[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] หากพูดถึงทำเลพหลโยธิน 27 หลายคนอาจจะยังนึกไม่ออกนัก แต่ถ้าเอ่ยว่า ทำเลรัชโยธิน คงไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่รู้จัก ซึ่งการที่ทำเลรัชโยธินแจ้งเกิดขึ้นมาได้นั้น ก็ต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการปลุกปั้นทำเลนี้ของกลุ่มเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ผู้พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์และเอ็นเตอร์เทนเมนต์ให้ย่านรัชโยธินเป็นที่รู้จักในวงกว้าง อีกทั้ง ทำเลรัชโยธินเองก็รับการขยายการเติบโตมาจากบริเวณห้าแยกลาดพร้าว หรือโซนเซ็นทรัล ลาดพร้าวนั่นเอง
แต่หากเจาะลึกทำเลพหลโยธิน 27 หรือทำเลรัชโยธินจริงๆ แล้ว จะพบว่า ทำเลนี้มีการเติบโตอย่างเงียบๆ มาเนิ่นนานจากการเป็นโซนที่อยู่อาศัยแนวราบของกลุ่มคนกำลังซื้อสูงทางกรุงเทพฯ ตอนเหนือ จนเมื่อธนาคารไทยพาณิชย์ย้ายที่ทำการสำนักงานใหญ่ จากถนนเพชรบุรีตัดใหม่มายังอาคารเอสซีบีปาร์คพลาซ่า ย่านรัชโยธินตั้งแต่เมื่อปี 2539 ประกอบกับในพื้นที่ใกล้เคียงยังมีหน่วยงานราชการด้านความมั่นคงต่างๆ โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รวมถึง มีอาคารเกิดใหม่ที่เป็นอาคารในตำนานของประเทศไทยก็คือ ตึกช้าง อาคารสำนักงานและที่พักอาศัยที่เป็นรูปช้างที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่ธนาคารไทยพาณิชย์ย้ายมาปักธงย่านรัชโยธิน
ตึกช้าง อาคารสำนักงานและที่พักอาศัยที่เป็นรูปช้าง
ด้วยปัจจัยดังกล่าวทำให้ทำเลย่านนี้ค่อยๆ ขยายตัว และเริ่มมีตลาดเช่า ทั้งในรูปแบบของอพาร์ทเมนต์ และบ้านเช่าตามตรอกซอกซอย เพื่อรองรับความต้องการของคนทำงานย่านนี้และในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างบริเวณห้าแยกลาดพร้าว โดยปัจจุบันทำเลรัชโยธิน ถือว่าเป็นพระเอกที่ไม่เป็นรองจากทำเลห้าแยกลาดพร้าวเลย ด้วยเพราะโครงการเชิงพาณิชย์ของกลุ่มเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ที่ขยายตัวต่อเนื่อง อาคารเอสซีบีปาร์คพลาซ่า ก็ขยายอาณาจักรมากขึ้น ไม่ได้มีเฉพาะธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่เท่านั้น แต่ยังรองรับผู้เช่าจากบริษัทเอกชนต่างๆ พื้นที่ใกล้เคียงที่เป็นแหล่งงานหน่วยงานราชการดั้งเดิมที่เคยอยู่พื้นที่นี้ทุกแห่ง ก็ขยายตัวตามการเติบโตของเมือง
ทำเลรัชโยธิน จึงมีความโดดเด่นในเชิงแหล่งงานขนาดใหญ่มาก ทั้งแหล่งงานของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น หน่วยงานความมั่นคงต่างๆ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ฯลฯ แหล่งงานขนาดใหญ่ของภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็น อาคารเอสซีบีปาร์คพลาซ่า ตึกช้าง ฯลฯ สถานศึกษาชั้นนำ เช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โรงเรียนหอวัง กลุ่มเซนต์จอห์น ทั้งโรงเรียนนานาชาติเซนต์จอห์น โรงเรียนเซนต์จอห์น โรงเรียนอนุบาลเซนต์จอห์น และมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น ฯลฯ โรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลเปาโล เกษตร (รพ.เมโยเดิม) โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ฯลฯ
Union Mall แหล่งช้อปปิ้งราคาย่อมเยาว์ ถูกใจวัยรุ่น
ด้านแหล่งไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัล ลาดพร้าว, ยูเนี่ยน มอลล์, เมเจอร์ รัชโยธิน, ดิ อเวนิว รัชโยธิน, บ็อกซ์ สเปซ รัชโยธิน (Box Space Ratchayothin) ฯลฯ ล้วนเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำที่ไม่ใช่เฉพาะคนที่อยู่ใกล้ย่านรัชโยธิน แต่เป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำของคนกรุงเทพฯ เป็นแม่เหล็กหลักที่ดึงคนที่เข้ามาช้อปปิ้ง กินดื่ม เที่ยว ดูหนัง ฟังเพลงย่านนี้มากขึ้น รวมถึง ดิสเคาน์สโตร์อย่างเทสโก้ โลตัส ก็เป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยสำคัญของคนย่านนี้
