ส่องไตรมาสแรกของปี 2560 แม้ว่าเศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นตัวให้เห็นชัดเจนมากนัก ประกอบการลงทุนของภาครัฐชะลอตัวตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา บวกกับน้ำท่วมภาคใต้ส่งผลให้ดีมานด์ตลาดซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างติดลบ
ด้านนายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า ในส่วนของธุรกิจซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างในประเทศช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ พบว่ามีการหดตัวลงติดลบ 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนหน้าเนื่องจากปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ทำให้ดีมานด์ลดและการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว โดยในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 มีรายได้จากการขาย 44,824 ล้านบาท ลดลง2% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน มีกำไรสำหรับงวด 2,468 ล้านบาท ลดลง25 %จากปีก่อน
ตลาดซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างในประเทศยังไม่ฟื้นตัว ผลจากการลงทุนในภาคการก่อสร้างยังต่ำกว่าปีที่แล้ว และการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น
สำหรับความคืบหน้าการลงทุนในอาเซียน ขณะนี้มีความชัดเจนและคืบหน้าในหลายเรื่องล่าสุดได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์ในประเทศเวียดนามพัฒนาโครงการปิโตรเคมีครบวงจรในโครงการ Long Son Petrochemicalsซึ่งได้มีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเป็น 71% คาดว่ากลางปีนี้จะได้ข้อสรุปเรื่องเงินลงทุนและจะใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปีโดยจะเริ่มการผลิตได้ในปี2565
ส่วนธุรกิจซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง นั้นได้มีการลงทุนในVietnam Construction Materials JSC (“VCM”) ซึ่งเป็นธุรกิจซิเมนต์ครบวงจรในเวียดนาม ซึ่งมีกำลังการผลิต 3.1 ล้านตันต่อปี นอกจากนี้โรงงานปูนซีเมต์ในเมียนมาร์ได้เริ่มผลิตสินค้าออกสู่ตลาดเมื่อเดือนม.ค. และในสปป.ลาวในเดือนมี.ค.นี้ ทำให้เอสซีจีมีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์อาเซียนไม่นับรวมประเทศไทยรวม 10.5 ล้านตันต่อปี เมื่อธุรกิจในต่างประเทศมีกำลังการผลิตก็จะช่วยเสริมพอร์ตรายได้ในต่างประเทศเพิ่มจากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ23%
ด้านธุรกิจแพคเกจจิ้งนั้น เป็นกลุ่มที่มีการเติบโตดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเอสซีจีได้มีการลงทุนในอินโดนีเซีย มีกำลังการผลิตรวม 3.2 หมื่นตันต่อปีโดยปัจจุบันเอสซีจีมีกำลังการผลิตรวมกว่า 1 ล้านตันต่อปี
ทั้งนี้ในส่วนของผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2560 เอสซีจีมีรายได้จากการขาย 116,268 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน มีกำไร 17,386 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากปีก่อน เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจเคมีภัณฑ์ ประกอบกับกำไรจากการขายเงินลงทุนและสินทรัพย์ส่วนที่ไม่ได้ใช้งาน ประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการส่งออก 31,044 ล้านบาท คิดเป็น 27% ของยอดขายรวม
สำหรับรายได้เอสซีจีในอาเซียนในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2560 นั้นเป็นรายได้จากธุรกิจที่มีฐานการผลิตในภูมิอาเซียนและจากการส่งออกไปยังอาเซียน 25,918 ล้านบาท หรือ 23% ของรายได้รวม ใกล้เคียงกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ เอสซีจี มีสินทรัพย์รวมในอาเซียน นอกเหนือจากประเทศไทย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 มูลค่า 137,144 ล้านบาท หรือประมาณ 24% ของสินทรัพย์รวมของบริษัท ส่วนสินทรัพย์รวมของเอสซีจี ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 มีมูลค่า 562,170 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีทางบริษัทยังคงเป้าการเติบโตที่ 5-10% จากปีที่แล้วซึ่งอยู่ 423 แสนล้านบาท แม้ขณะนี้ธุรกิจในกลุ่มยังมีทั้งเติบโตและติดลบก็ตาม โดยปีนี้ได้วางงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 6-7 หมื่นล้านบาท
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน