้าโครงการ “ทิวทะเลเอสเตส” ด้านซ้ายมือทางเข้าจะเป็นสำนักงานขาย ต้องตรงเข้าไปอีกประมาณ 400 เมตร จะถึงที่ตั้งโครงการ บลู (Blu) อยู่ด้านซ้ายมือ
สถานที่สำคัญรอบโครงการ
• บ้านทิวทะเล (1) Aquamarine 100 เมตร
• บ้านทิวทะเล (2) Blue Sapphire 120 เมตร
• บ้านชานทะเล 600 เมตร
• คอนโดกฤษดานคร 1.6 กิโลเมตร
• The Energy Huahin 1.8 กิโลเมตร
• Oriental Beach Huahin 2.5 กิโลเมตร
• Spring Field Beach Resort 2.7 กิโลเมตร
• ร้านสังเวียนซีฟู้ด 2.9 กิโลเมตร
• วิรันดา รีสอร์ต แอนต์ สปา 2.9 กิโลเมตร
• วนอุทยานชะอำ 3.0 กิโลเมตร
• The Regent Cha-am Beach Resort 3.9 กิโลเมตร
• Novotel HauHin Cha-am Beach Resort and Spa 5.0 กิโลเมตร
• ตลาดสดชะอำ 5.1 กิโลเมตร
• สถานีรถไฟชะอำ 5.6 กิโลเมตร
• หาดชะอำ 5.9 กิโลเมตร
• พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน 7.3 กิโลเมตร
• ค่ายนเรศร 9.6 กิโลเมตร
• Dusit Thani Huahin 11 กิโลเมตร
• The Venezia Huahin 12.8 กิโลเมตร
• สนามบินหัวหิน 13.5 กิโลเมตร
• สถานีรถไฟหัวหิน 23.5 กิโลเมตร
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
จริงๆ สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่เราต่างรู้จักและคุ้นชื่อคุ้นหู อย่าง เพลินวาน หรือตลาดซิเคด้า นั้นล้วนแต่อยู่ในเขตของอำเภอหัวหินซะส่วนใหญ่ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวในเขตชะอำนั้นจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่นที่เป็นเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติและวัฒนธรรม อาทิเช่น
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ตำรวจตระเวนชายแดนค่ายพระรามหก ประกอบด้วยหมู่พระที่นั่งใหญ่ 3 องค์ เรียงรายไปตามแนวชายหาด สถาปัตยกรรมของพระราชนิเวศน์เป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยประยุกต์ (ไทยผสมยุโรป) สร้างด้วยไม้สักทอง ลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้นเปิดโล่งใต้ถุนสูง หลังคาเป็นหลังคาทรงปั้นหยามุงด้วยกระเบื้องว่าวแบบสี่เหลี่ยมซึ่งสามารถกันแดดและกันฝนได้ดีกว่าแบบธรรมดา เพดานยกพื้นสูงมีบานเกล็ดระบายความร้อน โดยมีเสารองรับพระที่นั่งทั้งหมด 1080 ต้น วางในแนวเดียวกัน
อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ที่นี่เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และฝึกอบรมเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมระดับสากล รวบรวมความรู้ตามรอยพระยุคลบาทในการฟื้นฟูพัฒนาสิ่งแวดล้อมป่าชายเลน ป่าชายหาด ป่าเบญจพรรณ ให้มีความอุดมสมบูรณ์ดังเดิม ภายในมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ อุทยานทางทะเล ซึ่งเป็นสะพานไม้ลัดเลาะไปตามป่าชายเลน มีป้ายบอกพันธุ์ไม้ต่างๆ รวมถึงหอคอยให้ส่องดูนกสวยๆ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้อีกด้วย
Swiss Sheep Farm แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่จัดสถานที่ได้อย่างสวยงามแปลกตา ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบรรยากาศฟาร์มแบบสวิสเซอร์แลนด์ท่ามกลางหุบเขาสไตล์ยูโรคันทรี มีกิจกรรมมากมายสำหรับนักท่องเที่ยว โดยมีฟาร์มแกะที่มีฝูงแกะน่ารักๆ เพลิดเพลินไปกับการขี่ม้าชมวิวแบบคาวบอยอีกด้วย
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมีเนียมในพื้นที่ชะอำ-หัวหินและบริเวณใกล้เคียงยังเติบโตได้ดีสอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะมีมากขึ้นในช่วงวันหยุดยาว และช่วงปลายปี จากเทรนด์การท่องเที่ยวดังกล่าวนั้นช่วยผลักดันให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ของหัวหินกลับมามีการตอบรับที่ดีขึ้น และยังคงสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจัยนี้ชี้ชัดให้เห็นถึงการขยายตัวของความต้องการห้องชุดในย่านหาดชะอำ-หัวหินได้เป็นอย่างดี ยิ่งกลับมามองในเรื่องของซับพลายปัจจุบันที่แทบไม่เหลือที่ดินติดหาดในบริเวณนี้ให้พัฒนาโครงการอีกแล้ว
