Latest News from DDproperty https://www.ddproperty.com/news-rss Latest News in DDproperty th-th Copyright (c) DDproperty All rights reserved. 5 Fri, 29 Mar 2024 01:18:26 +0700 <![CDATA[3 ขั้นตอน เลือกประตูห้องให้ตอบโจทย์]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2021/8/164790/3-%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587 www.ddproperty.com:news:164790 Tue, 31 Aug 2021 07:17:36 +0700

แม้โครงการบ้านสมัยใหม่ในปัจจุบันจะมีประตูให้พร้อมสรรพ แต่หากเมียง ๆ มอง ๆ แล้วยังไม่ถูกใจ หรือใช้งานแล้วประตูเกิดชำรุดทรุดโทรม ทำให้จำเป็นต้องซ่อมแซมให้ใช้งานได้หรือเปลี่ยนประตูใหม่ให้ตอบโจทย์ลงตัวกว่าเดิม ซึ่งการเลือกประตูห้องให้ถูกต้องเหมาะสมกับแต่ละห้องมีขั้นตอนสำคัญ ดังนี้

Subscription Banner for Article

1. วัดขนาดประตูห้องให้พอดี

ก่อนจะติดตั้งประตู เราจำเป็นต้องวัดขนาดของพื้นที่การติดตั้งประตูเพื่อให้ได้ขนาดที่พอดีกับวงกบ และคำนวณพื้นที่เผื่อสำหรับเปิดปิดประตู ซึ่งแต่ละห้องมักจะมีขนาดของวงกบหรือบานประตูมาตรฐานโดยส่วนใหญ่ ดังนี้

– ขนาด 70 x 200 เซนติเมตร, 70 x 180 เซนติเมตร ใช้กับประตูห้องน้ำ

– ขนาด 80 x 200 เซนติเมตร, 90 x 200 เซนติเมตร ใช้กับประตูห้องนอน หลังบ้าน

– ขนาด90 x 200 เซนติเมตร ,100 x 200 เซนติเมตร ใช้กับประตูบานเดี่ยวหน้าบ้าน หรือบานทั่วไป

วัดขนาดประตูห้องให้พอดีก่อนเลือกมาใช้

2. ภายนอก VS. ภายใน ประตูห้องของคุณอยู่ตำแหน่งไหน

ตำแหน่งในการติดตั้งประตูระหว่างนอกบ้านและในบ้านมีความแตกต่างกันในด้านวัสดุของบานประตู ซึ่งมีความสำคัญในแง่ของความทนทานและความสวยงาม รวมถึงระดับราคา โดยสามารถแบ่งประเภทบานประตูตามลักษณะการใช้งาน ได้แก่

– การใช้งานภายนอก เช่น ประตูหน้าบ้าน หลังบ้าน ระเบียง ซึ่งจำเป็นต้องมีความแข็งแรงทนทาน โดยเฉพาะสภาพดินฟ้าอากาศทั้งไอความร้อน ความชื้น ฝนตก แดดออก ทำให้ต้องพิจารณาใช้บานประตูที่มีอายุการใช้งานเป็นหลัก

สำหรับบานประตูที่แนะนำ ได้แก่ บานอะลูมิเนียม ยูพีวีซี หรืออาจจะใช้ไม้เนื้อแข็ง ซึ่งใช้ได้ในบริเวณที่ไม่ปะทะกับแดดฝนโดยตรง โดยสามารถสร้างชายคาหรือกันสาดคลุมป้องกันน้ำฝนบริเวณหลังบ้านได้ เพื่อเลี่ยงปัญหาการผุพัง บิดงอ ปลวกที่มักจะเกิดกับบานประตูไม้ อย่างไรก็ตาม ประตูที่ใช้นอกบ้านอาจจะมีปัญหาการรั่วซึมได้หากช่างขาดความชำนาญในการติดตั้ง

– การใช้งานในบ้าน เช่น ประตูห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องเก็บของ โดยแต่ละห้องสามารถเลือกใช้วัสดุได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บานไม้สังเคราะห์ ไม้จริง ไม้สัก อะลูมิเนียม ยูพีวีซี ซึ่งมีข้อดี และข้อเสียในรายละเอียดให้สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการที่แตกต่างกัน

ขณะที่ประตูห้องน้ำ ซึ่งไม่ได้กั้นส่วนอาบน้ำเฉพาะ นับเป็นประตูห้องที่เราต้องให้ความสำคัญพิจารณาเป็นพิเศษคล้ายกับประตูที่ใช้งานภายนอก เนื่องจากต้องเผชิญกับน้ำและความชื้น ทำให้มีโอกาสผุพังหรือบวมได้หากใช้ประตูบานไม้ ดังนั้น เราอาจจะเลือกใช้ประตูแบบยูพีวีซีที่ทนต่อความชื้นได้ดีกว่า เพื่อการใช้งานในระยะยาว

เลือกประเภทประตูห้องให้เหมาะกับบ้าน

3. เลือกประเภทประตูห้อง

นอกเหนือจากตำแหน่งการติดตั้งประตูที่ต้องพิจารณาแล้ว เรายังต้องให้ความสำคัญกับการเลือกประตู โดยคำนึงถึงการใช้งานที่เหมาะสมสอดคล้องกับแต่ละห้องร่วมด้วย เช่น ประตูบานเปิด ซึ่งสามารถเปิดกว้าง 180 องศา โดยต้องเผื่อเนื้อที่การเปิดปิดประตูไว้ฝั่งหนึ่งของผนัง และประตูบานสวิงที่มีลักษณะคล้ายกับประตูบานเปิด แต่สามารถผลักเข้าออกได้ทั้งสองฝั่งของผนัง สำหรับพื้นที่ที่เข้าออกเป็นประจำ

นอกจากนั้น เรายังอาจจะเลือกใช้ประตูบานเฟี้ยม ซึ่งเปิดกว้างกว่าประตูรูปแบบอื่น แต่เปิดได้สุดไม่กินพื้นที่ในบ้าน จากการนำประตูบานเล็กต่อกันด้วยบานพับและพับทบสลับกันไว้ ทำให้ได้รับความนิยมใช้เป็นฉากกั้นแบ่งพื้นที่้ห้องต่าง ๆ ทั้งยังนำมาตกแต่งบ้านให้สวยงามได้ รวมถึงประตูบานเลื่อนที่นิยมนำมาใช้กั้นห้องและเป็นประตูทางเข้าหน้าบ้าน-หลังบ้าน ทั้งแบบบานเลื่อนเดี่ยว และบานเลื่อนคู่แบบกระจกใสที่เปิดให้เห็นวิวทิวทัศน์และแสงจากธรรมชาติสาดส่องเข้ามาช่วยให้บ้านสว่างมากขึ้น

แม้ปัจจุบันจะมีประตูให้เลือกสรรหลากหลายวัสดุและดีไซน์การออกแบบที่สามารถตอบโจทย์การแต่งห้องได้เป็นอย่างดี แต่เราต้องไม่ลืมให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้ในระยะยาว และเผื่องบประมาณไว้สำหรับจ้างช่างที่มีความชำนาญติดตั้งประตูด้วย

 

สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า

]]>
<![CDATA[5 ข้อควรรู้ก่อนคิดจะเลี้ยงสัตว์ในคอนโดฯ]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2018/5/171536/5-%25e0%25b8%2582%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2589 www.ddproperty.com:news:171536 Mon, 07 May 2018 10:21:40 +0700 5 ข้อควรรู้ก่อนคิดจะเลี้ยงสัตว์ในคอนโดฯ
5 ข้อควรรู้ก่อนคิดจะเลี้ยงสัตว์ในคอนโดฯ

สำหรับคนรักสัตว์ที่ต้องการเลี้ยงเจ้าตัวน้อยแสนรักในที่พักอาศัย แต่ดันเลือกที่อยู่ประเภทคอนโดมิเนียมที่ต้องอยู่ร่วมกับห้องชุดมากมายหลายห้องอย่างใกล้ชิดยิ่งกว่าบ้าน ซึ่งทำให้การเลี้ยงสัตว์อาจรบกวนผู้ร่วมอาศัยใกล้เคียงได้ง่ายกว่า อีกทั้งลักษณะของที่พักอาศัยแบบคอนโดฯ เอง ถือเป็นพื้นที่ปิด ทุกห้องอยู่ร่วมกันภายในอาคารเดียวกัน ดังนั้นกลิ่นที่เกิดจากการเลี้ยงสัตว์จึงอาจส่งกลิ่นไปยังห้องข้างๆ ได้ และอาจทำให้มีปัญหาตามมาในภายหลัง

วันนี้เรามีข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ มาฝาก สำหรับใครที่คิดจะเลี้ยงสัตว์ในคอนโดฯ มาดูเลยว่าคุณควรต้องทำอะไรบ้าง

1. เลือกคอนโดที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์จริงๆ

ไม่ควรแอบเลี้ยงเด็ดขาดถ้าหากทางคอนโดฯ ไม่อนุญาต เพราะตัวคนเลี้ยงเองก็จะหวาดระแวงเปล่าๆ ว่าจะถูกจับได้ อีกทั้งยังอาจต้องกักบริเวณสัตว์เลี้ยง ทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดความเครียด ที่สำคัญที่สุดก็คือหากถูกจับได้ขึ้นมา จะมีปัญหามาก เพราะหากสัตว์เลี้ยงต้องย้ายไปอยู่กับเจ้าของอื่นแทน สัตว์เลี้ยงอาจคิดถึงเจ้าของเดิมและไม่มีความสุข นอกจากนี้ยังไม่มีอะไรมารับประกันอีกด้วยว่า เจ้าของใหม่จะเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงของคุณได้ดีกว่าคุณ และจะรับผิดชอบชีวิตของมันได้ตลอดรอดฝั่ง ตัวคุณเองก็จะต้องเสียใจคิดถึงมันด้วย

รวม 10 คอนโดฯ ที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้!  

Pet In Condo_2

2. ซื้อสเปรย์ดับกลิ่นติดห้องไว้ตลอดเวลา

ไว้ฉีดพ่นบริเวณที่ขับถ่ายของสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นกระดาษหนังสือพิมพ์ของสุนัขหรือกระดาษทรายของแมว เพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นเล็ดลอดไปยังห้องข้างๆ 

5 วิธีเปลี่ยนห้องเหม็นอับให้สดชื่นกว่าที่เคย  

3. ไม่ควรเลี้ยงสุนัขขนาดใหญ่

เนื่องจากสุนัขประเภทนี้ต้องการพื้นที่มาก ซึ่งส่วนใหญ่คอนโดฯ มักมีพื้นที่ค่อนข้างแคบ ถึงแม้ว่าจะพาสุนัขออกไปเดินเล่นข้างนอกได้ แต่ก็ต้องเดินผ่านห้องพักคนอื่นและผ่านพื้นที่ส่วนกลาง สุนัขอาจเห่า หรือก่อความรำคาญแก่ผู้อื่นได้ง่ายในระหว่างนั้น

Pet In Condo_3

4. เก็บสิ่งขับถ่ายของสัตว์เลี้ยงทุกวัน

เลี้ยงสุนัขก็ควรห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ไปทิ้งและปูแผ่นใหม่ให้ เลี้ยงแมวก็ควรตักอุจจาระและก่อทรายที่เกิดจากปัสสะวะไปทิ้ง เพราะสิ่งขับถ่ายของสัตว์เลี้ยงเมื่อหมักหมมเป็นเวลานาน จะก่อให้เกิดเชื้อโรคและกลิ่นเหม็นได้

5.ใครที่เลี้ยงแมวควรติดตะแกรงไว้ที่ระเบียงอย่างมิดชิด

นอกจากนี้ก็ไม่ควรเปิดประตูระเบียงทิ้งไว้เด็ดขาด ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้แมวของคุณปีนป่านซุกซนและตกลงไปข้างล่าง

Pet In Condo_5

สรุปแล้ว การเลี้ยงสัตว์ในคอนโด ไม่ว่าสุนัขหรือแมว หัวใจสำคัญ คือ ต้องคำนึงถึงเพื่อนร่วมอาศัยห้องข้างเคียงเป็นหลัก เพราะทุกคนอยู่ภายในอาคารเดียวกัน การรบกวนจะเกิดขึ้นได้มากกว่าที่พักอาศัยประเภทอื่นๆ กลิ่นของสัตว์เลี้ยงสามารถส่งผ่านไปถึงกันได้ง่าย จึงควรมีความรับผิดชอบ ทั้งในแง่จิตสำนึกต่อผู้อื่น และความเอาใจใส่ต่อสัตว์ที่เลี้ยงอยู่ด้วย

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก สายธารกรุ๊ป www.saitharngroup.com หากมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ 095-556-5411

]]>
<![CDATA[6 เคล็ดลับ เลี้ยงสัตว์ไม่ให้รบกวนเพื่อนบ้าน ทำอย่างไรได้บ้าง?]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2018/5/171510/6-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%258c%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a1 www.ddproperty.com:news:171510 Sat, 05 May 2018 02:00:46 +0700 6 เคล็ดลับ เลี้ยงสัตว์ไม่ให้รบกวนเพื่อนบ้าน ทำอย่างไรได้บ้าง?
6 เคล็ดลับ เลี้ยงสัตว์ไม่ให้รบกวนเพื่อนบ้าน ทำอย่างไรได้บ้าง?

การเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าสุนัขหรือแมว เป็นสิ่งที่หลายคนชื่นชอบ เพราะสัตว์เลี้ยงก็เป็นหนึ่งในเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ บางครั้งเลี้ยงไว้คลายเหงาบ้าง ฝึกความรับผิดชอบของตัวเราเองบ้าง ก็ถือเป็นการดี แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องไม่มองข้ามเด็ดขาด นั่นคือการนึกถึงบ้านใกล้เรือนเคียง ถึงแม้ว่าเราจะให้สวัสดิภาพกับสัตว์เลี้ยงของเราดีแค่ไหน แต่การคำนึงถึงความเป็นอยู่ของเพื่อนบ้านก็เป็นสิ่งสำคัญ ต้องระวังไม่ให้สัตว์เลี้ยงของเราไปก่อความรำคาญแก่เพื่อนบ้านด้วย ไม่อย่างนั้นสิ่งที่ตามมาอาจเป็นการฟ้องร้องทางกฎหมายก็เป็นได้ และถ้าเป็นตามนั้นแล้วบอกได้เลยว่าเดือดร้อนยาวแน่นอน

ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาเฉพาะหน้า มาดูกันดีกว่าว่าเราจะเลี้ยงสุนัขหรือแมวโดยไม่ให้รบกวนเพื่อนบ้านได้อย่างไร

1. เลี้ยงระบบปิด

cat-2204851_960_720

การเลี้ยงระบบปิดหมายถึงการเลี้ยงให้สัตว์อยู่แต่ภายในบ้าน ไม่ปล่อยออกไปเพ่นพ่านข้างนอก วิธีนี้ควรใช้กับสัตว์ที่มีขนาดเล็ก เช่น แมว หรือสุนัขพันธุ์เล็ก อย่าง ชิห์สุ ยอร์เชียร์ เทอร์เรีย ปั๊ก ฯลฯ โดยควรจำกัดบริเวณสัตว์เลี้ยง แต่ห้ามขังกรงเด็ดขาดเพราะสัตว์จะเกิดความเครียดได้ ให้อยู่แค่ภายในตัวบ้านพอ หรืออาจแบ่งห้องห้องนึงในบ้านให้สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ แต่อย่าลืมจัดน้ำ อาหาร และของเล่นคลายเหงาให้สัตว์ด้วย

2. ถ้าเลี้ยงระบบปิดไม่ได้ ก็ต้องพาไปเดินเล่นทุกวัน

สุนัขโตหากเลี้ยงระบบปิดแล้วอาจทำให้เครียดจนพัฒนากลายเป็นความดุร้ายได้ ดังนั้นเจ้าของจึงควรจูงแล้วพาออกไปเดินเล่นทุกวัน แต่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเสมอ พยายามอย่าให้สุนัขไปเห่าใส่ใคร และที่สำคัญ ห้ามปล่อยให้สุนัขถ่ายเรี่ยราดโดยเด็ดขาด

อ่าน 10 คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ เอาใจคนรักหมา แมว 

dog-1282751_960_720

3. ทำความสะอาดกระบะทรายแมวทุกวัน

ถึงแม้ว่ากลิ่นสิ่งขับถ่ายของแมวจะไม่แรงเท่าของสุนัข เนื่องจากแมวจะใช้ทรายกลบ แต่ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้หลายวันเกินไป นอกจากจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้ว ยังจะส่งกลิ่ยเหม็นฉุนอีกด้วย ดังนั้นเจ้าของจึงควรใช้ที่ตักตักอุจจาระ และทรายที่จับตัวเป็นก้อนจากปัสสาวะแมวไปทิ้งทุกวัน และควรมีกระบะทรายสำรองเอาไว้อีกอัน เพื่อที่ทุกสุดสัปดาห์จะได้เอากระบะทรายอันที่ใช้อยู่ไปผึ่งแดดฆ่าเชื้อโรค และทำให้แห้งบ้าง ทำอย่างนั้นแล้วสามารถนำทรายเก่ากลับมาใช้อีกได้ และระหว่างที่ผึ่งแดดนั้นก็จะได้มีกระบะทรายอีกอันใช้แทนก่อน แต่อย่าลืมว่าทรายเก่าก็ไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 3 ครั้ง

4. ซื้อสเปรย์ดับกลิ่นสูตรที่ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยง

ลองเข้าไปเดินดูร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง จะหาซื้อได้ไม่ยาก สเปรย์ดับกลิ่น ที่เมื่อฉีดไปแล้วจะดับกลิ่นสิ่งขับถ่ายของสัตว์เลี้ยงได้ และจะมีกลิ่นหอมสดชื่นมาแทนที่ ให้ซื้อไปแล้วฉีดใส่กระบะทรายแมว หรือหนังสือพิมพ์ที่ปูให้สุนัขขับถ่ายบ่อยๆ แต่อย่าฉีดในปริมาณที่มากเกินไป

อ่าน ทำความสะอาดบ้านฉบับคนรักสัตว์ 

dogs-2338674_960_720

5. พยายามใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงให้มากๆ

บางครั้ง การที่สัตว์เลี้ยงส่งเสียงร้องหรือเห่าน่ารำคาญ เป็นเพราะว่ามันเหงา ดังนั้นเจ้าของจึงควรใช้เวลาเล่นกันมันให้มากๆ ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ตามลำพังนานเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้ส่งเสียงรบกวนเพื่อนบ้านแล้ว ความเครียดของมันอาจสะสมจนกลายเป็นโรคบางอย่างได้ด้วย

สรุปแล้ว เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ แต่ต้องคำนึงถึงเพื่อนบ้านเรือนเคียงเป็นสำคัญ จะได้ไม่มีปัญหาตามมา และต้องแบ่งเวลามาดูแลสัตว์เลี้ยงให้มากๆ อย่าปล่อยปละละเลยเป็นอันขาด เพราะสัตว์ทุกชนิดก็มีหัวจิตหัวใจเหมือนกับมนุษย์เรา และต้องการการเอาใจใส่

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก สายธารกรุ๊ป www.saitharngroup.com หากมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ 095-556-5411

]]>
<![CDATA[5 ข้อควรระวัง! ใครชอบพาหมา-แมวมานอนในห้องต้องอ่าน]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2018/4/170932/5-%25e0%25b8%2582%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2587-%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1 www.ddproperty.com:news:170932 Wed, 18 Apr 2018 00:39:10 +0700 5 ข้อควรระวัง! ใครชอบพาหมา-แมวมานอนในห้องต้องอ่าน
5 ข้อควรระวัง! ใครชอบพาหมา-แมวมานอนในห้องต้องอ่าน

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งแมวและสุนัขต่างก็เป็นเพื่อนที่น่ารักและซื่อสัตย์กับมนุษย์ บางคนเลี้ยงก็รักมาก ถึงขั้นไปไหนต้องพาไปด้วยเกือบตลอด แม้เวลานอนตอนกลางคืน ก็ยังต้องพาเข้าห้องนอนไปนอนด้วย ซึ่งนั่นก็ถือเป็นเรื่องดี เป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์เลี้ยงและเจ้าของให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ฝ่ายมนุษย์เองก็จะรู้สึกคลายเหงา ส่วนฝ่ายสัตว์เลี้ยงเองก็จะรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย

แต่…ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะดี 100% สำหรับใครที่ชอบพาแมวและสุนัขมานอนในห้องด้วยประจำ ก็ยังมีข้อควรเฝ้าระวังอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะเกี่ยวพันอยู่กับปัญหาสุขอนามัยเป็นหลัก แต่จะมีอะไรบ้างและจะรับมือได้อย่างไรนั้น ต้องไปดูกัน

1. ขนสัตว์เลี้ยงอาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองกับผิวหนังได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งแมวที่ขนร่วงง่ายกว่าสุนัข ขนของมันอาจติดสะสมอยู่บนปลอกหมอน หรือผ้าห่มของคุณได้ และถ้าคุณไม่รู้ นอนไปทั้งอย่างนั้นนานๆ ก็อาจเกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหนังได้ ดังนั้นจึงควรหมั่นกวาดห้องนอน ถูพื้น และดูดฝุ่นให้สะอาดอยู่เสมอ

adorable-3249955_960_720

2. อาจมีกลิ่นสะสมอยู่ในห้องนอน

ถ้าหากคุณพาสุนัขหรือแมวมานอนในห้องด้วย เรื่องการขับถ่ายของพวกมันก็เป็นอีกปัจจัยที่ควรระวัง เพราะสามารถส่งกลิ่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าห้องนอนเป็นห้องแอร์ ลองนึกภาพดูว่าถ้าหากมีกลิ่นสิ่งขับถ่ายของสัตว์เลี้ยงอบอวลอยู่ทั่วห้อง คุณคงนอนไม่หลับแน่ๆ ดังนั้นวิธีการป้องกันปัญหาเรื่องกลิ่นคือ ให้ซื้อสเปรย์หอมดับกลิ่น(สูตรที่ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยง)มาใช้ ฉีดพ่นเป็นบางบริเวณบนห้อง ฉีดเข้าไปในกระบะทรายแมว ส่วนของสุนัขให้หมั่นเปลี่ยนกระดาษหนังสือพิมพ์และถูพื้นบริเวณที่มีปัสสาวะบ่อยๆ และใช้สเปรย์ดับกลิ่นฉีดทับเข้าไป

3. สัตว์เลี้ยงอาจทำลายข้าวของของคุณ

สำหรับสัตว์เลี้ยงบางตัว โดยเฉพาะลูกแมวและลูกสุนัข อาจมีพฤติกรรมซุกซน ชอบกัด ชอบตะปบ ชอบตะกุยข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน นำมานอนในห้องนอนด้วยคุณก็ต้องระวัง ควรหาของเล่นเตรียมไว้ให้สัตวเลี้ยงเล่น เช่น ลูกบอล เชือก ขนมขบเคี้ยว ฯลฯ เพื่อเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ ไม่ให้สัตว์เลี้ยงไปเล่นกับข้าวของเครื่องใช้ของคุณ

cat-2605021_960_720
4. การสูดหายใจเอาขนสัตว์เลี้ยงเข้าไปมากๆไม่ใช่เรื่องดี

อาจจะไม่ถึงกับสูดเข้าไปจนถึงปอดหรือหลอดลม แต่การที่คุณต้องนอนกับขนสัตว์เลี้ยงทุกวัน อย่างเบื้องต้นสุดก็อาจจะระคายเคืองโพรงจมูก และจามบ่อยๆ วิธีป้องกันจึงคล้ายกับข้อแรกคือ อย่าละเลยเรื่องการทำความสะอาด

pug-1210025_960_720
5. สัตว์เลี้ยงอาจทำที่นอนคุณสกปรก

สัตว์เลี้ยงบางตัวอาจขับถ่ายรดที่นอน บางตัวอาจเท้าเปื้อนมาแล้วมาเหยียบบนที่นอน ดังนั้นคุณต้องหมั่นสังเกต แล้วซักทำความสะอาดที่นอนทันทีที่เห็นคราบเปื้อน นอกจากนี้ยังควรฝึกวินัยสัตว์เลี้ยง ให้ขับถ่ายในที่ที่จัดไว้ให้ และพยายามอย่าให้สัตว์เลี้ยงไปคลุกคลีกับสิ่งสกปรกเด็ดขาด

รู้แล้วก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติตามกัน เพื่อสุขอนามัยที่ดีของทั้งสัตว์เลี้ยงและคนเลี้ยง

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก สายธารกรุ๊ป www.saitharngroup.com หากมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ 095-556-5411

]]>
<![CDATA[4 วิธีป้องกันกลิ่นอาหารคละคลุ้ง สำหรับคนทำครัวในบ้าน]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2018/4/170926/4-%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%259b%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2584 www.ddproperty.com:news:170926 Fri, 13 Apr 2018 01:00:16 +0700 4 วิธีป้องกันกลิ่นอาหารคละคลุ้ง สำหรับคนทำครัวในบ้าน
4 วิธีป้องกันกลิ่นอาหารคละคลุ้ง สำหรับคนทำครัวในบ้าน

มีหลายบ้านที่นิยมตกแต่งครัวแบบฝรั่ง เนื่องจากมีรูปแบบที่สวยงาม เรียบหรู และไม่ยุ่งยาก แต่ก็มีจุดอ่อนอยู่อย่างหนึ่ง คือครัวแบบฝรั่งนั้นเป็นครัวที่ทำในบ้าน เมื่อนำมาใช้ในเมืองไทย อาจไม่สะดวกสำหรับการปรุงอาหารบางเมนู เพราะอาหารไทยส่วนมากมักต้องใช้เครื่องปรุงที่มีกลิ่นแรง หรือไม่ก็ต้องผัด-ทอดด้วยไฟแรงจัดๆ จึงทำให้กลิ่นอาหารคละคลุ้งอยู่ในบ้าน และคราบน้ำมันสามารถไปจับตามผนัง ผ้าม่านได้ เมื่อสะสมไปนานๆ จึงทำให้สกปรก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ควรทำครัวแบบฝรั่ง ทำได้ ไม่มีปัญหา เพียงแต่ต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาดมากกว่าปรกติเท่านั้น

แนะ 4 เคล็ดลับง่ายๆในการป้องกันปัญหากลิ่นอาหารคละคลุ้งภายในบ้าน รวมถึงความสกปรกที่เกิดจากคราบน้ำมัน และเศษอาหารด้วย ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการตกแต่งครัวแบบฝรั่ง และการทำอาหารในบ้านแล้ว ไม่ควรพลาดเด็ดขาด

woman-1979272_1920

1. ติดตั้งเครื่องดูดควัน

เครื่องดูดควันอาจไม่ได้ช่วยดับกลิ่นอาหารได้ก็จริง แต่อย่างน้อยก็ช่วยดูดควันจากการปรุงอาหาร ไม่ให้ฟุ้งไปทั่วบ้านได้ จึงช่วยป้องกันปัญหาคราบน้ำมันไปจับตามผนังและเฟอร์นิเจอร์ได้ในระดับหนึ่ง เพราะปรกติแล้วควันที่เกิดจากการปรุงอาหารก็มักมีละอองน้ำมันด้วยเสมอ

2. หลีกเลี่ยงเมนูผัดหรือทอดไฟแรง

เช่น ผัดผักบุ้งไฟแดง ไก่ทอด เป็นต้น เพราะน้ำมันมักจะกระเด็นเวลาปรุง และควันมักจะเยอะ เครื่องดูดควันจากอาจช่วยอะไรไม่ได้มาก ดังนั้น ทางที่ดีถ้าหากต้องการรับประทานเมนูที่ผัดหรือทอดไฟแรงจริงๆ ควรใช้วิธีซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบ Induction แล้วไปเสียบปลั๊กทำนอกบ้านจะดีกว่า อากาศจะได้ระบาย ควันจะได้มีที่ทางไหลไป ไม่ตลบอบอวลอยู่ในบ้าน ส่วนในบ้านควรทำเมนูประเภทนึ่ง ต้ม อบ จะเหมาะที่สุด

3. ควรเปิดหน้าต่างระบายอากาศเวลาปรุงอาหาร

ถึงแม้จะเป็นเมนูที่ไม่มีกลิ่นแรงหรือไม่ต้องใช้ไฟแรง แต่กลิ่นอาหารก็ยังหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี จึงควรเปิดหน้าต่าง บานเกล็ด หรือประตูเอาไว้ด้วย ให้อากาศถ่ายเท และที่สำคัญไม่ควรเปิดแอร์ทำอาหารเด็ดขาด เพราะกลิ่นจะยิ่งออกชัดมาก

window-3255051_1920

4. อย่าติดตั้งผ้าม่านใกล้บริเวณที่ทำอาหาร

เพราะทั้งควัน ทั้งกลิ่นอาหาร จะลอยไปจับได้ง่าย และถ้าไม่มีการทำความสะอาด จะหมักหมมจนกลายเป็นกลิ่นเหม็นได้ในระยะยาว

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก สายธารกรุ๊ป www.saitharngroup.com หากมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ 095-556-5411

]]>
<![CDATA[5 เทคนิคป้องกันสัตว์เลี้ยงทำลายบ้าน]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2018/4/170619/5-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%259b%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%258c%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2589 www.ddproperty.com:news:170619 Mon, 02 Apr 2018 04:37:58 +0700 5 เทคนิคป้องกันสัตว์เลี้ยงทำลายบ้าน
5 เทคนิคป้องกันสัตว์เลี้ยงทำลายบ้าน

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสุนัขและแมวนั้นเป็นเพื่อนที่น่ารัก และซื่อสัตย์ของมนุษย์จริงๆ ตั้งแต่คนวัยหนุ่มสาวไปจนถึงวัยชราก็ต่างนิยมเลี้ยงไว้ แต่สิ่งที่หลายๆ คนมักพบเหมือนกันคือ สุนัขและแมวนั้นทำลายข้าวของในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกสุนัขและลูกแมวที่เขี้ยวเล็บกำลังขึ้น เนื่องจากอยู่ในวัยกำลังซน กำลังเรียนรู้ เห็นอะไรขวางหน้าก็มักจะแทะ กัด รัด ฟัด เหวี่ยง และปีนป่ายไปหมด

ซึ่งไม่ว่าผู้เลี้ยงจะมองว่าเป็นปัญหาหรือไม่เป็นปัญหาสำหรับตนเอง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรปล่อยปละละเลยไว้ เนื่องจากจะเป็นการสร้างพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในระยะยาว โดยจะทำให้สุนัขและแมวเคยตัว และลามไปกัด ทำลายข้าวของชิ้นอื่นในบ้านจนเสียหายหนักได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าจะอันตรายมาก ถ้าสุนัขและแมวไปกัด ตะปบ หรือข่วน อาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตพวกมันได้

ดังนั้นมาดูกันดีกว่า ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้สุนัขและแมวของคุณทำลายข้าวของในบ้านคุณได้

SaithanGroup_Week9

1. ซื้อของเล่นให้เล่น

สำหรับแมวจะชอบของเล่นประเภทเชือกหรือลูกบอลที่สุด โดยลูกบอลถ้าหากผู้เลี้ยงโยนให้แล้ว แมวมักจะชอบไล่ตามตะปบอย่างสนุกสนาน หรือจะซื้อเป็นที่ฝนเล็บ คอนโดแมวให้มันก็ไม่เลว อันนี้จะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจแมว ไม่ให้ไปฝนเล็บตามเฟอร์นิเจอร์ได้เป็นอย่างดี ส่วนสุนัขเองก็อาจซื้อขนมขบเคี้ยว หรือของเล่นยางให้แทะก็ได้

2. เก็บอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าให้มิดชิด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัดลมตั้งพื้นที่มักถูกเสียบปลั๊กค้างไว้ตลอดเวลา ถ้าตอนไหนที่คุณไม่ได้ใช้และไม่ได้อยู่ในพื้นที่ด้วย ก็ควรม้วนสายและเก็บเข้าตู้หรือห้องเก็บของให้มิดชิด เพื่อไม่ให้สุนัขและแมวไปแทะสายไฟเล่นได้

3. มีตู้โชว์สำหรับใส่ของตกแต่ง

ในกรณีที่คุณมีของโชว์ชิ้นเล็กๆ เช่นโมเดล ตุ๊กตากระเบื้อง ฯลฯ คุณควรหาตู้โชว์มาตั้งเก็บไว้ในเป็นระเบียบ เพื่อที่สุนัขและแมวจะได้ไม่ไปนำมาเล่น หรือทำตกระเนระนาด

dog-2901704_960_720

4. ใช้เวลากับสุนัขและแมวให้มาก

บางครั้งการที่สุนัขและแมวกัดหรือทำลายข้าวของในบ้านนั้นเกิดจากความเครียด วิธีการแก้คือคุณควรใช้เวลาอยู่กับมันมากๆ กอดมัน ลูบตัวมัน เกาคาง เกาหัวให้มันบ่อยๆ มันจะได้ไม่รู้สึกเหงานั่นเอง

5. หาแผ่นโฟมมาพันรอบฟูกเตียงและเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้ 

ข้อนี้สำหรับผู้ที่เลี้ยงแมวโดยเฉพาะ เนื่องจากแมวจะมีนิสัยชอบฝนเล็บเล่นอยู่เสมอ และมักไม่เลือกที่ฝนเสียด้วย ไม่ว่าจะเสาเตียง ขาโต๊ะ ฟูกเตียง มันทำได้หมด คุณจึงควรหาแผ่นโฟมมาหุ้มไว้ เพื่อไม่ให้เล็บมันตะกุยไปถึงเนื้อเฟอร์นิเจอร์ได้ แต่ก็ต้องหมั่นสังเกตสภาพตัวแผ่นและเปลี่ยนอยู่เสมอด้วยเช่นกัน

cat-3162458_960_720

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก สายธารกรุ๊ป www.saitharngroup.com หากมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ 095-556-5411

]]>
<![CDATA[4 คำถามยอดฮิต ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องการรีโนเวทอลูมิเนียมคอมโพสิต]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2018/3/169807/4-%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25ae%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2595-%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%258a%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2583 www.ddproperty.com:news:169807 Sun, 04 Mar 2018 12:36:22 +0700 4 คำถามยอดฮิต ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องการรีโนเวทอลูมิเนียมคอมโพสิต
4 คำถามยอดฮิต ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องการรีโนเวทอลูมิเนียมคอมโพสิต

สำหรับผู้ประกอบการทุกท่าน ที่มีการใช้อลูมิเนียมคอมโพสิต(หรือแผ่นแซนด์วิช) ตกแต่งสถานประกอบการนั้น ย่อมจะต้องประสบกับปัญหาตัวแผ่นสีซีดจาง หรือชำรุดได้เป็นธรรมดา ตามเวลาและสภาพการใช้งาน จึงทำให้เกิดข้อสงสัยและความกังวลตามมาว่า “จะทำอย่างไรดี? ตกลงต้องติดตั้งใหม่เท่านั้นใช่หรือไม่? ต้องทุ่มเงินมหาศาลเลยใช่หรือไม่?”

gsgrg

คำตอบคือ การติดตั้งใหม่ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาเพียงทางเดียว! เพราะด้วยความที่อลูมิเนียมคอมโพสิตเป็นแผ่นอลูมิเนียมซึ่งประกบไส้กลางเป็นวัสดุเนื้อยืดหยุ่นนั้น มันจึงต้องติดตั้งเข้ากับตัวอาคารด้วยการใช้โครงเหล็กยึด ไม่ใช่แค่แปะธรรมดาง่ายๆ เหมือนเอากระดาษแปะฝาผนัง และถ้าหากจะติดตั้งแผ่นใหม่ไปแทนนั้น นั่นแปลว่าจะต้องรื้อของเก่าไปจนถึงโครงเหล็ก ซึ่งทั้งยุ่งยาก ใช้เวลานาน และมีค่าใช้จ่ายสูงด้วย

ดังนั้น จึงมีอีกหนทางหนึ่งสำหรับแก้ปัญหาอลูมิเนียมคอมโพสิตชำรุด/ทรุดโทรม นั่นคือการ “รีโนเวท” นั่นเอง เป็นการซ่อมแซมตัวแผ่นให้สวยงาม ดูดีขึ้น แต่ผู้ประกอบการหลายท่านอาจไม่เคยได้ยินเรื่องการรีโนเวทแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตมาก่อน และคงเกิดคำถามมากมายในใจ ดังนั้นวันนี้เราจึงยกข้อคำถาม Top4 เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่คิดว่าทุกท่านน่าจะสงสัยมากที่สุดมานำเสนอ พร้อมให้คำตอบที่ถูกต้องด้วย มาดูกันเลย

