เคยสงสัยมั้ยว่าการออกแบบสิ่งก่อสร้างกับตัวแสงนั้นเกี่ยวข้องกันอย่างไร แล้วมันจะออกมามีหน้าตาอย่างไร? การดึงลูกเล่นของแสงเข้ามาผสมผสานกับงานสถาปัตยกรรมจุดสำคัญอยู่ที่การทำให้งานการออกแบบนั้นเสมือนเคลื่อนไหวตลอดเวลาและจะให้มุมมอง (perspectives) ที่ต่างกันในช่วงกลางวันและกลางคืน
แน่นอนว่าอยู่ดีๆจะผุดสิ่งก่อสร้างขึ้นมาเลยไม่ได้หากไม่มีการทดลองทางวิทยาศาสตร์มาก่อนโดยเฉพาะเรื่องของแสง (experimental design) เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ผิดพลาดในเรื่องการออกแบบ สถาปนิกจะต้องคิดคำนวณในเรื่องของ ณ ช่วงเวลาหนึ่งเมื่อแสงกระทบต่อจุดที่ตั้งของงานสถาปัตยกรรมนั้นจะให้มุมมองภาพออกมาเป็นอย่างไร
โดยหนึ่งในสถาปนิกที่มีชื่อเสียงของไทยผู้ดึงวิธีการออกแบบนี้มาใช้คือ คุณ เล็ก เมธา บุนนาค ผู้ก่อตั้งบริษัท บุนนาค อาร์คิเทคส์ (Bunnag Architects) โดยคุณเล็กมีความคิดที่ว่าความสวยงามควรจะมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา และการไม่หยุดนิ่งจะนำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ (creativity) นั่นเอง คุณเล็กยังมีความคิดที่ว่าบางครั้งธรรมชาติคือเครื่องมือในการสร้างสุนทรียภาพ เอกลักษณ์งานออกแบบของคุณเล็กอีกสิ่งหนึ่งคือกลิ่นอายความงดงามของศิลปะไทยจะถูกใส่เข้าไปในงานสถาปัตยธรรมชิ้นนั้นๆด้วย
สำหรับผู้ที่กำลังตกแต่งห้องหรือบ้านการดึงแสงเข้ามาช่วยเพิ่มลูกเล่นสามารถเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวห้องหรือบ้านได้ แต่ทั้งนี้จะเน้นแค่เรื่องความสวยงามเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ควรคำนึงถึงเรื่องประโยชน์ใช้สอยหรือเรื่องการที่แสงจะเข้ามารบกวนการใช้ชีวิตในบ้านของเราหรือไม่ ตัวอย่างเช่นควรจะมีการติดฟิลม์กรองรังสียูวีที่กระจกด้วยหากต้องการให้แสงนั้นเล็ดลอดมายังตัวอาคาร หรือหากส่วนไหนของบ้านมีการตกแต่งด้วยดอกไม้หรือต้นไม้ขนาดเล็ก ควรจะให้มีการเล็ดลอดของแสงแดดเข้ามาเพื่อช่วยเรื่องการเจริญเติบโตและความสวยงามของไม้ประดับ ห้องนอนหากไม่ได้ใช้ตอนกลางวันควรจะให้มีการเล็ดลอดของแสงเข้ามากระทบที่นอนเพื่อลดแบคทีเรียบนที่นอนของคุณ
ตัวอย่างงานออกแบบโดย บุนนาค อาร์คิเทคส์
ตัวอย่างห้องและอาคารที่มีการดึงนำแสงเข้ามาช่วยเพิ่มความสวยงามประโยชน์มาใช้ (Let Shine in)
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย ชัยสิทธิ์ บุนนาค Content Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chaiyasit@ddproperty.com