ข้อแตกต่างระหว่าง ฝากเงินธนาคาร กับ ทำประกันชีวิต

1 ธ.ค. 2559

“หากต้องการความคุ้มครองชีวิต และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ควรเลือกทำประกันชีวิต แต่หากต้องการสภาพคล่อง การเลือกฝากเงินกับธนาคารจะเหมาะสมกว่า”
K-Expert

 

เชื่อได้ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจว่าการทำประกันชีวิตเหมือนกับการฝากเงินไว้กับธนาคาร แต่ที่จริงแล้ว ประกันชีวิตและการฝากเงินมีความแตกต่างกันในหลายๆ ด้านด้วยกัน สำหรับจุดเด่นของประกันชีวิตและการฝากเงิน มีอะไรบ้างนั้น มาดูข้อมูลที่ K-Expert นำมาฝาก โดยจะเริ่มต้นจากประกันชีวิตเป็นอันดับแรก

 

ประกันชีวิต : “คุ้มครองชีวิต พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี”

– การได้รับเงินคืน: สำหรับการทำประกันชีวิต หากผู้ทำประกันมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญาของกรมธรรม์ ผู้ทำประกันจะได้รับเงินคืนตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ หรือหากผู้ทำประกันเสียชีวิตภายในระยะเวลาของสัญญาภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ถึงแม้ว่าไม่ได้ชำระเบี้ยประกันภัยครบตามจำนวนงวดที่กำหนดไว้ บริษัทประกันฯ จะจ่ายเงินตามจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ให้แก่ผู้รับประโยชน์ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าเบี้ยประกันภัยที่ชำระไปแล้ว ในขณะที่เงินฝากธนาคารนั้น ผู้ฝากเงิน หรือทายาท (หากผู้ฝากเงินเสียชีวิต) จะได้รับจำนวนเงินเท่าที่ฝากไว้พร้อมกับดอกเบี้ย

ยกตัวอย่างเช่น นายเอฝากเงินไว้กับธนาคารปีละ 10,000 บาท เป็นเวลา 3 ปี เมื่อนายเอถอนเงินคืนหรือนายเอเสียชีวิต นายเอหรือทายาทจะได้รับเงินจำนวน 30,000 บาท รวมกับดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น แต่ถ้านายเอทำประกันชีวิต โดยมีจำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท จ่ายเบี้ยประกันภัยปีละ 10,000 บาท หากนายเอเสียชีวิตในปีที่ 3 ผู้รับประโยชน์ของนายเอจะได้รับเงินจำนวน 100,000 บาท แม้ว่านายเอจะจ่ายเบี้ยประกันภัยไปเพียง 30,000 บาทก็ตาม

– ความคุ้มครองชีวิต: การทำประกันชีวิตช่วยสร้างหลักประกันและความมั่นคงให้แก่ผู้ทำประกันและครอบครัว โดยหากผู้ทำประกันเป็นผู้หารายได้หลักมาสู่ครอบครัว เงินที่ได้รับจากประกันจะช่วยให้ครอบครัวหรือบุคคลที่อยู่ข้างหลังใช้ดำรงชีวิตต่อไปได้ นอกจากนี้ ผู้ทำประกันชีวิตสามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมเพื่อขยายความคุ้มครอง เช่น ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง

ในขณะที่เงินฝากธนาคาร โดยทั่วไปจะไม่มีความคุ้มครองชีวิต ยกเว้นเงินฝากบางประเภทที่ผู้ฝากเงินจะได้รับความคุ้มครองชีวิต หรืออุบัติเหตุ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันการเงินนั้นๆ เช่น การกำหนดยอดเงินฝากคงเหลือขั้นต่ำในบัญชี หรือกำหนดอายุของผู้ฝากเงิน

