ค่าครองชีพในกรุงเทพฯ ยังคงอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลในสายตาชาวต่างชาติ ที่น่าประหลาดใจคือค่าครองชีพในเมืองหลวงของไทยช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาถูกลงอย่างไม่น่าเชื่อ
จากผลสำรวจค่าครองชีพของชาวต่างชาติที่ทำงานและพักอาศัยในเมืองต่างๆ ทั่วโลกประจำปี 2559 โดยบริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล เมอร์เซอร์ (Mercer) พบว่าอันดับของกรุงเทพฯ ในปีนี้รูดลงไปอยู่ที่ 74 จากปีที่ผ่านมาอยู่ในอันดับที่ 45 และเมื่อปี 2557 อยู่ที่อันดับที่ 43 สะท้อนให้เห็นว่าการใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ สำหรับชาวต่างชาติแล้วยังคงเป็นเรื่องที่สบายๆ ค่าใช้จ่ายไม่สูงจนเกินไป ในขณะที่เมืองอื่นๆ มีค่าครองชีพที่ขยับสูงขึ้น
สำหรับการสำรวจค่าครองชีพของเมอร์เซอร์นั้น เป็นการสำรวจที่อ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราและราคาสินค้าและบริการบางรายการใน 209 เมืองทั่วโลกในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ในปีนี้ ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกสำหรับการใช้ชีวิตของชาวต่างชาติ เบียดแชมป์เก่าอย่างเมืองลูอันดาซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศแองโกลาที่รั้งอยู่ในอันดับสองของปีนี้ ในขณะเมืองที่มีค่าครองชีพถูกที่สุดได้แก่เมืองหลวงของนามิเบียอย่างวินด์ฮุกนั่นเอง
ส่วนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิงคโปร์เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน (แพงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก) ส่วนเมืองที่มีค่าครองชีพถูกที่สุดในอาเซียนคือกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยอยู่ในอันดับที่ 151 ส่วนอันดับของเมืองอื่นๆ ในภูมิภาค ได้แก่ ย่างกุ้งของเมียนมาร์อยู่ในอันดับที่ 39 มะนิลาของฟิลิปปินส์อยู่ในอันดับที่ 80 โฮจิมินห์ซิตี้ของเวียดนามอยู่ในอันดับที่ 88 จาการ์ต้าของอินโดนีเซียอยู่ในอันดับที่ 106 และพนมเปญของกัมพูชาในอันดับที่ 118
นายอิลยา โบนิค หุ้นส่วนอาวุโสและประธานบริหารของเมอร์เซอร์กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อและความผันผวนของค่าเงินส่งผลต่อราคาสินค้าและบริการในเมืองต่างๆ ทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของชาวต่างชาติที่ไปทำงานและพักอาศัยในต่างบ้านต่างเมืองด้วย
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เรียบเรียงโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