จากภาพดังกล่าว สะท้อนให้เห็นชัดเจนเลยว่า ย่านรัชโยธิน เป็นอีกหนึ่งทำเลของแหล่งงานขนาดใหญ่และสำคัญของกรุงเทพฯ จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำเลย่านรัชโยธิน พหลโยธิน 27 จึงมีความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยสูงมาก เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งงานสำคัญ และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมายแล้ว ยังใกล้สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) ซึ่งเป็นปัจจัยต้นๆ ที่ทำให้คนที่อยู่ในจังหวัดที่มุ่งหน้าขึ้นไปทางเหนือของประเทศไทยนิยมอยู่อาศัยย่านนี้เมื่อต้องเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ เพราะสะดวกในการเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด หรือสะดวกเวลาที่ญาติมาหา
อัตราค่าเช่าที่พักอาศัยย่านรัชโยธิน
จากการสำรวจพฤติกรรมของผู้เช่า และผู้ซื้อคอนโดมิเนียมย่านนี้ จะพบหนึ่งเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกอยู่อาศัยย่านนี้ คือ เดินทางกลับภูมิลำเนาสะดวกทั้งด้วยรถขนส่งสาธารณะและขับรถกลับบ้านเอง รวมถึง ญาติคุ้นเคยกับย่านนี้ แม้ว่าปัจจุบันจะย้ายไปทำงานในเมือง ไม่ได้ทำงานย่านนี้แล้ว แต่ก็ยังนิยมอยู่อาศัยย่านนี้ เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกครบ และเดินทางเข้าเมืองก็สะดวก ซึ่งหากในอนาคต สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) อาจจะย้ายไปอยู่ย่านรังสิต ก็ยังถือว่าเดินทางจากจุดนี้ไปไม่ไกลมาก และยังสะดวกเช่นเดิม
ในอนาคต จะมีอีกหนึ่งแหล่งงานและแหล่งไลฟ์สไตล์สำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นบนที่ดินขนาดใหญ่ประมาณ 48 ไร่ เยื้องกับแดนเนรมิตเก่า (ฝั่งเดียวกับเมเจอร์ รัชโยธิน) ที่กลุ่มบีทีเอสประมูลซื้อที่ดินจากกรมบังคับคดีได้ และเตรียมจะพัฒนาให้เป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และคอนโดมิเนียมเกรดเอ มูลค่ารวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท พร้อมกับจะนำที่ดินบางส่วนตัดเป็นถนนเชื่อมให้เชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี ซึ่งจะเป็นบิ๊กโปรเจกต์ที่จะทำให้ทำเลรัชโยธินเปลี่ยนโฉมหน้าอีกครั้งหนึ่ง และจะเป็นอีกโนด (Node) สำคัญของโซนพหลโยธิน
ด้านการเดินทาง ทำเลรัชโยธิน สามารถเชื่อมต่อกับถนนหลายสายที่ทำให้การเข้าเมืองสะดวกมาก ไม่ว่าจะเป็น เชื่อมกับถนนรัชดาภิเษก เข้าสู่แยกพระราม 9 อโศก หรือจะเป็นเส้นพหลโยธิน มุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ หรือจะเชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี มุ่งหน้าไปรังสิต หรือจะขึ้นทางด่วนเข้าสู่ใจกลางเมือง สีลม สาทร ก็สะดวกมากเช่นกัน หรือจะวิ่งออกนอกเมืองไปแจ้งวัฒนะ งามวงศ์วาน หรือโซนนนทบุรี สนามบินน้ำ อีกแหล่งงานสำคัญ ก็สามารถเชื่อมต่อได้อย่างสะดวก ส่วนรูปแบบการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ นอกจากรถประจำทางแล้ว ยังมีรถตู้สาธารณะเป็นทางเลือกด้วย
ในอนาคต การเดินทางบนถนนพหลโยธิน รัชโยธิน จะยิ่งสะดวกมาขึ้นด้วยรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ระยะทางรวม 19 กิโลเมตร ต่อเนื่องจากแนวเส้นทางของโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (BTS) ที่สถานีหมอชิต ข้ามทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์บริเวณห้าแยก ลาดพร้าว ผ่านแยกรัชโยธิน แยกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไปจนถึงบริเวณแยกหลักสี่ สะพานใหม่ ข้ามคลางสอง เข้าสู่บริเวณลำลูกกา รวมทั้งหมด 16 สถานี ตามกำหนดจะเปิดให้บริการในปี 2563 ซึ่งจะกลายเป็นการเดินทางหลักของคนย่านนี้
