กรมธนารักษ์เปิดเผยรายละเอียดเบื้องต้นในการจัดทำข้อมูลราคาประเมินทุนทรัพย์ 30 ล้านแปลง เพื่อรองรับ พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คาดแล้วเสร็จใน 1 ปี
นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลได้มีนโยบายเกี่ยวกับการบริหารทรัพย์สินของประเทศเพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคม โดยการขยายฐานภาษีบางประเภทซึ่งหนึ่งในนั้น คือ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ของกรมธนารักษ์เป็นฐานในการจัดเก็บภาษีนั้น ในเบื้องต้นการจัดเก็บภาษีตาม พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะดำเนินการได้ รัฐบาลต้องได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่
- กรมที่ดิน ซึ่งสนับสนุนข้อมูลระวางแผนที่ ข้อมูลทะเบียนที่ดิน และข้อมูลซื้อขาย
- สำนักพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์กรมหาชน) หรือ GISTDA ดำเนินการจัดทำภาพถ่ายดาวเทียมคุณภาพสูงสำหรับการนำมาใช้ร่วมกันระหว่างกรมธนารักษ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จะสนับสนุนโปรแกรมเพื่อจัดทำข้อมูลทะเบียนที่ดิน (LTAX-๓๐๐๐) และโปรแกรมจัดทำข้อมูลแผนที่ภาษี (LTAX-GIS)
- องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะจัดทำแผนที่ภาษีและฐานภาษี
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจะดำเนินการเพื่อให้ พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีผลบังคับใช้
- กรมธนารักษ์จัดทำข้อมูลราคาประเมินที่ดินรายแปลงให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
- หน่วยงานอื่นๆ ที่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ธนาคารออมสิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น
นอกจากนั้น กรมธนารักษ์ยังเตรียมโครงการนำร่องการคำนวณมูลค่าทรัพย์สินเพื่อจัดทำฐานภาษีตาม พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างขึ้นมาก่อนเพื่อเป็นต้นแบบ โดยจะเริ่มดำเนินการในเดือนมกราคม 2558 และร่างแผนงาน 2 โครงการ คือ แผนงานพัฒนาบุคลากร และแผนการประเมินราคาที่ดินรายแปลงเสร็จแล้ว และได้รับความเห็นชอบในหลักการจากนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนร่างแผนปฏิบัติการโดยละเอียด โดยขั้นตอนต่อไปจะมีการนำเสนอให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ผู้ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกรมธนารักษ์ เพื่อให้ข้อคิดเห็นและให้ความเห็นชอบขั้นตอนของแผนปฏิบัติการ ซึ่งเมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้ว จะเปิดเผยแผนงานโดยละเอียดต่อไป
“กรมธนารักษ์มั่นใจว่าแผนการประเมินราคาทุนทรัพย์ จะดำเนินการแล้วเสร็จในเวลา 1 ปีครึ่ง โดยขณะนี้มีการประชุมติดตาม และฝึกอบรมข้าราชการที่ต้องเกี่ยวข้องกับการประเมินนี้ตลอดเวลา เพื่อให้การประเมินราคาครั้งนี้มีประสิทธิภาพ และโปร่งใสที่สุด ตามนโยบายรัฐบาล” นายนริศกล่าว
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่