หลังจาก “ครม.” ตีกลับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู- สีเหลือง พร้อมสั่ง”รฟม.”ทบทวนเงื่อนไขสัญญาให้รอบคอบก่อนลงนามก่อสร้าง ด้านคมนาคม เล็งเสนอก่อสร้างทางด่วนพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ เชื่อมทางพิเศษศรีรัชด้านทิศเหนือคาดใช้งบก่อสร้าง275 ล้านบาท
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 10พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ยังไม่มีการนำเสนอผลการประกวดราคาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. วงเงิน 5.2 หมื่นล้านบาท และสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. วงเงิน 5.4 หมื่นล้านบาท ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ (รฟม.) ให้ที่ประชุมครม. พิจารณาอนุมัติ
เนื่องจาก ครม.สั่งให้กระทรวงคมนาคมกลับไปพิจารณาทบทวนเงื่อนไขและข้อสัญญาก่อนการลงนามให้ละเอียดรอบคอบอีกครั้ง โดยได้มอบให้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำหนังสือรวบรวมความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งกลับไปให้คณะกรรมการมาตรา 35 ของรฟม. เพื่อพิจารณาและปรับแก้ไขสัญญาสอดรับกันก่อน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมยังอยู่ระหว่างรอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีก3หน่วย ที่ยังไม่ได้ส่งข้อมูลมา คือ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และสำนักงานกฤษฎีกา ทั้งนี้ ยอมรับว่าการลงนามในสัญญารถไฟฟ้า 2 เส้นยังล่าช้าไม่ทันตามกำหนดเดิมในเดือนเม.ย. คาดว่าแผนการดำเนินโครงการยังอยู่ในแผนใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี 3 เดือน ส่วนจะมีการนำเสนอผลการประกวดราคาโครงการรถไฟฟ้าทั้ง2สายให้ครม. พิจารณาอนุมัติผลการประกวดราคาได้เมื่อไหร่นั้นยังตอบไม่ได้ในตอนนี้
สำหรับโครงการรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง ดังกล่าวนั้นได้มีการประกวดและได้ตัวผู้ชนะการประมูลไปแล้ว และอยู่ระหว่างรอลงนามในสัญญา ซึ่งประกอบด้วย กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS Group บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH และบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน)
ด้านนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงผลการประชุมแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม โครงการทางด่วนพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ว่า ที่ประชุมได้เสนอก่อสร้าง โครงการทางด่วนพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ไปยังทางพิเศษศรีรัชด้านทิศเหนือเพิ่มเติมระยะทาง 400 เมตร โดยต้องใช้พื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ขณะนี้ก็ได้มีการเตรียมส่งมอบพื้นที่ให้กับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย รับดำเนินการดังกล่าวแล้ว
ส่วนแผนการดำเนินงาน ทางกระทรวงคมนาคมจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ รวมถึงความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดที่ได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงาน หรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 โดยผู้ที่ได้รับสัมปทานเดิม จะเป็นผู้ลงทุนในการดำเนินการ และจะไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการให้บริการประชาชน
คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 275 ล้านบาท หากโครงการดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี โดยคาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการได้ภายหลังเริ่มมีการก่อสร้างไปแล้ว 18 เดือน
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน