คนกรุงเตรียมพบกับแหล่งแฮงค์เอาท์ใหม่ย่านรัชดา หลังทีซีซี แอสเซ็ทส์ ประกาศเปิดให้บริการ “เดอะสตรีท รัชดา” ครั้งแรก 2 ธันวาคม 2558 นี้ กับคอนซ็ปต์ศูนย์การค้าที่เปิดให้บริการ 24 ชม.
หลังจากที่คว้าที่ดินขนาด 16 ไร่บริเวณโรบินสัน รัชดาเดิม บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือทีซีซี แคปปิตอล กรุ๊ปของเสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี ได้ทุ่มเม็ดเงินลงทุน 2,300 ล้านบาทผุดคอมมูนิตี้มอลล์คอนเซ็ปต์ใหม่ที่มีไฮไลท์อยู่ที่การเปิดให้บริการโซนร้านอาหารและแฮงค์เอาท์ 24 ชั่วโมงในชื่อ “เดอะสตรีท รัชดา” ล่าสุด โครงการดังกล่าวได้ดำเนินการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จและพร้อมจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 2 ธันวาคม 2558 นี้เป็นต้นไป
นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าการพัฒนาโครงการดังกล่าว นับเป็นการดำเนินตามนโยบายของบริษัทที่เน้นการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูส ที่นอกจากจะมีโครงการที่อยู่อาศัยแล้ว ยังมีการพัฒนาในส่วนของรีเทล โรงแรม อาคารสำนักงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นมารวมในที่เดียวกัน
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ นันตวรรณกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ สตรีท รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเดอะสตรีท รัชดา กล่าวว่าโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ความสูง 5 ชั้นและชั้นใต้ดิน 1 ชั้นแห่งนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 69,900 ตารางเมตร และมีพื้นที่เช่าประมาณ 30,000 ตารางเมตร รองรับร้านค้าจำนวนกว่า 500 ร้านค้า นับเป็นมอลล์รูปแบบใหม่แห่งแรกบนถนนรัชดาภิเษกพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ SIP. WALK. TALK. SHARE. ที่ลูกค้าสามารถมาจิบ ชิม ดื่ม ขนมดี อาหารอร่อย เลือกช้อปปิ้งสินค้าสตรีทแฟชั่น พบปะสังสรรค์ หรือจะออกกำลังกาย รวมทั้งแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสุขด้วยการส่งต่อให้เพื่อนๆ ในโลกโซเชียลมีเดียได้อย่างไม่มีสะดุดตั้งแต่เช้ายันค่ำ โดยสัดส่วนร้านค้าที่เป็นร้านอาหาร-เครื่องดื่มจะอยู่ที่ราว 40% ของพื้นที่ทั้งหมด ในขณะที่อีกราว 20% จะเป็นร้านค้าแฟชั่น บริการต่างๆ
ร้านค้าในโครงการ อาทิ ร้านที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง เช่น ฟู้ดแลนด์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านติ่มซำชื่อดัง ทิม โฮ วาน, ร้านอาหาร So Asean ที่รวบรวมอาหาร 80 เมนูดังจากประเทศในกลุ่มอาเซียน, เบอร์เกอร์คิง, เคเอฟซี, ลิตเติ้ลฮ่องกง และร้านเครื่องสำอาง MASA เป็นต้น
สำหรับอัตราค่าเช่าพื้นที่ร้านค้าภายในโครงการอยู่ที่ระหว่าง 900-2,000 บาท/ ตารางเมตร/ เดือน โดยมีซีบีอาร์อี ประเทศไทยเป็นผู้ดูแลการปล่อยเช่าพื้นที่ ซึ่งล่าสุดสามารถปล่อยเช่าได้ 100% แล้ว ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถคืนทุนจากโครงการดังกล่าวได้ภายในเวลา 8-10 ปี
นอกจากนี้ นายปณตยังได้แย้มถึงแผนในการพัฒนาโครงการใหญ่ของทีซีซี แอซเซ็ทส์ในปี 2559 ว่าบริษัทมีแผนที่จะเริ่มพัฒนาโครงการตรงที่ดินขนาด 35 ไร่บนถนนพระราม 4 ใกล้กับแยกคลองเตย ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นที่จอดรถของศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รวมถึงที่ดินขนาด 88 ไร่ตรงหัวมุมถนนพระราม 4 ตัดกับวิทยุหรือตรงสวนลุมไนท์บาซาร์เดิมนั่นเอง โดยที่ดินทั้งสองแปลงนั้น เป็นของสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์แต่บริษัทได้รับสิทธิ์ในการเช่ามาเป็นเวลา 30 ปีและต่ออายุได้อีก 30 ปี
ปัจจุบัน ทีซีซีกรุ๊ปมีโครงการรีเทล ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทลูกอย่างบริษัท ทีซีซีแลนด์ จำกัด (ดูแลโดยบุตรเขย คือนายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส) โดยทีซีซีแลนด์มีแบรนด์รีเทลอยู่ภายใต้การบริหารอยู่ 5 แห่ง ประกอบด้วย เอเชียทีค, เกตเวย์ เอกมัย, เซ็นเตอร์พอยท์ สยามสแควร์, พันทิพย์ และบ็อกซ์ สเปซ
ความคืบหน้าการก่อสร้างเมื่อเดือน ต.ค. 2558 ที่ผ่านมา
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่