ตลาดอสังหาฯในปีนี้แม้จะไม่ค่อยหวือหวาเท่าที่ควร ทั้งภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯและปริมณฑลคาดการณ์กันว่าในที่สุดแล้ว ตลาดอสังหาฯดีได้แค่รับสภาพตลาด “ทรงตัว” หรือมีโอกาส “ติดลบ 5%” โดยมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 3- 3.3 แสนล้านบาท จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 0-5% มูลค่าตลาดรวม 3.5 -3.6 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่มีมูลค่าตลาดรวม 3.48 แสนล้านบาท เนื่องจากเผชิญปัจจัยภายในและภายนอกที่ยากจะควบคุม
แต่อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าตลาดอสังหาฯในปี 2560 หลังจากผ่านพ้นปัจจัยภายนอกประเทศไปแล้ว ทั้งผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และเบร็กซิท คาดว่าตลาดจะกลับมาฟื้นตัวได้ หรือเติบโต 5% หลังผู้ประกอบการอสังหาฯเริ่มกลับมาเดินหน้าลงทุนอีกครั้ง เพราะเริ่มมั่นใจแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และคลายความกังวล จากปัจจัยภายนอกประเทศที่ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุน
ทว่าในปีหน้า จะเป็นปีแห่งการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ของผู้ประกอบการอสังหาฯ ในภาพรวม เพื่อการก้าวไปสู่การเติบโต ในหลายรูปแบบ โดยจะไม่เน้นทำตลาดใดตลาดหนึ่ง แต่จะขยายไปในทุกตลาด เพื่อเพิ่มยอดขาย ส่วนแบ่งการตลาด ลดความเสี่ยง รวมถึงการร่วมทุนกับต่างชาติ หรือบริษัทคนไทยด้วยกันเอง เพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
จับตาก้าวสำคัญ “พฤกษา” ตั้งแต่ปลายปีนี้ และในปี’60
จากที่เกริ่นมาข้างต้น ว่าให้จับตาก้าวสำคัญ “พฤกษา” ตั้งแต่ปลายปีนี้ และในปี’60 นั้น เริ่มจากภายในสิ้นปี’59 นี้ กระบวนการนำหุ้นบริษัทพฤกษา เรียลเอสเตส (PS) ไปแลกหุ้นบมจ.พฤกษา โฮลดิ้งส์ โดยกระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 23 พ.ย.นี้ และหลังจากนั้นจะนำบมจ.พฤกษา โฮลดิ้งส์ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ แทนPS โดยจะเข้าซื้อขายเลย ภายในวันที่ 1 ธ.ค. นี้
โดยธุรกิจใหม่ของบริษัทโฮลดิ้งส์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการและมีรายได้ประจำเข้ามาตามที่แจงไว้ตั้งต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าอาจจะเห็นความชัดเจนภายในปี 2560 แต่สัดส่วนรายได้ของบมจ.พฤกษา โฮลดิ้งส์ ในปี 2560 นั้นจะยังมาจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ของ PS เกือบ 100%
ที่สำคัญ ปี’ 60 พฤกษา จะหันมาทำโครงการระดับบนมากขึ้น คราว ๆ รวม ๆ 4-5 โครงการ มูลค่า 9,500 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการคอนโด 4 โครงการ และโครงการแนวราบ 1 โครงการ ซึ่งได้ซื้อที่ดินรองรับการเปิดโครงการระดับบนไว้ทั้งหมดแล้ว ในย่านทองหล่อ เอกมัย พญาไท และพหลโยธินตอนต้น (สะพานควาย) ถ้าเป็นคอนโดมิเนียมจะเปิดขายตารางเมตรละ 2.5 – 3 แสนบาท และราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป
อนันดาฯ เผยกำไรไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 56%
ขณะที่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เผยผลงานในช่วงไตรมาส 3/2559 สามารถสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้นถึง 56% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน เป็น 252 ล้านบาท รายได้ 2,979 ล้านบาท เติบโต 12% นอกจากนี้บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ ณ สิ้นไตรมาส 3/2559 ภายในช่วง 3 ปีข้างหน้า ซึ่งสูงสุดเป็นสถิติอีกครั้ง ด้วยมูลค่าสูงกว่า 41,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ซึ่งไตรมาส 3 นี้ บริษัทฯ เปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ติดรถไฟฟ้าบน 4 ทำเล ด้วยมูลค่าโครงการ 6,544 ล้านบาท ส่งผลให้ไตรมาส 3 สร้างยอดขายได้ 6,930 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 36% และยอดขาย 9 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้นเป็น 15,162 ล้านบาท คิดเป็น 73% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ในไตรมาส 1/59 กว่า 21,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากยอดขายจากโครงการใหม่ ได้รับการตอบรับที่ดี และจะทยอยเปิดขายยูนิตเพิ่มขึ้นพร้อมทั้งได้ปรับเพิ่มเป้ายอดขายทั้งปีจาก 20,952 ล้านบาท เป็น 22,057 ล้านบาท
บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ ณ สิ้นไตรมาส 3/2559 ภายในช่วง 3 ปีข้างหน้า ซึ่งสูงสุดเป็นสถิติอีกครั้ง ด้วยมูลค่าสูงกว่า 41,300 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ไตรมาส 3/2559 มียอดโอน ซึ่งรวมยอดโอนจากโครงการร่วมทุนกับมิตซุย ฟูโดซัง อยู่ที่ 2,902 ล้านบาท สูงกว่าเป้ายอดโอนที่ตั้งไว้ถึง 35% พร้อมมีกำไรสุทธิ 252 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 56% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ยังสร้างอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 8% เพิ่มขึ้นจาก 6% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่บริษัทฯ ยังคงเป้ายอดโอนทั้งปีในระดับ 15,000-16,000 ล้านบาท
โกลเด้นแลนด์กำไร 9 เดือนโตกว่า 152.7%