คำถามที่ 1: การรีโนเวทแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต ช่วยแก้ปัญหาการชำรุดได้ทุกรูปแบบเลยหรือไม่?
คำตอบ: ไม่ใช่ การรีโนเวทแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต จะทำได้ก็ต่อเมื่อการชำรุดอยู่แค่ภายในขอบเขตของสีซีด จาง หรือด่างเท่านั้น แต่ถ้าหากบิ่น บิดเบี้ยว หรือเผยอแล้วจะไม่สามารถแก้ได้ ต้องติดตั้งใหม่เพียงอย่างเดียว ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรหมั่นทะนุผนอมตัวแผ่น ดูแลรักษา และทำความสะอาดให้ถูกวิธี เพื่อที่อายุการใช้งานจะได้ยาวนาน และไม่เสียรูปทรงง่ายๆ

คำถามที่ 2: การรีโนเวทแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต จะประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากแค่ไหน?
คำตอบ: ประหยัดกว่าการติดตั้งใหม่ถึง 70% นอกจากนี้ยังมีความปลอดภัยมากกว่าด้วย เนื่องจากไม่ต้องมีการรื้อถอนชิ้นส่วนใดๆออก จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีเศษวัสดุตกหล่นไปโดนใครหรือวางเกะกะภายในพื้นที่สถานประกอบการ

คำถามที่ 3: เมื่อรีโนเวทแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตไปแล้ว ตัวแผ่นจะอยู่ในสภาพนั้นอีกนานแค่ไหน?
คำตอบ: ไม่มีคำตอบที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการทะนุถนอมล้วนๆ แต่ถ้ามีการดูแลและรีโนเวทอย่างถูกวิธี สามารถอยุ่ได้เกิน 24 เดือนอย่างแน่นอน

คำถามที่ 4: รีโนเวทแล้วตัวแผ่นจะสวยขึ้นจริงใช่หรือไม่?
คำตอบ: แน่นอนที่สุด สวย สะอาดเหมือนใหม่อย่างแน่นอน เพราะการรีโนเวทจะมุ่งเน้นไปที่การขัดสีและการทำความสะอาดพื้นผิว แต่หลังจากรีโนเวทเสร็จแล้ว อย่างที่บอกก็คือต้องมีการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเองด้วย แนะนำให้ใช้ผ้าที่นุ่มๆ ผสมน้ำ สบู่ หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่สารทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง เนื่องจากจะทำให้พื้นผิวเสียหายได้

Bitec_180225_0043

สรุป การรีโนเวทแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วถ้าหากเป็นวัสดุที่ใช้ตกแต่งสถานประกอบการของคุณ ถึงแม้ว่าจะใช้ทะนุถนอมอย่างไร แต่วัสดุก็สามารถสีซีด จางได้ไปตามกาลเวลา แต่เพื่อที่จะไม่ต้องรีโนเวทบ่อย และประหยัดค่าใช้จ่ายให้มากขึ้นกว่าเดิม การใช้งานตัวแผ่นอย่างทะนุถนอม และหมั่นบำรุงรักษาให้ถูกวิธี เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก สายธารกรุ๊ป www.saitharngroup.com หากมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ 095-556-5411

]]>
<![CDATA[13 เคล็ดลับช่วยให้ห้องครัวสะอาด ถูกหลักอนามัย]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2018/3/169821/13-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%258a%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25aa www.ddproperty.com:news:169821 Sun, 04 Mar 2018 10:16:52 +0700 13 เคล็ดลับช่วยให้ห้องครัวสะอาด ถูกหลักอนามัย
13 เคล็ดลับช่วยให้ห้องครัวสะอาด ถูกหลักอนามัย

อันที่จริงแล้วห้องครัวที่เราใช้กันอยู่เป็นประจำทุกวันนั้น ควรได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และถ้าจะให้ดีถูกหลักอนามัยที่สุดก็คือ ต้องทำความสะอาดทุกครั้งหลังการใช้ห้องนั้นๆ

จากผลสำรวจผู้ใหญ่จำนวน 20,000 คน เชื่อหรือไม่ว่ามีผู้ชาย 25% และผู้หญิงถึง 14 % ที่ไม่ล้างมือด้วยสบู่หลังจากทำอาหารที่จับต้องเนื้อสัตว์หรือเนื้อไก่ดิบ ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือมีคนมากถึง 3 ใน 10 คนที่ไม่ล้างมือก่อนอาหารและ 5 ใน 10 คนที่ไม่ล้างมือให้สะอาดหลังทานอาหารแล้ว แสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ามือของคนเราที่จับต้องสิ่งของ โดยเฉพาะเวลาทำครัวนั้นมีเศษอาหารติดอยู่ตามซอกเล็บและเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียที่คุณมองไม่เห็น ดังนั้นการมีสุขอนามัยที่ดีจะช่วยป้องกันการติดเชื้อที่ร้ายแรงอย่างซัลโมเนลลาและอีโคไลที่ติดมาจากอาหารที่คุณทำแล้วไม่ล้างมือให้สะอาด 

13 เคล็ดลับช่วยห้องครัวสะอาด ถูกหลักอนามัย

39182534_XXL

1. ล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้งทั้งก่อนและหลังทำอาหาร
2. อย่ารอจนทำอาหารเสร็จแล้วค่อยทำความสะอาดเคาน์เตอร์และหน้าเตา แต่ต้องทำความสะอาดพื้นที่ในครัวให้สะอาดตลอดเวลาที่คุณกำลังทำอาหารอยู่ เพราะของสดทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู ไก่ ปลาหรือไข่ล้วนเป็นแหล่งของเชื้อโรคทั้งสิ้น จึงต้องทำความสะอาดเพื่อป้องกันเชื้อโรคที่มาจากของสดพวกนั้นที่ติดอยู่ตามพื้นที่ต่างในครัว
3. แยกเขียงที่ใช้หั่นของที่ยังไม่สุกกับของที่สุกแล้ว ไม่ให้ปะปนกัน เนื้อสดทุกชนิดยังมีน้ำไหลออกมาตลอดเวลาโดยเฉพาะตอนที่คุณหั่นและมักเป็นแหล่งของเชื้อแบคทีเรียที่รุนแรงได้ ถ้าเป็นไปได้อย่าใช้เขียงไม้ เพราะเขียงไม้จะมีร่องรอยขูดขีดละมีร่องที่มาจากการใช้งานอันเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคเหมือนกับซอกเล็บของเรานั่นเอง แค่คิดถึงจำนวนแบคทีเรียก็สยองแล้ว
4. ล้างผักผลไม้ให้แน่ใจว่าสะอาดก่อนหั่น ล้างผักผลไม้และเช็ดให้สะอาด หั่นส่วนที่ช้ำหรือมีรอยถลอกขูดขีดออกไป เพราะนั่นคือแหล่งสะสมของแบคทีเรียเช่นกัน
5. ใช้ฟองน้ำที่เหมาะสมกับกระทะหรือหม้อแต่ละชนิด เพราะถ้าคุณใช้ฟองน้ำที่ไม่เหมาะกับพื้นผิวของกระทะหรือหม้อนั้นๆ ก็จะทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนพื้นผิวและนั่นคือแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียเหมือนกัน
6. ล้างหม้อกระทะให้สะอาดทุกส่วน บางคนไม่ล้างก้นกระทะหรือหม้อหรือไม่ล้างหูจับ เพราะลืมนึกไปว่ามือคุณที่จับของสดๆ ก็จับส่วนต่างๆ ของหม้อหรือกระทะด้วยเช่นกัน
7. ล้างฟองน้ำที่ใช้ล้างจานและแปรงที่ใช้ขัดส่วนต่างๆ ของหม้อหรือกระทะทุกครั้งหลังใช้งานแล้ว เหตุผลเดียวกับทุกข้อที่กล่าวมาข้างต้น ฟองน้ำหลังใช้แล้วล้างให้สะอาด บีบน้ำออกให้หมาดๆ แล้วทิ้งไว้ให้แห้งสนิทก่อนใช้ครั้งต่อไป
8. ผ้าเช็ดจานกับผ้าเช็ดเคาน์เตอร์ต้องเป็นผ้าคนละผืน อย่าใช้ผ้าผืนเดียวที่เช็ดทุกอย่างในครัวมาเช็ดจานเด็ดขาด
9. ทำความสะอาดเคาน์เตอร์ครัวให้สะอาดตลอดเวลา ใช้น้ำยากำจัดเชื้อแบคทีเรียเช็ดเคาน์เตอร์ครัวแล้วเช็ดให้แห้งด้วยฟองน้ำแห้งสะอาดหรือกระดาษสำหรับใช้ในครัวโดยเฉพาะ
10. อย่าปล่อยให้ครัวเปียกแฉะโดยไม่เช็ดทำความสะอาดให้แห้ง ไม่ว่าจะเป็นพื้นครัว บนเคาน์เตอร์หรือที่คว่ำจาน เพราะน้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี
11. ถ้าคุณใช้สบู่ก้อนล้างมือในครัว อย่าปล่อยให้สบู่เปียกแฉะตลอดเวลา เพราะจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียอย่างดี หรือคุณอาจเลือกใช้สบู่เหลวที่บรรจุขวดที่สะดวกและสะอาดกว่าสบู่ก้อนก็ได้
12. ทำความสะอาดตู้เย็น ตู้เก็บของ และครัวขนานใหญ่อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง อย่างที่รู้ๆ กัน ครัวเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นจึงควรทำความสะอาดให้แน่ใจว่าปลอดเชื้อโรค
13. ถ้ากระทะของคุณมันมากและต้องการขจัดคราบมันออกให้หมด อย่าแช่กระทะร้อนๆ ลงในน้ำเย็นหรือจุ่มกระทะเย็นๆ ลงในน้ำร้อนเป็นอันขาด พื้นผิวของกระทะเคลือบต้องใช้น้ำอุ่นจะเหมาะสมที่สุด ส่วนคราบมันให้ใช้กระดาษที่ใช้ในครัววางในกระทะแล้วเติมน้ำลงไปสัก ¼ แช่ค้างคืนไว้จะช่วยดูดซึมคราบมันออกได้เกือบหมด

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

ขอบคุณบทความจากเว็บไซต์ theAsianparent.com เว็บไซต์ให้คำแนะนำด้านการเลี้ยงลูกอันดับ 1 ในประเทศไทย

]]>
<![CDATA[7 เคล็ดลับดูแลบ้านให้สะอาดง่ายๆ สำหรับคนเลี้ยงหมา-แมว]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2018/2/169538/7-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25ad www.ddproperty.com:news:169538 Fri, 23 Feb 2018 08:24:08 +0700 7 เคล็ดลับดูแลบ้านให้สะอาดง่ายๆ สำหรับคนเลี้ยงหมา-แมว
7 เคล็ดลับดูแลบ้านให้สะอาดง่ายๆ สำหรับคนเลี้ยงหมา-แมว

สำหรับใครที่เลี้ยงสุนัขหรือแมว สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับบ้านคุณคือ “ความสะอาด” เพราะทั้งสุนัขและแมวจะต้องมีการผลัดขน นั่นหมายความว่าขนของพวกมันสามารถติดตามพื้น เฟอร์นิเจอร์ หมอน และเตียงนอนของคุณได้ และถ้าหากคุณละเลย ไม่หมั่นทำความสะอาด ทั้งขนและฝุ่นก็จะสะสมเต็มไปหมด ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสุขอนามัยของคุณและสมาชิกในบ้านในระยะยาวได้

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของสิ่งขับถ่าย ที่ทั้งสุนัขและแมวปล่อยออกมา ไม่ว่าจะเป็นปัสสาวะหรืออุจจาระ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่อาศัยในห้องชุดจะต้องระวังมากๆ เนื่องจากเป็นกลุ่มห้องที่รวมอยู่ในอาคารเดียวกัน เป็นพื้นที่ปิด ดังนั้นถึงแม้ว่าคุณจะเลี้ยงสุนัขหรือแมวในห้องของคุณ แต่กลิ่นไม่พึงประสงค์ก็สามารถเล็ดลอดไปถึงห้องข้างๆ ได้

(แต่ทั้งนี้ก็ยังมีคอนโดฯ ที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้) 

ดังนั้น เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาทั้งด้านสุขภาพ และความสบายใจในการอยู่อาศัย วันนี้เราจึงมี “7 เคล็ดลับง่ายๆ ในการดูแลความสะอาดภายในบ้าน สำหรับคนเลี้ยงสุนัขหรือแมว” มาฝากกัน ลองไปดูกันเลย

7 เคล็ดลับง่ายๆ ในการดูแลความสะอาดภายในบ้าน สำหรับคนเลี้ยงสุนัขหรือแมว

ST-Week5_2

1. ควรเลือกซื้อทรายแมวสูตรที่มีกลิ่นหอม เช่นกลิ่นแอปเปิ้ล กลิ่นกาแฟ เนื่องจากจะช่วยกลบกลิ่นสิ่งขับถ่ายได้ นอกจากนี้ควรหมั่นทำความสะอาดกระบะทรายทุกวัน และควรกวาดทรายที่แมวเขี่ยกระเด็นออกมานอกกระบะด้วย หรือถ้าเอากระบะทรายแมวไปตากแดดเป็นครั้งๆจะดีมาก จะช่วยลดกลิ่นได้

2. ใช้ลูกกลิ้งแผ่นกาวและเครื่องดูดฝุ่น เพื่อเอาขนแมว-ขนสุนัขออกจากเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นผ้า ไม่ว่าจะเป็นหมอน เตียง หรือโซฟา

3. กวาดและถูพื้นบ้านสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เป็นประจำ โดยอย่าลืมเน้นจุดที่สัตว์เลี้ยงของคุณชอบไปนั่ง-นอนเป็นพิเศษ

ST-Week5_3

4. สำหรับสุนัข ควรใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ซ้อนกันหลายๆ ชั้นเพื่อใช้รองสิ่งขับถ่าย และควรเก็บไปทิ้งทุกวันเพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นสะสม เนื่องจากสุนัขไม่ได้มีพฤติกรรมชอบถ่ายใส่ทราย และเกลี่ยทรายกลบสิ่งขับถ่ายเหมือนแมว จึงเกิดกลิ่นรบกวนได้ง่ายกว่า

5. ใช้เจลหอมปรับอากาศมาวางไว้ในห้อง เพื่อช่วยดับกลิ่น

6. ในกรณีที่คุณเลี้ยงสุนัขหรือแมวระบบเปิด คุณควรพาไปอาบน้ำทุกสัปดาห์ เนื่องจากสุนัขหรือแมวของคุณอาจไปเล่น ไปคลุกคลีกับสิ่งสกปรกจากนอกบ้านมา แล้วมาทำให้ภายในบ้านคุณเปรอะเปื้อนได้

ST-Week5_4

7. สำหรับใครที่ชอบพาสุนัขหรือแมวไปนอนในห้องนอนด้วย คุณต้องหมั่นดูดฝุ่นบนเตียงและนำชุดผ้าคลุมเตียงไปซักบ่อยกว่าปรกติ เพราะขนสัตว์จะติดเยอะมาก และอาจมีกลิ่นสะสมด้วย

เป็นเคล็ดลับง่ายๆ ไม่ยากเลย ไม่ว่าคุณจะมีสุนัขหรือแมวกี่ตัว ไม่ว่าคุณจะเลี้ยงระบบปิดหรือระบบเปิด ไม่ว่าคุณจะให้พวกมันเข้าไปนอนในห้องนอนด้วยหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าหากขยันดูแลความสะอาดอย่างถูกวิธีแล้วละก็ ก็จะได้ทั้งสุขอนามัยที่ดี บ้านที่สะอาด และความเป็นอยู่ที่สงบสบายอย่างแน่นอน 

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก สายธารกรุ๊ป www.saitharngroup.com หากมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ 095-556-5411

]]>
<![CDATA[4 เรื่องที่จะตามมาหากปล่อยให้อลูมิเนียมคอมโพสิตเสื่อม]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2018/2/169298/4-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2588 www.ddproperty.com:news:169298 Thu, 15 Feb 2018 07:05:50 +0700 4 เรื่องที่จะตามมาหากปล่อยให้อลูมิเนียมคอมโพสิตเสื่อม
4 เรื่องที่จะตามมาหากปล่อยให้อลูมิเนียมคอมโพสิตเสื่อม

แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า “แผ่นแซนด์วิช” วัสดุยอดนิยมที่เหล่าผู้ประกอบการมักใช้ในการตกแต่งห้างสรรพสินค้า โชว์รูมรถ อาคารสำนักงาน ฯลฯ เพื่อความสวยงามทันสมัยเป็นหลัก คุณรู้หรือไม่ว่า เจ้าวัสดุชนิดนี้ก็ต้องการการดูแลไม่แพ้วัสดุชิ้นอื่นๆ เช่นกัน และถึงแม้มันจะมีความคงทนแข็งแรงในระดับดี แต่ไม่ได้แปลว่าจะอยู่ยงคงกระพันตลอดกาล ถ้าหากไม่หมั่นดูแลรักษาให้ดี สภาพก็จะทรุดโทรมเร็ว และถ้าหากคุณปล่อยให้มันทรุดโทรมไปเรื่อยๆ แล้วละก็ บอกเลยว่าน่ากลัวมาก!

มาดู 4 ความน่ากลัวที่เกิดจากการปล่อยให้อลูมิเนียมคอมโพสิตทรุดโทรมกัน

Amanta (Ngamduplee)_180127_0007

1. ลูกค้าน้อยลง ผลประกอบการหดหาย
ถ้าสถานประกอบการของคุณตกแต่งด้วยอลูมิเนียมคอมโพสิตทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด แล้วสีเกิดซีดด่าง ลอกไม่มีชิ้นดี ก็จะทำให้อาคารดูโทรม ดูไม่น่าอภิรมย์ ดูไม่สะอาด ทำให้ลูกค้าไม่ค่อยอยากเข้าไปอุดหนุนหรือใช้บริการ และนั่นก็จะส่งผลให้รายได้ของกิจการคุณลดลงไปด้วย

2. อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ
บางครั้งแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตก็เกิดการบิ่น บิด หรือเผยอได้ ไม่ว่าตามอายุการใช้งาน หรือ เกิดจากการใช้งานแบบไม่ทะนุถนอมก็ตาม แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด คุณควรหมั่นตรวจตราแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตรอบๆอาคารของคุณ ถ้าหากเห็นสภาพที่ดูไม่สมประกอบแล้ว ไม่ควรปล่อยไว้ ควรทำการติดตั้งใหม่ให้เร็วที่สุด เพราะไม่อย่างนั้นแล้วตัวแผ่นจะมีแต่ชำรุดมากขึ้น สุดท้ายอาจหลุดออกมาแล้วไปโดนคนที่ผ่านไปผ่านมาในบริเวณนั้นได้

3. ต้องเสียเวลารีโนเวทนานกว่าปกติ 
ในกรณีที่แทบจะไม่เคยทำความสะอาดแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตเลย หรือทำความสะอาดผิดวิธี เมื่อถึงคราวที่ต้องซ่อม(รีโนเวท)แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตแล้ว จะทำให้เสียเวลารีโนเวทมากกว่าปกติ เนื่องจากสีจะลอก ด่างมาก

4. กระทบต่อชื่อเสียงของกิจการ
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกทุกวันนี้เป็นโลกแห่งเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเตอร์เน็ตที่เข้ามามีบทบาทกับทุกๆด้านในสังคมมาก รวมทั้งด้านการทำธุรกิจด้วย มีเว็บบอร์ดให้ชาวเน็ตสามารถโพสต์กระทู้ แสดงความคิดเห็น และแชร์ต่อไปกันได้อย่างไม่สิ้นสุด หรือสรุปได้ว่า อินเตอร์เน็ตนอกจากจะมีประโยชน์มหาศาลแล้วยังมีพลังทำลายล้างสูงมากด้วย

ถ้าหากกิจการมีคุณภาพ สถานประกอบการดูดี สะอาด เมื่อมีการแชร์กระทู้ออกไป ก็จะทำให้รายได้ของกิจการพุ่งพรวดอย่างรวดเร็ว ตรงกันข้าม ถ้าหากสถานประกอบการดูแย่ คุณปล่อยให้อลูมิเนียมคอมโพสิตทรุดโทรม จนอาคารดูแทบไม่ต่างอะไรกับโกดังเก็บของเก่าๆ ถ้าหากมีการแชร์กระทู้ออกไป จะทำให้กิจการเสื่อมเสียชื่อเสียง และหมดความน่าเชื่อถือได้

15

เพราะฉะนั้น อย่าปล่อยให้อลูมิเนียมคอมโพสิตทรุดโทรม หมั่นดูแลให้ถูกวิธีเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะได้ประหยัดทั้งงบประมาณ ทั้งเวลาในอนาคต

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก สายธารกรุ๊ป www.saitharngroup.com หากมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ 095-556-5411

]]>
<![CDATA[9 สิ่งที่ต้องทำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในบ้านที่อาจเกิดกับเด็ก]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2018/2/169147/9-%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b3-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%259b%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad www.ddproperty.com:news:169147 Sun, 11 Feb 2018 07:00:38 +0700 9 สิ่งที่ต้องทำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในบ้านที่อาจเกิดกับเด็ก
9 สิ่งที่ต้องทำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในบ้านที่อาจเกิดกับเด็ก

คุณคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า ‘ชีวิตของเราจะเปลี่ยนไปหลังจากคลอดลูก’ ทั้งเรื่องชีวิตส่วนตัวรวมถึงเรื่องบ้าน โดยเฉพาะเรื่องบ้านที่กว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมคงต้องใช้เวลาอีกหลายปี เพราะบ้านถือเป็นสถานที่ที่แรกที่เด็กจะได้ใช้เป็นพื้นที่เรียนรู้ในการปฏิบัติตัว ว่ามีอะไรบ้างที่เล่นได้และอะไรที่ไม่ควรซน เราคงไม่แนะนำให้ย้ายของทุกชิ้นที่มีออกจากบ้านเพียงเพราะคุณมีลูกเล็กหรือใกล้จะคลอด เพียงแต่ต้องเตรียมพร้อมเรื่องความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้น 

4 อย่างที่ต้องมีเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในบ้าน 

1. อุปกรณ์สำหรับป้องกันการบาดเจ็บที่นิ้วมือ เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งได้ง่าย เพียงแค่เอาไปติดไว้กับประตู และสามารถหยิบใช้ได้สะดวก แถมยังมีอุปกรณ์เสริมสำหรับประตูที่บางกว่าปกติ
2. ประตูป้องกันเด็กไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ต่างๆ สามารถช่วยลดอันตรายต่อเด็ก โดยการกั้นไม่ให้เด็กเข้าห้องครัวใกล้เตาร้อนๆ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ที่ใช้ล็อคบานตู้ไม่ให้เด็กเปิดตู้เองได้ เพื่อป้องกันเด็กโดนตู้หนีบนิ้ว
3. ยางติดขอบโต๊ะ ควรติดแผ่นยางตามมุมโต๊ะเพื่อป้องกันลูกเดินชนหรือกระแทก ในกรณีมีแผ่นกระจกวางไว้บนโต๊ะควรย้ายออกไปไว้ที่อื่นก่อนชั่วคราวจนกว่าลูกจะโต
4. ชั้นวางหนังสือและลิ้นชักใส่เสื้อผ้าแบบยึดติดกับผนัง เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์คว่ำได้ง่าย เวลาลูกปีนป่ายอาจถูกล้มทับได้ง่าย

9 สิ่งที่ต้องทำเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในบ้าน 

1. เวลาเลือกซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับเด็กควรได้มาตรฐาน เช่น เตียง ชิงช้า รถเข็น ควรศึกษาข้อมูลต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการเลือกอุปกรณ์และของใช้สำหรับเด็กที่ได้มาตรฐาน ซึ่งถูกออกแบบและทดสอบเพื่อความปลอดภัยของเด็ก
2. เก็บสายไฟ และวัตถุชิ้นเล็กที่เด็กสามารถกลืนลงคอให้พ้นมือเด็ก เพราะในช่วงที่ฟันของลูกน้อยกำลังจะขึ้น เด็กจะคันเหงือกและอยากกัดทุกอย่างที่คว้าได้ 
3. เก็บผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มักมีสีสันสดใสและกลิ่นหอมให้พ้นมือเด็ก เนื่องจากน้องๆ หนูๆ ยังไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างน้ำผลไม้และน้ำยาทำความสะอาด ดังนั้นจึงควรเก็บให้พ้นมือเด็ก ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
4. หน้าต่างควรมีที่ล็อคอย่างแน่นหนาเพื่อป้องกันเด็กพลัดหล่นจากตึก นอกจากนี้ไม่ควรวางเตียงเด็กหรือเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ไว้ใกล้หน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ เพราะ เด็กอาจปีนป่ายและตกตึกได้
5. ไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่บนโต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อมตามลำพัง เพราะเด็กอาจกลิ้งตกลงมาหรือไม่ก็ค่อยๆ ขยับตัวมาจนถึงขอบโต๊ะได้
6. ควบคุมอุณหภูมิของเครื่องทำน้ำอุ่นที่ลูกสามารถเปิดปิดได้ด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันน้ำร้อนลวกซึ่งสามารถสร้างความเจ็บปวดได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผิวที่บอบบางของเด็ก
7. ไม่ควรใช้หมอนและผ้าห่มที่มีน้ำหนักมากบนที่นอนเด็ก ผ้าห่มที่ควรใช้ควรเป็นผืนใหญ่ผืนเดียวที่สามารถเก็บชายผ้าห่มไว้ที่ใต้เบาะได้ ซึ่งจะปลอดภัยกว่าการใช้ผ้าห่มหลายๆ ผืน ที่อาจพันตัวเด็กได้
8. ควรผูกเชือกสำหรับดึงผ้าม่านให้สั้นลงและพ้นมือเด็ก
9. เครื่องหอมและดอกไม้แห้งควรเก็บให้พ้นมือเด็ก น้ำมันและสารเคมีต่างๆ ก็เช่นเดียวกัน เพราะว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสารพิษ แต่เด็กๆ อาจคิดว่าเป็นขนม

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

ขอบคุณบทความจากเว็บไซต์ theAsianparent.com เว็บไซต์ให้คำแนะนำด้านการเลี้ยงลูกอันดับ 1 ในประเทศไทย

]]>
<![CDATA[5 สิ่งที่ต้องเตรียม ถ้าอยากรีโนเวทบ้านให้สวยเหมือนใหม่]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2018/2/169067/5-%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25a1-%25e0%25b8%2596%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25ad www.ddproperty.com:news:169067 Thu, 08 Feb 2018 10:40:32 +0700 5 สิ่งที่ต้องเตรียม ถ้าอยากรีโนเวทบ้านให้สวยเหมือนใหม่
5 สิ่งที่ต้องเตรียม ถ้าอยากรีโนเวทบ้านให้สวยเหมือนใหม่

อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า การรีโนเวทบ้านทั้งทีไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการรีโนเวท แล้วยังต้องมีการดีไซน์งานอย่างรอบคอบ ว่าจะต้องทำอย่างไร ให้บ้านออกมาดูสวย น่าอยู่กว่าเดิมอย่างที่่ตั้งใจไว้หรือจะต้องทำอย่างไรถึงจะพลิกโฉมสภาพบ้านที่เก่าโทรมได้สำเร็จ

ฉะนั้นวันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝากกัน กับ ‘5 สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมก่อนการรีโนเวทบ้าน’ เพื่อให้งานออกมาดี คุ้มกับเงินที่คุณทุ่มจ่ายไปทุกบาททุกสตางค์ เรียกได้ว่า ยิ่งอยู่ ยิ่งมีความสุข จะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกัน 

1. การเลือกแบบ
คุณอาจออกแบบงานรีโนเวทเอง หรืออาจจ้างสถาปนิกมาช่วยออกแบบก็ได้ ‘แบบ’ ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด คุณควรมีแบบอย่างละเอียด เพื่อที่ทีมช่างจะได้รู้ว่าควรแก้ไขอะไรตรงไหน จะได้บ้านหรือคอนโดฯ ที่ออกมาแล้วเป็นอย่างที่คุณต้องการ ไม่ผิดพลาด

2. การคำนวณค่าใช้จ่าย
คุณควรกำหนดงบประมาณโดยคร่าวๆ ว่า ด้วยกำลังทรัพย์ที่คุณกำลังมีอยู่ในขณะนี้ ควรทุ่มเงินให้กับการรีโนเวทบ้านไม่เกินงบเท่าไหร่ดี เพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาหนี้สิน หรือใช้งบจนสิ้นเนื้อประดาตัวภายหลัง 

อ่านต่อ: รีโนเวทบ้านอย่างไรให้ประหยัดงบประมาณมากที่สุด 

Week3_S2

3. การคิดถึงประโยชน์ใช้สอยในระยะยาว
การรีโนเวทบ้านอาจจะช่วยให้บ้านดูสวย น่าอยู่ขึ้นก็จริง แต่คุณก็ไม่ควรยึดติดกับตรงนี้มากเกินไป ไม่ควรเน้นรีโนเวทเพื่อความสวยงามอย่างเดียว ตรงกันข้าม ควรคิดถึงประโยชน์การใช้สอยในอนาคตด้วย ว่าเมื่อรีโนเวทไปแล้ว จะได้ใช้ประโยชน์คุ้มกับเงินที่จ่ายไปไหม เช่น รีโนเวทห้องน้ำให้ใหญ่โตมโหฬาร ดูสวยหรู ใส่ทั้งอ่างน้ำอุ่น  อ่างอาบน้ำวนเข้าไปสารพัด แต่สุดท้ายแทบไม่ได้แตะเลย ใช้แต่ฝักบัวอาบน้ำเหมือนเดิม อย่างนี้เรียกว่าไม่คุ้มและเสียเงินโดยใช่เหตุ

4. ที่อยู่อาศัยชั่วคราวระหว่างการรีโนเวท
คุณไม่สามารถอยู่อาศัยที่บ้านได้ในขณะรีโนเวท เนื่องจากจะมีการรื้อถอน ตอกตะปู ก่อผนัง และมีอุปกรณ์วางเกะกะมากมาย จึงอาจไม่ปลอดภัยทั้งต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต ไม่สะดวกสบายเหมือนอย่างเคย ดังนั้นก่อนคิดจะลงมือรีโนเวทบ้าน จึงควรหาที่อยู่ชั่วคราวไว้ให้เรียบร้อยก่อน ไว้สำหรับอยู่อาศัยไปจนก่อนกว่าบ้านจะรีโนเวทเสร็จ

Week3_S3

5. การเลือกเฟอร์นิเจอร์ใหม่ 
ไม่จำเป็นต้องซื้อมาเตรียมไว้ล่วงหน้าก็ได้ แต่ระหว่างที่บ้านกำลังรีโนเวท หรือให้ดีที่สุดคือก่อนจะเริ่มการรีโนเวท ควรเริ่มมองหาเฟอร์นิเจอร์ใหม่ที่จะนำมาใส่ในบ้านได้แล้ว โดยอาจแค่ตระเวนดูตามร้านขายเฟอร์นิเจอร์เฉยๆ หรือตระเวนดูแล้วนำมาร่างใส่ไว้ในแบบคร่าวๆ ก็ได้ เมื่อถึงเวลาที่ตกแต่งแล้วจะได้ทำง่ายๆ และเสร็จช่วยให้การตกแต่งบ้านของเราเสร็จเร็วกว่าที่คิด 

อ่านต่อ: รวมแบบบ้านสวยที่อาจเป็นไอเดียในการรีโนเวทบ้านใหม่ 

ทั้งนี้นอกจาก 5 ข้อที่ได้แนะนำให้เตรียมตัว ยังอาจมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย ที่คุณสามารถนำมาประยุกต์รวมกันได้ แต่ขอให้จำไว้ง่ายๆ อย่างเดียวว่า “การรีโนเวทบ้านนั้น ไม่ควรรีบร้อน หุนหันพลันแล่นเด็ดขาด!” แต่ค่อยๆให้ดูไปเป็นขั้นเป็นตอน ดูให้ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยก่อน แล้วจึงค่อยเริ่มรีโนเวท เพราะเป็นงานที่ละเอียด ยุ่งยาก ถ้าหากทำไปโดยขาดการตัดสินใจที่ดีแล้ว สุดท้ายงานออกมาพลาด อาจแก้ไขอะไรไม่ได้อีกเลยก็เป็นได้

Week3_S4

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก สายธารกรุ๊ป www.saitharngroup.com หากมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ 095-556-5411

]]>
<![CDATA[6 วิธี ดูแลรักษาแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต ให้สีสวย อยู่ทนนาน]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2018/2/168754/6-%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5-%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a9%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%259c%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%25a1 www.ddproperty.com:news:168754 Thu, 01 Feb 2018 12:09:07 +0700 6 วิธี ดูแลรักษาแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต ให้สีสวย อยู่ทนนาน
6 วิธี ดูแลรักษาแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต ให้สีสวย อยู่ทนนาน

แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่า “แผ่นแซนด์วิช (Sandwich Panel)” ตามลักษณะของมันที่พื้นผิวด้านนอกเป็นอลูมิเนียม ส่วนไส้ในเป็นวัสดุยืดหยุ่นนั้น ถือเป็นวัสดุที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในปัจจุบันขาดไม่ได้ เพราะวัสดุตัวนี้สามารถนำมาสร้างอาคารสำนักงานได้อย่างสวยงาม ดูทันสมัย อีกทั้งยังมีความคงทนอยู่ในระดับดีเลยทีเดียว

เราอาจเคยเห็นแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตที่ว่านี้ตามห้างสรรพสินค้า โชว์รูมรถ บีทีเอส และที่อื่นๆ มาแล้ว สังเกตได้ไม่ยาก พื้นผิวจะมีลักษณะกึ่งเงากึ่งด้าน

205301

เมื่อตอนติดตั้งใหม่ๆ แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตอาจจะดูสวย สีสันสดใส พื้นผิวเรียบเนียนดี แต่เมื่อเวลาผ่านไป ถ้าหากผู้ประกอบการไม่บำรุงรักษาให้ดี อายุการใช้งานของมันก็จะสั้นลงๆ สีก็จะหลุดลอก ด่าง พื้นผิวมีริ้วรอย ทำให้สถานประกอบการดูทรุดโทรม ไม่สวยงาม ไม่ดึงดูดลูกค้าเหมือนเดิม อาจส่งผลให้ผลประกอบการลดลงตามไปด้วย

เพราะฉะนั้น อย่าปล่อยให้แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตเสื่อมสภาพง่ายๆ เด็ดขาด ควรหมั่นดูแลอยู่เสมอ โดยวันนี้เราได้รวบรวม 6 เคล็ดลับที่ทั้งดีและง่าย เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตมาฝากสำหรับคนที่สนใจอยากทำธุรกิจ ลองมาดูพร้อมๆ กันเลย

205304

1. หลีกเลี่ยงการใช้วัสดุที่แข็งและหยาบ เช่น สก็อตไบรท์ ฝอยขัดหม้อ หรือแปรงขัดห้องน้ำ ในการทำความสะอาดแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต เพราะจะทำให้เกิดริ้วรอยบนพื้นผิวได้ง่าย ให้ใช้เป็นผ้าที่นุ่มและหมาด จะดีที่สุด
2. หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยา สารทำความสะอาดที่เป็นกรดหรือด่าง หรือสารเคมีใดๆ ก็ตามที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง เพราะถึงแม้ว่ามันอาจช่วยขจัดคราบสกปรกได้จริง แต่ในขณะเดียวกันก็จะทำให้ทั้งสีและพื้นผิวของแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตเสียหายไปด้วย ดังนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสภาวะเป็นกลาง หรือถ้าหากเลือกไม่ได้ ให้ใช้น้ำที่มีอุณหภูมิประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส ผสมกับสบู่ในปริมาณเล็กน้อยแทน
3. ให้ทำความสะอาดจากส่วนบนสุดลงมาล่างสุด เพื่อที่ฝุ่นหรือคราบสกปรกจะได้ร่วงลงพื้นทีเดียว ไม่ไปเปรอะเปื้อนส่วนที่ทำความสะอาดแล้ว
4. ควรปิดท้ายขั้นตอนการทำความสะอาด ด้วยการใช้น้ำเย็นล้าง เพื่อเป็นการกำจัดคราบต่างๆ ออกไปอีกครั้ง
5. ในกรณีที่เลือกทำความสะอาดแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตด้วยเครื่องทำความสะอาด ควรระมัดระวังเลือกเครื่องที่ไม่มีส่วนประกอบที่อาจไปขูดพื้นผิวจนเกิดริ้วรอยได้
6. ควรทำความสะอาดแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตทุกๆ ปี ปีละอย่างน้อย 1 ครั้ง

เห็นอย่างนี้แล้ว ก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติตาม เพราะเมื่อแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตอยู่ได้นานแล้ว ก็จะไม่ต้องซ่อมบ่อยหรือติดตั้งใหม่ ซึ่งจะเป็นการประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย ทำให้ไม่เปลืองต้นทุนกิจการด้วย ส่งผลให้สุดท้ายแล้วกิจการของเรามีผลกำไรมากขึ้นกว่าที่คิด 

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก สายธารกรุ๊ป www.saitharngroup.com หากมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ 095-556-5411

]]>
<![CDATA[5 ข้อเข้าใจผิด (มหันต์) เรื่องการรีโนเวทอลูมิเนียมคอมโพสิต]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2018/1/168462/5-%25e0%25b8%2582%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2582%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%259c%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2594-%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%258c-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b7 www.ddproperty.com:news:168462 Thu, 25 Jan 2018 08:54:17 +0700 5 ข้อเข้าใจผิด (มหันต์) เรื่องการรีโนเวทอลูมิเนียมคอมโพสิต
5 ข้อเข้าใจผิด (มหันต์) เรื่องการรีโนเวทอลูมิเนียมคอมโพสิต

อลูมิเนียมคอมโพสิตเป็นวัสดุก่อสร้างที่มีมาได้หลายปีแล้ว สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก ลองนึกถึงโชว์รูมรถยนต์ ศูนย์การค้าหลายๆ แห่ง หรือบีทีเอสดู เหล่านี้นิยมใช้อลูมิเนียมคอมโพสิตตกแต่งทั้งสิ้น อลูมิเนียมคอมโพสิตมีลักษณะเป็นแผ่น โดยเปลือกนอกคืออลูมิเนียม ประกบกับไส้กลางที่เป็นวัสดุที่ยืดหยุ่น คล้ายแซนวิช วิธีการติดตั้งคือจะต้องสร้างโครงเหล็กเป็นที่ยึดก่อน จากนั้นจึงค่อยแปะแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตลงไป

จุดแข็งของอลูมิเนียมคอมโพสิต ที่ทำให้เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่เลือกใช้ตกแต่งสถานประกอบการ
ก็คือความสวยงาม และรูปลักษณ์ที่ดูทันสมัยของมันนั่นเอง แต่ก็เช่นเดียวกับสิ่งของทุกอย่างบนโลก ที่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว สภาพก็ต้องเปลี่ยนแปลงไป สีต้องซีด จาง ด่าง ไม่สวยงาม และถ้าหากถามเจ้าของอาคารที่ตกแต่งด้วยอลูมิเนียมคอมโพสิตสักแห่งว่า “คุณจะทำอย่างไร ถ้าหากแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตบนอาคารของคุณนั้นสีซีด ไม่สวยเหมือนเดิมแล้ว?” เชื่อว่าคำตอบส่วนใหญ่จะต้องเป็น “แน่นอนอยู่แล้ว เราก็ติดตั้งใหม่สิ ไม่อย่างนั้นจะให้ทำอย่างไร?”

