เจาะกลยุทธ์สร้าง “สตาร์มาร์ค” ก้าวสู่ปีที่ 35

16 มิ.ย. 2560

ตลอดระยะเวลากว่า 35 ปี ที่สตาร์มาร์คดำเนินธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง งานชุดครัว และเฟอร์นิเจอร์ห้องน้ำ พร้อมส่งมอบชุดเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งคุณภาพให้กับลูกค้าทั้งรายย่อย และลูกค้ากลุ่มธุรกิจ ขึ้นแท่นผู้นำนวัตกรรมงานดีไซน์เพื่อการอยู่อาศัยแบบครบวงจร พร้อมการพัฒนาด้านการผลิตอย่างต่อเนื่อง ออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีความต้องการฟังก์ชั่นการทำงานที่เปลี่ยนไปให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ตลอดไปถึงงานดีไซน์ที่เหนือกว่าการใช้งานทั่วไป แต่เพื่อสุนทรีย์ในการดำเนินชีวิตอีกด้วย

ดร. พีรพัฒน์ ศรีสกุลภิญโญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สตาร์มาร์ค แมนูแฟคเชอร์ริ่ง จำกัด พูดถึงภาพรวมตลาดของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ในระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมาสภาวะของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 6.5 แสนล้านบาทในปี 2559 ทั้งนี้คาดการณ์ว่าจะเติบโตประมาณ 5% ในปีนี้ ซึ่งจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยสัดส่วนของตลาดเฟอร์นิเจอร์ที่มีอัตราการเติบโตสูงคือกลุ่มงานพรีเมียม ทั้งบ้าน และคอนโด

นอกจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยแล้ว ลูกค้าต่างชาติคืออีกกลุ่มที่เป็นลูกค้าหลักของที่พักอาศัยคือ กลุ่มลูกค้าชาวจีน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ที่เลือกซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทย และมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าเฟอร์นิเจอร์หรู เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัย เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ ทำให้ต้องพุ่งเป้าการผลิตที่มีศักยภาพมากขึ้น ทั้งทางด้านกำลังการผลิต คุณภาพของสินค้า และการออกแบบ

ปัจจุบันสตาร์มาร์คมีกำลังการผลิตสินค้าชุดครัวมากกว่า 10,000 ยูนิต ต่อเดือนด้วยเทคโนโลยีการผลิต และเครื่องจักรนำเข้าจากประเทศเยอรมัน และอิตาลี ประกอบกับองค์ความรู้เฉพาะในการผลิตอะคริลิก เทคโนโลยีด้านโพลียูรีเทนจากประเทศอเมริกา ทำให้เป็นผู้นำตลาดทางด้านชุดครัวนวัตกรรม

ขณะเดียวกัน บริษัทกำลังลงทุนในส่วนของเครื่องจักร และนวัตกรรม เทคโนโลยีการผลิตไปราว 250 ล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี เพื่อรองรับ การพัฒนา และการบริหารจัดการบนพื้นที่โรงงานกว่า 80,000 ตร.ม.

โดยแนวโน้มการพัฒนาการเปลี่ยนแปลงยุค 4.0 เป็นเรื่องหลัก บริษัททำการพัฒนาทั้งเรื่องของรูปแบบธุรกิจ และเทคโนโลยี เน้นการผลิตตามความต้องการของลูกค้าด้วยจำนวนมาก (Mass Customization) ที่มีความซับซ้อนสูงในการพัฒนาระบบ เริ่มมุ่งเน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 4.0 ในด้านเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลผ่านระบบดิจิทัลแบบ Real Time และบริหารจัดการข้อมูลจากระบบเทคโนโลยีผ่าน โมบายแอพลิเคชั่น ที่สามารถบริหารจัดการระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงมากยิ่งขึ้น ตอบสนองลูกค้าได้หลากหลายและรวดเร็วขึ้น

ที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ จนประสบความสำเร็จ และอยู่ระหว่างเริ่มดำเนินการปฏิบัติการใช้งาน ซึ่งประกอบไปด้วย เทคโนโลยีดิจิทัลดังต่อไปนี้
1) เทคโนโลยีการออกแบบ 3 D (KDMAX)
2) เทคโนโลยีการถอดแบบและเชื่อมต่อข้อมูลกับเครื่องจักร (IMOS)
3) เทคโนโลยีการตัดที่ประหยัดที่สุด (Cut Rite)
4) เทคโนโลยีเครื่องจักรอัตโนมัติ (Automation Machine)
5) เทคโนโลยีการจัดการข้อมูลทรัพยากรองค์กร (ERP: Microsoft Dynamics Ax) และการบริหารจัดการแบบเรียลไทม์ผ่าน Dash Board
6) เทคโนโลยีการติดตามและควบคุมดิจิทัลผ่านแอพลิเคชั่นบนมือถือ
7) เทคโนโลยีระบบติดตามการขนส่ง (GPS: Tracking)

