หนึ่งในไฮไลท์ที่ทำให้การแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้น่าสนใจก็คือกองทัพนักกีฬาไทยที่เปรียบเสมือนตัวแทนของคนไทยทั้งชาติ ในการประกาศศักดาด้วยการคว้าชัยชนะในการแข่งขันประเภทต่างๆ แต่ละเหรียญที่นักกีฬาไทยได้มาจึงมากกว่าชัยชนะของตัวนักกีฬา แต่ทว่าคือชัยชนะของคนไทยทั้งประเทศ “ฟุตบอล” คืออีกหนึ่งกีฬาความหวังที่เป็นตัวแทนของความสามัคคีและทีมเวิร์ค วันนี้ เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับดาวรุ่งแห่งความหวัง ที่กำลังเจิดจรัสแสงอยู่ในทัพช้างศึกอย่าง “เมสซี่เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์” กองกลางไซส์เอสที่ทักษะและฝีเท้าไม่เล็กตามตัว กว่าจะเป็นวันนี้ของเมสซี่เจนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเรามาทำความรู้จักกับเขาให้ลึกซึ้งกันดีกว่า
นักบอลทีมชาติ อนาคตที่วางแผนมาแล้ว
นักกีฬาหลายๆ คนอาจพึ่งค้นพบความชื่นชอบกีฬาฟุตบอล แล้วไม่นานหลังจากนั้นก็มุ่งมั่นฝึกซ้อมจนกระทั่งติดเป็นหนึ่งในทีมชาติไทยแต่ไม่ใช่กับเมสซี่เจ เพราะเขามีเป้าหมายว่าจะต้องเป็นนักฟุตบอลทีมชาติตั้งแต่ยังไม่เกิดเสียอีก ซึ่งผู้ที่วางเป้าหมายและวาดฝันให้เมสซี่เจมายืนอยู่ตรงนี้ก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นคุณพ่อของเมสซี่เจนั่นเอง คุณก้องภพ สรงกระสินธ์นั้นชื่นชอบการเล่นฟุตบอลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มองเห็นข้อดีของการเล่นฟุตบอล จนกระทั่งการเป็นนักฟุตบอลอาชีพจึงส่งเสริมในทุกๆ ทางให้เมสซี่เจเติบโตขึ้นในเส้นทางของนักฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการฝึกซ้อม และฝึกให้มีวินัยตั้งแต่เมสซี่เจยังอายุเพียง 3 ขวบเท่านั้น และเมื่อเมสซี่เจโตขึ้นก็พาไปเข้าโรงเรียนที่มีทีมฟุตบอลที่เก่ง อย่างโรงเรียนพาณิชยการราชดำเนิน ซึ่งที่นี่เมสซี่เจได้เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมฟุตบอล และได้มีส่วนร่วมในการนำพาทีมชิงชัยในการแข่งขันฟุตบอลนักเรียนกรมพลศึกษาด้วย ซึ่งถือเป็นก้าวแรกบนเส้นทางนักฟุตบอลของเมสซี่เจหลังจากจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนสามพรานวิทยา จังหวัดนครปฐม บทบาทของคุณพ่อยังไม่สิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้แต่ยังมีส่วนสำคัญในการผลักดันเมสซี่เจจนกระทั่งได้เข้ามายืนอยู่ในทีมชาติไทยเหมือนทุกวันนี้ โดยคุณพ่อคือคนที่พาเมสซี่เจมาคัดตัวทีมชาติไทยที่กรุงเทพฯ ถึง 2 ครั้ง
หากพ่อคือผู้นำทาง แม่ก็คือผู้สร้างกำลังใจ
ภาพ via IG: Chanathip Songkrasin
ย้อนกลับไป 21 ปีที่แล้วเมสซี่เจก็เป็นแค่เด็กผู้ชายธรรมดาที่เกิดและเติบโตในจังหวังนครปฐม ครอบครัวของเมสซี่เจนั้นอาศัยอยู่อำเภอสามพราน โดยคุณพ่อและคุณแม่นั้นเปิดร้านขายขนมหวานอยู่ในตลาดสามพราน สังเกตได้ว่าเมสซี่เจนั้นไม่ได้มีโอกาสที่มากกว่าหรือสิทธิพิเศษที่เหนือกว่าใครในการเข้าเป็นนักกีฬาทีมชาติเลย แต่อาศัยความพยายาม ความทุ่มเท และความมุ่งมั่น และผู้ที่มีบทบาทอย่างมากในด้านกำลังใจของเมสซี่เจก็คือคุณแม่ คุณพรสวรรค์ ทรงกระสินธ์นั่นเอง
ภาพ via FB Page: J Chanathip Songkrasin
ส่วนสูงไม่ใช่อุปสรรค์ ตัวเล็กไม่ใช่ปัญหา
ภาพ via FB page: “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธุ์ โดย Nest Monses Theerapanont
