คอลลิเออร์สฯ ชี้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 59 ในภาพรวมให้ดีขึ้น ฟันธงปี 59 เป็นปีทองของบ้านทาวน์เฮ้าส์
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 ว่าแม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยโดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมอาจจะลดความร้อนแรงลงไปตลอดปีที่ผ่านมา แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ ยังมีความเคลื่อนไหวต่อเนื่องทั้งในแง่ของซัพพลายและความต้องการ โดยเฉพาะตลาดอาคารสำนักงาน
ในปี 2559 คาดว่าจะมีอาคารสำนักงานสร้างเสร็จกว่า 193,000 ตารางเมตร ในขณะที่ความต้องการเช่าพื้นที่สำนักงานยังคงมีอยู่ในระดับที่สูงมาก โดยปัจจุบันอัตราการเช่าของอาคารสำนักงานเกรด A ในพื้นที่ศูนย์กลางเขตธุรกิจ (CBD) สูงกว่า 91% ส่งผลให้ค่าเช่าปรับเพิ่มขึ้นไปมากกว่า 900 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน ในขณะที่ค่าเช่าเฉลี่ยน่าจะสูงกว่า 1,000 บาทต่อตารางเมตร เนื่องจากอาคารเกรด A หลายแห่งได้ปรับค่าเช่าขึ้นไปเกิน 1,000 บาทต่อตารางเมตรแล้ว
สำหรับตลาดพื้นที่ค้าปลีก คาดว่าในปี 2559 จะมีพื้นที่ค้าปลีกใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอีกเกือบ 220,000 ตารางเมตร โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ ในขณะที่โครงการศูนย์การค้าขนาดใหญ่มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2560
ส่วนตลาดที่อยู่อาศัยนั้นคาดว่าจะไม่แตกต่างจากปี 2558 มากนักคือ มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในจำนวนใกล้เคียงหรือมากกว่าปีที่ผ่านมาไม่มากนัก แต่อัตราการขายน่าจะดีขึ้นตามความเชื่อมั่นของคนในประเทศที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นมานับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2558 อย่างไรก็ดี ความหวือหวาน่าจะอยู่ในช่วงครึ่งปีหลังมากกว่า เนื่องจากผู้ประกอบการน่าจะรอดูสถานการณ์ของกำลังซื้อในช่วงครึ่งปีแรกก่อนพิจารณาถึงการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีต่อไป
“ปัจจัยที่สำคัญที่อาจจะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศรวมทั้งตลาดอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้นคือการลงทุนโครงการต่างๆ ของรัฐบาลซึ่งจะทำให้เงินลงทุนกระจายออกไปสู่ส่วนต่างๆ และสร้างรายได้ให้กับคนจำนวนมาก และจะย้อนกลับมาสู่ภาคธุรกิจต่างๆ อีกต่อหนึ่ง ผู้ประกอบการรายใหญ่ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อตลาดที่อยู่อาศัย โครงการบ้านจัดสรรอาจจะมีจำนวนโครงการใหม่เปิดขายมากขึ้นเพราะเป็นตลาดของผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองมากกว่า และปิดการขายได้เร็วกว่า อีกทั้งใช้เวลาในการก่อสร้างไม่นานทำให้ผู้ประกอบการรับรู้รายได้เร็ว” นายสุรเชษฐกล่าว
สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดนั้น นายสุรเชษฐกล่าวเพิ่มเติมว่ายังคงต้องอาศัยกำลังซื้อของคนในพื้นที่เป็นหลัก เช่น ในจังหวัดใหญ่ หรือว่าหัวเมืองรองที่ตลาดบ้านจัดสรรมีแนวโน้มที่ดีกว่าคอนโดมิเนียมค่อนข้างมาก แต่อัตราการขายก็ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ และราคาสินค้าเกษตร ยกเว้นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่ยังคงขายได้ต่อเนื่องแต่อัตราการขายอาจจะไม่สูงมากเหมือนเมื่อ 1 – 2 ปีก่อนหน้านี้
“เรียกได้ว่าปีหน้าเป็นปีของที่อยู่อาศัยแนวราบโดยเฉพาะทาวน์เฮ้าส์ที่เป็นเสมือนตัวนำในปี 2559 ของผู้ประกอบการหลายรายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด” นายสุรเชษฐกล่าวสรุป
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
