บางซื่อ เป็นทำเลที่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นของหน่วยงานราชการมายาวนาน และค่อย ๆ เกิดเป็นชุมชนมาอยู่อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียง โดยในอดีตพื้นที่ของภาคประชาชนส่วนใหญ่เป็นสวนผลไม้ ก่อนที่ปัจจุบันจะเปลี่ยนเป็นฮับของการเดินทางขนาดใหญ่ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาทางด้านอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นในทำเลนี้

ประวัติความเป็นมาของย่าน
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ‘บางซื่อ’ ในอดีตพื้นที่ของภาคประชาชนส่วนใหญ่เป็นสวนผลไม้ มีการจับจองพื้นที่ทำกินและอยู่อาศัยมายาวนาน พร้อมกับส่งต่อที่ดินเหล่านี้ให้รุ่นลูกหลาน ซึ่งในยุคถัดมาที่ความเป็นสวนลดน้อยลง บริเวณติดริมถนนสายหลัก กลายเป็นอาคารพาณิชย์เพื่อทำการค้า ส่วนพื้นที่ในตรอกซอกซอยปรับเปลี่ยนเป็นอาคารบ้านเรือนในแบบสร้างเองเข้ามาแทน ความเป็นชุมชนก็หนาแน่นขึ้น
ด้วยข้อจำกัดของย่านบางซื่อที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ของหน่วยงานภาครัฐ ทำให้การเจริญเติบโตจะขยับออกไปยังพื้นที่ใกล้เคียงย่านบางซื่อ เช่น ย่านบางโพ ย่านบางซ่อน ย่านวงศ์สว่าง ฯลฯ โดยก่อนหน้าที่จะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง และรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางใหญ่
ย่านบางซื่อและพื้นที่โดยรอบ เป็นย่านอยู่อาศัยแบบชานเมือง ยังมีกลิ่นอายของความเป็นบ้านสวน แต่ก็มีความสมัยใหม่มากขึ้น ส่วนโครงการเชิงพาณิชย์ ในรูปแบบห้างสรรพสินค้ามีเกิดขึ้นบ้าง แต่เน้นรองรับความต้องการเฉพาะคนในพื้นที่ ไม่ได้เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่
แต่เมื่อเริ่มมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง พื้นที่ใกล้เคียงย่านบางซื่อ ในส่วนที่ไม่ใช่หน่วยงานราชการ เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ตลาดคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นบนทำเลที่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีบางซื่อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคอนโดฯ ระดับกลาง ราคาล้านต้น ๆ และจะเกิดเฉพาะบนถนนสายหลักเท่านั้น พร้อมกับที่ห้างสรรพสินค้าตั้งแต่ยุคดั้งเดิมเริ่มถูกเปลี่ยนมือ ปรับโฉมใหม่ให้สอดคล้องกับยุคสมัย
ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางใหญ่ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ย่านบางซื่อและพื้นที่โดยรอบเปลี่ยนแปลง โดยตลาดคอนโดฯ ไม่ได้จำกัดเฉพาะพื้นที่ริมถนนสายหลักเท่านั้น แต่ยังเริ่มเห็นคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นตามซอยที่ใกล้กับตัวสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นความเจริญที่รุกคืบเข้าสู่ชุมชนเก่าอย่างรวดเร็ว
ต้องยอมรับว่า โครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายนี้ มีอิทธิพลกับย่านบางซื่อ และพื้นที่โดยรอบอย่างมาก และเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ โดยเฉพาะรูปแบบการอยู่อาศัยจากแนวราบสู่แนวสูง
ย่านบางซื่อในปัจจุบัน
ปัจจุบันย่านบางซื่อยังคงเป็นพื้นที่ของหน่วยงานภาครัฐเป็นหลัก และการเติบโตหลัก ๆ ยังคงกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง แต่โครงการสถานีกลางบางซื่อ (Bang Sue Grand Station) ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างการพัฒนา จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดพื้นที่ใหม่ ๆ ที่สามารถพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งสถานีกลางบางซื่อแห่งนี้ เป็นพื้นที่ที่ต่อขยายมาจากรถไฟฟ้า MRT สถานีบางซื่อในปัจจุบันให้กลายเป็นสถานีรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ หรือเรียกได้ว่าเป็น ศูนย์กลางคมนาคม
ตามแผนงานของการรถไฟฯ สถานีกลางบางซื่อ จะมีรถไฟฟ้าที่วิ่งตรงเข้าถึงตัวโครงการด้วยกัน 4 สาย ได้แก่
- สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และช่วงหัวลำโพง-บางแค
- สายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-รังสิต-ธรรมศาสตร์
- สายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน
- สายสีแดง สายท่ากาศยาน (แอร์พอร์ต เรล ลิงก์) ดอนเมือง-บางซื่อ-พญาไท