อ่านบทความอื่นๆ ในหมวดรอบรู้เรื่องบ้าน  

BTS Thonglor

แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการติดตั้งแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตใหม่นั้นต้องใช้เงินมหาศาล
หนึ่งตารางเมตรตกอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาท ยิ่งชำรุดมากก็ยิ่งต้องเสียเงินมาก ในจำนวนนี้ยังไม่รวมค่ารื้อถอน เสียทั้งงบประมาณทั้งเวลา ดังนั้นจึงมีวิธีที่ดีและประหยัดกว่าการติดตั้งใหม่ นั่นคือการซ่อม หรือรีโนเวท (Renovate) นั่นเอง

หลายคนอาจรู้จักแต่การรีโนเวทบ้านและอาคาร ส่วนการรีโนเวทอลูมิเนียมคอมโพสิตนั้นไม่คุ้นหูเท่าไหร่ ฉะนั้นวันนี้เราจึงรวบรวม 5 ประเด็นเกี่ยวกับการรีโนเวทอลูมิเนียมคอมโพสิต ที่คิดว่ามีคนเข้าใจผิดมากที่สุดมานำเสนอ พร้อมให้คำตอบที่ถูกต้องแทน เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจแก่กลุ่มผู้ประกอบการ และเจ้าของอาคาร

5 ความเข้าใจผิดๆ ในการรีโนเวทอลูมิเนียมคอมโพสิต

mobiaX

1. คิดว่าการรีโนเวทอลูมิเนียมคอมโพสิตนั้นเป็นเรื่องเพ้อฝัน เป็นไปไม่ได้
ต้องบอกว่าเป็นไปได้อย่างแน่นอน! เพราะแม้แต่บ้านหรืออาคารที่เก่าโทรม จนแทบจะเป็นซากปรักหักพังอยู่รอมร่อ ยังสามารถรีโนเวทให้สวย เจิดจรัสได้ ดังนั้นแค่แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตที่ชำรุดเพียงเล็กน้อย ก็ย่อมต้องแก้ไขได้เหมือนกัน
2. คิดว่าการรีโนเวทอลูมิเนียมคอมโพสิต แพงพอๆ กับการติดตั้งใหม่อยู่ดี
ไม่จริง! เพราะการติดตั้งใหม่ต้องมีทั้งการรื้อถอนออกอย่างยุ่งยาก ด้วยความที่ใต้แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตนั้นมีโครงเหล็กยึดไว้ ทำให้ต้องใช้แรงงานคนมากกว่า และนั่นจะทำให้การรีโนเวทประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการติดตั้งใหม่ถึง 70%
3. คิดว่าการรีโนเวทอลูมิเนียคอมโพสิต ไม่ใช่เรื่องจำเป็น 
จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาคารแสดงสินค้า ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน เมื่ออลูมิเนียมคอมโพสิตสีซีดจางจะทำให้อาคารดูเก่า ไม่น่าเข้ามาใช้บริการ
4. คิดว่าการรีโนเวทอลูมิเนียมคอมโพสิต จะใช้เวลานาน 
ผิดถนัด การรีโนเวทนั้นใช้เวลาเร็วกว่าติดตั้งใหม่ถึง 70% เพราะว่ามีการดำเนินการแค่เรื่องสีกับรอยเท่านั้น ถ้าแผ่นมีการบิดเบี้ยว กรณีนี้จะไม่สามารถรีโนเวทได้ ต้องติดตั้งใหม่เท่านั้น
5. คิดว่าการรีโนเวทอลูมิเนียมคอมโพสิต ไม่มีความปลอดภัย 
ตรงกันข้ามเลย การรีโนเวทอลูมิเนียมคอมโพสิตนั้นมีความปลอดภัยมากถึง 99% เพราะจะไม่มีการติดตั้งและรื้อถอน ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีเศษวัสดุตกหล่นลงมาสร้างความเสียหายให้แก่บุคคล สิ่งของ และสถานที่อย่างแน่นอน

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก สายธารกรุ๊ป www.saitharngroup.com หากมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ 095-556-5411

]]>
<![CDATA[เก็บกวาดบ้านหลังงานปาร์ตี้ ขจัดคราบร้ายให้อยู่หมัด]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2018/1/167491/%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3 www.ddproperty.com:news:167491 Wed, 03 Jan 2018 04:13:06 +0700 เก็บกวาดบ้านหลังงานปาร์ตี้ ขจัดคราบร้ายให้อยู่หมัด
เก็บกวาดบ้านหลังงานปาร์ตี้ ขจัดคราบร้ายให้อยู่หมัด

แม้จะสนุกสุดเหวี่ยงกับงานปาร์ตี้แค่ไหน แต่ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ถ้าไม่อยากให้ตอนจบกลายเป็นฝันร้ายของเจ้าบ้านที่ต้องจัดการกับภาระยิ่งใหญ่ที่รออยู่ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร เครื่องดื่ม ภาชนะกองโต โดยเฉพาะคราบสกปรกทั้งหลายที่ทิ้งร่องรอยไว้ เรามีวิธีการทำความสะอาดบ้านหลังจากปิดฉากงานเลี้ยงให้สมบูรณ์แบบมาฝาก

จัดการกับพื้นบ้าน
หลังจากเก็บกวาดภาชนะใสอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนใหญ่รอยเปื้อนต่างๆ มักจะปรากฏตามพื้นและผนังให้ต้องจัดการ โดยเฉพาะถ้าบ้านเป็นพื้นปาร์เก้ที่ทำความสะอาดยาก ซึ่งถ้าละเลยหรือมองข้ามไปและทำให้คราบฝังลึก ตัวไม้อาจจะสึกเป็นรอยและสีซีดด่างได้

ดังนั้น เราควรทำความสะอาดกวาดเศษฝุ่นผงและใช้ผ้าหมาดเช็ดซ้ำ โดยไม่ใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรด เพราะอาจจะกัดเนื้อไม้ให้เสียหายได้ เช่นเดียวกับพื้นกระเบื้องหินที่ไม่ควรใช้สารเคมีที่เป็นกรด เพราะจะทำลายเนื้อหินและเกิดรอยด่างได้ แต่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดพื้นผิวที่เป็นหิน หินอ่อน หรือหินปูนโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถนำมาละลายกับน้ำให้เจือจางและใช้ไม้ถูพื้นตามปกติ

แม้แต่พื้นพรมที่มีร่องรอยความสกปรกหลงเหลือก็สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น คราบไวน์แดงที่หกเลอะเทอะ เราสามารถทำความสะอาดด้วยการใช้ฟองน้ำแห้งซับความชื้นออกจากพรมให้ได้มากที่สุด ก่อนจะใช้เกลือป่นลงบนคราบให้ทั่วและทิ้งไว้ 15 นาที จึงใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดให้หมดจด รวมถึงรอยจุดเล็กๆ บนพื้นพรม ซึ่งเราสามารถใช้ของคู่ครัวอย่างน้ำส้มสายชูจัดการ โดยผสมกับน้ำเปล่าจัดการได้ในสัดส่วนอย่างละ 1 ต่อ 4 ถ้วยตวง เพื่อนำมาขัดล้างบริเวณที่มีรอยคราบ

young housewife wearing protection mask, holding cleaning supplies against white background


อ่านเทคนิคเพิ่มเติมกำจัดคราบสกปรกให้อยู่หมัดและเจาะลึกเรื่องพื้นให้มากขึ้น 

เทคนิคในการกำจัดคราบบนผนัง 
เรื่องพื้นๆ ต้องดูแล 

ขจัดคราบน้ำมัน
นอกเหนือจากรอยเปื้อนที่พื้นแล้ว คราบน้ำมันยังเป็นอีกภาระที่เราต้องจัดการ ไม่ว่าจะเป็น รอยน้ำสลัด มายองเนส โลชั่น ซึ่งเราสามารถใช้ฟองน้ำหรือผ้าขนหนูชุบน้ำผสมเบกกิ้งโซดานำมาขัดออกได้ หรือใช้น้ำอุ่นช่วยขจัดคราบที่ฝังแน่นให้ขัดง่ายขึ้น

ขณะที่คราบน้ำมันส่วนใหญ่มักติดอยู่ในห้องครัวมากที่สุด ซึ่งเราควรใช้น้ำยาทำความสะอาดในบริเวณที่เลอะน้ำมัน โดยใช้กระดาษชำระปูทับและทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที เพื่อให้คราบน้ำมันติดกระดาษชำระ จากนั้นจึงเช็ดซ้ำอีกครั้งให้สะอาด ส่วนคราบน้ำมันที่อยู่บนเตาแก๊สในห้องครัว เราสามารถใช้น้ำต้มข้าวต้มเช็ด โดยรอให้น้ำข้าวจับตัวแห้งเป็นแผ่นและลอกออกได้อย่างง่ายดาย

สำหรับคราบเขม่าบนผนังห้องครัว เรายังสามารถจัดการทำความสะอาดได้ด้วยการใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดกำจัดฝุ่น และนำน้ำยาซักผ้าขาวประมาณ 2 ถ้วยผสมกับน้ำอุ่น 1 ถังและน้ำสบู่ 6 ถ้วย โดยใช้ผ้าชุบน้ำยาที่ผสมเรียบร้อยมาเช็ดผนังที่เลอะคราบเขม่าสกปรกได้

77001108_XXL

รอยเปื้อนอาหารและเครื่องดื่ม
หากเป็นรอยเปื้อนบนผ้าปูโต๊ะปกติเราอาจจะยังสามารถทำความสะอาดด้วยการซักล้างได้ไม่ยาก โดยใส่พริกไทยดำผสมในน้ำยาซักผ้าเล็กน้อย เพื่อให้เส้นใยผ้าของผ้าปูโต๊ะคงสีสันสดใส เพราะการซักอาจจะทำให้ผ้าปูโต๊ะสีซีดจางได้ รวมถึงการซักทำความสะอาดควรหลีกเลี่ยงการใช้สบู่ โดยเฉพาะรอยเปื้อนคราบกาแฟ น้ำผลไม้ เบียร์ ไวน์ เหล้า เพราะจะยิ่งทำให้รอยเปื้อนติดคงทนกว่าเดิม แต่ควรใช้ผ้าขนหนูหรือฟองน้ำชุบน้ำอุ่นขัดออก หรือใช้น้ำยาขจัดเชื้อราเป็นตัวช่วยให้ขัดออกง่ายขึ้น

นอกจากนั้น คราบแห้งจากซอสที่เปื้อนผ้าปูโต๊ะ เรายังสามารถซักล้างด้วยการแช่ผ้าลงในน้ำเย็นผสมสบู่ล้างมือครึ่งช้อนชาและน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ โดยทิ้งไว้ 30 นาทีจึงใช้น้ำสะอาดล้างออก หากยังมีคราบเหลือก็ให้ใช้น้ำยาขจัดคราบไคลทำความสะอาดอีกครั้ง และซัดด้วยน้ำอุ่น ก่อนจะเป่าให้แห้ง แต่ถ้ายังออกไม่หมดก็ให้แช่ในน้ำยาซักผ้าประมาณ 20 นาทีและใช้น้ำอุ่นทำความสะอาดอีกครั้ง แต่ห้ามใช้ความร้อนขณะที่คราบยังไม่ออกเด็ดขาด เพราะจะมีผลให้คราบยิ่งติดแน่นฝังลึกมากขึ้น โดยรอยเปื้อนที่ติดเป็นคราบแห้งกรัง เราอาจจะลองใช้แอลกอฮอลล์สำหรับทำแผลและสเปรย์แต่งผมช่วยขจัดคราบ ด้วยการใช้แอลกอฮอลล์ และสเปรย์ฉีดลงบนคราบเปื้อนและเช็ดออกได้อย่างง่ายดาย

ส่วนโต๊ะรับแขกที่ไม่มีผ้าปูรองเปื้อนไว้มักจะปรากฎรอยคราบน้ำของเครื่องดื่มเป็นวงๆไม่สวยงาม ซึ่งเราควรรีบทำความสะอาด ด้วยการใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำแตะยาสีฟันเล็กน้อย เพื่อนำมาขจัดคราบและใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง จากนั้นจึงใช้ผ้าแห้งเช็ดให้หมดจด

ทางที่ดีที่สุดหลังจบงานปาร์ตี้ เราอาจจะทยอยทำความสะอาดบ้าน โดยลองขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่แสนดีหรือสมาชิกในครอบครัวให้ร่วมด้วยช่วยกันเก็บกวาดบ้าน เพื่อจะได้ไม่ต้องแบกรับภาระอยู่คนเดียว และสนุกกับช่วงเวลาหลังงานเลี้ยงมากขึ้น 

ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจซื้อหรือขายหรือให้เช่าหรือเช่าอสังหาฯ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งอีกหนึ่งแหล่งที่น่าสนใจคือรายงานดัชนีอสังหาฯ DDproperty Property Index  และ
รายงานภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Market Outlook 

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[จัดบ้านรับปีใหม่ เฮงๆ รวยๆ ตลอดปี]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/12/167443/%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ae%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2586-%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a7 www.ddproperty.com:news:167443 Sat, 30 Dec 2017 06:30:34 +0700

เหลืออีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่ศักราชใหม่แล้ว หลายคนต่างไปช้อปปิ้ง เอาฤกษ์เอาชัยซื้อเฟอร์นิเจอร์ของใช้เข้าบ้าน อันเปรียบเสมือนการต้อนรับสิ่งดีๆ ที่กำลังจะมาถึง รวมไปถึงขั้นตอนการจัดบ้าน ใช่ว่าจำเป็นต้องทำให้สะอาดเอี่ยมอ่องอย่างเดียว เพราะถ้าหากจัดบ้านถูกหลักขั้นตอนของฮวงจุ้ย รับรองว่าได้ทั้งบ้านเรียบร้อยและเฮงๆ รวยๆ ตลอดปีอย่างแน่นอน

หลักของจัดบ้านรับทรัพย์มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
การจัดบ้านรับทรัพย์ แนะนำว่าให้แบ่งโซนที่ต้องการจะจัดบ้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้าน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องนอน หรือครัว โดยเริ่มจัดทีละส่วน เพื่อให้ถูกต้องต้องตามหลักฮวงจุ้ย ซึ่งเน้นเรื่องทิศทางหรือโทนสีที่ตรงกับธาตุต่างๆ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. จัดบ้านรับปีใหม่ เริ่มต้นตั้งแต่หน้าบ้าน
เป็นที่รู้กันดีว่าบริเวณหน้าบ้าน เปรียบเสมือนจุดรับพลังงานเข้าบ้าน ดังนั้นบริเวณหน้าบ้านจึงควรทำความสะอาดไม่ให้รกรุงรัง ประกอบกับจำเป็นต้องจัดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้เงินทองไหลเข้าบ้านได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมกับถือว่าเป็นการต้อนรับสิ่งดีๆ ต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

สิ่งสำคัญในการจัดบ้านรับปีใหม่ นอกจากถูกหลักฮวงจุ้ยแล้ว ต้องคำนึงความสะอาด เรียบร้อยเป็นสำคัญ

สิ่งสำคัญในการจัดบ้านรับปีใหม่ นอกจากถูกหลักฮวงจุ้ยแล้ว ต้องคำนึงความสะอาด เรียบร้อยเป็นสำคัญ

2. จัดบ้านให้มีความสุข ด้วยการเลือกสีสดใส บริเวณห้องนั่งเล่น
ตามความเชื่อของศาสตร์ฮวงจุ้ย ห้องนั่งเล่นเปรียบเสมือนหัวใจหลักของบ้าน เนื่องจากเป็นจุดต้อนรับแขก และเป็นแหล่งรวมความบันเทิงของรคนในบ้าน ดังนั้นการจัดบ้านบริเวณห้องนั่งเล่น จึงควรเลือกใช้โทนสีสดใส อันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ความสุขของคนในบ้าน โดยเฉพาะโทนสีม่วงและแดง ที่มีความเชื่อว่าสีเหล่านี้เป็นตัวแทนของธาตุไฟ ช่วยให้สร้างบรรยากาศความรื่นรมย์ในการสนทนาภายในห้องนี้ได้อย่างเป็นสุข

3. จัดบ้านอยู่แล้วรวย จากของมงคลในห้องนอน
ห้องนอน นอกจากจะเป็นมุมพักผ่อนภายในบ้านแล้ว ยังสามารถจัดบ้านให้กลายเป็นแหล่งเงินทองได้อีกด้วย วิธีง่ายๆ เพียงนำของมงคลมาเสริมตกแต่งภายในห้องนอน ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นปลาทอง หรือเพื่อเป็นการต้อนรับปี 2561 อาจหารูปปั้นสุนัขมาจัดวางเพื่อเสริมมงคลในห้องนอนได้

4. จัดบ้านให้ร่มเย็น จากต้นไม้สีเขียวในห้องน้ำ
ต้นไม้สื่อได้ถึงความร่มเย็น สงบสุข และเป็นสัญลักษณ์ของธาตุไม้ ดังนั้นเพื่อเป็นการทำให้ห้องน้ำนั้นเปรียบเสมือนไตของบ้าน มีความสงบ น่าเข้าไปทำธุระต่างๆ จึงควรจัดบ้านส่วนนี้ด้วยเหล่าต้นไม้ ดอกไม้ พร้อมด้วยทาสีฟ้าช่วยให้เกิดความรู้สึกสงบ สดชื่น ประกอบกับตามศาสตร์ฮวงจุ้ยเชื่อว่า ต้นไม้ และดอกไม้ จะช่วยเสริมเงินทอง ดังนั้นเมื่อจัดบ้านเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมหมั่นดูแลรักษาด้วย มิฉะนั้นจากพลังงานดีอาจกลายเป็นร้ายได้

จัดบ้านให้ถูกหลัก ไม่ว่าจะห้องไหน ต้องขจัดของอัปมงคล

จัดบ้านให้ถูกหลัก ไม่ว่าจะห้องไหน ต้องขจัดของอัปมงคล

5. จัดบ้านให้ถูกหลัก ไม่ว่าจะห้องไหน ต้องขจัดของอัปมงคลให้หมด
เมื่อจัดบ้านส่วนต่างๆ ของบ้านให้มีความสะอาด สดใส น่าอยู่ รับเงินทองแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่ควรลืมคือ การตรวจตราดูของใช้ภายในบ้าน มีสิ่งไหนแตกหัก ชำรุดบ้าง ถ้ามีควรรีบซ่อมแซมให้ดี ส่วนอันไหนไม่ใช้งานแล้วก็ให้กำจัดทิ้งไป สืบเนื่องจากของเหล่านี้เปรียบเสมือนลางร้ายให้กับสมาชิกและครอบครัวภายในบ้าน อีกทั้งตามศาสตร์ฮวงจุ้ยมีความเชื่อว่าหลอดไฟ เปรียบเสมือนแสงสว่างนำทางความมมงคลเข้าบ้าน ดังนั้นจึงควรตรวจดูหลอดไฟต่างๆ ภายในบ้าน พร้อมรีบเปลี่ยนซ่อมแซมให้เรียบร้อยก่อนเข้าปีใหม่

ทริปการจัดบ้านเสริมโชคชะตาเฉพาะด้าน
การจัดบ้านที่ดี นอกจากจะต้องทำให้สะอาดถูกต้องตามศาสตร์ฮวงจุ้ยแล้ว จำเป็นต้องคำนึงถึงการจัดบ้านเสริมโชคชะตาเฉพาะด้าย อย่างในกรณีที่ต้องการให้ลูกฉลาด ควรหันโต๊ะทำงานหรือชั้นวางหนังสือให้ถูกทิศ เช่น ในกรณีที่ตัวบ้านหันไปทางทิศตะวันตก ให้เลือกโซนจัดวางโต๊ะอ่านหนังสือไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หรือถ้าตัวบ้านหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ให้หันชั้นวางหนังสือไปทางทิศใต้ เฉกเช่นเดียวกับคนที่ต้องการเสริมความรัก ก็ควรเลือกห้องนอนในทิศนี้เช่นกัน

เรื่องของการจัดบ้านรับปีใหม่ เรียกว่าเหมาะกับคนที่เพิ่งซื้อบ้าน และกำลังย้ายเข้าไปอยู่อย่างมาก เพราะถือว่าเป็นการจัดบ้านเอาฤกษ์เอาชัย สร้างความสิริมงคลตั้งแต่แรกเริ่มที่เข้าบ้านใหม่เลยทีเดียว เรื่องของศาสาตร์ฮวงจุ้ยจะว่าไปเชื่อไว้ก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะไม่แน่หากลุกขึ้นมาจัดบ้านตามเทคนิคดังกล่าวเบื้องต้นแล้ว อาจนำโชคลาภเข้ามาต้อนรับปีใหม่ก็เป็นได้

สำหรับคนที่เพิ่งซื้อบ้านใหม่ นอกจากจำเป็นต้องศึกษาฮวงจุ้ยของการจัดบ้านแล้ว ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนตัดสินใจซื้อหรือขายหรือให้เช่าหรือเช่าอสังหาฯ จากแหล่งข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมด้วย ทั้งจาก รายงานดัชนีอสังหาฯ DDproperty Property Index  และ รายงานภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Market Outlook

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[5 เทคนิคจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย เฮงรับปีใหม่]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/12/166840/5-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25ae%25e0%25b8%25a7 www.ddproperty.com:news:166840 Fri, 22 Dec 2017 07:28:16 +0700 5 เทคนิคจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย เฮงรับปีใหม่
5 เทคนิคจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย เฮงรับปีใหม่

[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] เชื่อว่าทุกคนย่อมอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ดวงดี มีโชคลาภ ร่ำรวยเงินทอง แล้วรู้หรือไม่ว่าแหล่งโกยโชคที่เห็นผลที่สุดก็คือ บ้านที่คุณอยู่อาศัยนั่นเอง เคล็ดไม่ลับตำรับเสริมโชคลาภเสริมสิริมงคลให้ชีวิต ก็คือ “การจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย” เพื่อช่วยเปิดทางให้โชคลาภเงินทองไหลเข้ามาหาคนในครอบครัวได้ดีขึ้น

ถ้าไม่เชื่อลองย้ายเฟอร์นิเจอร์บางชิ้น หรือเสริมของตกแต่งบางอย่างตามหลักฮวงจุ้ย แล้วคุณจะรู้ว่าบ้านที่ยิ่งอยู่ ยิ่งรวย ดวงยิ่งดี เป็นอย่างนี้นี่เอง

จัดบ้านให้โล่ง ไร้สิ่งกีดขวาง
“พื้นที่โล่ง” คือหลักสำคัญของการจัดบ้านตามหลังฮวงจุ้ย โดยเฉพาะทางเดิน ที่ห้ามมีสิ่งของใดๆ วางกีดขวางอยู่ ควรจัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย หรือหากห้องมีบริเวณกว้าง ให้ลองจัดทางเดินเป็นวงกลม จะช่วยให้การเงินหมุนเวียนคล่องตัวไม่ติดขัด ทั้งยังช่วยให้บ้านแลดูกว้างขวางขึ้นด้วย

ทั้งนี้ แบบบ้านทุกหลังของโครงการบ้านจัดสรรต่างๆ มักตอบโจทย์การใช้สอยได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ ส่วนใหญ่จะมีพื้นที่ด้านล่างในลักษณะโปร่ง กว้าง โล่ง และเป็นสี่เหลี่ยม ซึ่งนอกจากจะจัดสรรพื้นที่ได้ลงตัวแล้ว ยังสอดคล้องกับหลักฮวงจุ้ยอีกด้วย เพราะบ้านที่เปิดโล่ง ทำให้พลังงานจะไหลเวียนได้สะดวกไม่ติดขัดนั่นเอง

Luxury Living Room

แสงส่องถึง จัดว่าดี
ใครที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านที่มีความดาร์ก ดิบ หรือแสงน้อยๆ อาจจะไม่ปลื้มการจัดบ้านตามฮวงจุ้ยในข้อนี้ เพราะหลักที่ถูกต้องในการแต่งบ้านก็คือ การใช้โทนสีธรรมชาติและเปิดรับแสงธรรมชาติ เพื่อทำให้บ้านดูสว่างสดใสขึ้น จิตใจผู้อยู่อาศัยก็จะเบิกบานตามสภาพแวดล้อม

ถ้าคุณจัดแสงให้บ้านแลดูสลัว แสงน้อย นอกจากจะทำให้บ้านดูทึบตันแล้ว ยังทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกอึดอัด เพราะอากาศถ่ายเทได้ไม่สะดวก เพื่อให้เป็นไปตามหลักฮวงจุ้ย ควรปล่อยให้แสงแดดส่องเข้ามาภายในตัวบ้านให้ครบทุกห้อง จะยิ่งเสริมให้โชคลาภไหลเวียนเข้ามาในห้องง่ายขึ้น แต่หากใครชอบให้บ้านค่อนข้างมืด เพื่อจะได้พักผ่อนนอนหลับแบบไม่มีแสงรบกวน ต้องใช้ผ้าม่านแบบโปร่งแสงชั้นหนึ่ง และแบบทึบอีกชั้นหนึ่ง หรือใช้มูลี่เป็นตัวช่วย และทันทีที่อยู่นอกเหนือเวลาพักผ่อน ให้รีบเปิดหน้าต่างหรือผ้าม่าน เพื่อให้แสงส่องเข้ามาในตัวบ้านให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

เก็บกวาดครัวให้สะอาดเสมอ
ห้องครัวถือเป็นอีกหนึ่งห้องสำคัญของบ้าน เพราะเป็นพื้นที่ๆ ส่งผลต่อความร่ำรวยและสุขภาพของคนในบ้านโดยตรง เพื่อเป็นการเสริมดวง ปัดเป่าโรคภัยให้ผู้อยู่อาศัย ควรปัดกวาดเช็ดถูห้องครัวเป็นประจำ อย่าปล่อยให้รก และควรจัดเก็บจานชามให้เรียบร้อย เพื่อให้พลังงานหมุนเวียนได้สะดวก ที่สำคัญคือ ควรเคลียร์ของเสียในตู้เย็นออกเสมอ

หันหัวเตียงผิด ชีวิตเปลี่ยน
ตามหลักฮวงจุ้ย การหันหัวเตียงไปชิดผนังด้านที่เป็นห้องน้ำถือว่าไม่ค่อยดีนัก ยิ่งถ้าเป็นจุดที่ตั้งของชักโครก ยิ่งส่งผลเสียไปกันใหญ่ เพราะจะทำให้คนในบ้านมีอารมณ์แปรปรวนได้ง่าย อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย พลอยทำให้โชคลาภหดหายตามไปด้วย ที่สำคัญ อย่าลืมจัดห้องนอนให้สะอาด เคลียร์ของที่ไม่จำเป็นออก อย่าลืมว่าพื้นที่โล่งเป็นจุดสำคัญของการจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

จัดมุมทำงาน เสริมพลังความสำเร็จ
ใครว่าบรรยากาศการทำงานไม่สำคัญ ในเมื่อมุมทำงานที่ดีจะยิ่งทำให้เราเกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆ และเป็นมุมที่จะผลิตเงินให้แก่เราโดยตรง เพื่อเป็นการเสริมอำนาจในการทำงาน ให้วางของที่มีความสูงมากที่สุดไว้ด้านซ้ายของโต๊ะ หรือหากอยากดูดซับพลังงานที่ดี ให้หาแก้วใส่น้ำและหินเก๋ๆ มาวางประดับตรงด้านหน้าโต๊ะ ซึ่งถือเป็นจุดรับพลังงานต่างๆ ที่จะไหลเข้ามาสู่โต๊ะทำงานโดยตรง

Front view picture of studio workplace with blank notebook, laptop

แม้ว่าการจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย จะช่วยเสริมดวงทั้งด้านครอบครัว การเงิน การงาน แต่ก็เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งที่จะช่วยเปิดรับพลังบวก และเสริมสร้างความสำเร็จ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือ ตัวบ้าน ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง

ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางของ “The Palm” โครงการบ้านเดี่ยวย่านพัฒนาการ ทำให้บ้านแห่งนี้เต็มไปด้วยความหรูหราสง่างาม เหมาะกับทุกครอบครัวที่ต้องการยกคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ทั้งได้อาศัยอยู่ท่ามกลางสังคมคุณภาพที่มีความเป็นส่วนตัว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย Pruksa_14-5

Pruksa_14-4

เมื่อคุณเลือกทำเลและแบบบ้านที่ถูกใจได้แล้ว ก็เหลือเวลาในการจัดบ้านรับทรัพย์ เสริมดวง กันแบบชิลๆ ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[ลงทุนให้คุ้มค่า เลือกรุ่นแอร์ให้เหมาะกับ Property]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/12/163291/%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25b8%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%2584%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b8 www.ddproperty.com:news:163291 Thu, 21 Dec 2017 03:05:53 +0700 ลงทุนให้คุ้มค่า เลือกรุ่นแอร์ให้เหมาะกับ Property
ลงทุนให้คุ้มค่า เลือกรุ่นแอร์ให้เหมาะกับ Property

[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] หนึ่งในองค์ประกอบการสำคัญของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ นั่นก็คือ การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเหมาะสม เพราะสิ่งเหล่านี้นอกจากเป็นตัวสะท้อนภาพลักษณ์ของโครงการแล้ว ยังให้ประโยชน์สูงสุดกับโครงการด้วย

หากย้อนไปในอดีต การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ จะเน้นเรื่องราคาถูก เพื่อคุมต้นทุนการก่อสร้างเป็นหลัก แต่การพัฒนาโครงการในยุคใหม่มีแนวทางในการเลือกวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะการหันมาให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เหมาะกับลักษณะของโครงการนั้นๆ  มากกว่าคำนึงเฉพาะเรื่องต้นทุน เพราะท้ายที่สุดแล้ว หากเลือกวัสดุอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับโครงการ ก็จะเป็นผลดีกับต้นทุนในการดูแลโครงการนั้นๆ ในระยะยาว เช่นเดียวกับการเลือกเครื่องปรับอากาศ แม้ว่าจะเป็นวัสดุอุปกรณ์ที่จะอยู่ในขั้นตอนใกล้จะแล้วเสร็จของโครงการ แต่ก็สำคัญไม่แพ้วัสดุอุปกรณ์อื่นๆ ในงานก่อสร้าง และหากคำนึงถึงตั้งแต่เริ่มออกแบบ เริ่มก่อสร้าง ก็มีโอกาสที่จะเลือกเครื่องปรับอากาศที่เหมาะกับโครงการได้มากที่สุด และมีผลต่อต้นทุนในการดูแลในภายหลังด้วย เพราะต้องยอมรับว่า แม้ในระหว่างการก่อสร้างโครงการ เครื่องปรับอากาศไม่ใช่วัสดุอุปกรณ์ที่มีต้นทุนสูงที่สุด แต่ในการบริหารโครงการเมื่อสร้างเสร็จแล้ว เครื่องปรับอากาศเป็นอุปกรณ์ที่มีค่าใช้จ่ายสูงเป็นอันดับต้นๆ ยิ่งถ้าเลือกรุ่นที่ไม่เหมาะสม ยิ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนการบริหารโครงการในระยะยาวด้วย

สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเลือกเครื่องปรับอากาศ
อันดับแรก คือ วัตถุประสงค์ในการใช้งาน ส่วนเรื่องงบประมาณ และดีไซน์ความสวยงาม เป็นปัจจัยในการตัดสินใจรองลงมา ซึ่งหากเราเข้าใจธุรกิจของเรา เข้าใจวัตถุประสงค์ในการใช้งานเครื่องปรับอากาศในจุดต่างๆ แล้ว จะทำให้เราเลือกรุ่นเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสมได้ โดยเครื่องปรับอากาศที่มีจำหน่ายในท้องตลาด แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ 

Aerial view of a Cookie Cutter Neighborhood

ภาพของโครงการบ้านจัดสรร Property อีกประเภทหนึ่งที่จำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศเพื่อช่วยสร้างความสะดวกสบายให้ผู้พักอาศัย

1. กลุ่มเครื่องปรับอากาศเพื่อที่พักอาศัย โครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยเพื่อขายอย่างโครงการบ้านจัดสรร และโครงการคอนโดมิเนียม ผู้พัฒนาโครงการเหล่านี้หลายโครงการ มีจุดดึงดูดการตัดสินใจของลูกค้าด้วยโปรโมชันแถมเครื่องปรับอากาศ ซึ่งโครงการประเภทนี้ จะนิยมใช้เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง (Wall type) หรือแบบตั้ง/แขวน (Ceiling/floor type) โดยเลือก BTU ตามลักษณะของห้องแต่ละห้อง และพื้นที่ของห้อง

