โอเวอร์ซัพพลาย คอนโดไทย 2018: เผาจริงหรือเผาหลอก(?)

28 ก.ย. 2561

โอเวอร์ซัพพลาย คอนโดไทย 2018: เผาจริงหรือเผาหลอก(?)

[สกู๊ปพิเศษ] ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ได้มีการเปิดเผยถึงสถานการณ์ล่าสุดในวงการตลาดคอนโดฯ เมืองไทย ซึ่งไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายของผู้ติดตามสถานการณ์อสังหาฯ อย่างใกล้ชิดเท่าไรนัก โดยมีการพูดคุยและแสดงความกังวลถึงสิ่งที่เรียกว่า “โอเวอร์ซัพพลาย” ในตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานคร

ที่ว่าไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายนั้น ก็เนื่องจากปรากฏการณ์ในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการผุดขึ้นของคอนโดฯ ในกรุงเทพฯ เป็นดอกเห็ด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามแนวรถไฟฟ้า ทั้งแนวรถไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันและแนวการวางรถไฟฟ้าในอนาคต ทั้งที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างและยังไม่เริ่มสร้าง 

และถ้าให้เปิดตัวเลขดู ก็จะยิ่งเห็นได้ชัดเจนขึ้นถึงสภาวะโอเวอร์ซัพพลายดังกล่าว โดยจากรายงานของบริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด ระบุว่ายอดการขายคอนโดฯ ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มียูนิตที่ยังปิดการขายไม่ได้หลายหมื่นยูนิตด้วยกันดังนี้

คอนโดฯ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน แบริ่ง-สมุทรปราการ ยังปิดการขายไม่ได้ 6,267 ยูนิตจากทั้งหมด 19,173 ยูนิต

คอนโดฯ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ยังปิดการขายไม่ได้ 6,267 ยูนิตจากทั้งหมด 24,441 ยูนิต 

คอนโดฯ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม ยังปิดการขายไม่ได้ 5,828 ยูนิต จากทั้งหมด 14,025 ยูนิต

คอนโดฯ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ยังปิดการขายไม่ได้ 1,958 ยูนิตจากทั้งหมด 13,497 ยูนิต

คอนโดฯ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีแดง ยังขายไม่ได้ 1,016 ยูนิตจากทั้งหมด 4,493 ยูนิต

>>อ่านรีวิวโครงการใหม่แนวรถไฟฟ้า ได้ที่นี่

ดีเวลลอปเปอร์ ทั้งรายใหญ่และรายเล็กต่างทุ่มทุนผุดโครงการใหม่ๆ ขึ้นมาตามแนวการขยายตัวของระบบขนส่งเมืองหลวง ในช่วงที่ดีมานด์กำลังสูงตั้งแต่ช่วงปี 2553 เป็นต้นมา แต่ทว่าด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่แม้จะขยายตัวอย่างงดงามในภาคธุรกิจ แต่เศรษฐกิจฐานล่างกลับไม่ได้เติบโตตามเท่าที่ควร ดังนั้นกำลังซื้อที่พอจะซื้อคอนโดฯ ทั้งเพื่อการลงทุนและการอยู่อาศัย ก็ย่อมลดน้อยถอยลงตามสภาวะเศรษฐกิจ

ผลจากการสำรวจผ่านแบบสอบถาม DDproperty Consumer Sentiment Survey 1H2018

ผลจากการสำรวจผ่านแบบสอบถาม DDproperty Consumer Sentiment Survey 1H2018

ทั้งนี้เห็นได้จากการสำรวจผ่านแบบสอบถาม DDproperty Consumer Sentiment Survey 1H2018  จากกลุ่มตัวอย่างกว่า 1,000 ราย พบว่าผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่กว่า 70% ต่างมีความเห็นตรงกันว่าที่อยู่อาศัยในปัจจุบันมีราคาที่แพงเกินไป โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม millennial หรือกลุ่มคนที่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 18-34 ปี ต่างมีปัจจัยคล้ายคลึงกันในการไม่ซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง คือปัจจัยด้านครอบครัว (การดูแลพ่อแม่/ผู้สูงอายุ) มาเป็นอันดับหนึ่ง (64%) แต่ที่น่าสนใจคือปัจจัยอันดับสอง คือเรื่องของการไม่มีเงินออมที่มากพอจะให้ซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ (52%)

ปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่าสภาวะโอเวอร์ซัพพลาย ยังไม่ใช่ปรากฏการณ์ทั่วไปที่เกิดขึ้นทั้งระบบจนเสี่ยง ภาวะคอนโดฯ ล้นตลาดไม่ได้เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ของกรุงเทพฯ โดยในบางพื้นที่ เช่นในโซนใกล้เคียงห้างสรรพสินค้า เมกา บางนา ซึ่งกำลังซื้อส่วนใหญ่เป็นชาวจีนจากทั้งฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ ยอดปิดการขายของโครงการต่างๆ ล้วนแต่เป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับดีเวลลอปเปอร์ที่ไปลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว อีกทั้งในพื้นที่ต่างจังหวัด ยอดปิดการขายคอนโดฯ ในหลายจังหวัดก็ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ 

