หนึ่งในพระราชดำรัสที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงตรัสย้ำแก่พสกนิกรชาวไทยคือคำว่า “พอเพียง” และ “เพียงพอ” ทุกสิ่งล้วนต้องการจุดสมดุล คนที่มีมากรวยล้นฟ้าหากเลือกแสดงออกอย่างพอดีและใช้ชีวิตอย่างพอเพียงเท่านั้นจึงสามารถหาความสมดุลและความสุขในการดำรงชีวิตได้ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าคำว่า พอเพียง และ เพียงพอ มีความแตกต่างกันทางด้านความหมาย อย่างไรก็ตามหากสามารถนำความหมายที่เกิดจากทั้งสองคำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตได้จะเกิดความสุขแน่นอน
ความเหมือนที่แตกต่าง
ฟังผิวเผินหลายคนอาจจะคิดว่าทั้งสองคำนี้ให้ความหมายเดียวกัน แต่ในแง่ของการเกิดขึ้นในทางปฏิบัตินั้นเราจะนำคำว่า “พอเพียง” ขึ้นก่อนคำว่า “เพียงพอ” โดยคำว่าพอเพียงหากเป็นภาษาอังกฤษอาจจะตรงกับคำว่า Sufficient ที่เกิดจากระบบความคิดที่เริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายไว้ถึงจุดหนึ่งแล้วเมื่อถึงจุดนั้นขึ้นมาจริงๆเราควรเลือกที่จะ พอ ซึ่งคำว่าพอในข้างต้นเป็นพื้นฐานของการนำมาสู่คำว่า “เพียงพอ” หรือตรงกับภาษาอังกฤษคำว่า Enough คำนี้คือการกระทำของตัวเราว่าสอดคล้องไปกับใจของเรากับความคิดพอเพียงก่อนหน้าแล้วหรือยัง
รายได้มากขึ้นแต่ทำไมไม่พอจ่ายเสียที?
ขอยกตัวอย่างง่ายๆเพื่อนำมาปรับใช้กับการเงินของเรา:
ในชีวิตการทำงานเราพยายามเก็บประสบการณ์และตั้งเป้าหมายไว้ว่าเราจะมีฐานเงินเดือนอยู่ที่จุดหนึ่งซึ่งเป้าหมายของเงินเดือนนี้คือสิ่งที่เรานึกคิดว่าจะเป็นจุดที่ “พอเพียง” ต่อการใช้ชีวิตของเราในอนาคต และแล้ววันนั้นก็เป็นจริงวันที่เรามีฐานรายได้ที่เราคิดว่าพอเพียง แต่เมื่อได้ใช้ชีวิตบนฐานเงินเดือนนี้เรากลับค้นพบว่า “เหตุใดจึงยังไม่พอ?” หากคุณกำลังเผชิญกับสถานการณ์นี้ หมายความว่าการกระทำของคุณยังไม่ทันกับความคิดที่พอเพียงที่เกิดขึ้นในใจก่อนหน้า ดังนั้นจึงไม่ก่อให้เกิดการใช้ชีวิตที่ “เพียงพอ” นั่นเอง
ใช้อย่างไรถึงจะเรียกว่า “เพียงพอ”?
การใช้ชีวิตที่เพียงพอนั้นคือการรู้ว่าเรามีเหลือหลังจากเก็บแค่ไหนเราก็ใช้แค่นั้น ไม่ต้องฝืนต่อไปหรือพยายามที่จะมีเกินเหตุจำเป็นและเกินจำนวนรายได้ที่เราคิดว่าเคยพอเพียงสำหรับการใช้ชีวิต หลายคนยังคงเลือกการใช้ชีวิตในแบบหลังซึ่งสอดคล้องกับกับดักทางความคิดที่ว่า “เอาเงินในอนาคตมาใช้” ซึ่งความคิดนี้ก่อให้เกิดภาระหนี้สินต่างๆไม่ว่าจะเป็น หนี้บัตรเครดิต, หนี้สินเชื่อบ้านหรือรถยนต์ และหนี้สินเหล่านี้นำไปสู่การใช้จ่ายที่เกินตัวในที่สุด
เมื่อลองมองย้อนไปสมัยที่เรายังเรียนไม่จบเราคิดว่าเงินเดือน 15,000 หรือ 20,000 นั้นช่างแสนเยอะมากมาย และเราคิดว่าเดือนๆหนึ่งเราคงใช้ไม่หมดเป็นแน่และคงมีเหลือเก็บแน่นอน แต่เหตุใดเมื่อเราถึงจุดที่มีรายได้ที่เราตั้งไว้หรือในบางครั้งอาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ เรากลับพบว่าทำไมเราถึงไม่มีเหลือเก็บมิหนำซ้ำเมื่อจบเดือนๆหนึ่งเราก็ต้องหมดไปกับบิลค่าบัตรเครดิตต่างๆที่เราได้ทำไว้ ซึ่งการกระทำนี้บ่งบอกเป็นอย่างดีว่าเรายังไม่รู้จักที่จะใช้ชีวิตแบบ “เพียงพอ” เพราะถ้าเรารู้จักจริงเราจะเลือกเก็บออมก่อนเป็นอันดับแรกและใช้ชีวิตอยู่บนจำนวนเงินที่เหลืออยู่ หากอยากได้อะไรเป็นพิเศษในเดือนนั้นก็สามารถหยิบจับเงินออมในแต่ละเดือนที่เก็บสะสมมาได้ (แต่ไม่ใช่ทั้งหมด) โดยไม่ต้องพึ่งพาการรูดบัตรเครดิตใดๆทั้งสิ้น
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นแผนการเงินใดๆ เราควรตั้งเป้าหมายที่จะไปให้ถึงแล้วกำหนดไว้ว่าช่วงของเป้าหมายนี้คือความ “พอเพียง” ของเรา และความคิดนี้จะเป็นจริงขึ้นได้ย่อมต้องขึ้นอยู่กับการกระทำของเราเช่นเดียวกันซึ่งสะท้อนผ่านออกมาทางคำว่า “เพียงพอ” หรือพูดแบบเข้าใจง่ายว่า ใช้เท่าที่มี และ มีเท่าที่ใช้ เพียงแค่นี้ชีวิตก็จะพบสุข แล้วอย่าลืมเก็บออมกันด้วยนะครับ และขอจบด้วยสูตรการใช้ชีวิตง่ายๆ:
พอเพียง + เพียงพอ = ชีวิตสมดุล
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย ชัยสิทธิ์ บุนนาค Content Writer ประจำ DDproperty หากมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวบทความสามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ chaiyasit@ddproperty.com