ซึ่งการเลือกยี่ห้อ เลือกประเภท และรุ่นของเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสมให้กับแต่ละห้อง ก็สะท้อนถึงความใส่ใจของผู้พัฒนาโครงการ ตัวอย่างเช่น กรณีที่เป็นบ้านจัดสรร เครื่องปรับอากาศในห้องนอน กับ ในห้องนั่งเล่น ส่วนใหญ่แล้วจะแตกต่างกัน เพราะห้องนั่งเล่นในบ้านจัดสรรรูปแบบใหม่ เพดานจะสูง ขนาดพื้นที่ในห้องจะค่อนข้างกว้าง จึงเหมาะกับเครื่องปรับอากาศที่มี BTUH มากกว่า เพื่อให้ความเย็นกระจายทั่วถึง ส่วนห้องนอน นอกจากคุณสมบัติเรื่องความเย็นแล้ว ยังต้องคำนึงถึงเรื่องความเงียบ ระบบระบายอากาศที่ทำงานได้ดีในช่วงเวลาหลับพักผ่อน ซึ่งวิธีการเลือกก็จะคล้ายกับห้องชุดในโครงการคอนโดมิเนียม ที่ห้องนั่งเล่น ส่วนใหญ่จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอน ก็ควรเลือกแอร์ที่เหมาะกับพื้นที่และการใช้งาน

อย่างไรก็ตามในโครงการบ้าน หรือคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์หลายแห่ง ก็เลือกใช้การติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบฝังเพดาน (Cassette type) ซึ่งหากวางแผนตั้งแต่การออกแบบ จะช่วยในเรื่องของดีไซน์โครงการระดับนี้ได้มาก ระบบเครื่องปรับอากาศจะถูกฝังไปกับผนัง ทำให้เกิดความสวยงาม ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการได้เป็นอย่างดี

2. กลุ่มเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์
แบ่งตาม Property แต่ละประเภท ซึ่งมีด้วยกัน 3 ประเภทหลักๆ

53594825 - building icons . vector illustration

ไม่ว่าจะเป็น Property ในรูปแบบใด ปัจจุบันนี้ก็จำเป็นจะต้องใช้เครื่องปรับอากาศทั้งนั้น

1. โครงการอาคารพาณิชย์/อาคารสำนักงาน ประเภทของเครื่องปรับอากาศ เช่น แบบตั้งแขวน แบบ Cassette, Duct,VRF
2. โครงการค้าปลีกประเภทของเครื่องปรับอากาศ เช่น Chiller, AHU
3. โครงการรีสอร์ท และบ้านพักตากอากาศ ประเภทของเครื่องปรับอากาศ เช่น Wall Type ,
Concealed 

ซึ่งแต่ละประเภท Property มีวัตถุประสงค์ การใช้งานเครื่องปรับอากาศแตกต่างกัน จึงควรเลือกรุ่นให้เหมาะสม เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ถูกต้อง

Property ประเภทโครงการอาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน โครงการค้าปลีก จะต้องมีการออกแบบระบบปรับอากาศที่เหมาะสมกับลักษณะพื้นที่ใช้สอยของโครงการ ระบบปรับอากาศที่เลือกใช้ส่วนใหญ่จะเลือกเป็นแบบรวมศูนย์ โดยใช้เครื่องทำน้ำเย็น (Chiller) เป็นตัวสร้างน้ำเย็น เพื่อจ่ายให้เครื่องส่งลมเย็น (Air Handing Unit :AHU) หรือ Fan Coil เป็นจุดปล่อยลมเย็นไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่ทำการออกแบบ โดยคำนึงถึงลักษณะพื้นที่ใช้สอยของโครงการ สถานที่ตั้ง ความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวโครงการ เพราะหากโครงการตั้งอยู่ในตำแหน่งที่โดนความร้อนจากแสงอาทิตย์ตรงๆ ก็ต้องออกแบบระบบระบายอากาศที่ทั้งช่วยระบายความร้อนออกจากตัวอาคาร เพื่อทำความเย็นได้เร็ว และไม่เปลืองพลังงานมาก โดยอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้ จะมีความแตกต่างจากประเภทที่อยู่อาศัยมาก เพราะส่วนใหญ่แล้วจะเลือกติดตั้งระบบปรับอากาศแบบฝังเพดาน ( Cassette-type) หรือแบบต่อท่อลม (Duct type) ซึ่งก็มีหลากหลายรุ่นตามความต้องการ

ในส่วนของโครงการรีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศ จะมีรายละเอียดที่แตกต่างจากประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่กล่าวมาพอควร เพราะมีพื้นที่การใช้งานที่แยกย่อยและแตกต่างวัตถุประสงค์ โดยหากเป็นโรงแรมที่พักขนาดใหญ่ ระบบปรับอากาศจะเป็นแบบฝังเพดาน (Cassette type) แต่ก็มีบางโครงการที่มีห้องย่อยแยกออกจากอาคารหลัก เช่น ห้องประชุม หรือห้องใช้งานเอนกประสงค์ ก็จะเลือกเครื่องปรับอากาศแบบตู้ตั้ง (Floor Standing) หรือแบบตั้ง/แขวน (Ceiling/floor type) ให้กับห้องลักษณะนี้เพื่อสะดวกในการใช้งานตามฟังก์ชัน 

ยิ่ง Property ประเภทรีสอร์ท ยิ่งต้องใช้ เพื่อรองรับแขกที่เข้าพัก

ส่วนรีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศขนาดเล็กหรือแบ่งห้องพักเป็นหลังๆ จะเลือกใช้เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง (Wall type) อาจเลือกติดตั้งระบบเครื่องปรับอากาศแบบฝังเพดาน (Cassette type) เพราะนอกจากจะช่วยเรื่องดีไซน์แล้ว เครื่องปรับอากาศแบบฝังเพดาน (Cassette type) ยังมีระบบการทำงานที่เงียบ กระจายลมทั่วทิศทางแบบ Round Flow 360 องศา และระบบกระจายลมแบบ Auto Swing ซึ่งเหมาะสมกว่าเครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง (Wall type) หรือแบบตั้ง/แขวน (Ceiling/floor type) อีกด้วย หากรีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศในที่นี้ตั้งอยู่ติดกับพื้นที่ชายทะเล แนะนำให้ใช้เครื่องปรับอากาศคู่กับ Condensing Unit ที่ตัวโครงสร้างทำจากไฟเบอร์กลาส เพื่อให้ทนต่อการกัดกร่อนจากไอเค็ม ไอลมทะเล หรือสภาวะที่มีความกัดกร่อนสูง ไม่เป็นสนิม ทนทาน เพื่อยืดอายุการใช้งานได้นาน เย็นอย่างสม่ำเสมอ และประหยัดไฟอีกด้วย

3. เครื่องปรับอากาศเชิงอุตสาหกรรม ในระบบโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่มักใช้ เครื่องทำน้ำเย็น (Chiller) มาประยุกต์ใช้ ไม่เพียงแต่ใช้สำหรับทำน้ำเย็น เพื่อใช้ในระบบปรับอากาศเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้ในกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม ตลอดจนไปถึงการใช้น้ำเย็น เพื่อไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆได้ เช่น กระบวนการหล่อเย็นของเครื่องจักรในกระบวนการผลิต การใช้น้ำเย็นในการเกษตร เป็นต้น

industrial chiller

industrial chiller

การทำงานของระบบ Chiller จะใช้พลังงานค่อนข้างสูงมาก ซึ่งเราสามารถเลือกเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานได้ เช่น Chiller ที่ใช้ระบบ Inverter เพื่อเป็นการประหยัดพลังงานและรักษาระบบการทำงานให้มีความเสถียรมากยิ่งขึ้น และยังสามารถเพิ่มจำนวนโหลดขึ้นได้เรื่อยๆ โดยการต่อตัว Chiller เพิ่มเข้าในระบบ นอกจากนั้นยังมีแผงระบายความร้อน (Coil) ที่พ่นสารกันการกัดกร่อน เพื่อเพิ่มความทนทาน ในโรงงานที่มีสภาวะการกัดกร่อนสูง เช่น โรงงานอาหารทะเล หรือ โรงงานผลิตกระดาษ เป็นต้น

เทคโนโลยีดังกล่าวถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างดีเยี่ยม เพราะไม่เพียงแค่ประหยัดพลังงาน แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอีกด้วย

engineering

สำหรับผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศในบ้านเราก็มีหลากหลายทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์จากต่างประเทศโดย UNI-Aire เป็นแบรนด์ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศของคนไทย 100% ที่ก่อกำเนิดขึ้นมายาวนานตั้งแต่ปี 2515 ผลิตทั้งเครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัย อาคารพาณิชย์ ไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย พร้อมทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ตามหลักปรัชญาในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งมั่นสร้างผลิตภัณท์ที่พร้อมไปด้วยดีไซน์ ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชัน การใช้งานและทุกความต้องการของลูกค้า เพื่อความยั่งยืนของชีวิตครอบคลุมทุกสายงาน

กลุ่มเครื่องปรับอากาศ UNI-Aire (ยูนิแอร์) รุ่นยอดนิยม ได้แก่

– รุ่น WRI เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง ระบบ inverter เต็มที่กับประสิทธิภาพการทำงานที่ให้ความเย็นเร็ว เงียบ ประหยัดไฟฟ้า ให้คุณเย็นกายสบายใจได้อย่างยาวนาน ขนาด 9,000–24,000 BTUH

1_WRI_edited

– รุ่น UFV เครื่องปรับอากาศแบบตั้งแขวน รายแรกในไทยที่ใช้น้ำยารักษ์โลก R32 ให้คุณประหยัดไฟได้มากกว่า ขนาด 13,000– 36,000 BTUH

2_UFV_edited

– รุ่น CSV เครื่องปรับอากาศแบบซ่อนใต้ฝ้า กระจายลมแบบ Round Flow ขนาด 18,000– 50,000 BTUH

CSV_edited20
– รุ่น CFHV เครื่องปรับอากาศแบบซ่อนใต้ฝ้า พร้อมหน้ากากกระจายลม ด้วยระบบ auto swing เฉพาะยูนิแอร์ ขนาด 13,000– 60,000 BTUH

4_CHFV edited20
– รุ่น TGV เครื่องปรับอากาศแบบตู้ตั้ง ดีไซน์ทันสมัยแบบโมเดิร์น ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายและติดตั้งได้ง่าย ปรับความเย็นทั่วถึงได้ดีแม้ในห้องที่มีพื้นที่กว้าง ทั้งยังทำงานเงียบไร้เสียงรบกวน
ขนาด 18,000– 36,000 BTUH

5_TGF edited20

– รุ่น AKQ คอนเดนซิ่งยูนิต ตัวถังไฟเบอร์กลาส เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความกัดกร่อนสูง ไม่ว่าจะเป็นแถบชายทะเลหรือโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถจับคู่เครื่องปรับอากาศได้ทุกประเภท ขนาด 12,000 – 60,000 BTUH

AKQ edited20

เลือกรุ่นของเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับ Property ของคุณ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน คอนโดมิเนียม หรือสำนักงาน ลดปัญหาจุกจิก คุ้มต้นทุน ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด คลิกชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.uni-aire.com และสามารถติดต่อได้หลายช่องทาง LINE@ ID : @uni-aire, Email: localsale@uni-aire.com, โทรศัพท์: 02-312-4500 ต่อ 310 และ Fax: 02-312-4277/02-750-1954

Contact Uni-Aire

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[เพิ่มชีวิตชีวาให้บ้านด้วยวอลเปเปอร์]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/12/166790/%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%258a%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2594 www.ddproperty.com:news:166790 Mon, 18 Dec 2017 05:07:40 +0700 เพิ่มชีวิตชีวาให้บ้านด้วยวอลเปเปอร์
เพิ่มชีวิตชีวาให้บ้านด้วยวอลเปเปอร์

แปลงโฉมบ้านใหม่ให้มีสีสันและชีวิตชีวาตามสไตล์ของเจ้าบ้านและสมาชิกในครอบครัวได้ง่ายๆ ด้วยการติดวอลเปเปอร์ใหม่ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ก่อนจะเริ่มต้นลงมือเพิ่มลูกเล่นให้บ้านสวยด้วยวอลเปเปอร์ ลองศึกษาและทำความเข้าใจเทคนิคการเลือกวอลเปเปอร์ไว้เล็กน้อย เพื่อให้มั่นใจกับการตัดสินใจสร้างสีสันให้ผนังบ้านของเรามากยิ่งขึ้น

คำนวณพื้นที่
หากคิดจะติดวอลเปเปอร์ควรเริ่มต้นจากการวัดพื้นที่เพื่อคำนวณปริมาณการใช้วอลเปเปอร์ให้เพียงพอ โดยวัดความกว้างและความสูงของผนังในแต่ละด้าน ก่อนจะนำมาคูณกันใช้หน่วยเป็นตารางเมตร ซึ่งวอลเปเปอร์สีพื้น ลายเล็ก และลายใหญ่ มีผลต่อระยะการต่อลายหรือเศษของวอลเปเปอร์ที่สามารถนำไปใช้กับพื้นที่หน้าต่าง ประตู หรือส่วนตกแต่งอื่นๆ

เช่น วอลเปเปอร์สีพื้นสามารถใช้ได้คุ้มค่ามากที่สุด เพราะไม่บังคับการต่อลาย จึงเหลือเศษน้อย และติดได้พื้นที่มากกว่าแบบมีลาย ซึ่งวอลเปเปอร์ลายเล็กจะเสียเศษน้อยกว่าและสามารถติดได้พื้นที่มากกว่าลายใหญ่ เนื่องจากการใช้วอลเปเปอร์ลายใหญ่มีระยะการต่อลายมากจึงเสียเศษมากกว่า

Male construction builder worker - foreman iengineer in a protective helmet, glasses on the background Brick wall ruler measures.Concept calculation copyspace

เลือกขนาดและวัสดุ
ความยากง่ายในการติดวอลเปเปอร์ขึ้นอยู่กับขนาดและชนิดของวอลเปเปอร์ที่เลือกใช้ ซึ่งส่งผลต่อการทำความสะอาดและระยะเวลาการใช้งานในอนาคต

สำหรับขนาดของวอลเปเปอร์โดยปกติจะแบ่งเป็นวอลเปเปอร์หน้าแคบ ซึ่งเป็นวอลเปเปอร์ขนาดมาตรฐานที่ใช้งานกันทั่วไป และได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยขนาดหน้ากว้าง 53 เซนติเมตร และความยาว 10 เมตร สามารถรีดไล่ฟองอากาศได้ง่ายและรวดเร็วกว่าวอลเปเปอร์ชนาดหน้ากว้างที่มีขนาดตั้งแต่ 70-150 เซนติเมตร และความยาวต่อม้วนประมาณ 10-50 เมตร รวมถึงวอลเปเปอร์ชนิด Border เป็นวอลเปเปอร์แถบคาดขนาดเล็กประมาณ 5-50 เซนติเมตร

ขณะที่ชนิดวัสดุยังมีให้เลือกหลากหลายประเภท เช่น วอลเปเปอร์กระดาษ ซึ่งต้องใช้ความสามารถในการติดสูง เพราะกระดาษบอบบางและขาดง่ายเวลาโดนกาว หรือการรีดไล่ฟองอากาศที่ต้องระมัดระวัง รวมถึงการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดอาจจะทำให้สีหลุดลอกซีดจาง หรือเป็นรอยด่างได้ เช่นเดียวกับวอลเปเปอร์โฟมที่ติดตั้งยาก เพราะเนื้อกระดาษซึมกาวและแห้งเร็ว ทำให้ต้องระวังวอลเปเปอร์ขาด ทั้งยังต้องพยายามติดให้เสร็จก่อนกาวแห้ง เพื่อไม่ให้งานเสียหายหรือเห็นรอยต่อการติดชัดเจน

ดังนั้น เราอาจจะเลือกใช้วอลเปเปอร์ไวนิลที่การต่อลายง่ายกว่าประเภทอื่น ทั้งยังมีความเหนียวและแข็งแรงไม่ขาดง่าย โดยสามารถยืดตัวได้มากเมื่อโดนกาว รวมถึงวอลเปเปอร์ประเภทผ้าที่ส่วนใหญ่เป็นแบบหน้ากว้าง ซึ่งการต่อลายนิยมใช้วิธีประกบตัด ด้วยคัตเตอร์กรีดครั้งเดียว โดยนำชิ้นหลังเกยทับชิ้นแรกประมาณ 1-2 เซนติเมตร เพื่อช่วยอำพรางรอยต่อให้เรียบเนียน

สีและลายให้แมตช์กับห้อง
วอลเปเปอร์แต่ละสีให้ความรู้สึกและบรรยากาศที่แตกต่างกัน นอกเหนือจากความชอบส่วนตัวของเราและสมาชิกในครอบครัว เรายังต้องคำนึงถึงการใช้งานในแต่ละห้อง สีของเฟอร์นิเจอร์ แสงไฟ และแสงสว่างที่ส่องกระทบวอลเปเปอร์ ซึ่งการเลือกใช้สีสำหรับวอลเปเปอร์ทั่วไปสามารถแบ่งออกเป็นสีโทนร้อน สีโทนเย็น และสีกลางที่อาจจะใช้แบบผสมผสานกันหรือเลือกใช้สีโทนใดโทนหนึ่งในห้องได้

สีโทนร้อน (warm color) เช่น แดง ส้ม ทอง เหลือง เป็นต้น สามารถใช้เน้นผนังบางส่วน เพื่อสร้างความโดดเด่น หรือเลือกใช้บางพื้นที่เมื่อเทียบกับองค์ประกอบโดยรวมของการตกแต่งห้อง รวมถึงการเล่นระดับสีให้ลดลงแบบวอลเปเปอร์สีเอกรงค์ (monotone) เช่น แดง ส้ม หรือ ส้ม เหลือง เพราะการใช้สีโทนร้อนในปริมาณมากจะทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกร้อนและอยู่ในห้องไม่ได้นาน

สีโทนเย็น (cool color) เช่น น้ำเงิน ม่วง คราม เขียวแก่ เป็นต้น เพราะสำหรับการตกแต่งห้องที่ใช้พักผ่อน ห้องทำงานของผู้บริหารที่ต้องการบรรยากาศความสงบและน่าเชื่อถือ ทั้งยังช่วยสร้างความรู้สึกความเป็นธรรมชาติ ร่มเย็นและผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

สีโทนกลาง (neutral color) เช่น สีขาว ดำ เทา น้ำตาล ครีม เป็นต้น เหมาะสำหรับการผสมคู่กับโทนสีอื่น โดยสามารถอยู่คู่กับทุกโทนสี เพื่อให้ความรู้สึกราบเรียบและสะอาดตา ทั้งยังสามารถช่วยลดความฉูดฉาดหรือการกระตุ้นอารมณ์ของสีโทนร้อนได้

ส่วนการเลือกลายวอลเปเปอร์แบ่งออกเป็นวอลเปเปอร์ลายใหญ่หรือสีเข้มควรเลือกใช้เฉพาะบางส่วนของห้อง เช่น พื้นที่หัวเตียง หรือส่วนที่ต้องการเน้นให้โดดเด่นขึ้นมา แต่ไม่ควรใช้กับผนังทุกด้านภายในห้อง เพราะจะทำให้รู้สึกอึดอัด คับแคบ รกสายตา และเบื่อง่าย ทั้งยังสิ้นเปลืองงบประมาณจากระยะการตัดต่อลายใหญ่ที่มักจะเสียเศษมากกว่า

ในทางตรงกันข้ามวอลเปเปอร์ลายเรียบหรือลายเล็กจะช่วยให้รู้สึกว่าขนาดห้องกว้างขวางขึ้น สว่าง และดูสบายตา รวมถึงการต่อลายยังเสียเศษน้อยกว่า จึงเหมาะกับการตกแต่งห้องขนาดเล็กที่มีพื้นที่จำกัดหรือห้องที่มีการตกแต่งรายละเอียดมาก รวมถึงห้องที่มีการบิลท์อินเฟอร์นิเจอร์

นอกจากนั้น เรายังสามารถเลือกใช้วอลเปเปอร์ลายทาง เพื่อช่วยให้ห้องดูโปร่งหรือสูงขึ้นสำหรับห้องเพดานเตี้ย รวมถึงการเลือกวอลเปเปอร์ให้เข้ากับสไตล์การแต่งห้อง ด้วยการผสมหลายโทนสีในแนวเดียวกัน หรือตัดกันเพิ่มความโดดเด่นสะดุดตามากขึ้นได้ หรือจะทำวอลเปเปอร์ DIY ด้วยตนเองก็ได้ 

5 DIY วอลเปเปอร์ติดผนังแบบง่ายๆ ปรับลุคบ้านใหม่ให้ดูดี 

ท้ายสุดอย่าลืมคำนวณงบประมาณในการตกแต่งแบบเผื่อเหลือดีกว่าเผื่อขาด ทั้งค่าใช้จ่ายวอลเปเปอร์ที่มีหลายระดับราคาและคุณภาพให้เลือก ค่าแรงของช่างที่ชำนาญการติดวอลเปเปอร์ และค่าอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราควรตกลงกับช่างให้เรียบร้อยถึงขอบข่ายการทำงาน ระยะเวลางานแล้วเสร็จ และคุณภาพของวอลเปเปอร์ที่นำมาใช้ วางแผน 6 ขั้น ก่อนปรับปรุงบ้าน-คอนโด เพื่องบไม่บานปลาย 

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[4 ข้อควรท่องจำ ก่อนคิดจะทาสีห้อง]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/12/165982/4-%25e0%25b8%2582%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2597%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b3-%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b0 www.ddproperty.com:news:165982 Mon, 04 Dec 2017 08:10:02 +0700 4 ข้อควรท่องจำ ก่อนคิดจะทาสีห้อง
4 ข้อควรท่องจำ ก่อนคิดจะทาสีห้อง

การทาสีห้องไม่ใช่แค่เลือกเฉดสีที่โดนใจ แต่ยังต้องอาศัยความสามารถในการทาสีให้เรียบเนียนและใช้งานได้ในระยะยาว แม้จะจ้างช่างทาสีที่มีความชำนาญและประสบการณ์สูง แต่เรายังไม่ควรวางใจให้ช่างทาสีบ้านของเรา โดยไม่ใส่ใจศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อน เพราะถ้าพลาดพลั้งไป นอกจากจะต้องแก้ไขให้เสียเวลาแล้วยังต้องเสียเงินเริ่มต้นใหม่ให้เสียอารมณ์อีก

เลือกช่างจากผลงาน

ถ้าตัดสินใจจะจ้างช่างทาสีที่มีประสบการณ์แทนการลงมือทาสีเอง เราควรเริ่มต้นหาข้อมูล ด้วยการสอบถามผู้ที่เคยใช้บริการมาก่อน และดูผลงานที่ผ่านมาของช่างทาสีประกอบด้วย

โดยอาจจะลองให้ช่างแวะดูสถานที่จริงก่อน เพื่อตีราคาค่าทาสีและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งควรครอบคลุมการเตรียมพื้นที่และการเตรียมพื้นผิวผนัง ได้แก่ การทำความสะอาด การลงน้ำยากำจัดคราบเชื้อราในบริเวณที่เป็นคราบดำ การอุดโป๊ยรอยแตก การทาสีรองพื้น รวมถึงค่าอุปกรณ์ต่างๆ เช่น แปรงทาสี พลาสติกคลุมเฟอร์นิเจอร์ เพื่อเปรียบเทียบราคาและผลงานของช่างอย่างน้อย 2-3 รายให้คุ้มค่ามากที่สุด

นอกจากนั้น เราควรสอบถามในรายละเอียดต่างๆ ให้เข้าใจและเป็นข้อตกลงกันตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน ไม่ว่าจะเป็น ขั้นตอนการทาสี การเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์และการทำความสะอาดหลังทาสีเสร็จ เป็นต้น วิธีการชำระเงิน ได้แก่ ค่ามัดจำ และการแบ่งจ่ายในแต่ละงวด โดยเฉพาะงวดสุดท้ายที่ควรตรวจสอบงานให้สำเร็จเรียบร้อยจึงชำระเงิน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง รวมถึง การรับประกันคุณภาพงาน ระยะเวลาการประกัน การแก้ไขซ่อมแซมหากสีมีการหลุดร่อนออก สีซีดจาง เป็นต้น

หลังตัดสินใจเลือกช่างทาสีบ้านเรียบร้อยและพูดคุยถึงข้อตกลง ทั้งรายละเอียดการทำงาน และเงื่อนไขการชำระค่าใช้จ่ายแล้ว เรายังไม่ควรไว้วางใจและส่งมอบหน้าที่ทั้งหมดให้กับช่างทาสีโดยไม่ได้ทำสัญญาระบุข้อตกลง ระยะเวลา หรือการรับประกัน แม้จะเป็นช่างที่คนรู้จักแนะนำมาก็ตาม เพราะหากมีปัญหาเกิดขึ้น เราก็มีสัญญาช่วยเพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

รู้งบประมาณจากขนาดพื้นที่

หากไม่ต้องการให้งบประมาณบานปลาย นอกเหนือจากค่าจ้างช่าง เราควรต้องรู้ขนาดของพื้นที่ทาสี เพื่อแจ้งให้ช่างคำนวณหาราคา ทั้งค่าแรงและปริมาณสีที่ต้องใช้ให้เพียงพอ

สำหรับการวัดพื้นที่ให้วัดทั้งผนังภายนอก และภายใน รวมถึงฝ้าเพดาน ด้วยการวัดความกว้าง x ยาว และนำพื้นที่ทั้งหมดรวมกัน เพื่อคำนวณปริมาณการใช้สี โดยสี 1 แกลลอนสามารถใช้ทาครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 30 ตารางเมตร ซึ่งความยากอยู่ที่การทาซ้ำหลายรอบ ทำให้อาจจะต้องใช้สีหลายแกลลอน

เช่น ถ้าทาสีภายนอกประมาณ 300 ตารางเมตร ใช้สี 10 แกลลอนประมาณ 1 ครั้งเป็นสีรองพื้น ก่อนจะใช้สีทับหน้าหรือสีจริงที่ต้องการประมาณ 2 ครั้งหรือประมาณ 20 แกลลอน โดยรวมอาจจะต้องใช้สี 30 แกลลอน เช่นเดียวกับการทาสีภายในบ้านที่ทารองพื้น 1 ครั้งและทาสีจริงอีก 2 ครั้งเป็นสีทับหน้า

เลือกเฉดสีให้ตอบโจทย์

สารพัดเฉดสีที่เราสามารถเลือกใช้แต่งแต้มบ้านของเรา ซึ่งในแต่ละเฉดสีสามารถส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของผู้อยู่อาศัยได้แตกต่างกัน นอกเหนือจากจะเลือกตามความชอบและไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัวแล้ว เรายังคงเลือกใช้สีที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ห้องอ่านหนังสือใช้โทนสว่าง ห้องนั่งเล่นใช้สีอบอุ่น ห้องนอนใช้สีที่ผ่อนคลาย ห้องนอนเด็กใช้สีที่สบายตา

นอกจากนั้น เรายังควรเลือกสีที่สามารถใช้งานได้นาน ไม่เบื่อง่าย โดยสามารถทาสีสร้างลูกเล่นให้บ้านดูไม่เรียบเกินไป และไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด เช่น การทาสีผนังชั้นล่างให้เข้มกว่าผนังชั้นบน หรือการสร้างลวดลายตัดสีกัน ซึ่งการเลือกใช้สีทาผนังควรพิจารณาถึงเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งภายในห้องให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน

อย่ามองข้ามคุณภาพ

ถ้ามีงบประมาณเพียงพอ เราควรเลือกใช้สีทาบ้านคุณภาพดี เพื่อให้สามารถใช้งานได้ในระยะยาว และได้เนื้องานที่เรียบเนียนสวยงาม ซึ่งดีกว่าเลือกใช้สีทาบ้านราคาถูกแต่คุณภาพไม่ดี ทำให้ต้องเสียเงินปรับปรุงแก้ไขแพงกว่าเดิม นอกจากนั้น เรายังสามารถเลือกใช้สีทาบ้านที่มีคุณสมบัติกำจัดคราบหรือทำความสะอาดได้ง่าย เพื่อช่วยยืดเวลาการใช้งานได้นานยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันเราควรให้ความสำคัญกับส่วนผสมของสารเคมีในสีที่เลือกใช้ โดยเฉพาะสีที่เขียนกำกับว่า Low-VOC หรือ Non-VOC ซึ่งค่า VOCs (Volatile Organic Compounds) คือ สารประกอบอินทรีย์ระเหย หรือสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย โดยมีลักษณะเป็นของเหลว มีกลิ่นฉุน ระเหยได้ ง่าย ไวไฟ ส่วนใหญ่จะปะปนในอากาศ เครื่องดื่ม อาหาร สีทาบ้าน ควันบุหรี่น้ำยาย้อมผม ไอน้ำมัน

ทั้งนี้ สาร VOCs มักจะอยู่ในส่วนประกอบของสีน้ำทาอาคาร และสามารถเข้าสู่ร่างกายของเราได้ทั้งทางผิวหนังทางปากและจากการสูดดม ส่งผลต่อสุขภาพทำให้ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ อ่อนเพลีย ทำลายระบบประสาท และหากได้รับสารเป็นระยะเวลานานอาจจะก่อให้เกิดมะเร็ง หรืออวัยวะภายในถูกทำลาย ซึ่งค่า VOCs นับเป็นมาตรฐานสากลที่ประเทศพัฒนาแล้ว เช่น ประเทศในยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น ถือเป็นมาตรฐานสำคัญในการวัดระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์กรีน

ท้ายสุดหากมองเห็นความผิดพลาดเกิดขึ้น อย่าลังเลที่จะทักท้วงหรือสอบถามช่างทาสี เพื่อให้สามารถแก้ไขได้ทันเวลา และไม่เกิดปัญหาบานปลายที่ยากต่อการแก้ไข

ทั้งนี้ยังมีบทความเกี่ยวกับเรื่องสีบ้านที่คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ หากคุณสนใจ 

สีทาบ้าน เขียนได้ ลบออก สวรรค์ของคนรักบ้าน  
6 ข้อควรรู้ ทาสีบ้านได้เองไม่ง้อช่าง 
เลือกสีบ้านตามหลักฮวงจุ้ย vs อารมณ์ 
เลือกสีทาบ้านอย่างไรให้ลงตัว 
วิธีเนรมิตผนังสไตล์ปูนเปลือยง่ายๆ ด้วยตัวเอง  

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[เปลี่ยนวัสดุประตูใหม่ให้โดนใจ]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/11/165629/%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588%25e0%25b9%2583 www.ddproperty.com:news:165629 Mon, 27 Nov 2017 09:13:21 +0700 เปลี่ยนวัสดุประตูใหม่ให้โดนใจ
เปลี่ยนวัสดุประตูใหม่ให้โดนใจ

การซ่อมแซมหรือเปลี่ยนประตูใหม่สามารถเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างจากเดิมได้ เพื่อให้เหมาะสมสอดคล้องกับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ความชอบของสมาชิกในครอบครัว หลังศึกษาข้อมูลใน 3 ขั้นตอนเลือกประตูห้องให้ตอบโจทย์แล้ว ลองดูรายละเอียดข้อดีและข้อเสียของวัสดุประตูแต่ละประเภทที่เราสามารถเลือกเปลี่ยนให้โดนใจได้

ประตูไม้

วัสดุธรรมชาติที่มีให้เลือกหลากหลาย เช่น ไม้สัก ไม้เต็ง ไม้แดง เป็นต้น ซึ่งอายุการใช้งานหรือความทนทานขึ้นอยู่กับคุณภาพของไม้ที่เลือกใช้ หากเป็นไม้คุณภาพดีที่มีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศสามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกจะมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 15 ปี แต่หากเลือกใช้ไม้คุณภาพไม่ดีอาจจะเกิดปัญหาพองตัว บิด โก่ง งอ หรือแตกหัก โดยเฉพาะหากนำไปใช้งานภายนอก ประตูไม้อาจจะใช้ได้เพียงไม่กี่ปี เพราะวัสดุไม่ทนกับสภาพความร้อนสูงหรือความชื้น

สำหรับประเภทของไม้แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อน โดยไม้เนื้อแข็งส่วนใหญ่จะมีความแข็งแรงทนทานมากสามารถนำใช้งานภายนอกที่ต้องตากแดด ตากฝนได้เป็นอย่างดี แต่มีข้อเสียเรื่องการบิดตัวของไม้เวลาเกิดความร้อนและความชื้น ทำให้ไม้หดตัวและขยายตัวได้ เช่น ไม้เต็ง ไม้รัง ไม้แดง ไม้มะค่า ไม้ตะแบก

ส่วนไม้เนื้ออ่อนจะมีความแข็งแรงทนทานน้อยกว่าจึงนิยมใช้สำหรับงานตกแต่งภายในและส่วนโครงสร้างของเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เน้นรับน้ำหนัก โดยมีตั้งแต่สีจางอ่อนถึงสีเข้มและหลายระดับราคาให้เลือก เช่น ไม้สัก ไม้ยางพารา ไม้จำปา เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ประตูไม้ควรระมัดระวังปัญหาปลวก ซึ่งอาจจะป้องกันด้วยการอัดน้ำยากันปลวกหรือเลือกไม้อบแห้งช่วยเพิ่มความแข็งแรงทนทานขึ้น

นอกจากนั้น เราอาจจะเลือกประตูไม้สังเคราะห์ (Wood Plastic Composite Door) เนื่องจากเป็นไม้เทียมที่ผสมกันระหว่างเยื่อไม้และพลาสติก ทำให้มีคุณสมบัติทนต่อสภาพอากาศ ทนปลวก ไม่บวมน้ำ ไม่บิดงอ และทนต่อเชื้อรา ทั้งยังมีลวดลายทำสีเก็บงานเหมือนไม้ธรรมชาติ โดยได้รับความนิยมใช้งานทั้งภายนอกและภายในบ้าน

door hinge installation

ประตูอลูมิเนียม

วัสดุที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีหลายระดับราคาให้เลือกตามคุณภาพหรือเกรดของอลูมิเนียม ด้วยคุณสมบัติทนแดด ทนฝน และไม่เป็นสนิม รวมถึงสีสันให้เลือกมากมาย ทั้งยังสั่งทำได้ในรูปแบบหรือขนาดตามที่ต้องการ โดยสามารถดูแลรักษาหรือทำความสะอาดได้เพียงแค่ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาด

อย่างไรก็ตาม การติดตั้ง ตั้งแต่ขนส่งต้องระมัดระวัง เพราะอลูมิเนียมเป็นวัสดุที่มีความเปราะบาง รวมถึงคุณสมบัติการนำความร้อนที่เก็บสะสมไว้ในวงกบและบานประตู ซึ่งไอร้อนจากผิวอลูมิเนียมอาจจะทำให้อุณหภูมิภายในไม่เสถียร ส่งผลต่อการทำงานของเครื่องปรับอากาศและการใช้พลังงาน รวมทั้งปัญหาการกร่อนตัวจากความชื้นหรือไอเค็มจากทะเล โดยภายในอลูมิเนียมที่มีลักษณะกลวงอาจจะทำให้มีปัญหาการป้องกันเสียง และฝุ่นจากภายนอกที่เล็กลอดตามขอบวงกบประตู

ประตูยูพีวิีซี (UPVC)

ถ้าต้องการวัสดุที่ป้องกันเสียงดังหรือเสียงรบกวนจากภายนอก เราสามารถเลือกใช้ประตูยูพีวีซี ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถเป็นฉนวนกันความร้อนหรือความเย็นได้เป็นอย่างดี ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า ป้องกันฝุ่น และสามารถออกแบบหรือผลิตได้หลากหลายรูปแบบตามต้องการ ทั้งยังสามารถทำความสะอาดได้ง่าย เพียงแค่ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีทำความสะอาด

แม้การเลือกใช้ยูพีวีซีจะมีข้อดีเรื่องการเก็บเสียงหรืออุณหภูมิ แต่ไม่เหมาะสำหรับใช้เป็นประตูภายนอกที่โดนแดด หรือโดนฝน โดยอาจจะใช้กับประตูภายนอกที่มีหลังคาหรือในร่ม รวมถึงระดับราคาที่สูงกว่าประตูอลูมิเนียม ซึ่งราคาเริ่มต้นของยูพีวีซีมักจะสูงกว่าอลูมิเนียมเกรดล่าง และการติดตั้งต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดำเนินการ เพราะหากผิดพลาดจะแก้ไขงานหรือเก็บงานยากกว่าอลูมิเนียม

ประตูพีวีซี (PVC)

