วงในย้ำผู้ประกอบการเก็บค่าส่วนกลางอสังหาฯให้เพียงพอก่อนจดนิติ

อดีตนายกฯ ส.บริหารทรัพย์สินฯ ออกโรงเตือนผู้ประกอบการรับมือ กม.จัดสรรฉบับใหม่ แนะควรเก็บค่าส่วนกลางให้เพียงพอและดูแลสาธารณูปโภคก่อนจดทะเบียนนิติ

นายธนันทร์เอก หวานฉ่ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เรียลตี้แมเนจเม้นท์ จำกัด (IRM) และอดีตนายกสมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากกฎหมายจัดสรรที่ดินฉบับแก้ไขใหม่มีผลประกาศบังคับใช้ โดยสาระสำคัญจะมีผลต่อผู้ประกอบการจัดสรรหลายประการ โดยเฉพาะเรื่องการกำหนดค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่ระบุไว้ในการขออนุญาตจัดสรรว่าจะต้องกำหนดการเก็บค่าส่วนกลางในจำนวนที่สอดคล้องกับระยะเวลาในการก่อสร้างโครงการ เนื่องจากในระหว่างการก่อสร้าง 2-3 ปีผู้ประกอบการจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าพนักงานรักษาความปลอดภัย ฯลฯ

“การจัดเก็บค่าส่วนกลางมากหรือน้อยเกินไปล้วนมีผลต่อการดำเนินงานของผู้ประกอบการทั้งสิ้น หากกำหนดการจัดเก็บค่าส่วนกลางน้อยและไม่เพียงพอค่าใช้จ่าย ผู้ประกอบการจะต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด แต่หากกำหนดค่าส่วนกลางสูงเกินไปก็จะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค” นายธนันทร์เอก กล่าว

นอกจากนี้ กฎหมายจัดสรรฉบับแก้ไขใหม่ยังได้ระบุการจดทะเบียนนิติบุคคลไว้ 3 เรื่องคือ 1.ที่ประชุมต้องมีมติให้จัดตั้งนิติบุคคล 2.ต้องมีการรับรองข้อบังคับ 3.ต้องแต่งตั้งตัวแทนเพื่อดำเนินการจดทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งทั้งสามข้อนี้จะต้องมีคะแนนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของที่จำนวนบ้านทั้งหมดในโครงการ

ส่วนเรื่องการแต่งตั้งตัวแทนในการจดทะเบียนนิติบุคคลนั้น กฎหมายระบุว่าจะต้องเป็นผู้ดำเนินการจัดประชุมใหญ่อีกครั้ง เพื่อเลือกตั้งกรรมการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับจากเป็นนิติบุคคลแล้วเสร็จ

“ก่อนหน้าที่จะมีการแก้ไขกฎหมายนั้นผู้ประกอบการมักจะประสบปัญหาเรื่องเงินค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่จัดเก็บไม่เพียงพอ ที่สำคัญไม่มีงบประมาณสำหรับการบริหารทรัพย์สิน จึงต้องการบริการกันเอง หากไม่มีความเชี่ยวชาญจะส่งผลต่อสภาพสิ่งแวดล้อมในโครงการ และหากไม่มีงบประมาณเข้ามาใช้ในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาสาธารณูปโภคจะทำให้เกิดการร้องเรียนจากผู้อยู่อาศัยซึ่งนักบริหารทรัพย์สินจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ที่สำคัญปัญหาระบบสาธารณูปโภคจะส่งผลต่อการจดทะเบียนนิติบุคคลไม่ผ่าน และไม่สามารถจัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกกรรมการนิติบุคคลได้” อดีตนายกสมาคมบริหารทรัพย์สินฯ กล่าวทิ้งท้าย