– สิทธิประโยชน์ทางภาษี: กรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป และมีเงินคืนระหว่างสัญญาไม่เกินร้อยละ 20 ของเบี้ยประกันชีวิตในแต่ละปี ผู้ทำประกันสามารถนำเงินที่จ่ายเป็นค่าเบี้ยประกันชีวิตในแต่ละปีไปหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้ประจำปีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนเงินฝากธนาคาร ผู้ฝากเงินไม่สามารถนำเงินฝากดังกล่าวมาหักลดหย่อนภาษีได้

ทีนี้มาดูรายละเอียดของการฝากเงินกับธนาคารกันบ้าง

เงินฝากธนาคาร : “สภาพคล่องสูง ฝากถอนได้ทุกวัน”

– สภาพคล่อง: ผู้ฝากเงินสามารถฝากเงิน ถอนเงินหรือปิดบัญชีเมื่อใดก็ได้ โดยได้รับเงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ย ในขณะที่การทำประกันชีวิต ผู้ทำประกันจะต้องชำระเบี้ยประกันภัยตามงวดการชำระเบี้ยประกันภัยที่กำหนดไว้ ไม่เช่นนั้นกรมธรรม์ที่ทำไว้จะสิ้นผลบังคับ และหากต้องการยกเลิกสัญญาประกันชีวิตก่อนครบกำหนดสัญญา มักไม่ได้รับเงินที่ได้ชำระเบี้ยประกันภัยคืนเต็มจำนวน

โดยทั่วไป กรมธรรม์ประกันชีวิตจะเริ่มมีมูลค่าเวนคืนหรือมูลค่าเงินสดเมื่อกรมธรรม์มีอายุครบ 2 ปีขึ้นไป ดังนั้น หากต้องการใช้เงินหรือต้องการยกเลิกสัญญากรมธรรม์ในปีแรก อาจไม่ได้รับเงินคืนเลย หรือหากยกเลิกกรมธรรม์เมื่อกรมธรรม์เริ่มมีมูลค่าเงินสดคืนให้ จำนวนเงินที่ได้รับคืนอาจน้อยกว่าเบี้ยประกันภัยที่ได้ชำระไปแล้วก็ได้

– ผลตอบแทน: ผลตอบแทนของเงินฝากจะอยู่ในรูปของดอกเบี้ย ซึ่งผู้ฝากเงินจะทราบอัตราผลตอบแทนที่ได้รับค่อนข้างแน่นอน เมื่อเงินฝากครบกำหนดระยะเวลา หรือทำการปิดบัญชี ผู้ฝากเงินจะได้รับเงินคืนเท่ากับเงินต้นที่ฝากไว้พร้อมกับดอกเบี้ยตามที่ธนาคารกำหนด

ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยจุดเด่นที่แตกต่างกันของการทำประกันและการฝากเงิน การเลือกว่าควรทำประกันหรือฝากเงินธนาคาร จึงขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการออมเงินของแต่ละบุคคล หากต้องการความคุ้มครองชีวิต และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ควรเลือกทำประกันชีวิต แต่หากต้องการสภาพคล่อง ก็ควรเลือกฝากเงินกับธนาคาร อย่างไรก็ตาม แนะนำว่า หากต้องการทำประกันเพื่อคุ้มครองครอบครัวหรือคนที่รัก ควรมีเงินสำรองเก็บไว้ในเงินฝากสักก้อนหนึ่งประมาณ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน เพราะถ้ามีเหตุให้ต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วน จะได้มีเงินสำรองมาใช้จ่าย โดยไม่กระทบกับกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ทำไว้

สามารถอ่านบทความน่าสนใจทางอสังหาริมทรัพย์และรีวิวโครงการบ้านและคอนโดฯ ใหม่ๆ ได้ที่นี่

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย นิชฌานี ฉันทศาสตร์, CFP® K-Expert ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

ภาษี...ถ้าลดหย่อนให้ดีก็มีเงินเหลือ

“เช็กสิทธิลดหย่อนภาษีที่มี ก่อนซื้อกองทุน LTF/RMF และประกัน เพื่อลดหย่อนภา

อ่านต่อ17 พ.ย. 2559