กรมธนารักษ์จับมือกรมที่ดินขยายเวลาในการขอใช้ข้อมูลที่ดินเพื่อการจัดทำบัญชีกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ ประจำปี 2558 พร้อมรับมือการขยายพื้นที่ประเมินราคาที่ดินรายแปลงครอบคลุมทั้งประเทศ รองรับร่าง พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่ากรมธนารักษ์ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (Memorandom of Understanding : MOU) เพื่อขอใช้ข้อมูลที่ดินสำหรับจัดทำบัญชีกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ พ.ศ. 2558 กับกรมที่ดินไปเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา โดยกรมธนารักษ์จะขอใช้ข้อมูลแผนที่ ข้อมูลทะเบียนที่ดิน ข้อมูลอาคารชุด รวมทั้งข้อมูลราคาซื้อขายเพื่อการวิเคราะห์กำหนดราคาประเมิน ก่อนจัดทำบัญชีกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ส่งให้กรมที่ดินใช้ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและยังเป็นการรองรับร่าง พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
“การลงนามบันทึกข้อตกลงของทั้งสองส่วนราชการถือเป็นความร่วมมือในการร่วมใช้ข้อมูลสำหรับการบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยในการดำเนินงานสำรวจและประเมินราคา เพื่อให้ปฏิบัติงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น การนำแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม แผนที่ดิจิตอลรูปแปลงที่ดินมาซ้อนทับ ทำให้บัญชีกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ของอสังหาริมทรัพย์ที่กรมธนารักษ์จัดทำมีความครบถ้วน ถูกต้อง และมีราคาประเมินทุนทรัพย์ที่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงตามราคาตลาดของอสังหาฯ ส่งผลให้เกิดความเป็นธรรมทั้งในส่วนของรัฐและประชาชนผู้มีภาระต้องชำระค่าธรรมเนียมและภาษีต่าง ๆ ให้แก่รัฐ” นายนริศกล่าว
นอกจากนี้ กรมที่ดินยังสามารถนำบัญชีกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ไปใช้ในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมและภาษีต่าง ๆ จากการโอนอสังหาฯ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
ปัจจุบัน กรมธนารักษ์สามารถดำเนินการประเมินราคาที่ดินรายแปลงได้ราว 8 ล้านแปลงทั่วประเทศ และมีแผนที่จะดำเนินการประเมินทั้งหมดให้แล้วเสร็จก่อนที่ร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีผลบังคับใช้
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่