จากภาพรวมทั้งหมดก็ยิ่งแสดงจะเห็นได้ว่ากำลังซื้อเริ่มมีการขยายตัวได้ดีในโซนชะอำ ในกลุ่มราคา 4-8 หมื่นบาท/ตร.ม. และกลุ่มเกิน 1.2 แสนบาท/ตร.ม. เนื่องจากมีให้เลือกทั้งโครงการวิวทะเล และติดทะเล ส่วนฝั่งหัวหินที่มีกำลังซื้อดี คือ ฝั่งทะเล ราคา 4-6 หมื่นบาท/ตร.ม. เพราะโครงการใหม่ๆ ที่มีแทบจะไม่ได้อยู่ติดทะเลแต่ยังคงเห็นวิวทะเลและได้ความสะดวกสบายของหัวหินนั่นเอง
จึงคาดว่าทำเลชะอำ-หัวหินจะกลับมาขยายตัวสูงได้อีกใน 1-2 ปีหน้ารวมไปถึงเรื่องของราคาซื้อขายมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละประมาณ 2-4% เพราะมีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและศูนย์การค้าใหม่ๆ และหากรัฐบาลผลักดันรถไฟความเร็วสูงผ่านหัวหินยิ่งทำให้มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น เห็นได้จากหลายกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ที่แห่ซื้อที่ดินชะอำ-หัวหินเล็งสร้างโปรเจกท์ใหญ่ เพื่อรองรับการพัฒนาที่เกิดขึ้นดังกล่าว
สรุป
บลู ชะอำ – หัวหิน (BLU Cha am – Hua Hin) ถือได้ว่าเป็นเฟสที่ 3 ของโครงการบ้านทิวทะเล ซึ่งมีการออกแบบ และจัดวางเซ็กเม้นท์มาอย่างชัดเจน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมีบ้านพักตากอากาศในราคาที่สามารถจับต้องได้ อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะพัฒนาได้อีกไกลสำหรับโครงการนี้ เพราะเฟสที่ 4 จะเป็น บาบาบีช คลับ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ต ที่จะเป็นตัวชูโรงให้โปรเจกต์นี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และราคาเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
ภาพรวมของโครงการออกแบบให้กลมกลืนไปในทิศทางเดียวกัน เป็นสีธรรมชาติ และสีบลูของน้ำทะเล น่าจะถูกใจคนที่ชอบสีน้ำเงินเป็นพิเศษ ภายในห้องตกแต่งแบบเดียวกัน ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาเฉพาะโครงการ ที่ออกมาดูสวยลงตัวดีอยู่แล้ว ส่วนใครอยากได้ห้องเปล่าก็มีให้เลือกเช่นกันหรือจะเลือกห้องพร้อมอยู่แบบที่มีก็ถือว่าโอเค ตัวห้องกำลังดี ให้ความรู้สึกสบายและเป็นสัดส่วน ไม่เล็กไม่แคบจนเกินไป
ถึงแม้ตัวของโครงการจะไม่ได้อยู่ติดทะเลแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาเพราะยังอยู่ในระยะที่เดินได้ไม่ลำบากนัก เดินเล่นกินลมชมวิวภายในโครงการนิดเดียวก็ถึง หรือใครเบื่อทะเลก็มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ในส่วนของห้องชั้น 1 เดินออกจากระเบียงก็สามารถลงสระได้เลย ให้ความรู้สึกแบบรีสอร์ทเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งที่เป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์ก็ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องวิวทิวทัศน์สักเท่าไหร่
ตัวโครงการ ภายในโครงการ และโดยรอบของโครงการมีความเป็นส่วนตัว มีระบบรักษาความปลอดภัยแยกดูเป็นส่วนๆ ทั่วทั้งโครงการ แม้ว่าจะดูเงียบไปบ้างสำหรับคนชอบความคึกคัก แต่ก็น่าจะถูกใจคนรักความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ ทางผู้พัฒนาโครงการยังมีแผนที่จะขยายพื้นที่ด้านหน้าโครงการเพิ่มขึ้น และเตรียมพัฒนาเป็นอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบคอมเมอร์เชียล พร้อมการดึงร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ต เข้ามาช่วยสร้างสีสันให้โครงการมีความครบครันมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มได้ในปีนี้
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