วัสดุที่ได้รับความนิยมใช้เป็นประตูห้องน้ำแทนวัสดุไม้ เพราะมีให้เลือกหลากหลายสี ราคาถูก ทนทานต่อการผุกร่อน กันน้ำ ความชื้น เชื้อรา และปลอดภัยจากปลวกหรือแมลงต่างๆ น้ำหนักเบาและทำความสะอาดได้ง่าย แต่ไม่เหมาะสำหรับใช้งานภายนอกหรือบริเวณที่มีแสงแดด เนื่องจากอาจจะทำให้ประตูกรอบแตกหักเสียหาย รวมถึงความเสี่ยงที่จะถูกงัดแงะง่ายกว่าวัสดุชนิดอื่น 

นอกจากนั้น เรายังสามารถเลือกวัสดุประตูอื่นๆได้อย่างหลากหลาย เช่น ประตู HPL ใช้วัสดุลามิเนต ประตู HDF วัสดุแผ่นใสไม้อัดคุณภาพสูง หรือประตูไฟเบอร์กลาส ซึ่งเราควรให้ความสำคัญกับการเลือกประตูที่คุ้มค่ากับเงินและการใช้งานของเราให้มากที่สุด

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหา บ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[น้ำรั่วในบ้าน ภัยเงียบที่ไม่ควรละเลย อาจส่งผลให้บ้านทรุด]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/11/165508/%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599-%25e0%25b8%25a0%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2597 www.ddproperty.com:news:165508 Fri, 24 Nov 2017 05:17:05 +0700 น้ำรั่วในบ้าน ภัยเงียบที่ไม่ควรละเลย อาจส่งผลให้บ้านทรุด
น้ำรั่วในบ้าน ภัยเงียบที่ไม่ควรละเลย อาจส่งผลให้บ้านทรุด

ปัญหาท่อน้ำภายในรั่ว ถือเป็นปัญหาใหญ่พอสมควร โดยเฉพาะกรณีที่เจ้าของบ้านอย่างเราๆ ไม่รู้ว่า “รอยรั่ว” นั้นอยู่จุดไหน จึงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ถูกจุด ซึ่งปัญหานี้ เป็นภัยเงียบที่เราไม่ควรละเลย เพราะจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาได้ แต่จะรู้ได้อย่างไรว่า บ้านเราเกิดปัญหาท่อน้ำภายในรั่วแล้ว เพราะเรามองไม่เห็น ไม่เหมือนก๊อกน้ำรั่ว สายฉีดรั่ว ที่เรามองเห็นได้ชัดๆ

วิธีสังเกตปัญหาท่อน้ำรั่วภายในอย่างง่ายๆ 

สังเกตรอยซึมต่างๆ ภายในบ้าน มีรอยซึมตรงจุดใดของตัวบ้านหรือไม่ ถ้าไม่มี ไม่เจอ แต่เกิดพบว่า บิลค่าน้ำสูงผิดปกติ ต้องรีบตรวจสอบทันที

45354987_xxl-e1498801100490.original

แล้วค่าน้ำแบบไหนที่จะเข้าข่ายว่า “ผิดปกติ” ให้ประเมินง่ายๆ เลย ถ้าบิลค่าน้ำบ้านเราเกิดสูงกว่าเดือนที่แล้วเกินกว่าเท่าตัว โดยที่สมาชิกภายในบ้านเท่าเดิม การใช้น้ำใกล้เคียงเดิม นี่ถือว่าผิดปกติแล้ว แสดงว่ามีปัญหา (ถ้าบิลค่าน้ำไม่เกิดความผิดพลาด ก็ต้องมีปัญหาท่อน้ำภายในรั่ว) เราควรรีบตรวจสอบ ซึ่งเราสามารถเลือกใช้บริการจากหน่วยงานภาครัฐได้ เช่น การประปานครหลวง (กปน.) มีบริการตรวจสอบการรั่วของท่อน้ำภายในบ้าน แบ่งเป็น 2 กรณี คือ

กรณีที่ 1 บิลค่าน้ำบ้านนั้นๆ เพิ่มขึ้นเท่าตัว กปน. ก็จะเข้ามาตรวจสอบให้ฟรี และหากพบว่ามีการรั่วซึมจริง ก็จะวงจุดที่รั่วซึมให้ หลังจากนั้นเจ้าของบ้านต้องหาช่างซ่อมเอง
กรณีที่ 2 บิลค่าน้ำไม่ได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว แต่มีความสงสัยว่าอาจเกิดการรั่วของท่อน้ำภายใน สามารถให้เจ้าหน้าที่ของ กปน.มาตรวจสอบได้ แต่จะมีค่าใช้จ่าย เริ่มต้น 750 บาทต่อครั้ง

สำหรับการสังเกตด้วยวิธีอื่น นอกจากบิลค่าน้ำแล้วนั้น อาจจะยาก เพราะหลายกรณีที่น้ำรั่วภายใน ก็ไม่ได้มีเสียงน้ำให้ได้ยิน หรือไม่ได้เห็นอาการซึม ดังนั้น เราต้องช่างสังเกต ถ้าไม่สังเกตรอยรั่ว ก็ต้องสังเกตบิลค่าน้ำ ยิ่งปัจจุบันมีบริการหักค่าน้ำผ่านบัตรเครดิต เพื่อความสะดวกสบาย อาจจะทำให้เราไม่ได้สังเกตว่าค่าน้ำแต่ละเดือนอยู่ที่เท่าไหร่ เพิ่มขึ้น หรือลดลงอย่างไร

Technician Taking Reading Of Electric Meter

ถ้าค่าน้ำในบ้านเรา เพิ่มขึ้นเท่าตัว ต้องรีบตรวจสอบ แต่ถ้าเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 20-30% อาจจะไม่ได้ผิดปกติมาก แต่ก็อย่าชะล่าใจ ถ้าเรามองว่าเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีเหตุมีผล เพราะจำนวนสมาชิกเท่าเดิม ใช้ปริมาณน้ำเท่าเดิม ก็ต้องหาวิธีตรวจสอบ ซึ่งอย่างน้อย ถ้าท่อน้ำภายในบ้านไม่ได้รั่ว ก็อาจเกิดจากปัญหาความผิดพลาดอย่างอื่นได้ที่ทำให้ค่าน้ำเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่าปัญหาท่อน้ำภายในรั่วถือเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม อาจส่งผลต่อตัวบ้านของเราในอนาคต เพราะน้ำจะเซาะใต้ดิน อาจทำให้ที่ดินทรุด ดึงตัวบ้านทรุดลงไปด้วยได้ และอาจจะลามไปถึงเพื่อนบ้าน แต่นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมาย ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นเดียวกัน ซึ่งทางเจ้าของบ้านสามารถที่จะตรวจสอบได้ตั้งแต่โครงสร้างภายในบ้าน รวมไปถึงย้อนรอยอดีตตรวจสอบตัวที่ดินตั้งแต่เนิ่นๆ โดยตรงเลยก็ได้ ถือเป็นเรื่องที่ “รู้ไว้เร่งแก้ ดีกว่าแย่ในภายหลัง” 

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[Smart Phone - Smart Home มือถือหนึ่งเครื่องเป็นอะไรได้มากกว่าที่คิด]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/11/164780/smart-phone-smart-home-%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2596%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b6%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2580 www.ddproperty.com:news:164780 Tue, 21 Nov 2017 02:00:52 +0700 Smart Phone - Smart Home มือถือหนึ่งเครื่องเป็นอะไรได้มากกว่าที่คิด
Smart Phone - Smart Home มือถือหนึ่งเครื่องเป็นอะไรได้มากกว่าที่คิด

[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] “สมาร์ทโฟน” กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ชีวิตคนในยุคดิจิทัลอย่างเราขาดไม่ได้ เพราะสิ่งนี้ช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้น และไม่เพียงอำนวยความสะดวกด้านการติดต่อสื่อสารเพียงอย่างเดียว สมาร์ทโฟนยังเป็นได้ทั้ง “คีย์การ์ด”, “รีโมทคอนโทรล” และเป็น “ผู้ช่วยส่วนตัว” ได้อีกด้วย

ด้วยเหตุนี้เอง บ้านหรือคอนโดยุคใหม่ จึงหันมาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีสมาร์ทๆ แบบนี้มากขึ้น โดยพยายามใช้ความสามารถของสมาร์ทโฟนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการพัฒนาระบบหรือโครงสร้างของที่อยู่อาศัยให้เป็นตามคอนเซ็ปต์ “Smart Home” เพื่อรองรับเทคโนโลยีสุดล้ำต่างๆ เหล่านี้

Pruksa_smarthome_2

จุดตั้งต้นสำคัญของความเป็น “บ้านอัจฉริยะ” ก็คือ การใช้สมาร์ทโฟนเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อ หรือควบคุมสิ่งต่างๆ ภายในที่อยู่อาศัยนั่นเอง แล้วความอัจฉริยะที่ว่านี้ จะมอบความสะดวกสบายให้ผู้อาศัยได้อย่างไร? ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ได้มากแค่ไหน เรามีคำตอบมาให้

สมาร์ทโฟน = รีโมทคอนโทรล
อย่างที่รู้กันดีว่าเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ผลิตออกมาส่วนใหญ่ มักรองรับคำสั่งที่ผู้ใช้งานป้อนคำสั่งและตั้งค่าระบบจากสมาร์ทโฟนได้ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์, เครื่องเสียง, หลอดไฟ, เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ สมาร์ทโฟนจึงเป็น “รีโมทคอนโทรล” ที่สามารถควบคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้านได้แทบทั้งหมด ไล่มาตั้งแต่การเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า, เพิ่ม-ลดอุณหภูมิภายในห้อง หรือแม้แต่ควบคุมแสงสว่างภายในห้อง ที่ทำได้โดยสั่งการผ่านแอปพลิเคชั่นนั่นเอง

Pruksa_smarthome_3

สมาร์ทโฟน = คีย์การ์ด
การใช้คีย์การ์ดแตะเพื่อเข้า-ออกอาคารแทนกุญแจ กลายเป็นเรื่องเบสิกของยุคนี้ไปแล้ว ยิ่งในปัจจุบัน แม้ไม่ต้องพกคีย์การ์ดหรือกุญแจ ก็สามารถใช้สมาร์ทโฟนเครื่องเดียวเข้าถึงทุกสิ่งได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งนี้ โครงการที่อยู่อาศัยของเราก็ต้องมีระบบที่รองรับเทคโนโลยีนี้ด้วย

อย่าง THE PRIVACY ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ ที่ได้นำเทคโนโลยีมาเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้อยู่อาศัยมากขึ้น โดยใช้สมาร์ทโฟนเข้าถึงทุกความสะดวกภายในโครงการ หรือที่เรียกว่า “PRUKSA SMART ACCESS SYSTEM”

3-CONNECTING-FACILITIES

ตั้งแต่ประตูทางเข้าโครงการ, ประตูเข้า-ออกห้องส่วนตัว รวมถึงการเข้าใช้งานพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ THE PRIVACY ที่มีให้เลือกหลายโซน ประกอบด้วย The SKY SPACE พื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้าขนาดใหญ่, สระว่ายน้ำโปร่งแสง, สวนพักผ่อน, เลาจน์สำหรับชมวิวขนาดใหญ่, ล็อบบี้, ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน/อ่านหนังสือ และสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางอีกมากมาย ทั้งหมดนี้ ลูกบ้านสามารถเข้าใช้งานได้ด้วยสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว

Pruksa_smarthome_4

สมาร์ทโฟน = ผู้ช่วยส่วนตัว
นอกจาก “ความสมาร์ท” พื้นฐานที่บ้านอัจฉริยะควรมีแล้ว โครงการ THE PRIVACY ยังมี “Digital Reception” จอ LED Application ที่ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ในการติดต่อสื่อสาร หรือขอใช้บริการกับนิติบุคคลได้ด้วยตนเอง เช่น การประกาศข้อมูลข่าวสารต่างๆ ระบบการจองสิ่งอำนวยความสะดวก ระบบแจ้งเตือนน้ำ ไฟ พัสดุ เป็นต้น ทั้งหมดนี้จะเชื่อมต่อกับลูกบ้านพฤกษา ด้วยการแจ้งข่าวสารและบริการต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน

Pruksa_smarthome_6

สุดท้ายแล้ว ทั้งความสะดวกสบาย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ล้วนเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองยุคใหม่ ฟังก์ชันหลากหลายที่จะช่วยเติมเต็มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นเหล่านี้ จึงถูกรวมไว้ที่โครงการ THE PRIVACY ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ ที่รอให้คุณเป็นเจ้าของชีวิตสมาร์ทสุดโมเดิร์นแล้ววันนี้

Pruksa_smarthome_7

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[เลือกซื้อบ้านตามหลักฮวงจุ้ยด้วย 5 เคล็ดลับเหล่านี้]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/11/164771/%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%258b%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25ae%25e0%25b8%25a7 www.ddproperty.com:news:164771 Sun, 19 Nov 2017 03:00:25 +0700 เลือกซื้อบ้านตามหลักฮวงจุ้ยด้วย 5 เคล็ดลับเหล่านี้
เลือกซื้อบ้านตามหลักฮวงจุ้ยด้วย 5 เคล็ดลับเหล่านี้

[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] “บ้าน” เป็น “มากกว่าที่อยู่อาศัย” จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนที่วางแผนจะซื้อบ้านแต่ละคนจะต้องทำการบ้านอย่างหนัก นอกจากการคำนึงถึงความชอบแล้ว ต้องศึกษาตั้งแต่ทำเล, ดีไซน์บ้าน, โครงสร้างและวัสดุ, ความน่าเชื่อถือของโครงการ รวมไปถึง “ฮวงจุ้ย”  

สำหรับเรื่องฮวงจุ้ยอาจเป็นเหมือนเรื่องไกลตัวสำหรับคนยุคใหม่ แต่ในความเป็นจริงเราควรศึกษาไว้ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อบ้านและความสบายใจในวันข้างหน้า เพราะบ้านที่ดีตามหลักฮวงจุ้ย จะช่วยเสริมสร้างพลังให้แก่คนที่อยู่อาศัยและทอนพลังธรรมชาติที่ไม่ดี ที่ติดลบออกไป ซึ่งพลังที่ว่าไม่ใช่อะไร นอกเสียจาก “สิ่งแวดล้อม” ของบ้านเรานั่นเอง

คำถาม คือ แล้วเราจะเลือกซื้อบ้านให้ตรงกับหลักฮวงจุ้ย ต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง? แน่นอนว่าเรามีคำตอบมาฝาก

1. ทำเลที่ตั้ง

Pruksa_BuyHouseFengshui_Final2
สิ่งแรกที่คนซื้อบ้านควรคำนึกถึงก็คือ “ทำเลที่ตั้ง” ของตัวบ้านนั่นเอง โดยตัวบ้านต้องไม่ตั้งอยู่บริเวณสันเขา ทางเข้าหุบเขา บนหน้าผา ทางระบายน้ำ ตรงข้ามสะพาน ถนน รวมถึงทางสามแพร่ง เพราะบริเวณดังกล่าวนี้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย บวกกับทำเลลักษณะนี้ จะส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยด้วย

2. ลักษณะที่ดิน

Pruksa_BuyHouseFengshui_Final3
สำหรับลักษณะที่ดินที่ดีตามฮวงจุ้ยที่ดีที่สุด คือ ทรงสี่เหลี่ยมด้านเท่า ส่วนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือที่ดินรูปทรงน้ำเต้าก็จัดว่าอยู่ในลักษณะที่ดินอันเป็นมงคลในลำดับรองลงมา ซึ่งที่ดินลักษณะนี้ จะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของผู้ที่อยู่อาศัย

3. ทิศทาง
หากยึดทิศที่ดีตามหลักฮวงจุ้ยที่คนส่วนใหญ่นิยม ประตูหน้าบ้านจะต้องหันไปทางทิศใต้หรือทิศตะวันออก และประตูบานอื่นๆ ไม่ควรอยู่ในแนวเดียวกัน ถ้าเป็นไปตามนี้ จะทำให้คนในบ้านรักใคร่กลมเกลียวกันเป็นอย่างดี ทั้งนี้ เรื่องการกำหนดทิศก็ขึ้นอยู่กับดวงชะตาของเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัยด้วย

Pruksa_BuyHouseFengshui_Final4

4. สภาพแวดล้อม
นอกจากเราจะต้องเลือกซื้อบ้านที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี น่าอยู่ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีแล้ว เราก็ควรคำนึกถึงสภาพแวดล้อมที่ดีตามหลักฮวงจุ้ย โดยสภาพแวดล้อมที่ดีนั้น ด้านหน้าบ้านจะต้องเปิดกว้าง เพื่อรับพลังที่ดีเข้ามาสู่คนที่อยู่อาศัย ในส่วนของบริเวณโดยรอบบ้าน ไม่ควรมีโรงพยาบาล วัด สุสาน อยู่ใกล้เคียง และไม่ควรมีเสาไฟ สายไฟ อยู่บริเวณประตูทางเข้าบ้านด้วย เพราะจะส่งผลต่อสุขภาพและฐานะทางการเงินนั่นเอง

gdsgsdgsd

5. ดีไซน์บ้าน
สำหรับข้อสุดท้ายที่เรานำมาฝากกันวันนี้ เป็นส่วนของดีไซน์บ้านนั่นเอง ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยที่ดีแล้ว บ้านควรเป็นทรงสี่เหลี่ยมที่มีความสมดุลมั่นคง ในที่นี้ แม้ว่าบ้านรูปทรงแปลกตา จะให้ความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร แต่ลักษณะบ้านที่มีทรงแปลกๆ อาจจะมีผลต่ออารมณ์ความเครียดของผู้อยู่อาศัย รูปร่างของบ้านจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่หลักฮวงจุ้ยให้ความสำคัญมาก

โดยส่วนใหญ่แล้วแบบบ้านในโครงการที่น่าเชื่อถือ มักจะมีการสร้างและออกแบบที่ได้มาตรฐาน นอกจากจะคำนึงถึงพื้นที่ประโยชน์ใช้สอยแล้วก็ยังใส่ใจเรื่องฮวงจุ้ย เพื่อความสบายใจของผู้ซื้อ อย่างโครงการ Pruksa Ville รังสิต – คลองสอง ทาวน์เฮ้าส์ที่ผสมผสานวิถีโลกตะวันออก ด้วยวัสดุและโทนสีธรรมชาติของธาตุทั้ง 4 คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุโลหะ และธาตุไม้ ดีไซน์เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ดูโมเดิร์น ตอบโจทย์คนยุคใหม่อย่างมาก 

Pruksa7

อย่าลืมว่าการซื้อบ้านนั้น นอกจากจะต้องอัปเกรดคุณภาพชีวิตแล้ว การเลือกซื้อบ้านหลังใหม่ให้เราและคนที่เรารัก ก็ต้องซื้อทั้งความสะดวกสบายและความสบายใจได้ในเวลาเดียวกัน

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[5 กลยุทธ์เด็ดเพิ่มมูลค่าบ้านแบบไม่ต้องรอเวลา]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/11/164032/5-%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%2598%25e0%25b9%258c%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2584%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2 www.ddproperty.com:news:164032 Thu, 16 Nov 2017 06:15:18 +0700 5 กลยุทธ์เด็ดเพิ่มมูลค่าบ้านแบบไม่ต้องรอเวลา
5 กลยุทธ์เด็ดเพิ่มมูลค่าบ้านแบบไม่ต้องรอเวลา

[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] ขึ้นชื่อว่า “การลงทุน” แล้ว แน่นอนว่าทุกการลงทุนย่อมหวัง “ผลตอบแทน” หรือ “ผลกำไร” และตัวผู้ลงทุนเองก็ต้องวางแผนและมองหาโอกาสทำสิ่งที่มีอยู่ให้งอกเงย อย่างการลงทุนเรื่องบ้าน ผู้ลงทุนก็ต้องทำความเข้าใจ และหาทางต่อยอดไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพื่อให้บ้านที่อยู่ในมือขายออก หรือมีคนเช่าในอนาคตนั่นเอง

แม้ว่าการเลือกซื้อบ้านส่วนใหญ่จะอยู่ในทำเลที่ถูกคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะบูมแน่ๆ ในอนาคต แต่ในความเป็นจริงเราสามารถ “เพิ่มมูลค่า” ให้บ้านแบบไม่ต้องรอเวลาด้วยซ้ำ เพียงแค่เพิ่มเติมส่วนที่ขาด แก้ไขในส่วนที่คิดว่าเป็นปัญหา จากนั้นก็นอนรอผู้ซื้อหรือผู้เช่าแบบสบายๆ ได้เลย ซึ่งมี 5 กลยุทธ์เด็ดดังต่อไปนี้ 

ทำความสะอาดให้ดูใหม่เหมือนซื้อมือแรก
ไม่ว่าเราจะเคยอาศัยบ้านหลังนั้นมาก่อนหรือไม่ แต่เมื่อตัดสินใจจะขายหรือปล่อยเช่าแล้ว ก็ควรทำความสะอาดบ้านให้ใหม่เอี่ยมอ่อง จนผู้ซื้อ/ผู้เช่าไม่รู้สึกว่าซื้อของมือสอง โดยต้องปัดกวาดเช็ดถูทั้งในส่วนของตัวบ้านและบริเวณรอบบ้าน ทั้งฝุ่น หยากไย่ คราบดำในร่องยาแนว รอยขีดข่วนที่ผนัง รวมไปถึงขี้ดินขี้ตะไคร่รอบบ้านด้วย ยิ่งใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้มากเท่าไร บ้านที่มีอยู่ก็จะยิ่งดูมีค่ามีราคาขึ้นมา

Room ready to paint

ตกแต่งให้แตกต่าง
หากบ้านที่คุณมีเป็นบ้านของโครงการ คุณก็คงทราบดีว่าบ้านแต่ละหลังจะมีโครงสร้างและหน้าตาคล้ายๆ กัน และเพื่อเป็นการดึงดูดให้ผู้ซื้อ/ผู้เช่าอยากเป็นเจ้าของมากขึ้น การตกแต่งให้แตกต่างคือคำตอบ

ยกตัวอย่างเช่น การติดวอลเปเปอร์หรือทาสีเพื่อแบ่งโซนในบ้านให้แต่ละมุมมีความแตกต่างกัน การใช้กระจกตกแต่งให้บ้านดูกว้างและสว่างมากขึ้นหรือใช้กระจกเงาพรางโครงสร้างบ้าน การเปลี่ยนราวผ้าม่านให้หรูหราขึ้น หรือแม้แต่การเปลี่ยนจุดเล็กๆ น้อยๆ อย่างหัวก๊อกน้ำ, ลูกบิดประตู, โคมไฟ หรือการเปลี่ยนสุขภัณฑ์ยกเซ็ต ทั้งหมดนี้ สามารถช่วยอัปเกรดให้บ้านมีหน้าตาพรีเมียมมากขึ้นและจะเป็นบ้านที่มีหน้าตาไม่ซ้ำใครในหมู่บ้านแน่นอน

Interior of modern apartment in scandinavian style

ซ่อมแซมทุกส่วนให้ไร้ที่ติ
ทั้งนี้ ตัวผู้ลงทุนเองจะปล่อยขาย/ปล่อยเช่าตามสภาพที่เป็นก็ได้ แต่เพราะนี่คือการลงทุน หากเราเป็นผู้ซื้อ เราย่อมอยากได้สิ่งที่ดีที่สุดและสมราคาให้ตัวเอง ดังนั้น เราเองในฐานะผู้ขาย/ผู้ให้เช่า ก็ต้องทำสินค้าที่เรามีให้มีมูลค่าและน่าซื้อที่สุด ในที่นี้ ก็คือการเก็บรายละเอียด ดูแลความเรียบร้อยนั่นเอง

อย่างเช่นถ้าบ้านสีซีดหรือสีหลุดร่อนบางจุด ก็อาจจะทาสีบ้านใหม่ไปเลยก็ได้ ซึ่งการทาสีบ้านใหม่นี่แหละ สามารถเพิ่มมูลค่าบ้านได้แน่นอน หรืออย่างรอยแตกร้าว รอยทรุด หรือจุดรั่วซึมต่างๆ หากสามารถซ่อมแซมได้ก็ควรจัดการ เพื่อไม่ให้เป็นจุดบอดของบ้านนั่นเอง

ต่อเติม เพิ่มประโยชน์ใช้สอย
ในส่วนนี้ผู้ลงทุน อาจจะไม่ต้องถึงขั้นรีโนเวทบ้านครั้งใหญ่ เพียงแต่ลองมองพื้นที่ประโยชน์ใช้สอยที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยที่ไม่เป็นการต่อเติมที่ทำให้บ้านแลดูแคบกว่าเดิม เช่น ต่อเติมลานซักล้างหลักบ้าน เพิ่มหลังคาส่วนเอาท์ดอร์ ต่อเติมส่วนพื้นรอบบ้าน เป็นต้น ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับไอเดียของเจ้าของบ้านว่าเป็นช่องทางต่อเติมบ้านแบบไหนที่คิดว่าส่งผลดีแก่การขายก็ลงมือทำได้เลย

1

ปรับภูมิทัศน์โดยรอบ
แม้ภายในบ้านจะมีสภาพเหมือนใหม่ แต่ปล่อยให้บริเวณโดยรอบรกร้าง หญ้าขึ้นสูง ใบไม้แห้งร่วงเกลื่อน มองอย่างไรก็ไม่น่าดู ดังนั้น เราต้องทำให้ภายนอกบ้านดูน่าประทับใจไม่แพ้ในบ้าน โดยการตัดกิ่งไม้ ตัดหญ้า หมั่นรดน้ำต้นไม้ให้เขียวชอุ่ม หรือถ้าอยากปรับโฉมใหม่ให้แตกต่าง ก็อาจจะจ้างคนออกแบบและจัดสวน ซึ่งจะช่วยให้บ้านร่มรื่นน่าอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น

แต่ทั้งหมดนี้จะดียิ่งขึ้น ถ้าการตัดสินใจเลือกซื้อโครงการเพื่อการลงทุนของเราผ่านการคิดรอบด้านแล้วว่าอยู่ในโครงการที่น่าเชื่อถือ ทำเลเหมาะ แบบบ้านมีความทันสมัย ไม่จำเจ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน อย่างเช่นโครงการ The Plant รังสิต-คลอง 3 บ้านเดี่ยวในสไตล์ Modern Industrial พร้อมพื้นที่ประโยชน์ใช้สอยที่ลงตัว ซึ่งเมื่อนำกลยุทธ์เด็ดที่เราแนะนำมาใช้ประกอบก็จะยิ่งเพิ่มมูลค่าได้มากขึ้น

rhrdrpr'hpsgokse;eo

เพราะนอกเหนือจากแบบบ้านที่โมเดิร์นแล้ว พื้นที่ประโยชน์ใช้สอยก็เพียงพอสำหรับครอบครัวยุคใหม่ ถ้าอยากต่อเติมตกแต่งให้บ้านน่าอยู่หรือเพิ่มมูลค่าของบ้าน ก็สามารถทำได้ไร้ข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งคลับเฮาส์, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, สวนสาธารณะ หรือแม้แต่ระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อหรือเช่าบ้านด้วย

ในเมื่อทุกวันนี้เรามีตัวเลือกเยอะแยะเต็มไปหมด แต่เราในฐานะผู้ลงทุนก็ควรเลือกซื้อสิ่งที่ดีที่สุดที่สามารถต่อยอดและเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต เพื่อประโยชน์ต่อไปในภายภาคหน้านั่นเอง

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[5 วิธี ป้องกันสัตว์ร้ายที่ซ่อนตัวในสวนหลังบ้าน]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/11/164645/%25e0%25b9%258c5-%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5-%25e0%25b8%259b%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2 www.ddproperty.com:news:164645 Fri, 10 Nov 2017 06:20:11 +0700 5 วิธี ป้องกันสัตว์ร้ายที่ซ่อนตัวในสวนหลังบ้าน
5 วิธี ป้องกันสัตว์ร้ายที่ซ่อนตัวในสวนหลังบ้าน

ใครหลายคนที่อยากซื้อบ้านเดี่ยว เพราะอยากมีพื้นที่สวนหย่อมเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้าน หลังบ้าน หรือว่ารอบบ้าน แม้กระทั่งทาวน์เฮาส์เอง เจ้าของบ้านหลายคนก็จัดสรรพื้นที่ที่จะสร้างสรรค์สวนสวยให้กับบ้านได้ แต่ข้อควรระวัง ก็คือ “ความละเลย” เพราะในชีวิตประจำวันอันยุ่งเหยิงของใครหลายคน ทั้งทำงานหนัก ภารกิจสารพัด เหนื่อยกับงานมาตลอดสัปดาห์ ยังไม่ต้องพูดไปถึงสวนที่มี ลำพังงานบ้านอย่างเดียวก็ทำให้หมดพลังแล้ว ก็อาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้เราละเลยสวนในบ้านของเราได้ และความละเลยเหล่านั้น ก็อาจทำให้มีเจ้าสัตว์ร้ายมีพิษทั้งหลายแอบเข้ามา และหลบซ่อนอยู่ในสวนอันรกร้างของเราได้

สำหรับผู้ที่มีสวน แต่ไม่มีเวลาจริงๆ (และไม่ได้อยากเสียเงินจ้างคนสวน) ขอแนะนำให้จัดสรรเวลาเล็กน้อย มาดูแลสวนตามวิธีง่ายๆ ดังนี้

1. รดน้ำ

กรณีที่เราไม่ได้ติดตั้งระบบรดน้ำอัตโนมัติ หรือที่เรียกกันว่าสปริงเกอร์แล้ว เราก็ต้องรดน้ำด้วยตัวเอง ซึ่งการรดน้ำ เป็นวิธีดูแลสวนที่ง่ายที่สุด ประหยัดเวลาที่สุด และลดความเสี่ยงที่จะมีสัตว์ร้ายมาเยือนได้ อย่างน้อยที่สุด สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ควรมารดน้ำ โดยแนะนำว่า ควรใช้สายยางในการฉีดน้ำ หรือบัวรดน้ำที่ใหญ่หน่อย เพื่อให้ต้นไม้ต่างๆ ที่เราปลูกไว้ ชุ่มฉ่ำ สดชื่น และได้รับน้ำอย่างเต็มที่

อีกทั้ง การที่เรารดน้ำอย่างสม่ำเสมอ จะไม่ทำให้สัตว์ร้ายมาซ่อนตัวได้ด้วย เพราะสัตว์ร้ายเหล่านี้จะเก็บตัว นิยมอยู่ในพื้นที่รก นิ่งๆ เป็นพื้นที่ที่ไม่เคลื่อนไหว แต่แรงของน้ำจากการฉีด และการรดน้ำสม่ำเสมอ จะทำให้พื้นที่เหล่านั้นมีการเคลื่อนไหว ลดความเสี่ยงที่จะซ่อนตัว

25475223_XXL

2. เดินผ่านบ่อยๆ

ถ้างานรัดตัว ไม่มีเวลาแม้กระทั่งรดน้ำได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สิ่งที่ควรทำก็คือ เดินผ่านสวนบ่อยๆ โดยเฉพาะที่เป็นสวนรอบบ้าน ควรเดินวนรอบบ้านสักรอบสองรอบ ถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัว และยังช่วยให้สวนเหล่านั้นมีความเคลื่อนไหวด้วย โดยระหว่างเดิน ถ้าไม่ได้เอาน้ำฉีด ก็เอามือปัดๆ ไปรอบสวน เพื่อสร้างความเคลื่อนไหวให้กับพื้นที่เหล่านั้น ซึ่งตามสัญชาตญาณของสัตว์ร้ายก็จะไม่นิยมมาซ่อนตัวในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหว

3. เคลื่อนย้ายของตกแต่งสวน

นี่ก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยสร้างความเคลื่อนไหวให้กับสวน ควรหาเวลา โยกย้ายของแต่งสวนที่มี อย่าละเลยให้กลายเป็นพื้นที่ตาย แม้ว่าต้นไม้ที่ปลูกไว้ อาจจะตาย เพราะขาดการดูแลให้น้ำ ให้ปุ๋ย แต่อย่างน้อยภาพรวมของสวน ต้องยังมีความเคลื่อนไหว ไม่ให้มีอะไรแอบซ่อนอยู่ในจุดบอดของพื้นที่ เช่น ตุ่มน้ำ ถังน้ำ ส่วนใหญ่ใต้สิ่งของเหล่านี้จะมีตะขาบเล็กๆ ซ่อนอยู่ ซึ่งเป็นอันตรายกับผู้อยู่อาศัย ไม่ควรละเลย

4. งดสร้างแหล่งอาหารให้สัตว์ร้าย

ถ้าเราไม่มีเวลาดูแล เราก็ต้องป้องกันตัวเองไว้ส่วนหนึ่งก่อน ด้วยการไม่เผลอสร้างแหล่งอาหารให้กับสัตว์ร้ายเหล่านั้น เพราะแหล่งอาหาร เช่น ขยะ จะเป็นที่มาของหนู และหนูก็เป็นอาหารที่โปรดปรานของงู ถ้าเผลอตั้งจุดทิ้งขยะไว้บริเวณสวน จะยิ่งทำให้มีสัตว์ต่างๆ และสัตว์ร้ายมามากขึ้น รวมถึง ก่อให้เกิดจุดสร้างเชื้อโรคต่างๆ ด้วย ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการวางถังขยะไว้บริเวณจุดอับ หรือสวนของบ้าน หรือถ้าให้ดี ควรกำจัดขยะสด ขยะประเภทอาหารออกจากบ้านแบบวันต่อวัน นำไปทิ้งที่ขยะนอกบ้าน หรือขยะกลางของหมู่บ้าน ก็จะช่วยหลีกเลี่ยงการสร้างแหล่งอาหารให้กับสัตว์ได้

Lawn mower.