กว่าจะมีวันนี้ของเมสซี่เจนั้น ต้องเผชิญกับความผิดหวังมาแล้วหลายครั้ง ด้วยส่วนสูงเพียง 160 เซนติเมตรเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เมสซี่เจได้รับการปฏิเสธเข้าร่วมทีม ทีโอที เอฟซีมาแล้ว แต่เมสซี่เจเลือกที่จะไม่จมอยู่กับความผิดหวัง จากวันนั้น เขามุ่งมั่นพัฒนาตนเองต่อไป ในเมื่อโอกาสที่ผ่านไปนั้นไม่ใช่โอกาสสุดท้ายของชีวิต เมื่อโอกาสใหม่ผ่านเข้ามาอีก เขาจึงไม่ลังเลที่จะไขว่คว้าเอาไว้จนกระทั่งได้เข้าเป็นสมาชิกทีมเยาวชนของบีอีซี เทโรศาสน และที่นี่เองเมสซี่เจได้พิสูจน์ให้เห็นว่าทั้งส่วนสูง และตัวเล็กนั้นไม่ได้เป็นปัญหาต่อการเล่นฟุตบอลเลย การันตีได้จากการสามารถพาทีมความแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ 2011 ได้สำเร็จ
เลือกเปลี่ยนจุดอ่อนเป็นความได้เปรียบ
ภาพ via FB Page: J Chanathip Songkrasin
จากผลงานที่โดดเด่นของเมสซีเจซึ่งทำไว้ในทีมเยาชนของบีอีซี เทโรศาสน ก็มาเข้าตาคุณสมชาย ชวยบุญชุม โค้ชทีมชาติเยาวชนอย่างจัง และเรียกตัวเมสซี่เจเข้ามาเป็นทีมชาติไทยชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี และเมสซี่เจแสดงผลงานได้ทันทีในเกมการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติเอเชีย 2012 รอบคัดเลือก โดยสามารถทำประตูให้ทีมเยาวชนชาติไทยได้ 1 ประตู ในนัดที่แข่งกับทีมเยาวชนเกาะกวม ทำให้ทีมชาติไทยผ่านคัดเลือกเข้าไปแข่งรอบสุดท้ายที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ แม้ว่าเมสซี่จะมีรูปร่างเล็ก แต่ก็สามารถใช้คุณลักษณะเช่นนี้มาสร้างจุดเด่นให้กับตัวเองได้เมื่อผสานเข้ากับสไลต์การเล่นที่ปราดเปรียว ว่องไว เน้นการลากเลื้อย และหลบการกีดขวางจากแผงหลังของคู่แข่ง ซึ่งลักษณะการเล่นแบบนี้เองซึ่งไปคล้ายกับลิโอเนล เมสซี นักเตะชื่อดังแห่งทีมชาติอาร์เจนตินาเข้า จึงเป็นที่มาของฉายาเมสซี่เจอย่างทุกวันนี้
จากทีมชาติเยาวชน สู่ทีมชาติไทย
ภาพ via FB Page: J Chanathip Songkrasin
ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นจากเล่นให้กับทีมเยาวชนของบีอีซี เทโรศาสน ทำให้เมสซีเจนั้นได้ลงเล่นในตำแหน่งผู้เล่นตัวจริงตั้งแต่ฤดูกาลแรก และสร้างผลงานให้ทีมโดยตลอด จนกระทั่งปี 2556 ก็ถูกเรียกตัวเข้าสู่ทีมชาติไทยในการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพครั้งที่ 42 แม้ว่าผลการแข่งขันครั้งนี้ไทยจะทำได้แค่อยู่ในอันดับที่ 3 ร่วมกับทีมเกาหลีเหนือเท่านั้น ซึ่งการได้เข้ามาเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยนั้นเป็นการเติมเต็มความฝัน และเป้าหมายของเมสซี่เจและคุณพ่อที่วางเอาไว้ด้วย เมสซี่เจจึงเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเยาวชนในแง่ของการพยายามเพื่อประสบความสำเร็จ
เมสซี่เจ และทีมไทยกับซีเกมส์
ภาพ via FB page: “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธุ์
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลในกีฬาซีเกมส์นั้น เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทยได้เรียกตัวเมสซี่เจ เข้ามาอยู่ในทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ในการแข่งขันซีเกมส์เมื่อ 2 ปีก่อนที่เมียนมาร์ ขณะนั้นเมสซี่เจอายุ 21 ปี และในซีเกมส์ที่สิงคโปร์ครั้งนี้ก็คือเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งตัวเมสซี่เจและทีมชาติไทยทุกคนยังคงรอเสียงเชียร์และกำลังใจจากคนไทยทุกคนอยู่ ดังนั้นห้ามพลาดการแข่งขันของทีมชาติไทย ซึ่งจะมีแข่งอีกครั้งในวันพุธที่ 10 มิถุนายนนี้ เวลา 19.30 น. โดยพบกับทีมชาติเวียดนาม
ภาพหลัก via FB page: “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธุ์ โดย@saranporn sriwilai
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ นักเขียนออนไลน์ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chetapol@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่