เทคนิคเลือก RMF ให้เหมาะกับตัวเรา

21 พ.ย. 2560

“ลงทุนประหยัดภาษีและเป็นแหล่งเงินได้ยามเกษียณด้วยกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) โดยลงทุนต่อเนื่องจนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และลงทุนอย่างน้อย 5 ปีเต็ม” 

เมื่อพูดถึงการลงทุนลดหย่อนภาษี หลายคนมักนึกถึงกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) แต่จริงๆ แล้ว ยังมีกองทุนรวมอีกประเภทหนึ่งที่ผู้ลงทุนสามารถลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ทั้งนี้ ก่อนลงทุน ก็ควรศึกษาข้อมูลเพื่อเลือก RMF ได้เหมาะกับตัวเรา โดยมีแนวทางในการเลือกลงทุนอย่างไรนั้น K-Expert ธนาคารกสิกรไทยมีคำแนะนำ

เนื่องจาก RMF มีนโยบายการลงทุนหลากหลาย ตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำจนถึงความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรเลือกลงทุนใน RMF ให้เหมาะสมตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

กลุ่มที่ 1 : รับความเสี่ยงได้สูง หรืออยู่ในช่วงวัยเริ่มต้นทำงาน
เหมาะกับ RMF ที่มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ โดยจะลงทุนในหุ้นไม่น้อยกว่า 65% ของเงินลงทุน นอกจากนี้ ยังมี RMF ที่เน้นลงทุนในทองคำ กองทุนประเภทนี้มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงจากการลงทุน โดยเฉลี่ยปีละ 8-12% แต่ต้องยอมรับโอกาสขาดทุนหรือความผันผวนที่สูงได้เช่นกัน

กลุ่มที่ 2 : รับความเสี่ยงได้ปานกลาง หรืออยู่ในช่วงวัยกลางคน
เหมาะกับ RMF ที่ลงทุนผสมในหุ้นและตราสารหนี้ โดยกองทุนอาจกำหนดสัดส่วนของการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ เช่น ลงทุนในหุ้นไม่เกิน 40% ของเงินลงทุน ที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้หรือเงินฝาก นโยบายการลงทุนประเภทนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้น ในขณะที่มีโอกาสรับผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนในตราสารหนี้เพียงอย่างเดียว มีโอกาสรับผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 5-7%

กลุ่มที่ 3 : รับความเสี่ยงได้ต่ำ หรืออยู่ในช่วงวัยก่อนเกษียณ
เหมาะกับ RMF ที่เน้นลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ เช่น RMF ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้อย่างพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ เหมาะกับผู้ลงทุนที่เน้นรักษาเงินต้น ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากการลงทุนมากนัก หรือ RMF ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น เงินฝาก ที่มีอายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี เหมาะกับผู้ที่ต้องการพักเงิน ซึ่งผู้ที่เลือกลงทุนใน RMF ที่มีความเสี่ยงต่ำควรยอมรับผลตอบแทนที่ไม่สูงมากได้ โดยมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 2-4%

RMF ทุกกองทุนไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล เนื่องจาก RMF มีจุดประสงค์ที่ต้องการสนับสนุนการออมเงินเพื่อใช้ในวัยเกษียณ โดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นแรงจูงใจ ดังนั้น การไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ก็เพื่อให้เงินที่เราลงทุนใน RMF เป็นเงินที่สะสมไว้เพื่อใช้จ่ายในบั้นปลายชีวิตนั่นเอง

ทั้งนี้ ระหว่างที่ลงทุน RMF ผู้ลงทุนสามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน RMF ที่ถือครองอยู่ได้ เช่น สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน RMF ที่ลงทุนในหุ้น ไปยัง RMF ที่ลงทุนในตราสารหนี้ เนื่องจากอายุที่มากขึ้น จึงอยากลดความเสี่ยงจากการลงทุนลง หรือต้องการปรับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนตามภาวะความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อย่างเช่นช่วงตลาดหุ้นผันผวน หากผู้ลงทุนไม่มั่นใจกับ RMF ที่ลงทุนในหุ้นที่ถืออยู่ ก็สามารถสับเปลี่ยนไป RMF ที่ลงทุนในตราสารหนี้ได้

จะเห็นได้ว่า RMF มีความยืดหยุ่นในการลงทุนค่อนข้างมาก โดยสามารถเลือกได้ว่าจะลงทุนใน RMF ที่มีนโยบายการลงทุนแบบใดตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และสามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรเลือกลงทุนกับบริษัทจัดการ (บลจ.) ที่เปิดบริการสับเปลี่ยนกองทุนรวมระหว่าง RMF โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม

สำหรับผู้ที่ตัดสินใจซื้อ RMF อย่าลืมพิจารณาเงื่อนไขในการลงทุน โดยมีเงื่อนไขหลักๆ 2 เรื่องด้วยกัน คือ จำนวนเงินลงทุน และระยะเวลาลงทุน

– จำนวนเงินลงทุน
สามารถลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาทต่อปี หรือ 3% ของเงินได้ และไม่เกิน 15% ของเงินได้ทั้งปีที่ต้องเสียภาษี โดยเมื่อรวมกับเงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หรือกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญแล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

– ระยะเวลาลงทุน
ต้องลงทุนต่อเนื่องจนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และลงทุนอย่างน้อย 5 ปีเต็มนับจากวันที่ลงทุนวันแรก โดยไม่ระงับการซื้อหน่วยลงทุนเกิน 1 ปีติดต่อกัน ทั้งนี้ การนับ 5 ปีจะนับเฉพาะปีที่มีการซื้อหน่วยลงทุนคือ ปีใดไม่ลงทุนจะไม่นับว่ามีการลงทุนในปีนั้น

RMF ถือว่าเป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจ เพราะได้ทั้งลดหย่อนภาษี และได้เก็บเงินเกษียณ ที่สำคัญสามารถเลือกนโยบายการลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในแต่ละช่วงชีวิต และแนะนำให้ลงทุนต่อเนื่องทุกปีเพื่อเป็นเงินสะสมเก็บไว้ใช้ยามเกษียณ

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย นิชฌานี ฉันทศาสตร์ CFP® K-Expert ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

3 เรื่องเกี่ยวกับ “หน่วยลงทุน” ที่ควรรู้

“จำนวนหน่วยลงทุน ใช้เมื่อขายคืน LTF ที่ครบกำหนด เมื่ออยากปิดบัญชีกองทุน

อ่านต่อ3 ส.ค. 2560

ไขข้อข้องใจ กองทุน LTF ที่มีมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) สูง ได้กำไรน้อยจริงหรือ?

“มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ที่เพิ่มสูงขึ้น เกิดจากการสะสมผลกำไรของกองทุนรวม

อ่านต่อ7 พ.ย. 2560