ศูนย์ข้อมูลฯ ชี้ผู้ประกอบการรับมือเศรษฐกิจชะลอตัว ครึ่งปีแรกเลื่อนเปิดโครงการใหม่ เน้นระบายสต๊อกแทน ส่งผลให้เปิดโครงการใหม่ลดฮวบ เผยอสังหาฯ ช่วง 7 เดือนเปิดใหม่ 191 โครงการ 48,160 ยูนิต ลด 19% คอนโดฯลดมากสุด 23% บ้านจัดสรรลด 12% ประเมินทั้งปีเปิดใหม่แค่ 1 แสนยูนิต
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า โครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ช่วง 7 เดือนแรกที่ผ่านมา ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมมีจำนวน 191 โครงการ รวม 48,160 ยูนิต ลดลง 19% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีโครงการเปิดใหม่ 243 โครงการ รวม 59,540 ยูนิต
อย่างไรก็ดี คาดว่าทั้งปีจะมีโครงการเปิดใหม่ทั้งสิ้นกว่า 100,000 ยูนิต โดยแบ่งเป็นคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ 152 โครงการ ประมาณ 60,410 ยูนิต ใกล้เคียงกับปี 2558 ที่เปิดโครงการใหม่จำนวน 60,500 ยูนิต ขณะที่โครงการแนวราบคาดว่าจะมีโครงการเปิดใหม่ 292 โครงการ 44,450 ยูนิต ใกล้เคียงกับปีที่ 2558 ที่มีจำนวน 45,160 ยูนิต
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีทื่ผ่านมาผู้ประกอบการส่วนใหญ่หันไปเร่งระบายสต็อกเดิม เพื่อให้ทันมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนอง 0.01% จึงไม่ให้ความสำคัญกับการเปิดตัวโครงการใหม่มากนัก รวมถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจึงทำให้ชะลอการเปิดโครงการใหม่ไปต้นปีหน้าแทน เฉลี่ยรายละ 2-3 โครงการ บางรายมากกว่า 10 โครงการ
สาเหตุที่ทำให้ผู้ประกอบการชะลอเปิดโครงการใหม่มาจากหลายปัจจัย ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว หนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงทำให้กำลังซื้อลด ความเชื่อมั่นทั้งภาคเอกชนและผู้บริโภคลด ทำให้ผู้ประกอบการชะลอเปิดโครงการใหม่ หันไปเร่งระบายสต๊อกสินค้าเพื่อให้ทันกับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯของรัฐบาลแทน อีกทั้งยังต้องการรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะตลาด ก่อนตัดสินใจลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลยังได้เปิดเผยตัวเลขที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ในเขต กทม.-ปริมณฑล (5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม โดยพบว่า ในช่วงครึ่งปีแรก 2559 มีจำนวนยูนิตสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่รวมประมาณ 58,900 ยูนิต เพิ่มขึ้น 8% เปรียบเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวนประมาณ 54,000 ยูนิต แบ่งเป็น ห้องชุด 32,900 ยูนิต, บ้านเดี่ยว 16,600 ยูนิต, ทาวน์เฮ้าส์ 6,900 ยูนิต, อาคารพาณิชย์ 1,600 ยูนิต และบ้านแฝด 900 ยูนิต โดยเป็นในเขต กทม. จำนวน 26,000 ยูนิต ลดลง 9% และในปริมณฑลทั้ง 5 จังหวัดรวมกันจำนวน 32,900 ยูนิต เพิ่มขึ้น 28%
ส่วนทำเลที่มีจำนวนที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ บางบัวทอง 1,500 ยูนิต เขตบางขุนเทียน 1,300 ยูนิต อำเภอเมืองสมุทรสาคร 1,200 ยูนิต อำเภอเมืองสมุทรปราการ 1,100 ยูนิต และอำเภอบางพลี 1,000 ยูนิต และประเภทห้องชุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อำเภอธัญบุรี 7,800 ยูนิต อำเภอนนทบุรี 4,300 ยูนิต อำเภอเมืองสมุทรสาคร 2,700 ยูนิต ซึ่งจำนวนนี้ทั้งหมดเป็นโครงการบ้านเอื้ออาทรท่าจีน 1-3 อำเภอเมืองนครปฐม 2,200 ยูนิต เป็นโครงการบ้านเอื้ออาทรพระประโทน 1-2 จำนวน 1,200 ยูนิต ที่เหลือเป็นโครงการของเอกชน และเขตลาดกระบัง อย่างไรก็ตามในครึ่งปีแรกมีอาคารชุดเอื้ออาทรสร้างเสร็จของการเคหะแห่งชาติ 5 โครงการ รวม 85 อาคาร รวม 3,900 ยูนิต
ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล (5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม) พบว่า มีการโอนกรรมสิทธิ์รวมกันประมาณ 101,200 ยูนิต เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่มีจำนวน 83,400 ยูนิต แบ่งเป็น ห้องชุด 54,600 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 54%, ทาวน์เฮาส์ 27,200 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 27%, บ้านเดี่ยว 11,300 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 11%, อาคารพาณิชย์ 5,500 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 5% และบ้านแฝด 2,600 ยูนิต
สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปปล่อยใหม่ทั่วประเทศ ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีมูลค่ารวม 290,889 ล้านบาท เติบโต 7.5% แบ่งเป็นการปล่อยสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งรวมกันประมาณ 169,323 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 58.9% และ สินเชื่อจากธนาคารภาครัฐ 114,012 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นจาก ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประมาณ 24.7% และธนาคารออมสิน ประมาณ 14.1% และจากสถานการเงินอื่นๆ 7,555 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.3% ทั้งนี้ คาดว่าทั้งปีจะมีมูลค่าปล่อยสินเชื่อใหม่รวม 590,000 ล้านบาท
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com