โดยรถไฟฟ้าทั้ง 4 เส้นทางนี้ จะเป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อไปรถไฟฟ้าอีก 10 เส้นทางรอบกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงรถไฟทางไกล รถไฟชานเมือง และรถไฟความเร็วสูง พร้อมกับมีพื้นที่เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่โดยรอบตัวสถานี ทั้งอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม ที่พักอาศัย ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ทำสำรวจความสนใจของผู้ประกอบการเอกชน (Market Sounding) อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการติดตั้งนาฬิกาประจำสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งออกแบบเป็นพิเศษ โดยบนหน้าปัดมีเลข ๙ เพียงเลขเดียว เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙
ตัวเรือนนาฬิกามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เมตร ติดตั้งบนผนังกระจกของทางเข้าสถานี สูงจากระดับพื้นดิน 21 เมตร ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งในหลาย ๆ สัญลักษณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในสถานีกลางบางซื่อ
การก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ปัจจุบันมีความคืบหน้าไปมากกว่า 80% โดยคาดว่าจะสามารถเปิดใช้ได้ในปลายปี 2563 และเมื่อก่อสร้างเสร็จ สถานีกลางบางซื่อจะพร้อมสู่การเป็นศูนย์กลางคมนาคมทางรางที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในอาเซียน สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 300,000 คนต่อวัน
ทั้งนี้ สถานีกลางบางซื่อ ก่อสร้างเป็นตัวอาคาร 4 ชั้น ประกอบด้วย ชั้นใต้ดิน เป็นพื้นที่สำหรับจอดรถประมาณ 1,700 คัน มีพื้นที่รวม 72,542 ตารางเมตร แบ่งเป็น
– ชั้นที่ 1 มีพื้นที่รวม 86,700 ตารางเมตร เป็นพื้นที่จำหน่ายตั๋ว ร้านอาหาร ศูนย์อาหาร สำนักงาน พื้นที่พักคอย และห้องน้ำผู้โดยสาร รวมถึงสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT ได้
– ชั้นที่ 2 เป็นชานชาลาสำหรับรองรับรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) มี 4 ชานชาลา และรถไฟทางไกล จำนวน 8 ชานชาลา มีพื้นที่รวม 42,000 ตารางเมตร
– ชั้นที่ 3 มีพื้นที่รวม 42,300 ตารางเมตร เป็นชานชาลาสำหรับรองรับรถไฟความเร็วสูง จำนวน 10 ชานชาลา และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จำนวน 2 ชานชาลา และมีทางเดินเชื่อมต่อกับสถานีบางซื่อของรถไฟฟ้า
อนาคตของย่านบางซื่อ
หากโครงการสถานีกลางบางซื่อเปิดให้บริการได้ตามแผนในราวปี 2563 พร้อมกับผลักดันแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์โดยรอบได้สำเร็จ มีการคาดการณ์ว่า ย่านบางซื่อจะคล้ายกับ Taipei Main Station ของประเทศไต้หวัน ที่เป็นจุดเชื่อมต่อการคมนาคมที่สำคัญ และมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวและการขนส่งเกิดขึ้น ซึ่งจะกลายเป็นย่านแหล่งงานขนาดใหญ่แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ที่ทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียง
สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ได้ที่ DDproperty Property Index
Get the Guru View
ในระยะแรกโครงการสถานีกลางบางซื่อจะส่งผลบวกกับพื้นที่รอบย่านบางซื่อเป็นหลัก เพราะเป็นพื้นที่ที่เอกชนเข้าไปพัฒนาได้เลยทันที ซึ่งปัจจุบันเริ่มเห็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องแล้ว ส่วนพื้นที่โดยรอบโครงการสถานีกลางบางซื่ออาจจะต้องใช้ระยะเวลา และจะเห็นภาพได้ชัดขึ้นเมื่อโครงการแล้วเสร็จ ดังนั้น พื้นที่ที่จะเจริญเติบโตนำไปก่อน คือ พื้นที่โดยรอบย่านบางซื่อ
ด้านที่พักอาศัยในโครงการเชิงพาณิชย์ของสถานีกลางบางซื่อ จะเป็นที่พักอาศัยในแบบลีสโฮลด์ (Leasehold) หรือขายสิทธิการเช่า ไม่ได้เป็นแบบฟรีโฮลด์ (Freehold) หรือขายแบบให้กรรมสิทธิ์ถือครอง อาจส่งผลบวกให้กับตลาดคอนโดมิเนียมแบบฟรีโฮลด์ในพื้นที่ใกล้เคียงย่านบางซื่อให้เติบโตมากขึ้น
เจาะลึกทุกทำเลในกรุงเทพฯ ที่น่าสนใจ และหากคุณกำลังค้นหาบ้าน-คอนโดฯ ที่ใช่ สามารถเลือกชมรีวิวโครงการใหม่ ก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน คอนโดฯ ทาวน์เฮ้าส์ ที่ตรงกับความต้องการของคุณ