ตลาดอสังหาฯครี่งปีหลังทรงตัวไม่หวือหวา!สัมมากร รุกตลาดรีเทลจ่อรีแบรนด์ดิ้งใหม่ ดันรายได้ปีนี้แตะ 2,100 ล้านบาท พร้อมลุยโครงการแนวราบ ผุด 3 โครงการใหม่ มูลค่า 4,400 ล้านบาท ส่วนแนวดิ่ง รอจังหวะเดินหน้าต่อ มองไว้ 2 เซกเมนต์ ต่ำกว่าล้านบาท และ ระดับราคา 4 – 5 ล้านบาท
นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจาก ทางบริษัทได้รับโอนกรรมสิทธิ์พร้อมผู้เช่าในโครงการ Sammakorn Place Community Mall เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้บริษัทมีรายได้จากค่าเช่ามาเข้าในไตรมาสแรกปีนี้ เป็นเงิน 79 ล้านบาท จากพื้นที่ขายทั้งหมด 9,000 ตารางเมตร ซึ่งในจำนวนนี้มีอาคารที่ต้องปรับปรุงใหม่ คาดว่าจะใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งจะพัฒนาเป็นออฟฟิตเช่าคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านบาท
นอกจากนี้ ทางบริษัทมีแผนเตรียมรีแบรนด์ดิ้ง ศูนย์การค้าเพียวเพลส เป็น Sammakorn Place โดยวางคอนเซ็ปต์ต้องตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองและความสะดวกสบายในการเดินทางและการใช้ชีวิต โดยนำร่อง รามคำแหง 110ก่อนเป็นที่แรก ปัจจุบันมีศูนย์การค้าเพียวเพลส(PURE PLACE) ทั้งหมด 3 แห่ง ประกอบด้วย เพียวเพลส รามคำแหง พื้นที่เช่าขายทั้งหมด 20,000 ตารางเมตร เพียว เพลส ราชพฤกษ์ 4,000 ตารางเมตร เพียวเพลส คลอง 2 พื้นที่เช่าขาย 5,000 ตารางเมตร โดยทั้ง 3 แห่งจะมีรายได้เข้ามาอยู่ที่ 150 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าหลังจากที่รีแบรนด์ดิ้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อัตราค่าเช่าพื้นที่น่าจะปรับเพิ่มเป็นตารางเมตรละ 500 – 700 บาท ปัจจุบันพื้นที่เช่าต่อตารางเมตรจะอยู่ที่ 300 บาท
สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง จะเปิดตัว 3 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 4,400 ล้านบาท ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ มูลค่าโครงการประมาณ 1,200 ล้านบาท บนเนื้อที่โครงการ 35 ไร่ บ้านเดี่ยว 100 ตารางวาขึ้นไป ราคาเริ่ม 6.8 – 15 ล้านบาท จำนวน 140 ยูนิต โครงการบ้านเดี่ยวรังสิต คลอง 7 มูลค่าโครงการประมาณ 1,900 ล้านบาท ที่ดินเริ่ม 50 ตารางวาขึ้นไป ราคาเริ่ม 3.6 – 11 ล้านบาท จำนวน 383 ยูนิต ซึ่งทั้ง2โครงการเปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และโครงการทาวน์โฮม รามอินทรา-วงแหวน(Sammakorn AVENUE) พื้นที่โครงการ 35 ไร่ ขนาดที่ดิน 20 ตารางวาจำนวน 345 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 2.1-4 ล้านบาท มีกำหนดจะเปิดตัวในเดือนสิงหาคมนี้
ทั้งนี้ ทางบริษัทวางงบในการซื้อที่ดินเพิ่มอีกประมาณ 1,000 ล้านบาท ทั้งหมด 3 แปลงด้วยกัน ขณะนี้ซื้อแล้ว 1 แปลง จำนวน 30 ไร่ โดยที่ดินทั้ง 3 แปลงนำมาพัฒนาโครงการแนวราบทั้งหมดในปีถัดไป
ส่วนแผนการพัฒนาคอนโดมิเนียมนั้น มองว่าในอนาคตคงต้องพัฒนาต่อ มีโครงการเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่อาจจะไม่ใช่ปีหรือ 2 ปีนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าจะพัฒนาคอนโดมิเนียมนั้น มองไว้ 2 เซกเมนต์ คือ ราคาต่ำกว่าล้านบาท และ คอนโดมิเนียม ระดับราคาตั้งแต่ 4 – 5 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังเร่งปิดโครงการเดิม 2 โครงการให้ภายในปีนี้ ได้แก่ โครงการสัมมากร รังสิต คลอง 2 และโครงการสัมมากร อควา ดิวินา ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดได้หมดภายในไตรมาส 3 นี้ โดยในครึ่งปีแรก สามารถปิดโครงการสัมมากรนิมิตใหม่แล้ว ทั้งนี้ถึงสิ้นปีบริษัทมีสินค้าพร้อมโอนมูลค่าประมาณ 2,100 ล้านบาท
ด้านผลประกอบการในปีนี้ ซึ่งบริษัทได้ตั้งเป้าทั้งยอดขายและเป้ารายได้ที่ 2,100 ล้านบาท หรือเติบโต10-15% เพิ่มขึ้นจากปี2558 ซึ่งมีรายได้อยู่ที่1,500 ล้านบาท และยังคงผลักดันเป้ารายได้ปี 2562 ปิดที่ 4,000ล้านบาท
“ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2559 ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดจากยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพและปริมณฑล มียอดโอนสูงถึง 190,000 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา 55% ทั้งนี้เป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯภาครัฐซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดอสังหาฯและต่อสัมมากรเช่นกัน ส่งผลไตรมาสแรกปีนี้บริษัทมียอดรายได้จากการขายกว่า 333 ล้านบาท โตขึ้น 106% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว โดยแบ่งสัดส่วนรายได้มาจากแนวราบ 60% และคอนโด 40%”
ขณะที่ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลังยังไม่เห็นสัญญาณบวกชัดเจน มองว่าตลาดยังคงทรงตัว แม้ว่าจะมีอินฟราสตรัคเจอร์ค่อยๆออกมาก็ตามแต่เป็นเพียงแค่แอคชั่นเท่านั้น ส่วนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยส่วนตัวมองว่า เป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการนักพัฒนาที่ดิน เนื่องจากจะมีซัพพลายที่ดินออกมาสู่ตลาดเยอะขึ้น แต่ราคาที่ดินไม่มีปรับลดลงอย่างแน่นอน โดยเฉพาะที่ดินใกล้สาธารณูปโภคราคายิ่งปรับเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ส่วนที่ดินที่ไม่ได้อยู่ใกล้สาธารณูปโภคราคาที่ดินจะนิ่งๆ
แต่อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่ายังมีแนวโน้มที่ดีขึ้นซึ่งเห็นอัตราการปฏิเสธสินเชื่อบ้านในไตรมาส 1 ลดลงมาต่ำกว่า 10% จาก 18% เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณบวกดังนั้นขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการจะนำเสนอสินค้า ทำเลที่มีศักยภาพ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการ รวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี้
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com