“เมื่อเกษียณอายุและมีสิทธิรับเงินบำนาญชราภาพจากประกันสังคม ควรลาออกจากประกันสังคมเพื่อรับเงินบำนาญ”
สำหรับผู้ที่กำลังจะเกษียณอายุ หรือตัดสินใจลาออกจากกงานประจำ เพื่อประกอบธุรกิจส่วนตัว หรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้ออกจากงาน อาจมีคำถามเกิดขึ้นว่า ควรต่อประกันสังคมดีไหม เพราะถ้าต่อประกันสังคมจะสามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลของประกันสังคมไปได้เรื่อยๆ ดังนั้น เพื่อเป็นแนวทางช่วยตัดสินใจ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย มีข้อมูลมาฝาก
ถ้าส่งเงินเข้าประกันสังคมอย่างน้อย 15 ปี จะมีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพเมื่อลาออกจากประกันสังคม และมีอายุ 55 ปีขึ้นไป ส่วนจะได้รับเงินบำนาญเท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยด้วยกัน ปัจจัยแรกคือ ระยะเวลาที่ส่งเงินเข้าประกันสังคม ถ้ายิ่งส่งนาน ก็ยิ่งได้รับเงินบำนาญมากขึ้น ส่วนอีกปัจจัยคือ ฐานเงินเดือนในช่วง 60 เดือนสุดท้าย ก่อนที่จะลาออกจากประกันสังคม
การคำนวณเงินบำนาญที่จะได้รับจากประกันสังคม สามารถแบ่งเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรก สำหรับ 15 ปีแรก จะได้รับเงินบำนาญ 20% ของเงินเดือน 60 เดือนสุดท้าย
ส่วนที่ 2 สำหรับจำนวนปีที่เกินจาก 15 ปีมานั้น จะได้รับเงินบำนาญเพิ่มปีละ 1.5%
สมมติ เงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายเท่ากับ 15,000 บาท (ฐานเงินเดือนที่ใช้ในการคำนวณเงินสมทบประกันสังคมมาตรา 33 สำหรับผู้ที่ทำงานประจำ สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท) และส่งเงินประกันสังคมมาแล้ว 17 ปีพอดี กรณีนี้จะได้รับเงินบำนาญเพิ่มอีก 1.5% x 2 = 3% ทำให้ได้รับเงินบำนาญรวม 20% + 3% = 23% ดังนั้น จะได้รับเงินบำนาญเดือนละ 23% x 15,000 = 3,450 บาท
หากตัดสินใจต่อประกันสังคม โดยสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จะสามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลของประกันสังคมต่อได้ ส่วนเงินบำนาญ จะได้รับก็ต่อเมื่อลาออกจากการเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 แล้ว โดยยอดเงินที่จะได้รับจะน้อยลงเมื่อเทียบกับการไม่ต่อประกันสังคม แล้วรอรับเงินบำนาญเมื่อเกษียณอายุหรืออายุครบ 55 ปี เพราะเมื่อเราเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ฐานเงินเดือนที่ใช้คำนวณจะลดลงมาอยู่ที่ 4,800 บาท ทำให้ฐานเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายลดลง
จากตัวอย่างเดิม จ่ายเงินสมทบประกันสังคมมาตรา 33 เป็นเวลา 17 ปี เมื่อออกจากงาน ได้สมัครประกันสังคมมาตรา 39 ทันที โดยจ่ายเงินสมทบต่ออีกเป็นเวลา 5 ปี รวมระยะเวลาจ่ายเงินสมทบเท่ากับ 22 ปี กรณีนี้เงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายเท่ากับ 4,800 บาท ได้รับเงินบำนาญเพิ่มอีก 1.5% x 7 = 10.5% ทำให้ได้รับเงินบำนาญรวม 20% + 10.5% = 30.5% ดังนั้น จะได้รับเงินบำนาญเดือนละ 30.5% x 4,800 = 1,464 บาท
เมื่อดูจากทั้ง 2 ทางเลือก ถ้าส่งเงินเข้าประกันสังคมมาแล้ว 15 ปี จนมีสิทธิได้รับเงินบำนาญ เมื่อเกษียณอายุ หรือออกจากงาน แนะนำให้ลาออกจากประกันสังคม แล้วรอรับเงินบำนาญเลยดีกว่า โดยไม่ต้องต่อประกันสังคมเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ส่วนเรื่องของการรักษาพยาบาล ก็สามารถใช้สิทธิบัตรทองแทนประกันสังคมได้ หรือจะแบ่งเงินบำนาญส่วนหนึ่งมาซื้อประกันสุขภาพ เผื่อจะใช้บริการโรงพยาบาลใกล้บ้าน ก็เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจ
ทั้งนี้ เมื่อมีสิทธิรับเงินบำนาญชราภาพจากประกันสังคม ควรรีบยื่นเรื่องกับสำนักงานประกันสังคมภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ลาออกจากงาน
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย ปานตา ฉัตรมาศ CFP® K-Expert ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com