ด้านนางสาวนันทนา ศรีสกุลภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานขายและการตลาด บริษัท สตาร์มาร์ค แมนูแฟคเชอร์ริ่ง จำกัด กล่าวเสริมในด้านของการขาย การตลาด และแผนงานการดำเนินธุรกิจว่า ในปีที่ผ่านมาแม้สถานการณ์ตลาดจะซบเซาลงบ้างในช่วงปลายปี แต่ยังคงมีดีมานด์ของลูกค้ากลุ่มพรีเมียม ดีเวลลอปเปอร์รายใหม่ๆ ที่มาสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายอย่างต่อเนื่อง และยังคงสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมได้อย่างดี ซึ่งสัดส่วนธุรกิจของสตาร์มาร์ค กว่า 50% เป็นรูปแบบของลูกค้าธุรกิจ ลูกค้าใน AEC 5% ที่ยังคงมีการดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง และความคงที่ของจำนวนคำสั่งซื้อสินค้า โดยมีสาขาทั่วประเทศกว่า 140 สาขา มีพันธมิตรหลักสำหรับลูกค้ารายย่อย คือ โฮมโปร กว่า 79 สาขา จัดจำหน่ายสินค้าเฟอร์นิเจอร์ครัวทุกกลุ่มเป้าหมาย

 

สตาร์มาร์ค รับงานออกแบบ ผลิตเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง และชุดครัว ของโครงการที่พักอาศัยต่างๆ กว่า 1,000 โครงการทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันกำลังดำเนินการอยู่กว่า 80 โครงการทั้งแนวราบ และแนวดิ่ง อาทิ โครงการในเครือแลนด์แอนด์เฮ้าส์ คิวเฮ้าส์ แสนสิริ พฤกษา เรียลเอสเตท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ ศุภาลัย อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เคแลนด์ ออริจิ้น อีกทั้งปัจจุบัน เรายังต่อยอดไปยังการออกแบบ ตกแต่ง ห้องพัก ในกลุ่มโรงแรม และเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ อาทิ โรงแรมแกรนด์เซ็นเตอร์พ้อยท์ สุขุมวิท 55 โรงแรมแกรนด์เซ็นเตอร์พ้อยท์ เทอร์มินอล 21 และโรงแรมแมนดาริน พระราม 4 โดยตั้งเป้าอัตราการเติบโตยอดขายไว้ที่ 5% ในปีนี้ และเน้นการพัฒนากลุ่มสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค รวมไปถึงการนำเอาเทคโนโลยีการผลิต ที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพมาให้ในกระบวนการผลิตสินค้าของสตาร์มาร์ค เพื่อส่งผลต่อเนื่องไปยังอัตราการเพิ่มของกำไรในปีนี้ที่เราตั้งเป้าไว้

Starmark01

ทางด้านของลูกค้ากลุ่มผู้บริโภคเน้นการให้บริการที่ครบวงจร ทั้งการออกแบบ การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ การสร้างสรรค์สินค้าเปี่ยมด้วยนวัตกรรม และความปลอดภัย เรามีผู้เชียวชาญที่จะให้คำแนะนำด้านต่างๆ ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานครัว พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขอนามัยที่ดี ที่จะลดปัญหาเรื่องปลวก แมลง ความชื้น และการสะสมของเชื้อรา

ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทเสริมในส่วนของการสนับสนุน กลุ่ม Startup เพื่อขยายองค์ความรู้ โดยการนำเอาเทคโนโลยี และ Know-how มาประกอบกัน ส่งมอบความรู้ ประสบการณ์ รวมไปถึงเทคนิควิธีการผลิตสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการรายใหม่เข้าสู่ระบบธุรกิจ และร่วมเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งของไทย

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

อสังหาฯครึ่งปีหลังโหมเทศกาลอีเว้นต์กระตุ้นยอดขาย

ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า “อนันดาฯ” มองอสังหาฯครึ่งปีหลังเริ่ม

อ่านต่อ15 มิ.ย. 2560