5. ปลูกหญ้าต้องดูแล

กรณีที่ปลูกหญ้าไว้รอบบ้าน อันนี้จำเป็นต้องดูแล ถ้าไม่มีเวลารดน้ำ ก็ต้องควรตัดให้สั้น หรือถ้าประเมินแล้วว่า เราไม่มีเวลาดูแลหญ้า ควรจ้างคนมารื้อหญ้าเอานี้ออก แล้วปูปูนซีเมนต์แทน เพราะหญ้า จะขึ้นเร็วมาก และจะเกิดเป็นพื้นที่รกซุกซ่อนของสัตว์ร้ายได้ โดยเฉพาะจุดบอดของพื้นที่บ้าน เช่น พื้นที่นอกตัวบ้านที่อยู่ฝั่งด้านหลังบ้านมีความเสี่ยงมากที่สุด เพราะหลายครั้งที่หลังบ้านของเราติดกับพื้นที่อื่น เป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า ก็อาจทำให้สัตว์ร้ายเล็ดลอดเข้ามาในพื้นที่บ้านของเราในส่วนที่เป็นจุดบอดได้

5 ข้อแนะนำดังกล่าว เป็นแนวทางลดความเสี่ยงอันตรายจากสัตว์ร้ายที่อาจจะแอบมาอยู่ในสวนภายในบ้านสำหรับคนที่ไม่มีเวลาจริงๆ แต่ถ้าเราเลือกจะมีสวนแล้ว ดูแลให้ดีก็จะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด เพื่อให้บ้านยังคงสดชื่น น่าอยู่ จัดสรรเวลาในการรดน้ำ ใส่ปุ๋ย ตัดแต่งใบเล็กๆ น้อยๆ ก็เชื่อว่า สวนของเราก็ยังคงน่ามองเช่นเดิม

แต่แม้จะดูแลอย่างดี ก็เป็นไปได้ว่า เราอาจจะเจอสัตว์ร้ายมาเยือนได้บ้าง ก็ควรศึกษาวิธีจัดการกับสัตว์ร้ายเหล่านั้นอย่างปลอดภัย หรือถ้าเป็นสัตว์ร้ายอย่าง “งู” ก็ควรโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือไปที่ 199 ดับเพลิงและกู้ภัย ก็เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[เริ่มต้นปลูกผักสวนครัวแบบมือใหม่ ควรวางแผนอย่างไร]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/11/164382/%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%2595%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%259c%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%25a7 www.ddproperty.com:news:164382 Wed, 08 Nov 2017 05:10:19 +0700 เริ่มต้นปลูกผักสวนครัวแบบมือใหม่ ควรวางแผนอย่างไร
เริ่มต้นปลูกผักสวนครัวแบบมือใหม่ ควรวางแผนอย่างไร

เมื่อเวลาเปลี่ยนไปของกินของใช้ก็เริ่มจะแพงขึ้น โดยเฉพาะพืชผักที่มีราคาเฉลี่ยขึ้นมาจากราคาเดิมตลอดทุกปี ยิงสดสะอาดเท่าไหร่ก็ยิ่งมีราคาสูงเท่านั้น สิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้เพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้ก็คือการปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้านแล้ว การปลูกผักสวนครัวไว้ในบ้านยังเป็นการดำเนินรอยตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของของพ่อหลวงรัชการที่ 9 อีกด้วย

ดังนั้นวันนี้ DDproperty จึงได้นำไอเดียดีๆ สำหรับคนที่กำลังคิดจะเริ่มต้นปลูกผักสวนครัวมาฝาก ยิ่งถ้าหากเป็นมือใหม่อยากจะปลูกผักสวนครัวไว้กินเองยิ่งเหมาะที่จะอ่านบทความนี้เป็นอยางยิ่ง เพราะทั้งนี้คือขั้นตอนการวางแผนการปลูกผักสวนครัวสำหรับมือใหม่

 

1.เลือกไซต์ปลูกผักสวนครัวที่เหมาะสม

สำหรับมือใหม่ที่คิดจะซื้อบ้าน หรือ เพิ่งมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองและมีแนวคิดจะปลูกผัสวนครัวไว้กินเอง อันดับแรกเลยสิ่งที่ควรทำก็คือการเลือกไซต์หรือมองหาพื้นที่ในบ้านเพื่อปลูกผักสวนครัว และหากไม่เคยมาก่อนก็ควรเริ่มต้นด้วยแปลงปลูผักขนาดเล็ก จำไว้ว่าความสำเร็จจากสิ่งเล็กๆ ย่อมเป็นอะไรที่ดีกว่าความผิดหวังจากสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เพราะการปลูกผักสวนครัวนั้นจำเป็นต้องดูแลอย่างดี ยิ่งหากเราเป็นผู้อยู่อาศัยในเมืองที่ไม่ค่อยมีเวลาแล้วจากจะปลูกผักสวนครัวให้งอกงามจนเอามาใช้ประโยชน์ได้คงไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นไซต์ของแปลงปลูกผักสวนครัวที่ดีควรมีขนาดเริ่มต้นประมาณ 16×10 ฟุตและปลูกพืชผักสวนครัวที่โตง่าย

 

2.ไซต์แปลงผักสวนครัวควรอยู่ที่ไหนของบ้าน

3 ce4713d19f0baaabf481f89ad67145cb161536a

ภาพ via bbc.co.uk

นอกจากเริ่มต้นจากแปลงปลูกผักสวนครัวขนาดเล็กแล้ว สิ่งต่อมาที่อยู่ในองค์ประกอบของการเลือกพื้นที่ก็คือปลูกในสถานที่ที่มีแสงแดดส่องมาถึงแปลงผักตลอดทั้งวัน โดยปกติผักสวนครัวส่วนใหญ่ต้องการแสงแดดในการเจริญเติบโตกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน ยิ่งมีแดดมากเท่าไหร่ การเจริญเติบโตของพืชผักสวนครัวก็จะออกมาในทิศทางที่ดีไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสดใหม่ ตลอดจนรสชาติที่ดีขึ้นก็มีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนั้นแปลงผักสวนครัวที่ดีควรเลือกให้ตั้งอยู่บนพื้นที่ในบ้านที่มีแสงแดส่องผ่านตลอดวัน อาทิ หลังบ้านหรือหน้าบ้าน ไม่แนะนำให้ตั้งอยู่บริเวณข้างบ้านเพราะจะมีตัวบ้านและรั้วบ้านเป็นตัวกันแดด ที่สำคัญแปลงผักควรตั้งอยู่ในแนวที่หันไปทางทิศเหนือและใต้ ซึ่งเป็นทิศที่มีแสงแดดส่องผ่านทั้งวัน เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากแสงอาทิตย์อย่างเต็มที่

 

3.การเตรียมดินและการเลือกปลูกผักสวนครัว

4 b6c9aae61715e1a782c9509db630fecb--arizona-gardening-gardening-tips

ภาพ via i.pinimg.com

เมื่อสามารถเลือกไซต์และที่ตั้งของแปลงผักสวนครัวได้อย่างถูกต้องแล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการปลูกผักสวนครัวก็คือการเตรียมดิน ซึ่งผักสวนครัวส่วนใหญ่นั้นจะเป็นพืชที่ต้องปลูกในดินที่ดีมีความร่วนซุย รากของดินสามารถทะลุผ่านดินได้ง่าย ดังนั้นดินที่ใช้ในการปลูกผักสวนครัวควรมีการเติมปุ๋ยเพื่อเพิ่มสารอาหารให้กับดิน รวมไปถึงแปลผักที่มีการระบายน้ำที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าแปลงผักสวนครัวนั้นจะไม่สะสมน้ำไว้ในดินเกินไป ยิ่งในประเทศไทยที่มีฝนตกชุกแล้วก็ต้องมีการวางแผนเรื่องดินให้ดีและเรื่องปลูกผักสวนครัวให้ตรงฤดูกาล วันนี้เราจึงขอแนะนำแต่พืชที่สามารถปลูกได้ง่าย และสามารถเติบโตได้ในทุกฤดูกาล อาทิ กะหล่ำปลี ผักกาดหอม ผักโขม คะน้า เป็นต้น โดยการเลือกเมล็ดพันธุ์นั้นก็ขอแนะนำให้เลือกเมล็ดพันธุ์อย่างดียอมจ่ายแพงดีกว่าจ่ายถูกแล้วปลูกผักไม่ขึ้น

นี่คือ 3 ขั้นตอนง่ายๆ สำหรับมือใหม่ที่คิดจะปลูกผักสวนครัว หากใครสามารถปฏิบัติตามได้การปลูกผักสวนครัวไว้ในบ้านเพื่อรับประทานเองก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ที่สำคัญถ้าจะให้พืชผักมีสารอาหารครบถ้วนและมีรสชาติสดใหม่อย่าลืมทำ Planning หรือ ตารางการปลูกสวนครัวต่างๆ ไว้ด้วย เพื่อไม่ให้พลาดการดูแล รดน้ำ ใส่ปุ๋ย พรวนดิน

อ้างอิงข้อมูลจาก : almanac.com

 

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[วิธีกำจัดแมลงร้ายบุกบ้านในแต่ละห้อง]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/11/164151/%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589 www.ddproperty.com:news:164151 Sun, 05 Nov 2017 02:00:43 +0700 วิธีกำจัดแมลงร้ายบุกบ้านในแต่ละห้อง
วิธีกำจัดแมลงร้ายบุกบ้านในแต่ละห้อง

เมื่อแขกไม่ได้รับเชิญที่เข้ามาป่วนบ้านของเราอาจจะไม่ได้สร้างแค่ความรำคาญใจ แต่ยังเป็นอันตรายกับสมาชิกในครอบครัวของเรา โดยเฉพาะถ้าเป็นแมลงร้ายที่มีพิษหรือพาหะนำโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย ลองดูวิธีการกำจัดแมลงร้ายตามห้องต่างๆ ดังนี้

นอกบ้าน
แม้ต้นไม้ใบหญ้าจะให้ความร่มรื่นและบรรยากาศผ่อนคลาย แต่โดยธรรมชาติย่อมมีบรรดาแมลงเล็กแมลงน้อยที่เข้ามาอาศัยร่มเงาเช่นกัน ซึ่งแมลงนอกบ้านยังไม่สร้างปัญหาเท่ากับแมลงที่ป้วนเปี้ยนเข้ามาในบ้าน ดังนั้น การปลูกต้นไม้หรือสร้างสวนหย่อมหน้าบ้านควรมีการดูแลรักษาเป็นอย่างดี โดยไม่ควรปลูกไว้ใกล้ตัวบ้าน หรือต้องคอยสอดส่องดูแลไม่ให้มีแมลงเข้ามา รวมถึงการหมั่นตัดแต่งกิ่งไม้ไม่ให้ยื่นเข้ามาในตัวบ้าน

ขณะเดียวกันเราอาจจะเลือกใช้สมุนไพรใกล้ตัวอย่างตะไคร้หอมที่วางจำหน่ายในท้องตลาดสำหรับไล่แมลง โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย หรืออาจจะเลือกปลูกไว้ในสวนนอกบ้าน เพื่อป้องกันแมลงต่างๆ ได้ รวมถึงการใช้ผงอบเชยโรยสนามหญ้าหรือกองทรายหน้าบ้านช่วยไล่แมลงได้ พร้อมทั้งการเลือกใช้หลอดไฟสีวอร์มไลท์แทนหลอดไฟสีขาว เพื่อทำให้แมงมุมช่วยกำจัดแมลงที่เกาะแกะหลอดไฟให้ แต่ไม่สามารถคลำทางสร้างใยได้เพราะโดนแสงจากหลอดไฟหลอกตา

ห้องครัว
ส่วนหนึ่งของปัญหาที่เป็นต้นเหตุของแมลงร้ายบุกบ้านเกิดจากการปล่อยปละละเลยความสะอาด ไม่ว่าจะเป็น ถังขยะที่ไม่ได้ทิ้งหลายวันหลายคืน กองจานชามที่ทับถมในอ่างล้างจาน หรือบ้านที่ไม่ได้ปัดกวาดเช็ดถูมาเป็นระยะเวลานาน ทั้งหมดล้วนส่งเสียงเชิญชวนให้บรรดามด หนู แมลงสาบ และเชื้อโรคเข้ามาเยี่ยมเยียนบ้านของเรา

นอกเหนือจากการหมั่นทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เกิดความสกปรกหมักหมมแล้ว เรายังควรให้ความสำคัญกับการจัดเก็บอาหารหรือสิ่งที่สามารถเรียกแมลงต่างๆให้อยู่ในภาชนะมิดชิด โดยปิดฝากล่องเหล่านั้นให้แน่นหนา เพื่อป้องกันมดและแมลงเรียกสมัครพรรคพวกมาดินเนอร์ที่บ้านของเรา รวมถึงการใช้ภาชนะรองน้ำรองที่ขาโต๊ะหรือชั้นวางเพิ่มความมั่นใจในการป้องกันมดและแมลงได้มากขึ้น

ขณะที่เรายังสามารถหยิบใช้ของในครัวป้องกันแมลงได้ เช่น การใช้หัวหอมซอยแช่น้ำและวางไว้ไกล้อาหารที่แมลงวันตอม หรือใช้แตงกวาหั่นเป็นแว่นวางไว้ตามจุดที่แมลงสาบชอบเดิน เพราะแมลงสาบไม่ชอบกลิ่นแตงกวา รวมถึงการลองใช้น้ำส้มสายชูเทลงในขวดสเปรย์ เพื่อฉีดไล่มดให้ย้ายถิ่นฐานออกจากบ้านของเรา

ตะไคร้หอม

ตะไคร้หอม

ห้องนอน
ลองสำรวจตามซอกมุมต่างของห้องนอนและสิ่งของโดยรอบที่อาจจะนำพาแมลงเข้ามายังห้องนอน เช่น กองเสื้อผ้า หรือซอกตู้ เตียง ก่อนจะเริ่มต้นจัดการกับข้าวของไม่จำเป็นและเป็นต้นเหตุของแมลง ไม่ว่าจะเป็น การปัดกวาดเช็ดถูครั้งใหญ่ หรือทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าห่มเป็นประจำ รวมถึงการหมั่นนำเครื่องนอนเหล่านี้ไปตากแดดฆ่าเชื้อ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ตัวเหลือบ และตัวไร

หากการรักษาความสะอาดยังคงไม่เพียงพอกำจัดแมลงออกจากห้องนอน เราอาจะต้องหาตัวช่วย เช่น สเปรย์กำจัดแมลง โดยสามารถหลีกเลี่ยงสารเคมีได้ เช่น การใช้สมุนไพรจากธรรมชาติผสมน้ำฉีดไล่ หรืออาจจะลองใช้พิมเสนวางไว้ตามจุดต่างๆในห้องนอน ซึ่งกลิ่นฉุนของพิมเสนสามารถขับไล่แมลงร้ายไม่ให้เข้ามารบกวนเราได้

ห้องน้ำ
สำหรับการกำจัดแมลงที่อยู่ในห้องน้ำ ส่วนใหญ่มักพบปัญหาแมลงหวี่ตามท่อระบายน้ำ ซึ่งควรเริ่มจากการตรวจสอบที่มาให้แน่ใจก่อนว่า แมลงหวี่เหล่านั้นมาจากท่อระบายน้ำจริง ด้วยการติดเทปใสบนฝาท่อระบายน้ำแต่ละอันตรงกลางท่อ และสำรวจร่องรอยตอนเช้า เพื่อให้เจอท่อระบายน้ำที่เป็นปัญหา และเริ่มทำความสะอาดตัวดักเส้นผมหรือที่กรองของท่อระบายน้ำฝักบัวออกให้สะอาด เพื่อกำจัดพื้นที่การวางไข่ของแมลง

ในกรณีที่เป็นท่อระบายน้ำที่เราไม่ค่อยได้ใช้งาน ลองเทน้ำอุ่นประมาณ 4-8 ลิตรและใช้แปรงทำความสะอาดท่อระบายน้ำ โดยยื่นลงไปในท่อน้ำให้ลึกที่สุด และหมุนแปลงไปมา พร้อมกับค่อยๆ เลื่อนขึ้นลง เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกด้านข้างท่อ นอกจากนั้น อาจจะใช้งูเหล็กสอดลงไปในท่อระบายน้ำและหมุนผ่านท่อเพื่อดึงเศษสิ่งสกปรกที่กองรวมกันด้านล่างขึ้นมา

Woman spraying insect repellent on skin, outdoor

ท้ายสุดจึงเทผลิตภัณฑ์กำจัดสิ่งอุดตันรอบขอบท่อระบายน้ำ เพื่อให้เคลือบด้านข้างของท่อที่ตามลงไป เช่น น้ำส้มสายชู น้ำเดือด และน้ำยาฟอก หรือลองใช้เบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูลงไปในท่อ ช่วยทำความสะอาด หลังจากทิ้งไว้หลายชั่วโมงจึงเทน้ำตามลงไปจำนวนมาก และใช้ไม้ดูดส้วมดูดสิ่งสกปรกออกมา โดยการเทผลิตภัณฑ์กำจัดสิ่งอุดตันควรเทต่อเนื่องทุกวันประมาณ 1 สัปดาห์

สิ่งสำคัญที่สุดของการป้องกันแมลงควรเริ่มต้นที่การรักษาความสะอาด และหากจำเป็นต้องกำจัดแมลงควรพิจารณาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของสมาชิกในครอบครัว

]]>
<![CDATA[3 ข้อดีของการสร้างบ้านด้วย Precast ที่คุณอาจยังไม่รู้]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/10/162897/3-%25e0%25b8%2582%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2589 www.ddproperty.com:news:162897 Fri, 27 Oct 2017 03:16:12 +0700 3 ข้อดีของการสร้างบ้านด้วย Precast ที่คุณอาจยังไม่รู้
3 ข้อดีของการสร้างบ้านด้วย Precast ที่คุณอาจยังไม่รู้

[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] เชื่อว่าหลายคนที่คลิกเข้ามาอ่านต้องอยากรู้จักคำว่า “Precast” มากยิ่งขึ้นแน่นอน เพราะการสร้างบ้านด้วยระบบนี้ กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ใครที่กำลังวางแผนจะซื้อบ้านและคอนโดฯ ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับ “Precast” มาประดับความรู้กันสักหน่อย

Precast (พรีคาสท์) หรือเรียกแบบบ้านๆ ว่า “แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป” คือวิธีสร้างบ้าน โดยใช้ผนังคอนกรีตที่ออกแบบมาเพื่อทดแทนผนังก่อ ซึ่งถ้าถามว่ามีความสำคัญแค่ไหนที่ต้องศึกษา ต้องตอบเลยว่า “มาก!” ถ้าคุณกำลังจะซื้อบ้านใหม่ เพราะบ้านสมัยนี้ หันมาใช้พรีคาสท์กันเกือบหมด

พรีคาสท์เองก็ไม่ต่างกับวัสดุที่ใช้ในการสร้างบ้านแบบอื่น ที่มีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนในตัว เช่น ปัญหารอยรั่วซึมที่พบได้บ่อยในโครงการที่ไม่ได้คุณภาพ หรือปัญหาการต่อเติมที่มีข้อจำกัด เพราะผนังสำเร็จรูปไม่ควรเจาะหรือทุบ ทว่าในข้อกำจัดดังกล่าวก็ยังมีประโยชน์ที่คุณอาจยังไม่รู้อยู่เหมือนกัน ส่วนจะมีอะไรบ้าง มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กับเราเลย

1. แข็งแรง ทนทาน

27-11-2014_133

แม้การซื้อบ้านที่สร้างด้วยผนังพรีคาสท์จะทำให้เราหงุดหงิดใจกับการอดต่อเติมบ้านให้ได้ดั่งใจ แต่หากมองให้เป็นผลดี การไม่ต่อเติมบ้านก็ช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำให้บ้านทรุด เพราะต้องรับน้ำหนักเกิน แต่ที่เราต้องรู้ก็คือ ผนังสำเร็จรูปที่ผ่านขั้นตอนการผลิตที่ได้มาตรฐาน จะมีความคงทนไม่ต่างจากการสร้างบ้านด้วยการก่ออิฐเลย

2. สวยงาม เรียบเนียน

27-11-2014_156
อย่างที่ทราบกันดีว่าการสร้างบ้านด้วยการก่ออิฐทั่วไป หากช่างก่อสร้างไม่มีฝีมือมากพอ อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมา เช่น กำแพงไม่ได้ฉาก วงกบประตูหรือหน้าต่างไม่เป็นไปตามขนาดที่กำหนด ฯลฯ ดังนั้น สิ่งที่ได้จากพรีคาสท์ก็ คือ ความเรียบเนียน ได้ขนาดที่ต้องการ ตัดปัญหาความไม่สมส่วนออกไปได้นั่นเอง

3. บ้านได้มาตรฐาน

precast12-v1
แน่นอนว่าหมู่บ้านจัดสรรทั้งหลาย ต้องสั่งสมความน่าเชื่อถือเอาไว้เป็นอันดับแรก การใช้ระบบพรีคาสท์ในการสร้างบ้าน จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้รับเหมาหรือเจ้าของโครงการเอง สามารถควบคุมมาตรฐานบ้านแต่ละหลังได้ ทั้งยังช่วยร่นระยะเวลาในการก่อสร้างให้ทันความต้องการของผู้ซื้อบ้านได้อีกด้วย

ด้วยความสะดวกและได้มาตรฐานของพรีคาสท์นี่เอง ทำให้โครงการต่างๆ มักใช้เลือกใช้พรีคาสท์หรือผนังสำเร็จรูปกันเป็นส่วนใหญ่ อย่าง ภัสสร ไพรด์ ศรีนครินทร์-เทพารักษ์ โครงการบ้านหลังใหญ่ที่ใช้ระบบพรีคาสท์เช่นกัน ซึ่งหากมองด้วยตาจะเห็นได้ว่า ภายในบ้านแต่ละหลังจะมีความได้ฉากสวยงาม รอเพียงการตกแต่งภายในตามสไตล์ของผู้อยู่อาศัย บ้านก็ดูดีมีรสนิยมโดยไม่ต้องต่อเติมอะไรมาก แถมยังตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) สถานีศรีนครินทร์ และทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์อีกด้วย

ทั้งนี้ หากใครกำลังจะซื้อบ้าน ควรเลือกโครงการที่มีความน่าเชื่อถือและศึกษาข้อมูลของโครงการนั้นๆ ให้ดี ด้วยการสอบถามจากตัวแทนขายหรือหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติม เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากก็คือ ขั้นตอนการตรวจรับบ้าน เพราะไม่ว่าบ้านจะสร้างด้วยพรีคาสท์หรือไม่ ก่อนเซ็นรับบ้านก็ต้องตรวจตราอย่างถี่ถ้วนทุกครั้ง เพราะหากมีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างหรือระบบต่างๆ ภายในบ้าน ทางโครงการจะได้จัดการให้เราก่อน เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง

Blog11-PruksaPrecast

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[เลือกวัสดุปูพื้นให้เหมาะกับแต่ละห้องในบ้าน]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/10/163346/%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2589%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1 www.ddproperty.com:news:163346 Fri, 27 Oct 2017 03:00:00 +0700 เลือกวัสดุปูพื้นให้เหมาะกับแต่ละห้องในบ้าน
เลือกวัสดุปูพื้นให้เหมาะกับแต่ละห้องในบ้าน

วัสดุปูพื้นที่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งพื้นไม้ กระเบื้อง หิน หรือพรม ต่างมีรายละเอียดข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน นอกเหนือจากการเลือกตามไลฟ์สไตล์และความชอบส่วนตัวแล้ว เรายังต้องพิจารณาถึงคุณสมบัติและการใช้งานที่เหมาะสม โดยเฉพาะการเลือกวัสดุปูพื้นให้เข้ากับแต่ละห้อง ทั้งถูกใจสมาชิกในบ้านและยังสามารถใช้งานได้ในระยะยาว

ทางเดิน

พื้นที่ในบริเวณบ้านที่ใช้งานบ่อยที่สุด และได้รับการใช้งานจากสมาชิกทุกคนในครอบครัว รวมถึงแขกผู้มาเยือน ทำให้พื้นที่ส่วนนี้ต้องพิถีพิถันเลือกใช้วัสดุปูพื้นที่สวยงามเหมาะกับเป็นหน้าเป็นตาและต้องแข็งแรงทนทาน เพื่อไม่ให้เกิดการชำรุดทรุดโทรมในเวลาอันรวดเร็ว รวมถึงการคำนึงถึงสภาพแวดล้อมในการปูพื้นบริเวณระเบียงบ้านทั้งชั้นบนและชั้นล่าง เนื่องจากต้องเผชิญกับแดด ลม ฝน เป็นประจำ

สำหรับวัสดุปูพื้นที่เหมาะสม โดยเฉพาะบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง ซึ่งไม่ต้องการให้พื้นมีรอยขีดข่วน เราสามารถเลือกใช้หินปูพื้นได้ เช่น หินขัดและหินแกรนิตที่มีความแข็งแรง ดูแลรักษาง่าย และราคาไม่แพง รวมถึงอายุการใช้งานยาวนาน นอกจากนั้น เรายังอาจจะเลือกใช้กระเบื้องเซรามิก ซึ่งให้ความแข็งแรงทนทานและรับน้ำหนักเช่นกัน ทั้งยังมีการเคลือบสีเป็นลวดลายสีสันให้เลือกทั้งโทนสีและผิวสัมผัสที่มีความหลากหลายกว่า หรืออาจจะใช้ไม้ลามิเนตที่ทนต่อการขีดข่วนกว่าไม้จริง แต่ช่วยสร้างบรรยากาศให้บ้านดูอบอุ่นมากขึ้นได้

ห้องรับแขก

พื้นที่รวมสมาชิกในครอบครัวที่ใช้งานแทบทุกวัน และยังเป็นห้องสำหรับต้อนรับแขกภายนอก โดยภายในห้องมักจะเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น โซฟา โต๊ะ ตู้โชว์ ชั้นวางของ ชั้นวางโทรทัศน์ เครื่องเสียง หรืออาจจะมีโต๊ะหนังสือ เก้าอี้ ตู้หนังสือ เป็นต้น ซึ่งข้าวของส่วนใหญ่ล้วนมีน้ำหนักมาก ทำให้ต้องเลือกใช้วัสดุปูพื้นที่คำนึงถึงการรับน้ำหนัก ไม่เฉพาะสมาชิกในบ้านแต่ยังมีเฟอร์นิเจอร์เครื่องเรือนต่างๆก้วย

ดังนั้น การเลือกใช้วัสดุปูพื้นที่เหมาะสมต้องมีความแข็งแรงความทนทานไม่เป็นรอยง่ายเช่นเดียวกับบริเวณทางเดิน ได้แก่ ไม้ลามิเนต และกระเบื้องเซรามิก โดยสามารถปูพรมเสริมความสวยงามและความหรูหราให้กับห้อง ทั้งยังสามารถเปลี่ยนได้ตามความต้องการ

ห้องนอน

80323983 - family in the bedroom

ในบรรดาทุกห้องภายในบ้าน ห้องนอนนับเป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อนที่เป็นส่วนตัวมากที่สุด และสามารถตกแต่งได้ตามสไตล์หรือความชื่นชอบของผู้อยู่อาศัย โดยเน้นบรรยากาศผ่อนคลายและเหมาะสำหรับการพักผ่อน รวมถึงหมั่นรักษาความสะอาดให้ห้องนอนปลอดฝุ่นและเชื้อโรค เพื่อการนอนหลับพักผ่อนได้อย่างสบายใจ

การใช้วัสดุปูพื้นในห้องนอนจึงมีความแตกต่างหลากหลายแล้วแต่ความชอบส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็น การใช้กระเบื้องที่ดูแลรักษาได้ง่าย แต่อาจจะต้องใส่รองเท้าในห้องนอน เพราะพื้นมีความเย็น หรือปูพื้นไม้สร้างบรรยากาศอบอุ่มเป็นธรรมชาติ รวมถึงการเลือกใช้หินขัดและพื้นปูนให้เข้ากับสไตล์การแต่งห้อง โดยหลายบ้านเลือกปูพื้นพรมเพิ่มความนุ่มสบายขณะก้าวเดินในห้องและเพิ่มความสวยงามหรูหรา

ห้องครัว

Young Military Couple Looking Inside Custom Kitchen and Design Drawing and Photo Combination.

Young Military Couple Looking Inside Custom Kitchen and Design Drawing and Photo Combination.

การใช้งานห้องครัวสำหรับการปรุงอาหารที่ต้องเผชิญทั้งคราบสกปรกและความมัน เช่น เศษอาหาร น้ำมัน ไขมัน กลิ่น ซึ่งเกาะติดในห้อง ไม่เฉพาะเฟอร์นิเจอร์หรือวอลเปเปอร์ห้อง แต่ยังติดอยู่ตามวัสดุปูพื้นและกลายเป็นคราบสกปรกที่ต้องให้ความสำคัญทำความสะอาดเป็นประจำ

ในการปูพื้นห้องครัวจึงต้องเลือกวัสดุที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ทั้งกลิ่นและคราบสกปรกไม่เกาะติดแน่น เช่น การใช้กระเบื้องปูพื้นอย่าเซรามิคที่มีความแข็งแรงทนทาน สามารถกันน้ำได้ดี รวมถึงทนต่อความร้อนและเปลวไฟในห้องครัวได้เป็นอย่างดี หรืออาจจะเลือกใช้หินปูพื้นที่สามารถขัดและเคลือบผิวหน้าใหม่ได้หากเกิดคราบสกปรกมาก ทั้งยังทนต่อความร้อนในห้องครัวได้ดีเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การใช้หินปูพื้นควรหาน้ำยาสำหรับเคลือบผิวกันลื่นป้องกันอันตรายจากพื้นลื่นเป็นมันเงา

สำหรับวัสดุที่ควรหลีกเลี่ยงไม่นำมาใช้งานปูพื้นห้องครัวที่ใช้ประกอบอาหาร ได้แก่ พื้นไม้ที่อาจจะเกิดเชื้อราและสะสมกลิ่น รวมถึงคราบสกปรก รวมถึงไม่สามารถทนต่อความร้อนหรือเปลวไฟได้ หินอ่อน และกระเบื้องดินเผา ซึ่งอาจจะชำรุดได้ง่าย ทั้งยังไม่ควรปูพรมในห้องครัวเพราะทำความสะอาดยาก

ห้องน้ำ

marble-bathroom

พื้นห้องน้ำเป็นบริเวณที่ต้องสัมผัสกับความเปียกชื้น น้ำยาและสารเคมีจำพวกสบู่ ยาสระผม หรือน้ำยาล้างห้องน้ำเป็นประจำ ทำให้ต้องเลือกวัสดุปูพื้นที่ทำความสะอาดง่าย ไม่ขึ้นรา และไม่เปียกลื่น รวมถึงคุณสมบัติการซึมน้ำต่ำ และค่า R กันลื่นมากกว่า 10 เพื่อความปลอดภัยของสมาชิกในบ้าน

โดยส่วนใหญ่เราจึงมักเลือกใช้กระเบื้องเซรามิกปูพื้นห้องน้ำ เพราะมีลวดลายที่สวยงามและมีคุณสมบัติเหมาะกับการใช้งานมากที่สุด หรือบางบ้านที่ชอบห้องน้ำสไตล์ธรรมชาติก็เลือกใช้กรวดทรายล้าง ที่สำคัญอย่าลืมทำระบบกันซึมบนพื้นคอนกรีตโครงสร้างเพื่อป้องกันน้ำห้องน้ำรั่วซึมจากการใช้งาน

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างการเลือกวัสดุปูพื้นให้เหมาะกับแต่ละห้อง แต่ในรายละเอียดสำคัญที่ทุกบ้านต้องคำนึงถึงมากกว่าความสวยงาม คือ ความปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะหากมีผู้สูงอายุหรือเด็กเล็กอยู่ในบ้าน รวมถึงการทำความสะอาดและดูแลรักษาวัสดุปูพื้นให้อยู่กับเราได้นานๆ

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[แปลงโฉมห้องน้ำใหม่ เพิ่มความน่าอยู่ให้บ้านมากขึ้น]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/10/163184/%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2589%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b3%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2588 www.ddproperty.com:news:163184 Tue, 24 Oct 2017 09:50:54 +0700 แปลงโฉมห้องน้ำใหม่ เพิ่มความน่าอยู่ให้บ้านมากขึ้น
แปลงโฉมห้องน้ำใหม่ เพิ่มความน่าอยู่ให้บ้านมากขึ้น

“ห้องน้ำ” เป็นหนึ่งในห้องที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของบ้านเลยก็ว่าได้ ซึ่งใครอยู่อาศัยในบ้านหลังเดิมมาเป็นเวลานาน ย่อมต้องอยากปรับปรุงห้องน้ำใหม่ให้น่าใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะห้องน้ำรุ่นเก่าดั้งเดิม คงต้องอยากเปลี่ยนแบบครบชุด ซึ่งการปรับปรุงห้องน้ำแบบครบชุด อาจจะต้องอาศัยช่างที่มีความเชี่ยวชาญสักหน่อย เพราะเกี่ยวข้องกับระบบน้ำ ที่หากไม่ชำนาญแล้ว อาจจะทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ อย่างเช่น ท่อประปาแตก หรือระบบระบายน้ำเสียเปลี่ยนทิศ เปลี่ยนทาง จนคุณต้องปวดหัวตอนใช้งานจริง

เอาเป็นว่า เมื่อหาช่างที่ไว้ใจได้ (มั่นใจได้ว่า จะไม่เบี้ยว หรือเทเรากลางทาง) ก็ตกลงเรื่องการปรับปรุง ซึ่งก็มีทั้งแบบที่เหมาเรื่องค่าวัสดุด้วยเลย กับคิดเฉพาะค่าแรง ให้เราซื้อวัสดุเอง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแบบหลังมากกว่า โดยกรณีที่เราเลือกซื้อวัสดุเอง นอกจากจะได้ของที่ถูกใจแล้ว เราก็ยังคำนวณงบประมาณเองได้ด้วย

งบประมาณ ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราต้องการจะปรับปรุง ถ้าเราต้องการปรับปรุงห้องน้ำใหม่ทั้งหมด ทั้งผนัง พื้นกระเบื้อง สุขภัณฑ์ ชุดกระจก+อ้างล้างหน้า ฝักบัวอาบน้ำ ประตูห้องน้ำ ค่าแรงก็จะสูงหน่อย เพราะช่างอาจจะต้องมีผู้ช่วยมาด้วย และค่าวัสดุก็จะสูงหน่อย ระยะเวลาในการปรับปรุง หากวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ พร้อม ก็ใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ แต่ถ้าปรับปรุงบางส่วน แค่เปลี่ยนสุขภัณฑ์ กับพื้นกระเบื้อง ให้พอใช้งานได้ งบประมาณก็จะไม่สูงมาก และใช้เวลาเพียง 1 วันก็เสร็จเรียบร้อย

สำหรับการเปลี่ยนโฉมจากห้องน้ำรุ่นเก่า สู่ห้องน้ำแบบใหม่ สิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอันดับแรก (นอกเหนือจากเรื่องงบประมาณ) นั่นก็คือ

Filling up a glass with drinking water from kitchen tap

ระบบน้ำ

หากต้องการที่จะใช้สุขภัณฑ์แบบระบบฟลัชวาล์ว หรือระบบกดน้ำ ต้องดูว่า ระบบน้ำในบ้านของเรา แรงพอหรือไม่ เมื่อกดน้ำไปแล้ว น้ำจะขึ้นมาอยู่ในถังรอกดทันท่วงทีหรือไม่ เพราะถ้าระบบน้ำไม่แรง จะต้องรอจังหวะดูดน้ำขึ้นมาให้อยู่ในถังรอน้ำ หรือบางบ้านที่น้ำไม่แรง และไม่ได้ใช้เครื่องปั๊มน้ำ (สังเกตุได้ชัดๆ เลยก็คือ น้ำชั้น 2 ของบ้านจะไหลน้อยมากและใช้ฝักบัวไม่ได้) ก็จะเจอปัญหา ไม่มีแรงดันน้ำที่จะดันน้ำขึ้นมาเก็บไว้ในถังรอเลย

ดังนั้น ถ้าระบบน้ำที่บ้านของเราไม่แรงพอ ก็มีทางเลือก 2 ทางคือ
1. เลือกใช้สุขภัณฑ์นั่งแบบราดเอง แบบนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องแรงดันน้ำ ลักษณะโถสุขภัณฑ์ก็เป็นแบบนั่งสะดวกๆ ไม่ใช่แบบนั่งยอง เพียงแต่ต้องราดน้ำเอง ไม่ได้มีระบบฟลัชน้ำ
2. ติดตั้งเครื่องปั๊มน้ำ เพื่อทำให้ระบบน้ำภายในบ้านมีแรงดันน้ำที่ดีขึ้น ในการดึงน้ำมาใช้งานทั้งพื้นที่ชั้นล่างและชั้นบน

นอกจากสุขภัณฑ์แล้ว ระบบน้ำ ยังมีผลต่อการเลือกใช้ฝักบัว ด้วย เพราะหากห้องน้ำดั่งเดิมของเราไม่สามารถใช้ฝักบัวได้แต่แรก เพราะแรงดันน้ำไม่เพียงพอ และรองน้ำอาบมาเนิ่นนาน เราจะเปลี่ยนฝักบัวใหม่ ก็ไร้ประโยชน์ ถ้ามีงบประมาณเพียงพอ และต้องการเปลี่ยน ก็ต้องเสริมด้วยปั๊มน้ำ แต่ถ้ายังไม่มีงบประมาณเพียงพอ ก็เปลี่ยนเฉพาะสุขภัณฑ์ไปก่อน เพราะสำคัญกว่า

(อย่าลืมว่า เครื่องปั๊มน้ำ ต้องใช้ไฟฟ้าด้วย ถ้าต้องการติดตั้ง ต้องตรวจสอบปริมาณการใช้ไฟในบ้านด้วยว่าการขอใช้ไฟในบ้านของเราเพียงพอกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดที่มีหรือไม่ เพราะหากมีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมๆ กัน อาจมีปัญหาเรื่องการใช้ไฟเกิน เสี่ยงที่จะเกิดไฟช็อตได้)

ซึ่งการวิเคราะห์ระบบน้ำภายในบ้าน จะทำให้เราเลือกสุขภัณฑ์ได้เหมาะสม หรือวางแผนในการติดตั้งปั๊มน้ำเข้าไปเสริมด้วย