จุดเด่นสำคัญของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) นั่นคือ การวิ่งตรงเข้าสู่กลางเมืองได้ทันที เพราะเป็นเส้นทางที่ต่อขยายมาจากเส้นทางหลักในปัจจุบัน ทำให้การเข้าเมือง สยาม สีลม สาทร หรือจะเป็นทองหล่อ เอกมัย จะสะดวกมากยิ่งขึ้น ใช้เวลาไม่เกิน 45 นาที ก็ถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ และศูนย์กลางธุรกิจหรือซีบีดี ยังไม่นับรวมไปถึงความใกล้ในการเชื่อมต่อกับสถานีกลางบางซื่อเพียงไม่กี่สถานี ยิ่งเป็นความโดดเด่นสำคัญของทำเลย่านรัชโยธิน ด้วยศักยภาพของสถานีกลางบางซื่อ ศูนย์กลางการเดินทางแห่งใหม่ และแหล่งงานขนาดใหญ่ในอนาคต จะทำให้พื้นที่รอบข้างได้รับอานิสงส์ด้วย
สถานีกลางบางซื่อ via uppic.org
หากวิเคราะห์ปัจจัยเรื่องบิ๊กโปรเจกต์ของกลุ่มบีทีเอส เรื่องรถไฟฟ้า และสถานีกลางบางซื่อแล้ว ทำเลย่านรัชโยธินจะเป็นมากกว่าทำเลที่อยู่อาศัย แต่จะเป็นทำเลแห่งการลงทุนด้วย ประเมินจากศักยภาพตลาดเช่าในปัจจุบันที่มีความต้องการสูง จากปัจจัยแวดล้อมเดิม ก็จัดว่าเป็นทำเลที่น่าลงทุนแล้ว หากบวกปัจจัยอนาคตเข้าไปเสริมแล้ว ทำเลรัชโยธิน นับเป็นตัวเลือกชั้นดีของนักลงทุน
สำหรับปัจจัยในการเลือกโครงการคอนโดมิเนียมย่านรัชโยธิน รองรับโอกาสทองในอนาคต ทั้งเพื่อการอยู่อาศัย และการลงทุน การหาโปรดักส์ที่แตกต่าง ต้นทุนไม่สูง จะทำให้มีโอกาสได้อัตราผลตอบแทนที่ดีในอนาคต โดยลิสส์ รัชโยธิน (Lyss Ratchayothin) พัฒนาโดยบริษัท เอเบิ้ล แอสเสท กรุ๊ป จำกัด ที่เพิ่งเปิดตัวเข้าสู่ทำเลรัชโยธินถือว่าตอบโจทย์ดังกล่าวไม่น้อย
ลิสส์ รัชโยธิน (Lyss Ratchayothin) เป็นคอนโดมิเนียมบนพื้นที่โครงการกว่า 1 ไร่ เป็นอาคารโลว์ไรซ์ 8 ชั้น และชั้นใต้ดิน จำนวน 172 ยูนิต คาดว่าจะก่อสร้างได้ภายในเดือนกันยายน 2560 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 2562 โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ล็อบบี้ขนาดใหญ่ พร้อม Study Area และ Co-working space ฟิตเนส สวนหย่อม แบบ Modern Tropical Garden สระว่ายน้ำระบบเกลือ แบบสระน้ำล้น ขนาด 4×14 เมตร ที่จอดรถจักรยาน ราคาเฉลี่ยเริ่มต้น 95,000 บาท/ตารางเมตร และราคาต่อยูนิต เริ่มต้นดังนี้
– 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 28.20-33.30 ตร.ม. เริ่มต้น 2.78 ล้านบาท
– 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 49.45-59 ตร.ม. เริ่มต้น 5 ล้านบาท
– ดูเพล็กซ์ พื้นที่ใช้สอย 54-108.54 ตร.ม. เริ่มต้น 11 ล้านบาท
สวนหย่อม แบบ Modern Tropical Garden
ทำเลที่ตั้ง แวดล้อมด้วยบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ไม่บดบังทัศนียภาพ มีความสงบ ร่มรื่น เป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตเพียง 172 ห้องเท่านั้น ห้องกว้าง เหมาะกับการอยู่อาศัย และใช้เวลากับการพักผ่อน ใกล้รถไฟฟ้าพหลธิน 24 ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ก็สามารถเดินออกจากซอยขึ้นรถไฟฟ้าเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ทันที ราคาคุ้มค่าทั้งฟังก์ชั่นห้องและการเดินทาง
ไม่ว่าจะอยู่เอง หรือลงทุน ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท และรับสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
www.lysscondo.com
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
