พลัสฯ เผยยอดขายคอนโดฯ ในเมืองกรุงกระเตื้องขึ้นทุกทำเล โซนสีลม – สาทร – พระราม 4 ขายดีสุด ส่วนโซนเพลินจิต – ชิดลม – ราชดำริ คว้าแชมป์คอนโดฯ แพงสุด ชี้บางแวก – ท่าพระ – จรัญสนิทวงศ์เป็นโซนน่าจับตา
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่าในช่วงที่ผ่านมาภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งจากการสำรวจตลาดคอนโดฯ ในเขตกรุงเทพฯ ช่วงครึ่งแรกปี 2557 จำนวน 168 โครงการ สัดส่วนโครงการไฮไรส์: โลว์ไรส์ อยู่ที่ 73:27 พบว่ามีซัพพลายเสนอขายทั้งหมด 94,718 ยูนิต ประกอบด้วยคอนโดฯ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2557 และ 2558 อยู่ที่ 70% และอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและมีกำหนดเสร็จหลังปี 2558 อีก 30% ซึ่งห้องชุดที่อยู่ระหว่างก่อสร้างแล้วยังขายไม่หมดนี้ เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะทยอยดูดซับภายใน 1 ปี
จากซัพพลายข้างต้น ปรากฎว่ามีอัตรายอดขาย (take-up rate) เฉลี่ยอยู่ที่ 68% โดยอัตรายอดขายนี้สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากความขัดแย้งทางการเมืองได้สิ้นสุดลง สาเหตุมาจากคอนโดฯ ในเขตกรุงเทพฯ ยังคงมีดีมานด์จากผู้บริโภคอยู่มาก ทั้งในแง่ของการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และการลงทุนในระยะยาว
ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดฯ ในเขตกรุงเทพฯ อยู่ที่ระดับ 94,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งปรับขึ้นจาก 88,000 บาท/ ตารางเมตร หรือเพิ่มขึ้น 7% จากช่วงปลายปีที่ผ่านมา
หากพิจารณาตามพื้นที่ในแต่ละโซน เริ่มจากโซนศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) มีอัตรายอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 74% โดยโซนที่มียอดขายสูงสุดในย่านนี้คือย่านสีลม-สาทร-พระราม 4 โดยราคาขายต่ำสุดอยู่ที่ 88,000 บาท/ ตารางเมตร สูงสุดอยู่ที่ 360,000 บาท และค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 148,000 บาท/ ตารางเมตร
นอกจากนี้ โซนที่คอนโดฯ มีราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรสูงสุดได้แก่ เพลินจิต-ชิดลม-ราชดำริ โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 225,000 บาท/ ตารางเมตร (ต่ำสุดที่ 133,000 บาท และสูงสุดคือ 340,000 บาท)
สำหรับคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้านั้น พบว่า 3 สถานีที่มีราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรสูงสุด ได้แก่ สถานีราชดำริอยู่ที่ 270,000 บาท/ตารางเมตร รองลงมาคือ ราชเทวีและเพลินจิตอยู่ที่ 220,000 บาท/ตารางเมตร และอันดับ 3 คือ พร้อมพงษ์และสุรศักดิ์ อยู่ที่ 200,000 บาท/ตารางเมตร
“จะเห็นได้ว่าในโซนที่สามารถขายได้ในระดับราคาที่สูงและอัตรายอดขายสูงจะกระจุกตัวอยู่ใกล้ระบบขนส่งมวลชน ทั้งบีทีเอส เอ็มอาร์ที สายปัจจุบันและส่วนต่อขยาย นอกจากนี้ในย่านรัชดา-ลาดพร้าวเองก็ถูกจับตามองว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพ และอาจจะกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจของไทยแห่งใหม่ได้” นายภูมิศักดิ์กล่าว
สำหรับแนวโน้มตลาดในช่วงที่เหลือของปีนี้ นายภูมิศักดิ์มองว่ายอดขายคอนโดฯ น่าจะยังคงรักษาระดับเดิมไว้ ไม่น่าจะปรับขึ้นมากถึงแม้ว่าความมั่นใจของผู้บริโภคจะกลับมาและยอดการขายโครงการใหม่ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวไปในช่วงไตรมาสที่ 3 ได้รับการตอบรับที่ดี แต่ผู้พัฒนาโครงการต่างๆ ก็จะทยอยเปิดโครงการใหม่มากขึ้นหลังจากที่แผนการเปิดตัวได้ถูกเลื่อนมาจากความไม่สงบทางการเมืองเมื่อช่วงต้นปี
“คอนโดฯ ในโซนใหม่ๆ เช่น บางแวก ท่าพระ จรัญสนิทวงศ์ จะมีอัตราการเติบโตที่ดีเนื่องจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายมีความคืบหน้าไปมาก และมีความน่าสนใจถึงแม้จะไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองแต่โซนนี้ถือว่ามีศักยภาพ ขณะที่ที่ดินในพื้นที่ใจกลางเมืองซึ่งมีจำกัดจะถูกเก็บไว้สำหรับพัฒนาโครงการระดับบนมากกว่า” นายภูมิภักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com