กั้นที่อาบน้ำ

หลายคนมีไอเดียว่า ไหนๆ จะเปลี่ยนทั้งที ก็จะขอกั้นพื้นที่อาบน้ำให้แยกจากพื้นที่สุขภัณฑ์ เพื่อแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียกให้ชัดเจน ซึ่งเหมาะกับห้องน้ำที่มีพื้นที่กว้างหน่อย เพราะถ้าแคบมาก จะอึดอัด และเข้าออกส่วนที่อาบน้ำลำบาก โดยที่กั้นอาบน้ำ มีให้เลือกหลายแบบมาก ไม่ว่าจะเป็น แบบกระจกฉากกั้น (ไม่มีประตูเปิดปิด) หรือจะเป็นแบบตู้อาบน้ำสำเร็จรูป ซึ่งจะต้องคำนวณดีๆ ว่า พื้นที่ห้องน้ำของเราเพียงพอหรือไม่ เพราะตู้อาบน้ำส่วนใหญ่จะกินพื้นที่พอควร หรือเลือกใช้วิธี ทำม่านกั้น ก็พอจะแยกพื้นที่แห้ง พื้นที่เปียกได้บ้าง

ชุดอ่างล้างหน้า + กระจก

ปัจจุบันอุปกรณ์ส่วนนี้มีให้เลือกหลากหลายมาก จะเป็นแบบอ่างล่างหน้าอย่างเดียว หรือจะเป็นแบบมีตู้ด้านล่าง เพื่อใส่ของด้วยก็มี เช่นเดียวกับกระจก ที่มีทั้งกระจกอย่างเดียว หรือจะเป็นตู้กระจก ที่ด้านหลังกระจก เป็นที่เก็บของ หากมีงบประมาณ ก็สามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ส่วนนี้ใหม่แบบยกเซ็ท เพื่อเปลี่ยนโฉมให้กับห้องน้ำของคุณอย่างเต็มรูปแบบ

ผนังห้องน้ำ

แม้ว่าผนังห้องน้ำจะเป็นส่วนที่ยังแข็งแรง แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ ผนังห้องน้ำ ก็จะลดความสวยงามลง หากต้องการเปลี่ยน เพื่อปรับโฉมให้กับห้องน้ำ และมีงบประมาณเพียงพอ ก็ให้ช่างคำนวณพื้นที่ผนัง เพื่อจัดซื้อผนังตามความชอบของเราได้เลย แต่ถ้าใครที่งบประมาณน้อย ส่วนนี้ก็ถือว่าไม่จำเป็น เพราะผนังเดิมก็ยังแข็งแรง ยกเว้น ผนังเดิมก็เสื่อมสภาพมาก แตกร้าว ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

พื้นกระเบื้อง

หลายคนที่มีงบประมาณอาจจะเลือกเปลี่ยนพื้นกระเบื้องใหม่ทั้งหมดเพื่อปรับโฉมก็ดี หรือจะเพื่อวัตถุประสงค์ของการกั้นลื่น ทำให้ผู้สูงอายุเดินได้สะดวกขึ้น ก็ถือเป็นจังหวะที่ดีในการเปลี่ยนยกเครื่อง ซึ่งแม้ว่าใครที่อยากเปลี่ยน เพื่อปรับโฉม ไม่ได้มีผู้สูงอายุภายในบ้าน แต่ก็ควรเลือกพื้นกระเบื้องที่ไม่ลื่น เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่ในห้องน้ำจริงๆ เพราะถ้าเผลอเลือกเพราะความสวย อาจจะลำบากเวลาใช้งานได้ ถึงจะยังไม่สูงวัย แต่ก็เสี่ยงที่จะลื่นได้ง่ายๆ เช่นกัน

แต่ถ้าใครงบประมาณน้อย และพื้นห้องน้ำของเรายังแข็งแรง ใช้งานได้ดี ไม่ลื่น ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เลือกเปลี่ยนส่วนที่สำคัญกว่าก่อน แล้วรองบประมาณพร้อมค่อยมาเพิ่มเติมอีกทีก็ยังไม่สาย

อุปกรณ์เสริม

ที่จับสำหรับผู้สูงอายุ สำหรับบ้านใครที่มีผู้สูงอายุ ควรเพิ่มอุปกรณ์เสริมในห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุเข้าไปด้วย เช่น ที่จับต่างๆ ซึ่งราคาก็ถือว่าไม่สูงมาก ถือโอกาสให้ช่างติดตั้งทีเดียวเลย อ่านเพิ่มเติม : Checklist ใหม่ สร้างห้องน้ำตอบรับสังคมผู้สูงอายุ

เครื่องทำน้ำอุ่น ถ้าใครที่ต้องการติดตั้งครื่องทำน้ำอุ่นให้กับห้องน้ำใหม่ ก็ควรตรวจสอบเรื่องระบบไฟด้วยเช่นกันว่าพร้อมหรือไม่ และควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ติดตั้ง เพื่อป้องกันเรื่องกระแสไฟรั่ว ไฟช็อต โดยเครื่องทำน้ำอุ่น นอกจากจะใช้ในส่วนของที่อาบน้ำแล้ว ยังสามารถติดตั้งบริเวณอ่างล้างหน้า เพื่อเป็นอีกจุดหนึ่งของการใช้น้ำอุ่น

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[7 วิธีดูแลบ้านไม่ให้โทรมในช่วงหน้าฝน]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/10/162658/7-%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2589%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a1 www.ddproperty.com:news:162658 Thu, 19 Oct 2017 04:00:06 +0700 7 วิธีดูแลบ้านไม่ให้โทรมในช่วงหน้าฝน
7 วิธีดูแลบ้านไม่ให้โทรมในช่วงหน้าฝน

[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] เข้าช่วงหน้าฝนมาได้พักใหญ่ คนรักบ้านหลายคนอาจจะต้องหัวเสียกับปัญหาที่มากับหน้าฝนไม่รู้จักจบจักสิ้น ทั้งเรื่องรอยรั่วซึม เฟอร์นิเจอร์ชำรุด หรือแม้แต่คราบตะไคร่จับ จนขัดไม่ออก เป็นต้น ซึ่งถ้าเราละเลยปัญหาเหล่านี้ไปเรื่อยๆ “ความโทรม” ถามหาแน่นอน!

นอกจากจะต้องเก็บเงินก้อนเพื่อซื้อบ้านแห่งความภาคภูมิใจแล้ว ขั้นต่อไป เราก็ต้องรักษาให้บ้านดูดีดูใหม่อยู่เสมอ อย่างน้อยๆ เวลาแขกไปใครมาจะได้ไม่เขินอายในความโทรมของบ้าน ยิ่งหน้าฝนอย่างนี้แล้ว เพียงแค่ปัดกวาดเช็ดถูภายในบ้านก็คงไม่เพียงพอ เพราะถ้าบ้านต้องเจอทั้งฝนตก แดดออก พายุเข้าแบบนี้ ซึ่งแน่นอนว่าวันนี้เรามีวิธีดูแลบ้านไม่ให้โทรมในช่วงหน้าฝนมาฝากกัน

1.หมั่นสังเกตรอยร้าว
เรื่องง่ายๆ ที่หนุ่มสาวยุคใหม่ชอบมองข้าม อันที่จริงแล้วถ้าเข้าช่วงหน้าฝนแบบนี้ การตรวจดูรอยรั่วซึม แตกร้าวภายในบ้านนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะทำ ไม่ว่าจะเป็นหลังคา ฝ้า ผนัง และรอยต่อของวัสดุต่างๆ เมื่อพบปัญหาเหล่านี้ ควรรีบแจ้งช่างผู้เชี่ยวชาญมาดูโดยด่วน เพราะถ้าปล่อยไว้ ปัญหาใหญ่ตามมาแน่นอน

2.ขยันทำความสะอาดพื้น
ช่วงหน้าฝนแบบนี้ คนรักบ้านทั้งหลายต้องตรวจเช็กประตูและหน้าต่างภายในบ้านทุกบาน ว่าปิดสนิทแล้วหรือยัง? เพื่อให้มั่นใจได้ว่าน้ำฝนจะไม่สาดเข้ามา และเมื่อฝนหยุดตกแล้ว เราควรเช็ดน้ำที่เจิ่งนองให้แห้ง รวมไปถึงพื้นด้านนอกบ้าน ยิ่งต้องขยันขัด เพราะคราบดินทั้งหลายอาจจะทำให้พื้นบ้านด้านนอกไม่น่ามอง ยิ่งปล่อยเอาไว้ให้น้ำท่วมขัง จนตะไคร่จับ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้ง่าย ถ้าปล่อยไว้นานคราบเหล่านี้จะยิ่งติดแน่น ขัดออกยาก

3.ตัดกิ่งไม้ใหญ่
เมื่อเข้าหน้าฝน เราจะพบว่าบริเวณรอบบ้านจะเต็มไปด้วยดินทรายและใบไม้ร่วงเกลื่อนกลาด งานบ้านงอกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น เราควรตัดกิ่งไม้ออกเสียบ้าง เพราะนอกจากจะทำให้บ้านดูโล่งขึ้นแล้ว ยังลดโอกาสกิ่งไม้ ต้นไม้หักโค่น จนเกิดความเสียหายได้อีกด้วย

4.เคลียร์รางน้ำฝน
ฤดูนี้ ทั้งลม ทั้งฝน มักจะหอบใบไม้ กิ่งไม้ มากองรวมกัน ทำได้ขวางทางระบายน้ำ ซึ่งจุดนี้เอง อาจทำให้น้ำไหลย้อนเข้าบ้าน แน่นอนปัญหาอื่นตามมาอย่างแน่นอน วิธีป้องกันง่ายๆ ก็คือพยายามเคลียร์สิ่งกีดขวางทุกอย่างในรางน้ำฝนออกเท่านั้นเอง

Fall Cleanup - Leaves in Gutter

5.ล้างท่อระบายน้ำ
นอกจากรางน้ำฝนที่ต้องเคลียร์แล้ว ท่อระบายก็เช่นกัน เพราะทั้งใบไม้ กิ่งไม้ เศษขยะ และสิ่งแปลกปลอมต่างๆ อาจทำให้ท่อน้ำตันได้ง่ายๆ ควรหมั่นทำความสะอาดสม่ำเสมอ

6.ย้ายเฟอร์นิเจอร์
แม้เฟอร์นิเจอร์เอาท์ดอร์จะถูกออกแบบมาให้ทนน้ำ ทนแดด แต่ถ้าให้ตากฝนทุกครั้ง แน่นอนว่าเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ย่อมเสื่อมไปตามสภาพอยู่แล้ว ซึ่งวิธีป้องกันง่ายๆ ก็คือ ควรย้ายมาอยู่ในที่ร่มหรือไว้ที่มุมให้โดนฝนสาดน้อยที่สุด หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรหาผ้าใบมาคลุมไว้

7.ทาสีบ้าน
ถ้าบ้านไหนที่ใช้สีทาบ้านคุณภาพดีอยู่แล้ว อาจจะข้ามข้อนี้ไปเลยก็ได้ แต่ถ้าบ้านไหนสีทาบ้านเริ่มหลุดร่อนหรือบ้านเก่าสีซีดแล้ว การทาสีบ้านใหม่ด้วยสีบางชนิดก็จะช่วยป้องกันผนังบ้านไม่ให้เก่าเร็ว ถ้าบ้านเก่า ยิ่งควรทาสีใหม่เพื่อป้องกันเชื้อราจากความชื้น โดยเฉพาะส่วนที่ทำจากไม้ต้องดูแลเป็นพิเศษ

ทั้งนี้ ถ้าเป็นไปได้ ในขั้นตอนของการเลือกซื้อบ้านใหม่ ก็ควรศึกษารายละเอียดวัสดุที่ใช้ทั้งภายในและภายนอกตัวบ้านอย่างละเอียด ซึ่งเราอาจจะสามารถสอบถามข้อมูลจากตัวแทนจำหน่ายให้แน่ใจได้

อย่าง ภัสสร เพรสทีจ บางนา-สุวรรณภูมิ โครงการบ้านเดี่ยวย่านบางนา ที่ตัวบ้านถูกดีไซน์อย่างมีรสนิยม วัสดุที่ใช้ในโครงการก็เป็นเกรดพรีเมี่ยม ซึ่งเราจะได้สบายใจและไม่ต้องกังวลต่อสารพัดปัญหาที่มาพร้อมกับหน้าฝน

เชื่อเถอะว่าหากเราใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกซื้อบ้าน โดยการเลือกสิ่งทีดีที่สุดให้เราเอง ปัญหากระจุกกระจิกก็จะไม่ตามมาให้รำคาญใจอย่างแน่นอน

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[สร้างรั้วบ้านอย่างไรให้โดนใจ ปลอดโจรและไร้ปัญหาเพื่อนบ้าน]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/10/161674/%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab www.ddproperty.com:news:161674 Mon, 09 Oct 2017 02:30:32 +0700 สร้างรั้วบ้านอย่างไรให้โดนใจ ปลอดโจรและไร้ปัญหาเพื่อนบ้าน
สร้างรั้วบ้านอย่างไรให้โดนใจ ปลอดโจรและไร้ปัญหาเพื่อนบ้าน

หากรั้วบ้านเดิมยังไม่ตอบโจทย์การใช้งาน เราสามารถสร้างรั้วบ้านใหม่ให้โดนใจได้ ทั้งวัสดุที่เลือกใช้และรูปแบบของรั้ว เพื่อให้สามารถอำพรางสายตาคนภายนอก ป้องกันอันตรายจากมิจฉาชีพ หรือกั้นอาณาเขตให้สัตว์เลี้ยงไม่วิ่งเล่นออกนอกบ้าน รวมถึงการตกแต่งรั้วให้สวยงาม เพราะเป็นหน้าเป็นตาของผู้อยู่อาศัยในบ้าน

• ศึกษาข้อกฎหมาย

Two young neighbors talking across the fence

ก่อนจะเริ่มลงมือสร้างรั้วบ้าน เราควรศึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับรั้วบ้านไว้เล็กน้อย เพื่อจะได้ไม่เกิดข้อพิพาทกับเพื่อนบ้านจนต้องรื้อทิ้งภายหลัง โดยเฉพาะถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงรั้วบ้านด้านข้างที่ใช้ร่วมกัน เราควรต่อรองพูดคุยกับเพื่อนบ้านเรื่องการก่อสร้างเพิ่มเติมให้ชัดเจน

สำหรับรั้วบ้านที่จำเป็นต้องขออนุญาตต้องพิจารณาว่า รั้วที่สร้างเข้าข่ายเป็นอาคารหรือไม่

ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร กำหนดให้อาคาร หมายถึง ตึก บ้าน เรือน โรง ร้าน แพ คลังสินค้า สำนักงาน และสิ่งที่สร้างขึ้นอย่างอื่น ซึ่งบุคคลอาจเข้าอยู่หรือเข้าใช้สอยได้ รวมถึง รั้ว กำแพง หรือประตู ที่สร้างขึ้นติดต่อหรือใกล้เคียงกับที่สาธารณะ หรือสิ่งที่สร้างขึ้นให้บุคคลทั่วไปใช้สอย หรือสิ่งที่สร้างขึ้นอย่างอื่นตามที่กฎกระทรวงกำหนด” โดยกฎกระทรวงกำหนดสิ่งที่สร้างขึ้นอย่างอื่นเป็นอาคาร ตามกฎหมายว่าด้วยควบคุมอาคาร พ.ศ. 2544 กำหนดให้สิ่งก่อสร้างใดก็ตามที่มีความสูงตั้งแต่ 10 เมตร เข้าข่ายเป็นอาคารด้วย

ดังนั้น หากรั้วบ้านสร้างติดกับที่สาธารณะให้ถือเป็นอาคาร หรือถ้าไม่ได้ติดกับที่สาธารณะ แต่มีความสูง 10 เมตรขึ้นไปให้ถือว่าเป็นอาคารตามกฎหมาย ซึ่งจำเป็นต้องขออนุญาตก่อสร้าง เพราะเข้าข่ายเป็นอาคาร โดยกำหนดเพิ่มเติมว่า รั้วที่สร้างชิดแนวเขตที่ดินสาธารณะสามารถสร้างสูงได้ไม่เกิน 3 เมตรเหนือระดับทางเข้าหรือถนนสาธารณะ แต่ในกรุงเทพฯสามารถสร้างชิดเขตสูงได้ไม่เกิน 2 เมตรหากถนนสาธารณะมีความกว้างน้อยกว่า 6 เมตร

นอกจากนั้น กฎกระทรวงฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2535) ข้อ 5 ยังกำหนดว่า รั้วหรือกำแพงกั้นเขตที่อยู่มุมถนนสาธารณะที่มีความกว้างตั้งแต่ 3 เมตรขึ้นไป และมีมุมหักน้อยว่า 135 องศา ต้องปาดมุมรั้วหรือกำแพงกั้นเขตนั้น โดยให้ส่วนที่ปาดมุมมระยะไม่น้อยกว่า 4 เมตร และทำมุมกับเนวถนนสาธารณะเป็นมุมเท่ากัน ซึ่งในกรุงเทพฯมีกำหนดเฉพาะที่ดินมุมถนนที่กว้างตั้งแต่ 3 เมตรถึง 8 เมตรเท่านั้นที่รั้วต้องปาดมุม โดยไม่มีส่วนใดของรั้ว กำแพงหรืออาคารยื่นเข้าไปในที่ดินส่วนที่ปาดมุม เพื่อความปลอดภัยและไม่ให้เกิดความเสียหายต่อรั้วและรถที่เลี้ยวบนนถนน

• เลือกรูปแบบรั้วบ้าน

Child See Through Magnifying Glass, Kid Eye Looking with Magnifier Lens, Gray Background

การสร้างรั้วบ้านควรรู้จุดประสงค์ที่ต้องการสร้าง เพื่อเลือกรูปแบบและลักษณะของรั้วให้ตอบโจทย์โดนใจมากที่สุด รวมถึงการคำนึงถึงการออกแบบทางเข้าให้สะดวกต่อการใช้งาน และการเลือกรูปแบบประตูให้เข้ากับรั้วบ้าน เช่น ประตูเหล็กดัด อะลูมิเนียม หรือประตูไม้ ทั้งประตูใหญ่สำหรับรถและประตูเล็กสำหรับการเดินเข้าออก

ขณะเดียวกันเราควรคำนึงถึงการใช้งานที่แข็งแรงทนทาน สามารถใช้ได้ในระยะยาว โดยเฉพาะบ้านเราที่มีทั้งฝนตกแดดออก ซึ่งล้วนส่งผลกัดกร่อนรั้วบ้านให้เสียหาย นอกเหนือจากการเลือกใช้วัสดุที่ดี มีอายุการใช้งานยาวนานแล้ว เรายังควรยืดอายุรั้ว ด้วยการใช้สีทารั้วที่ไม่หลุดลอกง่ายและมีสารกันแดดกันฝน เพื่อความคงทนถาวร

• วัสดุหลากหลาย

Illustration of the different designs of fences and gates on a white background

การเลือกวัสดุรั้วบ้านแตกต่างกันตามความชอบ ลักษณะการใช้งานและงบประมาณของแต่ละบ้าน ซึ่งในปัจจุบันมีวัสดุที่ใช้ทำรั้วบ้านให้เลือกมากมาย ดังนี้

– รั้วโลหะ เป็นรั้วที่ได้รับความนิยม เพราะมีความแข็งแรงทนทานและสามารถเลือกใช้ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รั้วสแตนเลสที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อสนิม และง่ายในการทำความสะอาด แต่ไม่ค่อยสวยงามเมื่อเทียบกับรั้วอัลลอยและเหล็ก ซึ่งสามารถปรับแต่งรายละเอียดลวดลายให้สวยงาม แต่มีราคาสูงกว่ารั้วสแตนเลส อย่างไรก็ตาม รั้วโลหะอาจจะให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวน้อยกว่าวัสดุอื่น เนื่องจากเป็นวัสดุโปร่งบาง ทำให้ภายนอกสามารถมองเข้ามาภายในบ้านได้

– รั้วไม้ การใช้รั้วไม้ธรรมชาติที่สวยงามต้องให้ความสำคัญกับการดูแลรักษา เพราะไม้ธรรมชาติไม่ทนทานต่อสภาพอากาศและปลวก จึงทำให้ไม้เทียมได้รับความนิยมมากกว่า เพราะมีความใกล้เคียงสวยงามเหมือนไม้จริง แต่แข็งแรงทนทานต่อสภาพอากาศและปลวก โดยการเลือกใช้รั้วไม้ควรพิจารณาถึงโครงสร้างความแข็งแรงสามารถรองรับน้ำหนักได้ในระยะยาว

สำหรับการเลือกใช้รั้วไม้เทียม แนะนำให้ใช้ไม้เทียมที่มีความหนาประมาณ 12 มิลลิเมตรขึ้นไป เพื่อให้รั้วมีความทนทานต่อการใช้งาน และควรเลือกใช้สีอ่อนที่สว่าง รวมถึงไม้ขนาดเล็กในการสร้างรั้วบ้าน เพื่อให้ความรู้สึกโปร่งสบายมากกว่าการใช้ไม้สีเข้มและไม้ขนาดใหญ่ที่ทึบกว่า

– รั้วปูน หลายบ้านเลือกใช้รั้วปูนเพราะความมั่นคงแข็งแรง และให้ความเป็นส่วนตัว ทั้งยังมีราคาไม่สูงนักเมื่อเทียบกับรั้วอื่นๆ ซึ่งแบ่งออกเป็นรั้วอิฐฉาบปูนและรั้วอิฐบล็อก โดยสามารถเพิ่มลูกเล่น ด้วยการทาสี หรือตกแต่งด้วยการปูกระเบื้องเพิ่มความสวยงามให้รั้วได้

– รั้วคอนกรีตสำเร็จรูป รั้วที่สามารถติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว จากการขึ้นรูปที่สามารถใช้ประกอบเป็นรั้วแบบต่างๆ ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน และยังมีหลากหลายสีสันให้เลือกใช้ เช่น ระบบรั้วสำเร็จรูป แลนด์สเคป โดยมีทั้งแบบโมเดิร์น คลาสสิก ธรรมชาติ ซึ่งสามารถผสมผสานกับการใช้รั้วโปร่งได้

– รั้วต้นไม้ หากต้องการเพิ่มความเป็นธรรมชาติและสร้างความร่มรื่นให้กับบ้าน เราสามารถเลือกใช้รั้วต้นไม้ที่มีความสวยงาม ป้องกันแสงแดดและให้ความเป็นส่วนตัวได้ เพียงแต่ต้องคอยเก็บกวาดทำความสะอาดและตัดแต่งทรงต้นไม้เป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงต้นไม้ผลัดใบที่อาจจะมีใบไม้ร่วงหล่นจำนวนมาก ซึ่งเราควรระมัดระวังไมให้ต้นไม้ของเราแตกกิ่งก้านสาขาหรือใบไม้ร่วงหล่นไปยังพื้นที่เพื่อนบ้าน เพราะอาจจะเกิดปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับคนบ้านใกล้เรือนเคียงได้

ส่วนต้นไม้ที่เหมาะสมสำหรับการใช้เป็นรั้วบ้านควรเป็นต้นไม้ที่เป็นพุ่มหนาแน่น และสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ปลูกง่าย ทนแดดทนฝน โดยสามารถเลือกต้นไม้ที่ออกดอกเพิ่มความสวยงามได้ เช่น ต้นเข็ม ต้นโมก และมอร์นิ่งกลอรี่ เป็นต้น

การเลือกใช้วัสดุสร้างรั้วบ้านไม่จำกัดเฉพาะแบบใดแบบหนึ่ง โดยเราสามารถเลือกผสมผสานรั้วบ้านรูปแบบต่างๆได้ตามความต้องการและความชอบส่วนตัว เช่น รั้วไม้และคอนกรีต หรือรั้วโลหะและไม้

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[เผยวิธีทำปูนยาแนว แบบง่ายๆ ไม่ต้องง้อช่าง]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/10/161857/%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259c%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a7-%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2588 www.ddproperty.com:news:161857 Wed, 04 Oct 2017 08:27:32 +0700

ทุกวันนี้เรียกว่าไม่ต้องรอให้สภาพบ้านเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ร่องพื้นปูนยาแนวกระเบื้องก็ส่อแววกลายเป็นคราบสีเหลือง ดำ อย่างไม่น่ามอง เหตุเนี้เองเหล่าพ่อบ้าน แม่บ้าน จึงไม่นิ่งดูดาย ยอมควักเงินจ้างช่างมาซ่อมมาปฏิบัติการณ์เนรมิตปูนยาแนวให้ขาวสวยดังเดิม พอระยะเวลาผ่านไปก็กลับมาเหลืองอีก ต่อไปนี้ปัญหาแสนปวดหัวเหล่านี้จะหมดไปอย่างสิ้นซาก เมื่อได้ค้นพบวิธีทำปูนยาแนว ที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องง้อช่าง แถมยังประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย ที่สำคัญยังโบกมือลาคราบเหลือง สกปรกของร่องยาแนวได้แบบถาวร

สาเหตุร่องปูนกระเบื้อง เหลือง ดำ ไม่น่ามอง
โดยปกติแล้วร่องปูนกระเบื้องเกิดคราบสกปรกเป็นสีดำ เหลือง ไม่น่ามอง ส่วนใหญ่แล้วมักพบในบริเวณห้องน้ำ สืบเนื่องจากเมื่อครั้นที่เราทำกิจธุระต่างๆ เสร็จ คราบน้ำสบู่จะไปเกาะติดบริเวณร่องกระเบื้อง นานวันเข้าก็กลายสภาพเป็นเชื้อราเกาะติดฝังแน่น ยากต่อการทำคาวามสะอาด หรือบางบ้าน อาจพบสาเหตุของร่องกระเบื้องเป็นคราบสกปรก เพราะเกิดน้ำรั่วซึม หรือพื้นด้านล่างมีความชื้นสูง จึงทำให้เกิดคราบไม่น่ามองได้เข่นกัน โดยไม่ต้องรอวันเวลาให้สภาพบ้านเสื่อมโทรม

ขจัดคราบเหลือง ดำ ร่องกระเบื้อง

ขจัดคราบเหลือง ดำ ร่องกระเบื้อง

วิธีขจัดคราบเหลือง ดำ ร่องกระเบื้อง
ก่อนที่จะไปจัดการหาวิธีทำปูนยาแนวกระเบื้อง แนะนำให้ลองหาวิธีทำความสะอาดร่องกระเบื้องก่อน โดยปัจจุบันก็มีน้ำยาขจัดคราบจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกมากมาย หรือบางคนอาจหาของใกล้ตัวในบ้าน อย่างน้ำยาล้างห้องน้ำกับน้ำส้มสายชู มาทำปฏิกริยากัน จากนั้นใช้แปรงสีฟันที่ไม่ใช่แล้ว มาชุบส่วนผสม แล้วนำไปขัดตามร่องยาแนวกระเบื้อง เพียงเท่านี้คราบสกปรกไม่น่ามองดังกล่าว ก็หายไปในพริบตา โดยไม่ต้องออกแรงทำปูนยาแนวกระเบื้องให้เสียเวลา

เมื่อไม่สามารถขจัดคราบสกปรกออกได้ จึงต้องลงมือผลิตปูนยาแนวด้วยตัวเอง
หลายคนอาจกำลังปวดหัวกับการทำความสะอาดร่องกระเบื้องให้กับมาขาวสะอาดดังเดิม แม้จะลงมือหาส่วนผสมต่างๆ นานา มาขจัด ขัดคราบออก ก็ไม่สามารถทำได้ เรียกว่าหมดหนทางที่จะเสกความสะอาดให้กลับมาดังเดิม เหตุนี้เองเหล่าพ่อบ้าน แม่บ้าน สมัยใหม่ในยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ดเช่นนี้ จึงจำเป็นต้องลงมือผลิตปูนยาแนวด้วยตนเอง โดยไม่ต้องง้อช่าง ซึ่งมีอุปกรณ์ และกระบวนการทำดังต่อไปนี้

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำปูนยาวแนวกระเบื้องด้วยตนเอง
1. แปรงขัดพื้น
2. น้ำยาทำความสะอาดพื้น
3. เครื่องมือขูดร่องกระเบื้อง ที่สามารถหาซื้อได้ในร้านจำหน่ายฮาร์ดแวร์ทั่วไป
4. แปรงสีฟันเก่า ที่ไม่ใช่แล้ว
5. กาวยาแนว
6. ถังผสมปูนพลาสติก หรือขันน้ำธรรมดา
7. เกรียงปาดปูน หรือรองเท้าแตะ ที่ไม่ใช่แล้ว หรือไร้ประสิทธิภาพ
8. ฟองน้ำ
9. ผ้าสำหรับเช็ดทำความสะอาด

วิธีทำทำปูนยาแนวกระเบื้องด้วยตนเอง โดยไม่ต้องง้อช่าง
1. ใช้แปรงขัดพื้น ทำความสะอาดคราบสกปรกก่อนเป็นอันดับแรก
2. ใช้น้ำยาขัดความสะอาดพื้น ทำความสะอาดคราบก่อน เพื่อไม่ให้ร่องยาแนวกระเบื้อง กลับมามีคราบเหลือง ดำ สกปรก ในเร็ววัน
3. ลอกปูนยาแนวเก่าที่มีคราบสกปรกออกให้หมดก่อน เพื่อจะทำปูนยาแนวกระเบื้องด้วยตนเอง เพื่อเป็นการสร้างความแข็งแรง ทนทาน ของยาวแนวกระเบื้อง โดยจำเป็นต้องให้พื้นกระเบื้องเปียก เพื่อให้ลอกได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าหลุดลอกยากสามารถใช้น้ำร้อนช่วยได้
4. เมื่อยาแนวหลุดร่อนออกมาแล้ว ให้ใช้ผ้าแห้งกวาดเศษยาแนว เพื่อเตรียมพร้อมในการทำปูนยาแนวกระเบื้องใหม่
5. ใช้ผ้าเช็ดพื้นกระเบื้องให้แห้งสนิท เพื่อระหว่างที่เทปูนยาแนวกระเบื้อง ยาแนวจะได้ติดทนทาน และไม่มีความชื้นอันจะทำให้เกิดเชื้อรากลับมาดังเดิม
6. ผสมปูนยาแนวในสัดส่วน กาวยาแนว 3 น้ำ 1 ลงในถังผสมปูน หรือสามารถใช้ขันน้ำพลาสติกได้ โดยนำเกียงผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วทิ้งให้กาวยาวแนวทำปฏิกริยาประมาณ 5 นาที
7. ใช้อุปกรณ์ปาดยาแนว มาปาดปูนยาแนวบริเวณร่องกระเบื้อง โดยให้ปาดแนวเฉียง 45 องศา เพื่อไม่ให้เลอะออกมาด้านนอกกระเบื้อง
8. ระหว่างที่ปูนยาแนวกำลังแห้ง ให้ใช้ฟองน้ำชุบกน้ำทำความสะอาดกระเบื้อง
9. ปล่อยให้ปูนยาวแนวกระเบื้องแห้ง โดยทิ้งไว้ 1 วัน จากนั้นร่องกระเบื้องก็กลับมาขาวสะอาด น่ามองดังเดิม

ใครที่มองหาบ้านหรือเพิ่งซื้อบ้านมือสองมา แล้วเจ้ากรรมดันต้องมานั่งแก้ปัญหาร่องกระเบื้อง มีสภาพเป็นคราบเหลือง ดำ ไม่น่ามอง โดยต้องสูญเสียเงินเพื่อจ้างช่างมาจัดการปูนยาแนวใหม่ ต่อไปนี้เมื่อรู้วิธีทำปูนยาแนวด้วยตัวเองแล้ว โบกมือลาทั้งช่างและคราบสกปรกไปได้เลย

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[เผย 8 วิธีล้างตู้เย็น ให้ใหม่เอี่ยมภายใน 10 นาที]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/10/161850/%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259c%25e0%25b8%25a2-8-%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2598%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2589%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%2599-%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2589 www.ddproperty.com:news:161850 Wed, 04 Oct 2017 07:37:33 +0700

บรรดาพ่อบ้าน แม่บ้าน ต่างกำลังเผชิญกับปัญหาทำความสะอาดตู้เย็นที่แสนยากลำบาก เรียกว่าใช้เวลาเป็นวัน สูญเสียพลังงานในการจัดเก็บ คัดแยกอาหาร พร้อมทำความสะอาดเชื้อราให้สิ้นซาก ต่อไปนี้การทำความสะอาดตู้เย็นจะกลายเป็นเรื่องง่าย ที่สามารถทำได้รวดเร็ว เพียงแค่รู้จักวิธีขั้นตอนดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 เริ่มต้นวิธีล้างตู้เย็น ด้วยการจัดสรรของกินแบบไม่ต้องเสียดาย
เป็นที่รู้กันดีว่า โรคเสียดายของมักเกิดขึ้นกับทุกบ้าน เรียกว่าซื้ออะไรมา มักจับยัดเข้าไปในตู้เย็น ในที่สุดก็เน่าคาตู้เย็น ทีนี้ส่งผลให้ที่ยังไม่เน่าเสีย ดันเจ้ากรรมกินไม่ได้ไปด้วย เหตุนี้เองก่อนที่จะไปลงมือทำความสะอาดล้างตู้เย็นแบบวิธีง่ายๆ แนะนำให้แบ่งประเภทของกินที่กินได้กับไม่ได้เสียของ

ขั้นตอนที่ 2 ทิ้งของกินเน่าเสียให้สิ้นซาก
เมื่อแบ่งประเภทของกินที่อยู่ในสภาพสามารถนำมาปรุงเป็นอาหาร กับเอามากินไม่ได้แล้ว หรืออยู่ในสภาพเน่าเสีย แนะนำให้หาถุงขยะใบโต จัดการทิ้งให้สิ้นซาก โดยไม่ต้องหวังว่าจะสามารถกินได้ในวันข้างหน้า เพื่อให้การล้างตู้เย็นนั้นสมบูรณ์แบบอย่างที่ตั้งใจไว้

ขั้นตอนที่ 3 เพื่อความปลอดภัย ดึงปลั๊กไฟตู้เย็นออก
ก่อนที่จะทำความสะอาดตู้เย็นแบบเต็มขั้น หลังจากเคลียร์ของกินในตู้เย็นออกหมดแล้ว เพื่อความปลอดภัยแนะนำให้ถอดปลั๊กตู้เย็นออกเสียก่อน เพื่อป้องกันไฟดูด พร้อมทำให้น้ำแข็งในช่องฟรีซตู้เย็นละลายได้เร็วกว่าเดิม หลังจากกดปุ่มละลายน้ำแข็ง

ขั้นตอนที่ 4 ใช้ฟองน้ำสะอาด เช็ดทำความสะอาดในตู้เย็น
นำถาดรองน้ำในตู้เย็นไปเทออก แล้วใช้ฟองน้ำหนานุ่ม เช็ดส่วนที่เลอะ หรือเศษอาหารตกหล่นในตู้เย็น ก่อนที่จะถอดชั้นวางของในตู้เย็น ไปทำความสะอาดด้านนอก ส่วนบริเวณที่เป็นเชื้อราตามยางขอบประตูตู้เย็นด้านใน สามารถกำจัดได้ง่ายๆ ด้วยเบรคกิ้งโซดา โดยนำเบรคกิ้งโซดาไปละลายกับน้ำเปล่า แล้วนำผ้าสะอาดชุบส่วนผสมดังกล่าว มาเช็ดถูเชื้อราที่เกาะติด เพียงแค่นี้ก็สามารถขจัดเชื้อราในตู้เย็นไปได้ และเพื่อป้องกันไม่ให้คราบเชื้อรากลับมา ให้นำสำลีชุบน้ำส้มสายชูทาบริเวณดังกล่าว แค่นี้ก็โบกมือลาเชื้อราได้อย่างถาวร

ขั้นตอนที่ 5 ทำความสะอาดประตูตู้เย็น ด้วยฟองน้ำเบาๆ
เมื่อถอดชั้นวางของในตู้เย็น เพื่อเตรียมทำความสะอาดด้านนอกแล้ว อันดับต่อไปยังคงใช้ฟองน้ำหนานุ่ม ชุบน้ำหรือน้ำยาล้างจานเช็ดทำความสะอาดประตูตู้เย็น ให้กลับมาขาวสะอาดดังเดิม แต่สำหรับบ้านหลังไหนที่มีตู้เย็นสีขาว ครีม แน่นอนว่าเมื่อนานวันไปจะปรากฎคราบเหลือง ไม่สามารถทำความสะอาดได้ด้วยฟองน้ำชุบน้ำยาธรรมดา ดังนั้นทางที่ดีอาจใช้ตัวช่วยอย่างน้ำส้มสายชูมาเช็ดคราบเหลืองที่ฝังแน่น โดยนำน้ำส้มสายชูทาที่ประตูตู้เย็น จากนั้นใช้ฟองน้ำเช็ดทำความสะอาด ตามด้วยผ้าสะอาดเช็ดอีกที เพียงแค่นี้ก็ได้ประตูตู้เย็นใหม่เอี่ยมอ่อง

