รวมพลัง"แบงก์รัฐ”ตรึงดอกเบี้ยปีนี้

20 มิ.ย. 2560

แวดวง”แบงก์รัฐ” หารือรวมพลังกำหนดทิศทางดอกเบี้ยของแบงก์รัฐ ฟากธอส.ชี้หากดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ปรับขึ้น 1-3 ครั้ง ธอส.ยังสามารถตรึงดอกเบี้ยและหากต้องปรับขึ้นจะปรับเพียงครั้งเดียวในอัตรา 0.125-0.25% ต่อปีเท่านั้น

การตรึงดอกเบี้ย อาจจะกระทบต่อต้นทุนบ้าง แต่เป็นการดำเนินการภายใต้นโยบายรัฐบาลมอบให้ธนาคารรัฐทำธุรกิจแบบไม่ต้องเน้นกำไรสูงสุด

แต่อย่างไรก็ตาม ทางธอส.คาดว่าในปีนี้ กำไรธนาคารลดลงประมาณ 1,000 ล้านบาท จากนโยบายไม่เน้นกำไร และธนาคารออกแพคเกจสินเชื่อต่ำหลายตัว แต่ภาพรวมกำไร ธอส.ในปีนี้ยังสูงกว่า 1 หมื่นล้านบาท

ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.จะพยายามไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้บ้านไปจนกว่าจะถึงสิ้นปี แม้ขณะนี้จะเป็นช่วงของดอกเบี้ยขาขึ้น เนื่องจากขณะนี้ธนาคารยังสามารถบริหารต้นทุนเงินฝากและเงินกู้ไว้ในระดับเดิมได้ แต่ถ้าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายคงจะต้องหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูง 6 สถาบันการเงินของรัฐ เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยอีกครั้ง

ถึงแม้ตอนนี้ประเมินกันว่า กนง.ยังไม่น่าปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วๆ นี้ แต่หากมีการปรับขึ้นจริง ธนาคารก็จะขึ้นให้ช้าที่สุด โดยจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างมากสุดเพียงแค่ครั้งเดียว 0.125% แต่ถ้าดอกเบี้ยนโยบายขึ้นปลายปีนี้ในอัตราที่ไม่สูง ธนาคารอาจไม่ขึ้นเลยในปีนี้ โดยปัจจุบัน ธอส.มีดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ที่ 6.25% เอ็มโออาร์ 7% เอ็มอาร์อาร์ 6.75% ซึ่งเฉลี่ยต่ำที่สุดในตลาดสินเชื่อ

คาดว่าในปีนี้ ทางธอส.จะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 1.78 แสนล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกปล่อยได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 10% โดยในช่วงครึ่งปีหลังธนาคารมีแผนจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ออกมารองรับผู้ที่ต้องการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการมีบ้านอย่างต่อเนื่อง พร้อมมั่นใจว่าจะสามารถขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายระยะยาวภายใต้การบริหารในปี 2563 เพื่อให้มีส่วนแบ่งการตลาดเป็น 1 ใน 3 ของสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบ และมีสินเชื่อรวม 1.15 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 1.2ล้านล้านบาท

ซึ่งหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา และเฟดยังส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีนี้ ซึ่งจากการประชุมระหว่างผู้บริหารสภาสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (สภาแบงก์รัฐ) ล่าสุด มีข้อสรุปร่วมกันว่า หากคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหาร 7 แบงก์รัฐ เพื่อกำหนดทิศทางนโยบายของธนาคารร่วมกัน จากเดิมต่างคนต่างพิจารณา และอิงทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่

โดย 7 ธนาคารรัฐประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกาตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธ.อ.ส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) จะพยายามคงดอกเบี้ยเงินกู้ในปีนี้ โดยจะปรับขึ้นให้ช้าที่สุดหาก กนง.ประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย แต่หาก กนง.ลดดอกเบี้ย แบงก์รัฐพยายามลดดอกเบี้ยเงินกู้เร็วที่สุด เพื่อประโยชน์ของประชาชน

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