อีกทั้งจากการคาดการณ์ของสมาคมผู้ประกอบการอสังหาฯ ไทย ปรากฏการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นนานจนกลายเป็นวิกฤติของวงการคอนโดฯ ไทย เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ในระดับปกติ และเมื่อเกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ขึ้น ดีเวลลอปเปอร์ ก็จะทำการปรับตัวได้เอง เช่นการระงับโครงการที่จะเกิดขึ้นใหม่ไว้ก่อนชั่วคราวจนกว่าตลาดจะกลับมาสู่สภาวะปกติ หรือการกระตุ้นยอดขายในโครงการที่ก่อสร้างเสร็จแล้วแต่ยังปิดการขายไม่ได้ทั้งหมด ผ่านการลดแลกแจกแถมต่างๆ ให้ปิดการขายได้ส่วนใหญ่หรือทั้งหมดก่อนที่จะเริ่มผุดโครงการใหม่ขึ้นมา หรือกระทั่งการเปิดโครงการแบบ phrase ต่อ phrase โดยพบว่าการเกิดขึ้นของอสังหาริมทรัพย์ใหม่ในครึ่งปีแรกของปี 2018 ลดลงกว่า 26.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ โดยในสัดส่วนที่เป็นคอนโดมิเนียมมี supply ที่ลดลงกว่า 17% และมูลค่าที่ลดลงกว่า 15.5% ด้วยกัน

>>ติดตามรายงานดัชนีอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Index 2Q18 ได้ที่นี่

จึงอาจจะเรียกได้ว่าปรากฏการณ์โอเวอร์ซัพพลายคอนโดฯ ที่เกิดขึ้นนี้ แม้จะเกิดขึ้นอยู่จริงในหลายส่วน แต่ก็ไม่ได้เป็นปรากฏการณ์ทั่วไปของตลาด และยังได้มีการรับมืออย่างทันท่วงทีโดยดีเวลลอปเปอร์หลายเจ้า เพื่อกระตุ้นการขายและพยายามทำให้ตลอดกลับสู่สภาวะปกติ และคาดว่าจะกลับสู่สภาวะปกติในไม่นานนัก ทำให้เรียกได้ว่ายังไม่ถึงขั้นที่เป็นวิกฤติ และอาจเรียกได้ว่ายังเป็นแค่การ “เผาหลอก” เท่านั้น

แต่คำถามที่สำคัญกว่า คือปรากฏการณ์ “ปกติ” เช่นนี้ จะเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งเมื่อไหร่ เพราะในเมื่อมันเป็นปรากฏการณ์ปกติไปแล้ว มันย่อมจะต้องเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง และคำถามต่อมา คือจะดีกว่าไหม ถ้าวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยจะทำอะไรเพื่อป้องกันไม่ให้ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อีก

เพราะไม่ว่าจะ “เผาหลอก” หรือ “เผาจริง” ความน่ากลัวชวนเสียวสันหลังวาบที่เกิดขึ้นตามมา ย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นของทั้งนักลงทุนและผู้บริโภค และเมื่อกระทบความเชื่อมั่น สิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็คือผลกระทบต่อตลาดทั้งในภาพรวมและภาพย่อย

อีกทั้งที่สำคัญ เมื่อมันเกิดขึ้นอีกครั้ง ใครจะให้คำตอบหรือการันตีได้บ้าง ว่าครั้งนี้จะเป็นแค่การเผาหลอกเล่นๆแบบ “ปกติ” เหมือนที่ผ่านๆมา หรือมันจะนำไปสู่วิกฤติแบบปี 40 ได้อีกหรือไม่?

ตลาดคอนโดฯ ในกรุงเทพฯ

ตลาดคอนโดฯ ในกรุงเทพฯ

กระแสการเป็นเจ้าของคอนโดฯ ทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและเพื่อการลงทุนนับตั้งแต่ปี 2010 มาจนถึงปัจจุบันส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้ตลาดอสังหาฯ มีความคึกคักขึ้นมากจนดีเวลลอปเปอร์เจ้าต่างๆ ต่างพากันผุดโครงการขึ้นมาเป็นดอกเห็ดรองรับกับดีมานด์ที่สูงขึ้น แน่นอนในเมื่อดีมานด์เป็นสิ่งที่ขึ้นและลงตามสภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในเศรษฐกิจระดับฐานล่างที่ซบเซา คนทำงานในเมืองต่างได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ย่อมมีกำลังซื้อที่ลดน้อยถอยลง

ดังนั้นดีเวลลอปเปอร์ในฐานะที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อทั้งผู้บริโภคและต่อตลาด ก็ย่อมต้องมองปัจจัยดังกล่าวนี้เป็นเรื่องสำคัญ การไหลไปตาม hype ของผู้บริโภคและนักลงทุนรายย่อยต่างๆ ผุดโครงการต่างๆ ขึ้นมาพร้อมกับราคาที่สูง โดยไม่ได้ประเมินกำลังซื้อในตลาดตามสภาวะเศรษฐกิจที่เป็นจริงอย่างถี่ถ้วนมากพอ อาจจะไม่ใช่คำตอบหลักสำหรับการพัฒนาคอนโดมิเนียมอีกต่อไปแล้ว

พูดอีกนัยหนึ่ง ทั้งผู้บริโภค นักลงทุน และดีเวลลอปเปอร์ต่างมีความรับผิดชอบร่วมกันที่จะป้องกันไม่ให้สภาวะแบบนี้เกิดขึ้นได้อีก เพราะคราวหน้า อาจจะไม่ใช่การ “เผาหลอก” อีกแล้วก็เป็นได้ ใครการันตีได้บ้าง?

ติดตามทุกเรื่องราวเกี่ยวกับอสังหาฯ โดยสามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน หรือดาวน์โหลดรายงานดัชนีอสังหาริมทรัพย์และรายงานภาพรวมตลาดอสังหาฯ จากเรา เพื่อช่วยเพิ่มมุมมองในทุกมิติของการซื้อ – ขาย – เช่า

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

มิกซ์ยูส (Mixed-use) จะเปลี่ยนโฉมที่อยู่อาศัยอย่างไร

มิกส์ยูซ (Mixed-use) ที่ผสมผสานอสังหาฯ หลายรูปแบบที่ไม่ใช่เพียงที่พักอาศัยเข

อ่านต่อ6 ส.ค. 2561