ขั้นตอนที่ 6 นำชั้นวางของในตู้เย็น ออกมาทำความสะอาด
นำชั้นวางของในตู้เย็น ที่ถอดออกมาไว้ด้านนอก ที่ถูกแช่น้ำยาล้างจานระหว่างที่เช็ดถูทำความสะอาดส่วนต่างๆ ภายในตู้เย็น มาเช็ดถูทำความสะอาดด้วยฟองน้ำ หรือบางคนอาจจะนำไปล้างน้ำ พร้อมใช้น้ำยาเช็ดกระจกฉีดเพื่อทำความสะอาด ก็จะทำให้การทำความสะอาดตู้เย็นนั้นรวดเร็ว และง่ายขึ้น

ขั้นตอนที่ 7 นำอาหารที่ยังเก็บรักษา กินได้ ใส่ภาชนะถนอมอาหารให้เรียบร้อย
หลังจากทำความสะอาดตู้เย็น ทั้งส่วนด้านในและด้านนอกเรียบร้อย สะอาดหมดจรดแล้ว อันดับต่อไปเป็นการสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับตู้เย็น เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งกุมขมับเผชิญกับตู้เย็นรก สกปรก เสียเวลานั่งทำความสะอาดครึ่งค่อนวัน ด้วยวิธีย้ายๆ นำภาชนะถนอมอาหาร มาจัดแจงเก็บอาหารที่ยังอยู่ในสภาพที่กินได้ และเพื่อเป็นการประหยัดเนื้อที่ แนะนำให้ใช้ถุงซิปล็อคมาช่วยเก็บอาหาร หรือผักต่างๆ ที่จำเป็นต้องแช่ตู้เย็น

ขั้นตอนที่ 8 เพิ่มความหอมให้ตู้เย็น หลังจากทำความสะอาดด้วยเม็ดกาแฟ
เมื่อตู้เย็นอยู่ในสภาพที่ทำความสะอาดเรียบร้อย พร้อมจัดระเบียบการเก็บอาหารให้อย่างดีแล้ว อันดับต่อไปเพื่อเป็นการทำความตู้เย็นแบบสมบูรณ์แบบ จึงต้องคำนึงถึงเรื่องกินอันไม่พึงประสงค์ในตู้เย็นด้วย โดยให้นำเม็ดกาแฟมาใส่ภาชนะ แล้วนำไปวางไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ตู้เย็นก็สะอาด หอม น่าใช้ไปตลอดกาล

สำหรับใครที่เพิ่งซื้อบ้านหรือคอนโด แต่เจ้ากรรมตู้เย็นในบ้านกำลังกลายเป็นที่เพาะพันธุ์เชื้อโรคและขยะ อันยากต่อการทำความสะอาด สามารถนำ 8 ขั้นตอนการทำความสะอาดตู้เย็นดังกล่าวข้างต้น ไปช่วยเนรมิตให้ตู้เย็นกลับมาสะอาด เป็นระเบียบดังเดิมได้ ประหนึ่งเหมือนซื้อตู้เย็นใหม่เข้าบ้าน

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[4 ขั้นตอน เตรียมความพร้อมรีโนเวทบ้าน]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/10/161668/4-%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b1%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad www.ddproperty.com:news:161668 Mon, 02 Oct 2017 08:16:13 +0700 4 ขั้นตอน เตรียมความพร้อมรีโนเวทบ้าน
4 ขั้นตอน เตรียมความพร้อมรีโนเวทบ้าน

บ้านที่อยู่อาศัยผ่านร้อนผ่านหนาวมานานหลายปีอาจจะถึงเวลาที่ต้องปรับปรุงซ่อมแซมสภาพให้หายทรุดโทรม หรือเปลี่ยนแปลงให้มีความทันสมัย และเหมาะกับความต้องการใช้งานมากขึ้น ก่อนจะเริ่มต้นลงมือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้านครั้งใหญ่ เราควรเตรียมตัวให้พร้อมกับขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

• สำรวจรอบบ้าน
ลองสำรวจตรวจสอบสภาพพื้นที่ในบ้านและนอกบ้าน เพื่อให้สามารถซ่อมแซมปรับปรุงได้อย่างครบถ้วนถูกต้อง โดยสามารถทำรายการแต่ละพื้นที่หรือห้องต่างๆ ไว้ อย่างละเอียดเกี่ยวกับส่วนที่ต้องการรีโนเวท ด้วยแนวทางการตรวจสอบบ้าน ประกอบด้วย

– โครงสร้างบ้าน เราสามารถสังเกตรอยร้าวหรือรอยแตกกะเทาะของโครงสร้าง โดยสำรวจด้วยตาเปล่า หรือจะใช้เครื่องมือการวัดดิ่ง ฉากช่วยตรวจสอบให้โครงสร้างอยู่ในแกนตั้งฉาก ไม่เอนเอียงได้ ซึ่งงานโครงสร้างแบ่งเป็นโครงสร้างใต้ดิน ได้แก่ ฐานราก เสาเข็ม ตอม่อ และโครงสร้างบนดิน ได้แก่ เสาคาน พื้น และผนังรับน้ำหนัก โดยรอยร้าวที่พบสามารถบอกถึงปัญหาและความรุนแรงของปัญหาได้เบื้องต้น

เช่น รอยร้าวผนังแนวเฉียงที่เกิดจากการการทรุดตัวหรือการต่อเติมอาคารผิดหลัก ส่วนรอยร้าวแตกลึกที่เสาจนเห็นเหล็กในเนื้อคอนกรีตชัดเจนสะท้อนถึงการรับน้ำหนักของเสาที่มากเกินไป หรือรอยร้าวแนวดิ่งกลางคานแสดงว่า คานรับน้ำหนักมากเกินไปจนแอ่นตัว ขณะที่รอยร้าวที่ปลายคาน เสาข้อปล้อง และรอยร้าวแนวยาวที่พื้นบอกถึงการทรุดตัวไม่เท่ากันของฐานราก

– โครงหลังคา การตรวจสอบหลังคาต้องให้ความใส่ใจ ทั้งกระเบื้องมุงหลังคาให้ได้ตรงระดับ และระยะความห่างระหว่างแถวสม่ำเสมอ ไม่ให้มีการยุบตัวหรือแตกร้าว และตรวจสอบฝ้าเพดานไม่ให้มีร่องรอยของคราบรั่วซึม เพราะการแก้ไขซ่อมแซมงานหลังคาถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ จึงควรปรับปรุงซ่อมแซมให้เรียบร้อยทั้งภายนอกและภายในหลังคา รวมถึงฝ้าเพดานให้มีสภาพสมบูรณ์ใช้งานได้เป็นอย่างดี

– พื้นบ้าน การสำรวจพื้นบ้านไม่เฉพาะแค่ภายในบ้าน แต่ควรสำรวจพื้นทางเดินรอบบ้าน ซึ่งใช้โครงสร้างเสาเข็มแยกจากตัวบ้าน โดยเน้นมองหารอยแตก รอยแยกที่ต้องซ่อมแซม โดยเฉพาะพื้นรอบบ้านที่ไม่มีเสาเข็มรองรับ รวมถึงพื้นหญ้าและพื้นดินที่สามารถยุบตัวได้หากใช้งานเป็นระยะเวลานาน

39600501_xxl

• กำหนดขอบเขตการรีโนเวท
การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้านสามารถจัดเล็กและจัดใหญ่ได้ตามความพร้อมทั้งเรื่องของเวลาและงบประมาณ โดยมุ่งเน้นที่ความเสียหายหรือความจำเป็นที่ต้องซ่อมแซมก่อน ซึ่งหากมีเวลาหรืองบประมาณเหลือจึงปรับปรุงให้สวยงาม โดยหลักๆ การกำหนดวัตถุประสงค์ของการรีโนเวท ได้แก่ การปรับปรุงบ้านทั้งหลักจากสภาพเก่าทรุดโทรม การซ่อมแซมเฉพาะส่วนที่เสียหาย การปรับปรุงให้ใช้งานดีขึ้น หรือแก้ปัญหาด้านการใช้งาน การปรับโฉมใหม่ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความชื่นชอบส่วนตัว

นอกจากนั้น เราสามารถศึกษาข้อมูลการรีโนเวททั้งวิธีการปรับปรุงซ่อมแซม วัสดุที่ใช้ ระยะเวลาโดยประมาณ และรวบรวมแบบที่ต้องการ รวมถึงสามารถสอบถามรวมรวมข้อมูลและเบอร์ติดต่อของช่างไว้ได้ พร้อมทั้งขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญและสถาปนิกเกี่ยวกับการรีโนเวทได้

• จัดเตรียมงบประมาณ
ในการรีโนเวทบ้านใช้ทั้งเวลาและงบประมาณที่เราต้องเตรียมการให้พร้อม เพื่อให้มีสภาพคล่องระหว่างการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน โดยจัดเตรียมเงินไว้เป็นค่าใช้จ่าย 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ค่าใช้จ่ายสำหรับการปรับปรุง เช่น ค่าแรงการก่อสร้าง ค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าดำเนินการต่างๆ ระหว่างการก่อสร้าง รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าบริการที่ปรึกษา ค่าออกแบบสถาปนิก วิศวกรโครงสร้าง และงานระบบ รวมถึงค่าเช่าบ้านระหว่างการรีโนเวท และค่าดำเนินการขออนุญาตปรับปรุงบ้านกับหน่วยงานราชการ เป็นต้น

สำหรับการจัดเตรียมงบประมาณดังกล่าวขึ้นอยู่กับขอบเขตการรีโนเวทบ้าน ซึ่งต้องเผื่องบประมาณที่อาจจะบานปลายไว้ด้วย โดยวางแผนการปรับปรุงซ่อมแซมในส่วนที่สำคัญก่อนไล่ระดับลงมา เพื่อให้รีโนเวทบ้านได้เสร็จสมบูรณ์ตามที่ต้องการ

Mortgage concept by money house from the coins

• เลือกแนวทางรีโนเวท
ในการรีโนเวทบ้านสามารถแบ่งได้เป็น 2 วิธี ได้แก่ Design-Bid-Built ซึ่งแยกระหว่างนักออกแบบและผู้รับเหมา ทำให้เราสามารถตรวจสอบและปรับปรุงแบบได้ตรงตามความต้องการ โดยนักออกแบบจะเป็นผู้ให้คำปรึกษาและตรวจคุณภาพงานรวมถึงการก่อสร้างของผู้รับเหมา ซึ่งต้องใช้ความสามารถการประสานงานให้การรีโนเวทสำเร็จตามระยะเวลาและงบประมาณที่วางไว้

ส่วน Design & Build เราสามารถติดต่อหรือประสานงานกับนักออกแบบและผู้รับเหมาที่เป็นรายเดียวกันได้ตั้งแต่ต้นจนจบหรือ Turn Key ทำให้เราสามารถรีโนเวทบ้านได้ตามระยะเวลาและงบประมาณที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม เราควรกำหนดขอบเขตและรายละเอียดของงานในสัญญาว่าจ้างให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดข้อขัดแย้งขึ้นระหว่างการรีโนเวท

การรีโนเวทบ้านไม่จำเป็นต้องรื้อทิ้งและใส่ของใหม่เข้าไปทั้งหมด แต่สามารถนำของเดิมมาปัดฝุ่นหรือประยุกต์ใช้ใหม่ให้ดูดีมีสไตล์ ทั้งยังช่วยลดงบประมาณการรีโนเวทบ้านได้

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[3 เคล็ดลับดูแล “หญ้า” ให้อยู่คู่บ้านไปอีกนานแสนนาน]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/10/161581/3-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2587%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25a5-%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%258d%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2-%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b9%2589 www.ddproperty.com:news:161581 Mon, 02 Oct 2017 04:11:30 +0700 3 เคล็ดลับดูแล “หญ้า” ให้อยู่คู่บ้านไปอีกนานแสนนาน
3 เคล็ดลับดูแล “หญ้า” ให้อยู่คู่บ้านไปอีกนานแสนนาน

คราวก่อน DDproperty ได้พาทุกคนไปรู้จักกับหญ้าให้มากขึ้นก่อนจะนำมาปลูกสนามหญ้าในบ้านแล้ว  คราวนี้ก็คงพลาดไม่ได้กับบทความดีดีเกี่ยวกับหญ้าที่จะนำมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านต่อ และคงจะเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจากกลเม็ดเคล็ดลับการดูแลรักษาหญ้าให้อยู่คู่กับบ้านไปนานๆ โดยเฉพาะคนที่กำลังจะซื้อบ้านและคิดจะตกแต่งบ้านด้วยหญ้าหรือทำสนามหญ้ายิ่งต้องรู้เรื่องการดูแลรักษาให้ดี เพราะหญ้าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้บ้านของเรานั้นสวยเหมือนใหม่ตลอดเวลา

 

อยากให้หญ้าอยู่คงทน ต้องหมั่นดูแลรักษาดินให้ดี

national-4-1024x717

3 เคล็ดลับดูแล “หญ้า” ให้อยู่คู่บ้านไปอีกนานแสนนาน

ดินถือเป็นส่วนสำคัญในการปลูกหญ้า การที่จะให้ต้นหญ้าเติบโตงดงามและมีความแข็งแรงได้พื้นฐานสำคัญอันดับแรกที่ควรดูแลให้ดีก็คือดิน ถ้าดินดีหญ้าของเราก็จะสวยงาม วิธีดูแลดินง่ายๆ ก็จะต้องมีการบำรุงด้วยการใส่ปุ๋ยซึ่งเป็นเหมือนอาหารเสริมของดินและช่วยให้ใบหญ้าได้รับสารอาหารและแร่ธาตุอย่างเต็มที่ รวมไปถึงช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ใบหญ้าในการต่อต้านโรคที่เกิดกับพืชอีกด้วย

cameringo_20160625_115808

3 เคล็ดลับดูแล “หญ้า” ให้อยู่คู่บ้านไปอีกนานแสนนาน

โดยก่อนจะใส่ปุ๋ยจะต้องนำดินไปตรวจสอบธาตุอาหารและแร่ธาตุก่อน เพื่อที่จะได้รู้ว่าดินของเรายังขาดแร่ธาตุหรือสารอาหารตัวไหนบ้าง แล้วจึงนำปุ๋ยที่มีธาตุอาหารต่างๆ ที่ดินขาดอยู่ใส่ลงไป หากซื้อปุ๋ยบำรุงมาเติมตามใจชอบ อาจจะทำให้ดินมีแร่ธาตุที่ไม่สมบูรณ์ได้และอาจส่งผลอันตรายต่อแม่น้ำ ลำคลอง ตลอดจนทำให้พืชตายด้วย ทั้งนี้นอกจากจะรู้จักการใส่ปุ๋ยแล้ว ต้องรู้จักวิธีการฟื้นฟูสภาพดินด้วย  โดยอาจจะเลือกใช้ปุ๋ยที่มีคุณภาพอย่างปุ๋ยออแกนิกหรือปุ๋ยชีวภาพและเลี้ยงไส้เดือนไว้ใต้ดินไว้ช่วยพรวนดินให้มีช่องทางของออกซิเจนเข้าไปรวมถึงเปิดทางให้สารอาหารลงไปได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นด้วย

 

ดูแลรักษาหญ้าให้เหมือนลูก อย่าปล่อยให้ศัตรูพืชและวัชพืชมาทำร้ายหญ้าได้

zr

3 เคล็ดลับดูแล “หญ้า” ให้อยู่คู่บ้านไปอีกนานแสนนาน

หากวันใดที่คุณออกมานั่งเล่นบนสนามหญ้า และเจอสิ่งแปลกปลอมบนใบหญ้า ไม่ว่าจะเป็นวัชพืชที่ขึ้นมาแทรกในสนามหญ้าหรือศัตรูพืชก็ตาม นั่นเหมือนเป็นสัญญาณอันตรายบอกเหตุร้ายแล้วว่าดินของเรากำลังมีปัญหา โดยขั้นต้นหากมีวัชพืชขึ้นหนาแน่นมากผิดปกติ อาจสันนิษฐานได้ว่าดินด้านล่างได้กลายเป็นดินเหนียวที่มีความหนาแน่นนั่นเอง

fiche-sécurité-SIMDUT-produit-chimique-570x370

3 เคล็ดลับดูแล “หญ้า” ให้อยู่คู่บ้านไปอีกนานแสนนาน

เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นวิธีแก้ปัญหาคือต้องเตรียมดินและปลูกหญ้าใหม่ ดังนั้นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือให้กลับไปดูที่หัวข้อแรกเรื่องการดูแลรักษาและให้อาหารดิน อย่าปล่อยให้ดินเสียจนอาจก่อให้เกิดวัชพืชและทำให้หญ้าของเราไม่สวยงามได้ อีกทั้งยังทำให้สิ่งแวดล้อมรอบๆ บ้านดูไม่ดีไปด้วย ครั้นจะฉีดยาฆ่าแมลง ก็จะทำให้บ้านเต็มไปด้วยสารเคมีตกค้างของยาฆ่าแมลงป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมทั้งคนและสัตว์เลี้ยง ดังนั้นการกำจัดวัชพืชเราจึงควรเลือกยาฆ่าแมลงที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ โดยอาจจะมีราคาแพงกว่ายาฆ่าแมลงธรรมดาแต่มีอันตรายน้อยกว่าเยอะ รวมทั้งยังสามารถรักษาสิ่งแวดล้อมรอบบ้านได้ดีกว่าด้วย

 

ดูแลหญ้าด้วยวิธีเบสิค รดน้ำ ตัดหญ้า อย่าให้ขาด หญ้าจะได้สวยงาม

Cut Field

3 เคล็ดลับดูแล “หญ้า” ให้อยู่คู่บ้านไปอีกนานแสนนาน

วิธีสุดท้ายที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือวิธีดูแลหญ้าสุดคลาสสิคอย่างการรดน้ำ พรวนดิน รวมไปถึงการตัดหญ้า ซึ่งเคล็ดลับของการดูแลขั้นสุดท้ายนี้จะอยู่ที่การตัดหญ้า โดยทั้งนี้การตัดหญ้าจะต้องตัดไม่ให้สั้นจนเกินไป เพราะถ้าตัดหญ้าสั้นเกินหรือตัดบริเวณโคนของต้นก็อาจมีผลกระทบกระเทือนไปถึงรากหญ้าและทำให้หญ้าตายได้ นอกจากนั้นควรทำการเล็มหญ้าบ่อยๆ เพื่อให้หญ้าผลิตยอดอ่อนออกมาซึ่งจะทำให้สนามหญ้าของเราเขียวขจียิ่งขึ้น ยิ่งหากทำเป็นประจำทุกสัปดาห์จะทำให้สนามหญ้าของคุณสวยงามและทำให้บ้านของคุณน่าอยู่ขึ้นเป็นเท่ากอง

Water Proof

3 เคล็ดลับดูแล “หญ้า” ให้อยู่คู่บ้านไปอีกนานแสนนาน

ส่วนวิธีรดน้ำก็ควรลดให้ถูกวิธีไม่มากไม่น้อยจนเกินไป โดยอาจจะทำการรดน้ำเป็นประจำทุกเช้าก่อนแดดออกและให้น้ำกระจายทั่วสนามหญ้าในปริมาณที่ไม่มากเกินไปหรือพอชุ่มชื้นพอ ซึ่งเคล็ดลับในข้อนี้ไม่ได้อยู่ที่การรดน้ำ แต่อยู่ที่ชนิดของหญ้าต่างๆ ซึ่งจะแตกต่างกันไปบางพันธุ์ชอบน้ำเยอะต้องการดูแลรักษามาก บางพันธุ์ไม่ต้องการการดูแลรักษาที่จุกจิกมาก ตรงนี้ก็จะช่วยประหยัดเวลาในการดูแลหญ้าได้หากรู้จักกับพันธุ์หญ้านำมาปลูกต่างๆ

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

 

]]>
<![CDATA[ทำความรู้จักประกันบ้านแบบ Insurtech ดีอย่างไร]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/9/161499/%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2588%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599 www.ddproperty.com:news:161499 Fri, 29 Sep 2017 04:21:52 +0700 ทำความรู้จักประกันบ้านแบบ Insurtech ดีอย่างไร
ทำความรู้จักประกันบ้านแบบ Insurtech ดีอย่างไร

เวลาเป็นเงินเป็นทอง ยิ่งในยุคนี้ที่ทุกอย่างถูกย่อไว้ได้ในหน้าจอโทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงาน การใช้ชีวิตส่วนตัว การจับจ่ายใช้สอยเพื่อซื้อของสักชิ้น รวมถึงการทำประกันบ้าน ซึ่งไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ปัจจุบันนี้มีการทำประกันบ้านที่เสนอความคุ้มครองภายใน 5 วินาทีเท่านั้น 

insurtech คือ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาระบบประกันภัย ซึ่งในที่นี้คือ ประกันบ้าน 

ประกันบ้านกับ Insurtech การพัฒนาสู่ความรวดเร็ว
ในประเทศสหรัฐอเมริกา การซื้อขายบ้าน ปล่อยเช่า หรือธุรกรรมเกี่ยวกับบ้านมักทำผ่านนายหน้า ซึ่งค่าใช้จ่ายนอกจากค่าบ้านแล้วยังมีภาษีและค่าประกันพ่วงเข้ามาด้วย ซึ่งการทำประกันบ้านในอดีตเป็นเรื่องที่ค่อนข้างวุ่นวายหลายขั้นตอน จนกระทั้ง สวีฟฟท์นำเอา Insurtech เข้ามาใช้ นอกจากธุรกิจของสวีฟฟท์จะเป็นไปได้ดีและง่ายขึ้นแล้ว ลูกค้าก็ยังสะดวกสบายมากขึ้นอีกด้วย ด้วยการสร้างธุรกิจตัวแทนประกันอิสระที่ลงทะเบียนออนไลน์กับทางสวีฟฟท์ ตัวแทนเหล่านี้สามารถเสนอความคุ้มครองจากประกันภัยให้กับเจ้าของบ้านได้ในเวลาเพียงไม่ถึงนาที

Insurtech + สวีฟฟท์ = ความรวดเร็วและสะดวกสบาย
การขายประกันบ้านบ้านแบบเดิมๆ ทั้งนายหน้าและลูกค้าอาจใช้เวลาเนิ่นนานกว่าจะปิดการขายได้ แต่สำหรับสวีฟฟท์แล้ว การคำนวณค่าใช้จ่ายเพื่อเสนอให้กับลูกค้าใช้เวลาไม่ถึงนาที 

นายหน้าของสวีฟฟท์จะได้รับการฝึกฝนมาเพื่อเป็นที่ปรึกษาด้านประกัน ซึ่งนอกจากจะพัฒนาคุณภาพของคนทำงานแล้ว สวีฟฟท์ยังเปิดใจกว้างให้กับเทคโนโลยี ด้วยการนำ Insurtech เข้ามาใช้ด้วย โดยนายหน้าของสวีฟฟท์จะใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเข้าโปรแกรมเพื่อคำนวณ ปรับแต่ง สำรวจ แจ้งปัญหา ระบบจะคำนวณทุกอย่างแล้วส่งอีเมลใบเสนอราคาพร้อมรายละเอียดไปที่ตัวแทน รวมถึงมอบความคุ้มครองให้แก่เจ้าของบ้านได้ในเวลาไม่ถึงนาที โดยสิ่งเดียวที่นายหน้าต้องมีและลูกค้าต้องให้คือที่อยู่เท่านั้น

asian casual male and house loan

ฌอห์น เมห์เออร์ ผู้ร่วมก่อตั้งสวีฟฟท์มองว่า Insurtech คือโอกาส ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็พร้อมมอบความคุ้มครองจากประกันแก่ลูกค้าได้ทันที รวมทั้งให้ความคุ้มครองต่อลูกค้าเป็นรายบุคคลได้อย่างแม่นยำ เพราะการนำ Insurtech มาประยุกต์ใช้ ทำให้การทำงานของนายหน้าง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้ลงทะเบียนร่วมกับสวีฟฟท์แล้วนับพันคนทั่วประเทศ และมีแนวโน้มที่ธุรกิจนี้จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

แม้โครงสร้างเดิมของสวีฟฟท์จะเป็นธุรกิจเชิงเดี่ยว แต่เมื่อนำเอา Insurtech เข้ามาช่วยในขั้นตอนการคำนวณเบี้ยประกัน และให้ผลลัพธ์ที่ดีคือความรวดเร็ว คาดว่าโครงสร้างนี้จะเปลี่ยนไป Insurtech จะพัฒนาธุรกิจประกันภัยบ้านไปสู่การเป็นความคุ้มครองส่วนบุคคลได้ในอนาคต และประโยชน์จะตกเป็นของลูกค้า เพราะทุกอย่างถูกเปลี่ยนให้ง่ายขึ้น และจะมีผลต่อการตัดสินใจของผู้ใช้บริการในอนาคตอันใกล้ และไม่แน่ในอีกไม่กี่ปีเราอาจจะได้ใช้เทคโนโลยีนี้ในไทยก็เป็นได้

C-Sep#21-featured

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

ข้อมูลจาก Frank.co.th :: ประกันที่รวดเร็ว เรียบง่าย จริงใจกับคุณ

]]>
<![CDATA[ทำความสะอาดบ้านฉบับคนรักสัตว์]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/9/161174/%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b3%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%259a%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2589%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25a3 www.ddproperty.com:news:161174 Mon, 25 Sep 2017 09:23:11 +0700 ทำความสะอาดบ้านฉบับคนรักสัตว์
ทำความสะอาดบ้านฉบับคนรักสัตว์

สัตว์เลี้ยงแสนรักเป็นเหมือนเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างสร้างความเพลิดเพลิน และช่วยให้คลายเหงาได้ในบ้านหลังน้อย เพียงแค่ต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่ มอบความรักความอบอุ่นและดูแลรักษาความสะอาดให้เจ้าตูบและน้องเหมียวมีสุขอนามัยที่ดี ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของสมาชิกในครอบครัวและบ้านของเราให้น่าอยู่ด้วย

• กลิ่นไม่พึงประสงค์
หากไม่ต้องการให้บ้านของเราเต็มไปด้วยกลิ่นไม่พึงประสงค์ ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นตัวหรือกลิ่นของเสีย เราควรหมั่นอาบน้ำ แปรงขน และแปรงฟันให้สัตว์เลี้ยงของเราอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการทำความสะอาดอุ้งเท้า และต่อมบริเวณก้นที่เก็บกลิ่นเฉพาะตัวของเจ้าตูบและเจ้าเหมียว เพื่อสุขอนามัยที่ดีของพวกมัน

นอกจากนั้น เราควรให้ความสำคัญกับการขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์บริเวณที่อยู่อาศัย ภาชนะที่ใส่อาหาร และอุปกรณ์ของเล่นต่างๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและดับกลิ่น โดยหมั่นซักล้าง ตากแดด และนำที่นอนมาผึ่งลมเป็นประจำ เพื่อระบายอากาศ และฆ่าเชื้อโรค รวมถึงกำจัดกลิ่นหมักหมมในข้าวของเครื่องใช้ของมัน

• กำจัดขนสัตว์ฟุ้งกระจาย
ปัญหากวนใจของคนรักสัตว์กับขนสัตว์ที่ฟุ้งกระจายตามพื้น ปลิวติดเฟอร์นิเจอร์ หรือเสื้อผ้าตัวโปรด ทำให้หลายคนต้องถอดใจการดูแลทำความสะอาดบ้าน ทั้งที่ความเป็นจริงการกำจัดขนสัตว์ไม่ได้ยากอย่างที่คิดและเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ โดยเฉพาะหากในบ้านมีเจ้าตัวเล็กเป็นสมาชิกครอบครัว เรายิ่งต้องหมั่นดูดฝุ่นเป็นประจำทุกวันหรือทุกสัปดาห์ ทั้งบนพื้นพรมและเฟอร์นิเจอร์ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและเป็นต้นเหตุทำให้เด็กๆ กลายเป็นโรคภูมิแพ้

สำหรับวิธีการกำจัดขนสัตว์เลี้ยงที่ติดตามเฟอร์นิเจอร์ โดยเฉพาะบนโซฟามีหลายวิธี เช่น การใช้ฟองน้ำแห้งปาดเส้นขนเบาๆ ไม่ให้ขนฟุ้งกระจาย หรือจะใช้ถุงมือยาง ซึ่งทำปฏิกิริยาเสียดสีและเกิดไฟฟ้าสถิต ช่วยให้ขนสัตว์สามารถหลุดจากโซฟาง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม ถ้าฟองน้ำหรือถุงมือยังไม่สามารถกำจัดขนสัตว์ตามโซฟาได้หมด ลองใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มใส่ขวดสเปรย์ฉีดและใช้ผ้าสะอาดเช็ดออก หรือหากเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ก็ให้นำน้ำยาขัดเงาเนื้อไม้ฉีดพ่น และใช้ผ้าที่มีขนนุ่มสำหรับทำความสะอาดเนื้อไม้เช็ดออก ซึ่งการนำขนสัตว์ออกจากพรมสามารถใช้แปรงยางหรือไม้ถูพื้นรีดน้ำแบบหัวยางถูย้อนแนวขนพรมให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ รวมถึงการใช้พื้นรองเท้ายางสะอาดถูบนพื้นพรมให้ขนสัตว์ติดพื้นรองเท้า เพื่อรวบทิ้งรวมกันได้ภายหลัง

fitur cat dog

• การใช้น้ำยาถูพื้น
หลังจากทำความสะอาดพื้นและกำจัดขนสัตว์ฟุ้งกระจายแล้ว เราควรใช้น้ำยาถูพื้นเพิ่มความมั่นใจในความสะอาด โดยเลือกสูตรธรรมชาติปลอดภัยไร้สารเคมี และเน้นน้ำยาทำความสะอาดที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหย (Essential Oils) กลิ่นส้ม ไซรตรัส และกลิ่นผลไม้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสัตว์เลื้ยงของเรา เพราะเจ้าตูบหรือน้องเหมียวอาจจะเผลอเลียพื้นที่เพิ่งถูเสร็จใหม่ๆ และได้รับอันตรายจากสารเคมีในน้ำยาถูพื้นได้ รวมถึงการเก็บน้ำยาถูพื้น น้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาเช็ดกระจกในที่ปลอดภัย ห่างไกลจากเด็กและสัตว์เลี้ยงในบ้าน

• จัดระเบียบข้าวของเครื่องใช้
สิ่งสำคัญในการทำความสะอาดบ้านส่วนสุดท้าย คือ การจัดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่วางสิ่งของระเกะระกะ ทั้งห้องรับแขกและห้องนอน รวมไปถึงห้องครัวที่ต้องแยกเก็บอาหารและเครื่องปรุงรสในภาชนะที่มีฝาปิดแน่นหนา นอกเหนือจากด้านสุขอนามัยที่ดีแล้ว เครื่องปรุงรสบางชนิดยังเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงด้วย เช่น กระเทียม และหัวหอมสามารถทำให้เกิดโรคโลหิตจางขั้นรุนแรง ลูกเกดและองุ่นสามารถทำให้เกิดโรคไตวาย รวมถึงถั่วทุกชนิดทำให้เจ้าเหมียวเกิดภาวะอัมพาตชั่วคราวได้

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

]]>
<![CDATA[ปลั๊กไฟ อันตรายใกล้ตัวที่ (อาจ) คร่าชีวิตลูกน้อย]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/9/161017/%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b1%25e0%25b9%258a%25e0%25b8%2581%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%259f-%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2597 www.ddproperty.com:news:161017 Sat, 23 Sep 2017 03:00:59 +0700 ปลั๊กไฟ อันตรายใกล้ตัวที่ (อาจ) คร่าชีวิตลูกน้อย
ปลั๊กไฟ อันตรายใกล้ตัวที่ (อาจ) คร่าชีวิตลูกน้อย

ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ปลั๊กไฟก็ถือเป็นอุปกรณ์ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ หากใช้อย่างประมาท ไม่ระมัดระวัง โตแล้วอาจจะต้องไม่ต้องเป็นห่วงมาก แต่สำหรับเด็ก โดยเฉพาะเด็กตัวเล็กๆ ที่ยังไม่ค่อยประสีประสาต้องบอกเลยว่า อันตรายมาก เสี่ยงโดนไฟดูด ซึ่งในวันนี้เราจะมาแนะนำ 9 วิธีป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

โดยทั่วไป แล้วเด็กที่มีความเสี่ยงต่อการโดนไฟดูดมากที่สุด คือเด็กที่อยู่ในช่วงอายุต่ำกว่า 5 ขวบ เด็กเล็กตั้งแต่วัยคลานขึ้นไป มักชอบที่จะใช้นิ้วเขี่ยอะไรไปทั่ว ชอบหยิบของที่ตกอยู่ตามพื้นและบางครั้งก็มักจะเอาพวกกิ๊บ หรือของต่างๆ ที่คว้าได้ แหย่เข้าไปในรูปลั๊กไฟตามผนัง ตามปลั๊กสามตา หรือปลั๊กต่อพ่วงที่เสียบไฟไว้ บางครั้งก็คว้าสายไฟไปกัดด้วยความมันเขี้ยว จนอาจเกิดอันตรายร้ายแรงกับลูกได้ ดังนั้นเราจึงควรหาวิธีป้องกัน ระวังอันตรายใกล้ตัวคร่าชีวิตลูก ไว้ก่อนจะดีกว่า

1. ใส่ตัวครอบปลั๊ก
หาซื้อตัวครอบปลั๊กไฟมาปิดรูปลั๊กที่ไม่ได้ใช้ ซึ่งตัวครอบปลั๊กนั้นหาซื้อได้ง่ายมากตามแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้าง หรือตามร้านจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป

2. ความสูงของปลั๊กไฟ
ควรติดตั้งปลั๊กไฟให้อยู่สูงจากพื้นประมาณ 1.5 เมตร

3. เก็บและม้วนสายไฟทุกครั้ง
เก็บและม้วนสายไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดหลังใช้งานเสร็จเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกกัดสายไฟ

TAP 1

4. ไม่ควรปล่อยให้สายไฟจากเครื่องใช้ไฟฟ้าห้อยหรือเสียบพาดอยู่ตามพื้น
เพราะเด็กเล็กอาจกระชากสายไฟเล่นจนทำให้เกิดไฟช็อต และอาจทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเช่นกระติกน้ำร้อนร่วงตกลงมาใส่หัวเด็กจนเป็นอันตรายได้

5. หมั่นตรวจสอบสายไฟ
อย่าปล่อยให้สายไฟเปื่อยหรือชำรุด หากเจอต้องเปลี่ยนทันที ไม่ควรนิ่งนอนใจ

6. ระวังปลั๊กสามตา หรือปลั๊กต่อพ่วง
หากมีการใช้ปลั๊กสามตา หรือปลั๊กต่อพ่วง ควรไว้ในที่สูง และไม่ควรเสียบไฟมากจนเกินกำลังไฟ เพราะบางครั้งการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกันหลายๆ ตัว ก็เสี่ยงที่จะทำให้เกิดไฟช็อตหรือไฟรั่วได้

Multiple electricity plugs on adapter risk overloading and dangerous.

7. ระวังเสียบปลั๊กไม่แน่น
การเสียบปลั๊กไม่แน่น ไม่มิด มีเหล็กเสียบเลื่อนออกมาก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องคอยระวัง เพราะนอกจากจะเสี่ยงที่จะทำให้เกิดประกายไฟที่หัวปลั๊กแล้ว ยังเสี่ยงต่อการที่เจ้าตัวเล็กจะไปจับเล่นจนโดนไฟดูดอีกด้วย

8. ติดตั้งเครื่องตัดไฟอัตโนมัติ
คุณพ่อคุณแม่ควรหาซื้อและติดตั้งเครื่องตัดไฟอัตโนมัติ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้

9. ตรวจดูต้นไม้ที่ปลูกไว้รอบบ้าน
ตรวจดูต้นไม่ที่ปลูกไว้รอบบ้าน ไม่ให้ไปเกี่ยวกับสายไฟ และหากพบเห็นก็ไม่ควรหักกิ่งตัดต้นเองนะครับ ควรโทรแจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจะดีที่สุด

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

ขอบคุณบทความจากเว็บไซต์ theAsianparent.com เว็บไซต์ให้คำแนะนำด้านการเลี้ยงลูกอันดับ 1 ในประเทศไทย

]]>