ตลาดคอนโดฯพัทยามีแนวโน้มกระเตื้องช่วงปลายปี

Kanchana Paha8 ก.ย. 2557

ตลาดคอนโดฯ พัทยาช่วงครึ่งปีแรกยังคงซึมๆ จากผลกระทบทางการเมือง เผยห้องชุดล้านต้นๆ ยังคงได้รับความนิยมจากผู้ซื้อทั้งไทยและต่างชาติ แม้จะไม่ติดทะเลแต่เน้นส่วนกลางใหญ่ คาดตลาดฟื้นตัวช่วงไฮซีซั่นปลายปี

นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่าจากรายงานวิจัยตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยาช่วงครึ่งแรกของปี 2557 พบว่าตลาดมีการชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด โดยมีคอนโดฯ เปิดขายใหม่ในช่วงเวลาดังกล่าวประมาณ 3,800 ยูนิต ลดลงจากช่วงครึ่งหลังของปี 2556 ประมาณ 60%

โดยคอนโดฯ ที่เปิดขายใหม่ในทุกทำเลลดลงอย่างเห็นได้ชัด ยกเว้นทำเลจอมเทียนที่มีคอนโดฯ เปิดขายใหม่เพิ่มขึ้น 48% เนื่องจากมีโครงการขนาดใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตมากกว่า 1,100 ยูนิตเปิดขาย

“สถาณการณ์ทางการเมืองในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 และห้าเดือนแรกของปี 2557 มีผลกระทบโดยตรงต่อตลาดอสังหาฯ ในเมืองไทย” นายสุรเชษฐกล่าว

สำหรับคอนโดฯ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในพัทยาและมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงครึ่งหลังของปีนี้มีจำนวนรวมกว่า 28,200 ยูนิต โดยประมาณ 18,850 ยูนิตเป็นห้องชุดที่อยู่ในโครงการย่านจอมเทียน

“อัตราการขายเฉลี่ยของคอนโดฯ ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ประมาณ 73% เพิ่มขึ้นช่วงปลายปีที่ผ่านมาเล็กน้อย เนื่องจากผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจซื้อเพราะยังไม่ค่อยแน่ใจในสถานการณ์ทางการเมือง ในขณะที่ชาวต่างชาติซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อกลุ่มใหญ่ในตลาดก็มีจำนวนลดน้อยลงตั้งแต่มีประกาศเตือนของประเทศต่างๆ ให้ระวังหรืองดเว้นการเดินทางมาเมืองไทยในช่วงปลายปีต่อเนื่องมาถึงช่วงต้นปี และการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่ประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกก็มีผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเช่นกัน ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวมีผลกระทบต่อเนื่องมายังตลาดคอนโดฯ ในพัทยา”

Colliers_Pattaya Condo launch prices_1H2014

นายสุรเชษฐกล่าวต่อว่าการที่มีโครงการคอนโดฯ จำนวนมากเปิดขายในช่วง 1 – 3 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ยังคงมีบางโครงการที่มียูนิตเหลือขายอยู่ในตลาดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ตลาดคอนโดฯ ในพัทยาชะลอตัวลง เพราะผู้ซื้อมีตัวเลือกมากขึ้น และใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อนานขึ้น

“ผู้ประกอบการชาวไทยทั้งในพื้นที่และจากส่วนกลาง รวมไปถึงผู้ประกอบการชาวต่างชาติต่างพยายามที่จะกระตุ้นกำลังซื้อโดยการออกแคมเปญทางการตลาดต่างๆ เช่น การมีการันตีผลตอบแทนในช่วง 1 – 3 ปี การแยกพื้นที่ส่วนหนึ่งในโครงการมาทำเป็นโรงแรมและให้เชนโรงแรมมาบริหารพื้นที่ส่วนกลาง รวมทั้งทำหน้าที่ในการปล่อยเช่าคอนโดฯ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อที่ต้องการลงทุน”

สำหรับราคาขายเฉลี่ยของคอนโดฯ ที่เปิดขายใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้อยู่ที่ประมาณ 62,000 บาทต่อตารางเมตร โดยที่ราคาขายเฉลี่ยในพื้นที่จอมเทียนต่ำที่สุดคือประมาณ 48,500 บาทต่อตารางเมตร เพราะว่ามีคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่หลายโครงการที่มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาทต่อยูนิต โดยราคาเริ่มต้นอาจจะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งโครงการลักษณะนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมจากผู้ซื้อทั้งชาวไทยและต่างชาติพอสมควร แม้ว่าจะไม่ได้เป็นโครงการที่ติดทะเล แต่ชูจุดขายเรื่องพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่แทน

“ตลาดคอนโดฯ ในพัทยามีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปี เพราะเป็นฤดูการท่องเที่ยว ในขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองก็มีความสงบเรียบร้อย และการที่มีรัฐบาลใหม่มาบริหารประเทศก็น่าจะเรียกความมั่นใจของชาวต่างชาติกลับมาได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งน่าจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในพัทยามีจำนวนมากขึ้น และจะส่งผลดีต่อคอนโดฯ ในพัทยาต่อไป” นายสุรเชษฐ สรุป

อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

กทม.จูงใจเอกชนแบ่งที่จอดรถสาธารณะแลกลดหย่อนภาษี

กทม.นำร่องโครงการชวนภาคเอกชนปันที่จอดรถให้คนกรุงฯ แลกกับการลดภาษีโรง

อ่านต่อ8 ก.ย. 2557