เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนล้วนอยากให้ลูกเติบโตเป็นคนที่ดีและไม่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวหรือสร้างความเดือดร้อนจนไม่มีที่ยืนในสังคมอย่างในกรณีข่าวต่างๆ ที่เห็นตามโซเชียลที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันฮาร์วาร์ดได้เผยว่า การเลี้ยงดูลูกอย่างใกล้ชิดนั้นจะส่งผลต่อพฤติกรรมของเด็กในอนาคต เพราะครอบครัวคือสถาบันที่ใกล้ชิดกับลูกมากที่สุด การเลี้ยงดูลูกให้เป็นคนดีตั้งแต่ตอนเล็กจึงถือเป็นการปูรากฐานที่จะส่งผลต่อพฤติกรรมตอนโต และได้แนะนำ 6 วิธีสำหรับการเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี ดังนี้
1.สอนลูกให้รู้จักที่จะควบคุมอารมณ์ตัวเอง
อารมณ์โกรธ เศร้า หรือผิดหวัง ไม่ได้เกิดขึ้นได้กับผู้ใหญ่เพียงอย่างเดียว แต่เด็กก็มีอารมณ์เหล่านี้ที่จะส่งผลกระทบต่อจิตใจได้เช่นกัน สิ่งสำคัญคือเมื่อลูกมีอารมณ์ในแง่ลบเกิดขึ้นพ่อแม่ควรจะสอนวิธีจัดการอารมณ์ลูกลงได้อย่างไร ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำว่าเมื่อไหร่ที่ลูกโมโห ควรให้เวลากับลูกเพื่อให้เขารู้สึกใจเย็นลงและเข้าไปพูดคุย สอนให้ลูกลองใช้เทคนิคการหายใจเข้าทางจมูก ผ่อนลมหายใจออกทางปาก พร้อมกับพยายามนับ 1-5 ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นลูกมีอารมณ์หงุดหงิด โมโหขึ้น ลองให้เขาได้ใช้วิธีกำหนดลมหายใจตามที่คุณสอน ซึ่งจะเป็นตัวช่วยที่ใช้จัดการกับอารมณ์ร้ายลงได้เป็นอย่างดีเชียวล่ะ
2.สอนลูกให้มีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองทำ
ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำว่า พ่อแม่ควรบอกลูกอย่างให้เข้าใจว่าอะไรคือความรับผิดชอบที่ดี และมันจะส่งผลต่อตัวลูกและสังคมรอบข้างอย่างไรบ้าง แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ พ่อแม่ควรทำตัวเป็นต้นแบบที่ดีให้ลูกเห็น สอนให้ลูกมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้ทำลงไป เช่น เมื่อกินขนมเสร็จก็ต้องนำไปทิ้งให้ถูกที่ และอย่าลืมว่าการสอนลูกในแต่ละเรื่อง ควรจะอธิบายลูกอย่างใจเย็น ๆ ด้วยนะ
3.สอนลูกให้รู้จักสงสารและช่วยเหลือคนที่ด้อยกว่า
เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะสอนให้เด็กๆ นั้นรู้จักที่จะสงสารคนอื่น ไม่ใช่แต่เพียงคนที่เขารักเท่านั้น วิธีที่จะช่วยให้ลูกรู้จักในเรื่องนี้ คือลองให้ลูกได้จินตนาการดูว่า ถ้าตัวเองได้เป็นคนที่ด้อยค่า ไม่มีใครสนใจ ลูกจะรู้สึกอย่างไร การใช้วิธีนี้จะช่วยทำให้ลูกได้เห็นภาพชัดขึ้นและเข้าใจในความรู้สึกนั้น รวมถึงการให้ลูกได้มองเห็นในมุมอื่นๆ ด้วย เช่น คนพิการ คนไร้บ้าน ฯลฯ การได้ชวนลูกคุยและสอนในเรื่องนี้ตั้งแต่เล็ก จะทำให้ลูกรู้จักแสดงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่นในสังคม รู้จักการแบ่งปัน และไม่รังแกคนที่ด้อยกว่า
4.สอนให้ลูกรู้จักกล่าวคำขอบคุณหรือแสดงออกถึงความซาบซึ้ง
เด็กๆ อาจจะไม่รู้ว่าเมื่อเขารู้สึกดีๆ ต่อบางสิ่งหรือใครซักคนเขาควรจะทำตัวอย่างไร พ่อแม่อาจเริ่มต้นสอนจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก่อน เช่น เมื่อคุณยายทำขนมมาให้ บอกลูกรู้จักเอ่ยคำว่า ขอบคุณ หรือเข้าไปกอด แสดงออกมาด้วยความชื่นชมต่อสิ่งที่คนอื่นทำให้ การกระทำนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในสังคมอย่างมาก มีงานวิจัยเผยว่า คนที่แสดงออกถึงความชื่นชม ซาบซึ้งต่อผู้อื่น จะเป็นคนที่มีความสุข มีสุขภาพที่ดีกว่าคนที่ไม่เคยทำ หรือคนไม่คิดจะยอมก้มหัวให้ใครเลย
5.สอนให้ลูกรู้จักถึงพฤติกรรมที่เหมาะสมและเคารพต่อผู้อื่น
พ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะคาดหวังว่าทางโรงเรียนจะสอนเรื่องเหล่านี้ให้กับเด็กๆ จนลืมคิดไปว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆอย่างอื่น ก็สามารถส่งผลต่อพฤติกรรมที่เหมาะสมของลูกได้เช่นกัน และเป็นสิ่งสำคัญมากที่สอนลูกให้เข้าใจ ไม่ว่าจะเรื่องการรักษาสัญญา รู้จักที่จะเคารพต่อผู้อื่น พ่อแม่ควรจะคุยกับลูกในเรื่องนี้ว่าการมีพฤติกรรมที่เหมาะสมควรทำตัวอย่างไร และอย่าลืมด้วยว่าตัวอย่างที่ดีของลูกก็คือ พ่อแม่นั่นเอง
6.ใช้เวลาคุณภาพด้วยกัน
ถ้าพ่อแม่ใช้เวลาหมดไปกับการพร่ำสอนลูกเพียงอย่างเดียวมันก็คงไม่เป็นผลดี การใช้เวลาได้อย่างมีคุณภาพนั้น คือการที่พ่อแม่ได้มีช่วงเวลาดีๆ ให้กับลูก ในการทำกิจกรรมร่วมกัน ได้พูดคุยกัน พาลูกออกไปท่องเที่ยว ให้เวลาเหล่านี้กับลูกอย่างสม่ำเสมอ และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ทำให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่รักลูกมากแค่ไหน หากพ่อแม่ได้ใช้เวลาอยู่กับลูกมากพอ ก็ย่อมส่งผลให้เด็กเติบโตมาพร้อมกับความรักและความอบอุ่น และทำให้เขารู้จักที่จะรักหรือเคารพ และมีจิตใจที่ดีต่อการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อคนรอบข้างด้วย
Source : www.brightside.me
สามารถอ่านรีวิวโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมได้ที่นี่
ขอบคุณบทความจากเว็บไซต์ theAsianparent.com เว็บไซต์ให้คำแนะนำด้านการเลี้ยงลูกอันดับ 1 ในประเทศไทย