เช่นเดียวกับ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของปี 2559 มีรายได้รวม จำนวน 2,875.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 857.08 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.5และมีกำไรรวม 376.71 ล้าน เพิ่มขึ้นร้อยละ 182.1 จากไตรมาส 3 ของปี 2558 ซึ่งถือเป็นการเติบโตตามแผนการขึ้นสู่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ 5 อันดับแรกของประเทศไทย
สำหรับผลประกอบการรวม 9 เดือนของปี 2559 มีรายได้รวม จำนวน 8,145.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 2,459.47 ล้าน หรือคิดเป็นร้อยละ 43.3 และกำไรสุทธิ จำนวน 937.48 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 566.43 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 152.7 เมื่อเทียบกับ 9 เดือนของปี 2558 ทั้งนี้เมื่อพิจารณาเฉพาะรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 3 ของปี 2559 มีรายได้รวม จำนวน 2,531.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.9 นอกจากนี้รายได้รวม 9 เดือน ปี 2559 บริษัทยังมีรายได้จากค่าการจัดการสินทรัพย์ จำนวน 50.20 ล้านบาทโดยเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนที่ไม่มีรายได้ในส่วนนี้
ศุภาลัย รอรับรู้รายได้คอนโด 6 โครงการ ตั้งแต่ไตรมาส4 จนถึง ปี’60
ด้านบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI นั้น ในช่วงไตรมาส 4 /2559 มีโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่และพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ ทั้งสิ้น 6 โครงการ จำนวน 3,899 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 8,200 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 6 โครงการจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 นี้จนถึงปี 2560 อย่างไรก็ตามในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ 36,044 ล้านบาท โดยในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้จะรับรายได้อยู่ที่ประมาณ 4,700 ล้านบาท และจะเป็นการช่วยผลักดันให้รายได้ในปีนี้เติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 22,000 ล้านบาท
สำหรับยอดขายในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ 17,486 ล้านบาท เติบโต 27% เมื่อเทียบกับปี 2558 โดยเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม 7,400 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ 12,500 ล้านบาท และเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 10,000 ล้านบาท จาเป็าหมายทั้งปีที่ 12,000 ล้านบาท
GLAND แจงผลกำไรไตรมาส3/59โตกว่า20%
บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND แจงผลประกอบการบริษัทฯในไตรมาส3/2559 มีกำไรสุทธิ 359.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 20% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีผลกำไรเพิ่มขึ้นจาก 242.08 ล้านบนาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 48.59% โดยสาเหตุของการเติบโตในผลกำไรมาจากการเปิดขายพื้นที่เช่าสำนักงานของอาคาร G Tower ในส่วน South Wing ทำให้มีการรับรู้มูลค่ายุติธรรม เพิ่มขึ้น 315.16 ล้านบาท โดยอาคาร G Tower นี้เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าโครงการที่ 3 ของ G Land ซึ่งที่ผ่านมา อาคารที่ G Land เปิดให้เช่ามี 2 โครงการคือ The 9th Tower เปิดในปี 2557 และ อาคาร Unilever House เปิดในปี 2558
ยูนิเวนเจอร์ ปลื้มไตรมาสสามโต 62%
บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV เผยผลประกอบการไตรมาส 3/2559 มีรายได้รวม 5,195.0ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2558 ทำให้ช่วงเก้าเดือนแรกมีรายได้รวม 12,872.8 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,309.8 ล้านบาท มียอดขายรอรับรู้รายได้ 4,944.4 ล้านบาท จากทั้งหมด 34 โครงการ
ผลประกอบการไตรมาส 3/2559 มีรายได้รวมอยู่ที่ 5,195.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน 1,978.8 ล้านบาท หรือมีการเติบโต 61.5% โดยมีรายได้หลักมาจากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 4,415.8 ล้านบาท คิดเป็น 85.0% ของรายได้รวม แบ่งเป็นรายได้จากโครงการแนวสูง มูลค่ารวม 1,884.7 ล้านบาท และมาจากโครงการแนวราบ มูลค่ารวม 2,531.1 ล้านบาท
“ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 บริษัทฯ มีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่อีก 2 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวสูง 1โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 900 ล้านบาท และโครงการแนวราบของกลุ่มบริษัทแผ่นดินทองอีก 1 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 816 ล้านบาท เพื่อให้การรับรู้รายได้ในอนาคตเป็นไปอย่างต่อเนื่อง”
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดว่าปี 2559 นี้จะมีรายได้รวมประมาณ 16,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 15,300 ล้านบาท
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือใครกำลังมองหาบ้านและคอนโดก็สามารถดูรีวิวโครงการใหม่ได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com