“ฟัลครัม” กลุ่มทุนจากฮ่องกง ลงทุนอสังหาฯไทยเพิ่ม ทุ่มซื้อ “พาร์ค 24” บึ๊กล๊อตกว่า 450 ยูนิต รวมมูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท เร่ขายนักลงทุนต่างชาติ การันตีผลตอบแทน 5-6% พร้อมจูงมือเชน”แอสคอทท์”บริหารพอร์ตลงทุนในไทย
นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด อัพเดทยอดขายว่า ปัจจุบันโครงการพาร์ค 24 เหลือขายเพียงแค่ 10% หรือประมาณ 300 ยูนิต โดยแบ่งเป็นเฟสแรก ตึก 1, 2 และ 3 จำนวน 833 ยูนิต เหลือขายเกือบ 100 ยูนิต ส่วนเฟสตึก 4,5 และ 6 จำนวน 1,270 ยูนิต เหลือขายประมาณ 200 ยูนิต ซึ่งยอดขายดังกล่าวถือว่าประสบความสำเร็จและได้รับตอบรับที่ดีมาก
ทั้งนี้ เนื่องจากโครงการ พาร์ค 24 ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ เรียกได้ว่าเป็นคอนโดมิเนียมฟรีโฮลด์โครงการสุดดท้ายในย่านนี้ ประกอบกับบริเวณนี้รายล้อมด้วย โรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ซื้อชาวไทยและต่างชาติ และรวมถึงกลุ่มนักลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่า โดยปัจจุบันในย่านดังกล่าวมีอัตราค่าสำหรับห้องขนาด 1 ห้องนอน ค่าเช่า 45,000 – 60,000 บาทต่อเดือน ส่วนห้องขนาด 2 นอน เรทค่าเช่าจะอยู่ที่ 80,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ ทางฟัลครัมได้เข้าซื้อห้องชุดไปแล้วรวม 2 ครั้ง ประมาณ 450 ยูนิต มูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท โดยจ่ายในส่วนของค่าเงินดาวน์ 15% หรือประมาณ 450 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจ่ายในวันโอน ซึ่งถ้าขายยูนิตที่ซื้อไปไม่หมด ทางฟัลครัมก็พร้อมที่จะรับโอนและนำไปปล่อยเช่าต่อ เนื่องจากได้ผลตอบแทนที่สูง 5-6% ทั้งนี้ ราคาอสังหาฯในกรุงเทพถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับหลายประเทศ และในอนาคตยังมีแนวโน้มมูลค่าจะเพิ่มขึ้นได้อีกมาก ซึ่งในช่วงที่เปิดขายพาร์ค 24 เมื่อ 2 ปีก่อนราคาต่อตารางเมตรขายเพียง 1.7 แสนบาท แต่ทว่าปัจจุบันราคาขายอยู่ที่ 2.5 แสนบาทต่อตารางเมตร
ด้านนายแฟรงค์ เหลียง กรรมการผู้จัดการ กลุ่มทุน ฟัลครัม โกลบอล แคปิตอล กลุ่มทุนจากฮ่องกง ได้เปิดเผยว่า ทางฟัลครัมฯนั้น มีความสนใจที่จะลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทย อันเนื่องจากมีศักยภาพมาก โดยมีนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติเดินทางมาประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยคาดว่าปีนี้จะมีมากถึง 30 ล้านคน โดยเฉพาะกรุงเทพถือเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมามากที่สุดของโลกรองจากลอนดอน อีกทั้งราคาอสังหาริมทรัพย์ในไทยยังถือว่ามีราคาถูกเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ รวมถึงอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับ 4-8% ซึ่งถือว่าสูงสุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในเอเชีย อย่างเช่น ไต้หวันที่ปัจจุบันให้ผลตอบแทนเพียงแค่ 1% เท่านั้น
ดังนั้น ทางบริษัทจึงมีแผนที่จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยได้วางเม็ดเงินลงทุนในไทยจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 3,200 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาซื้ออสังหาฯในทำกลางเมืองกรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ฟัลครัมได้ลงทุนซื้อห้องชุดภายในโครงการ พาร์ค 24 ของบริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด จำนวนกว่า 450 ยูนิต มูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท แบ่งเป็นซื้อตึก 4 ยกตึก และห้องชุดในตึก 6 อีกจำนวน 150 ยูนิต โดยมอบหมายให้เชน “แอสคอทท์” บริหารเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ในตึก 4 ภายใต้ชื่อ “เดอะ พาร์ค แอท เอ็ม ดิสทริค”
อย่างไรก็ตาม ทางฟัลครัมจะได้นำห้องชุดดังกล่าวเสนอขายให้กับกลุ่มนักลงทุนชาวต่างชาติที่สนใจซื้อพร้อมแพ็คเก็จเช่าคืนจากผู้ซื้อระยะเวลา 10 ปี การันตีผลตอบแทนใน 2 ปีแรก สำหรับห้องชุดขนาด 1 ห้องนอนให้ผลตอบแทน 5% และห้องชุดขนาด 2 ห้องนอนจะให้ผลตอบแทน 6% ซึ่งหลังจากเปิดขายไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 20 % หรือประมาณ 100 ยูนิต โดยลูกค้าส่วนใหญ่คนไทยที่ซื้อ
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com
