การลงทุนในหุ้นนั้นเป็นวิธีการลงทุนหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง นอกจากนั้นยังเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นการวิเคราะห์หุ้นเพื่อตัดสินใจลงทุนจึงมีความสำคัญอย่างมาก ครั้งนี้เราจึงชวนคุณมาทำความรู้จักวิธีวิเคราะห์แบบเทคนิคอลว่าวิธีการนี้มีหลักการอย่างไร และนักลงทุนเทคนิคอลมีความเชื่ออย่างไรต่อตลาดหุ้นครับ
การวิเคราะห์หุ้นแบบเทคนิคอล
ตัวแทนของนักวิเคราะห์หุ้นแบบเทคนิคอลก็คือเส้นกราฟยุ่งเหยิงขึ้นๆ ลงๆ ตัดกันไปไขว้กันมาดูแล้วน่างง เป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากวิธีการวิเคราะห์แบบอื่นๆ ที่ไม่ได้จดจ่อมากนักกับเส้นกราฟแบบเอาเป็นเอาตาย แต่กราฟการวิเคราะห์แบบเทคนิคอลนี้ไม่ได้วาดขึ้นเองตามใจนึก เพราะมันมีที่มาที่ไปจากความสัมพันธ์ระหว่างราคาหุ้น และปริมาณการซื้อขายหุ้นในอดีตตีขึ้นมาเป็นกราฟ จากนั้นจึงวิเคราะห์เชิงสถิติ มองหาแนวโน้มของราคาหุ้น เพื่อดูจังหวะการซื้อและขายหุ้น ฟังดูมีหลักการใช่ไหมล่ะครับ แต่จริงๆ แล้วทั้งหมดนั้นมีที่มาจากความเชื่อ 3 อย่างของนักวิเคราะห์เทคนิคอล ดังนี้
ความเชื่อ 3 อย่างของนักวิเคราะห์หุ้นเทคนิคอล
ความเชื่อที่1 ราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยทุกอย่างของตลาดหุ้นไว้ทั้งหมด
ทุกๆ ปัจจัยที่มีผลต่อราคาหุ้น ตั้งแต่ผลประกอบการของบริษัท การเติบโตของอุตสาหกรรม เศรษฐกิจ สังคม การเมือง สะท้อนอยู่ในราคาหุ้นเอาไว้หมดแล้ว ผ่านปริมาณการซื้อขายซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการซื้อและความต้องการขาย ณ ระดับราคาหุ้นต่างๆ
ความเชื่อที่ 2 การเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นเป็นไปอย่างมีทิศทางและแนวโน้ม
มองการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นในระดับภาพรวม โดยมีแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเพียง 3 แบบ โดยเมื่อแนวโน้มเป็นขาขึ้น (Uptrend) ราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้น ในทางตรงข้ามถ้าแนวโน้มราคาหุ้นเป็นขาลง (Downtrend) ราคาหุ้นก็จะปรับตัวลดลง หรือการปรับตัวของราคาหุ้นในช่วงแคบๆ คือแนวโน้มออกด้านข้าง (Sideway)
ความเชื่อที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นเป็นแบบอย่างมีแบบแผน เกิดขึ้นซ้ำๆ
เป็นความเชื่อสำคัญที่ทำให้นักวิเคราะห์เทคนิคอลเฝ้าดูกราฟด้วยใจจดจ่อ เพราะเชื่อว่าสิ่งที่เคยเกิดขึ้นแล้วในอดีตจะเกิดขึ้นซ้ำอีก ดังนั้นการสังเกตและมองหาความคล้ายกันของสัญญาณต่างๆ ระหว่างอดีตกับปัจจุบันจะเป็นตัวที่ทำนายแนวโน้มของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ นอกจากจะเชื่อเช่นนี้แล้วสิ่งที่นักวิเคราะห์เทคนิคอลจะต้องเชื่ออีกก็คือพฤติกรรมของนักลงทุนในอดีต ปัจจุบันและอนาคตจะต้องเหมือนกัน ซึ่งจะทำให้รูปแบบการซื้อขายนั้นเป็นไปอย่างมีแบบแผนเดิมๆ
นอกจากการลงทุนในหุ้นด้วยการวิเคราะห์แบบเทคนิคอลที่เราพูดถึงในครั้งนี้แล้ว ก็ยังมีวิธีการอื่นอีกที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน คือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งวิธีนี้เป็นอย่างไรนั้น ทางเราจะนำข้อมูลมานำเสนอกันในครั้งถัดไปครับ
Picture Reference: binaryoptionsstrategy.net
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ Online Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chetapol@ddproperty.com