เคลียร์ชัด!ไม่ปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 360 บาทต่อวัน หวั่นเอสเอ็มอีปิดกิจการเพิ่ม

16 ก.ย. 2559

Thai Baht notes

เคลียร์ชัด! ประเด็นไม่ปรับค่าแรงขั้นต่ำจาก 300 บาทต่อวันเป็น 360 บาทต่อวัน คาดส่อผลร้ายธุรกิจSME ขาดทุนยับอาจถึงขั้นปิดกิจการเพิ่ม แนะยึด 3 ปัจจัยหลัก 1.ภาวะเศรษฐกิจ 2.ภาวะเงินเฟ้อ และ3.ความสามารถในการจ่ายค่าจ้างในแต่ละพื้นที่

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยถึงกรณีคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ได้เสนอให้คณะกรรมการค่าจ้างปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจาก 300 บาทต่อวันเป็น 360 บาทต่อวัน เห็นว่าเป็นระดับที่สูงเกินไปเพราะการขึ้นทันทีอีก 60 บาทเท่ากันทั่วประเทศ จะเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี โดยเฉพาะจะผลักดันให้แรงงานต่างด้าว ที่ขณะนี้มีอยู่เกือบ 3 ล้านคนลักลอบมาค้าแรงงานในไทยมากขึ้น ขณะเดียวกัน ค่าแรงขั้นต่ำจะกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังค่าแรงทั้งระบบที่ต้องปรับขึ้น ซึ่งภาระนี้จะตกหนักที่ธุรกิจเอสเอ็มอี ที่อาจทำให้ธุรกิจขาดทุนจนปิดกิจการเพิ่มขึ้น

ขณะที่ ภาคเอกชนก็มีความคิดเห็นที่สอดคล้องกับคณะกรรมการค่าจ้าง ที่การปรับขึ้นค่าแรงควรยึด 3 ปัจจัยสำคัญคือ 1.ภาวะเศรษฐกิจ 2.ภาวะเงินเฟ้อ 3.ความสามารถในการจ่ายค่าจ้างในแต่ละพื้นที่ ซึ่งหากพิจารณาทั้ง 3 ปัจจัย จะเห็นว่าปี 60 เศรษฐกิจไทยจะยังโตใกล้เคียงกับปีนี้ที่ 3.2% แต่การส่งออกปีนี้ติดลบและปีหน้าไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะติดลบหรือเพิ่มขึ้น แม้เงินเฟ้ออาจปรับตัวดีขึ้นแต่ความสามารถในการจ้างงานของนายจ้างแต่ละขนาดกิจการ และแต่ละพื้นที่ก็มีไม่เท่ากัน และสิ่งที่ห่วงคือเจ้าของกิจการเอสเอ็มอี และโรงงานขนาดกลางในต่างจังหวัดจะไม่สามารถจ่ายค่าจ้าง 360 บาทต่อวันได้แน่นอน และหากต้องปรับขึ้นจริง ต้นทุนค่าแรงจะถูกผลักไปในราคาสินค้าให้ประชาชนรับแทน ในภาวะที่กำลังซื้อหดตัว ยอดขายอาจตกต่ำตามไปด้วย

อย่างไรก็ดี กระทรวงแรงงานได้แจ้งให้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ทราบว่าปีนี้จะไม่ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แต่ปี 60 อาจปรับขึ้นระดับหนึ่ง ขณะที่ ส.อ.ท.เห็นว่า ควรปรับขึ้นตามทักษะฝีมือและในแต่ละพื้นที่ ไม่ควรขึ้นเท่ากันทั่วประเทศ เหมือนกรณี 300 บาททั่วประเทศ ทำให้นักลงทุนต่างจังหวัดปิดกิจการย้ายกลับมาอยู่ส่วนกลางเกือบทั้งหมด ส่งผลให้นโยบายกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นล้มเหลว และปัจจุบันรัฐต้องการส่งเสริมให้เกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน แต่หากค่าแรงเท่ากันทั่วประเทศ การลงทุนจะเกิดขึ้นในพื้นที่จริงๆไม่มาก.

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

เงินต่างชาติไหลซื้อคอนโด “Park 24” บิ๊กล๊อต การันตีผลตอบแทน 5-6%

“ฟัลครัม” กลุ่มทุนจากฮ่องกง ลงทุนอสังหาฯไทยเพิ่ม ทุ่มซื้อ “พาร์ค 24” บึ๊

อ่านต่อ15 ก.ย. 2559