เปิดมาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย งบน้อยก็มีบ้านได้

2 ธ.ค. 2562

[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] การซื้อบ้านสักหลังหรือคอนโดมิเนียมสักห้อง อาจเป็นเรื่องที่ต้องคิดแล้วคิดอีกสำหรับคนที่มีรายได้จำกัด โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อย-ปานกลาง

ผู้ขอสินเชื่อกลุ่มที่มีรายได้น้อย-ปานหลาง มีความกังวลว่าจะกู้สินเชื่อจากธนาคารไม่ผ่าน เครดิตไม่ดี หรือไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยในระดับที่สูง ปัจจัยเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้ผู้คนจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของกลุ่มดีเวลลอปเปอร์และทำให้ระบบเศรษฐกิจชะลอตัวอีกด้วย

Subscription Banner for Article

 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์จำนวนมากได้ระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย-ปานกลาง เนื่องจากมีความกังวลว่าระดับหนี้เสียจะเพิ่มขึ้น จึงได้เพิ่มกฏเกณฑ์สำหรับการปล่อยกู้ให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น

ขณะเดียวกันมันก็ส่งผลให้ผู้มีรายได้น้อย-ปานกลางที่มีศักยภาพในการชำระหนี้หลายรายขาดโอกาสที่จะเข้าถึงแหล่งเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ด้านดีเวลลอปเปอร์เองก็ไม่สามารถขายยูนิตได้ ยิ่งเป็นการเพิ่มกำแพงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ส่วนธนาคารก็ได้รับผลกำไรจากเงินปล่อยกู้ลดลง

ทั้งนี้ที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือกลุ่มระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เนื่องจากเป็นกลุ่มที่คนรายได้น้อย-ปานกลาง สามารถเข้าถึงได้ด้วยระดับฐานเงินเดือนหรือรายได้ประจำที่สัมพันธ์กับราคาขายอสังหาฯ (ราว 1 ใน 60 เท่าของราคาอสังหาฯ) เช่น เงินเดือน 15,000 บาท ก็สามารถกู้เงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 9 แสนถึง 1 ล้านบาท

หากรายได้ 20,000 บาทต่อเดือน ก็สามารถกู้ได้ในวงเงินราว 1.2 ล้านบาท เป็นต้น กลุ่มผู้ซื้อดังกล่าวมักเป็นวัยทำงาน ได้แก่ กลุ่มผู้เริ่มต้นทำงานใหม่ กลุ่มที่ต้องการสร้างครอบครัว รวมถึงวัยผู้สูงอายุ

 

Buy_House

 

มาตรการสินเชื่อบ้าน ช่วยประชาชนเข้าถึงง่ายมากกว่าที่เคย

แม้สถานการณ์หนี้เสียและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ จะทำให้สถาบันการเงินระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อผู้มีรายได้น้อย-ปานกลางเป็นพิเศษ แต่ก็ยังมีข่าวดีส่งท้ายปีให้ผู้ที่ตั้งใจจะซื้อบ้านมีความหวังกับการเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ง่ายกว่าเดิม จากการที่มียูนิตเหลือขายในตลาดรอการระบายอยู่พอสมควร

โดยภาครัฐตัดสินใจเดินหน้า “มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ” ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี เริ่มต้นจากลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดจำนองจากเดิม 1% เหลือ 0.01%  ในกลุ่มที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยจะส่งผลไปจนถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2563 หวังดึงดูดดีมานด์เข้ามาจับจองที่อยู่อาศัยมากขึ้น ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับปี 2558-2559

มาตรการนี้ได้เพิ่มมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มากถึง 34% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ช่วยให้ดีเวลลอปเปอร์ะบายยูนิตคงค้างได้ดี และยังสนับสนุนให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

 

บ้าน-คอนโดฯ 3 ล้าน ได้อานิสงส์ 

จากปัจจุบันกลุ่มผู้มีรายได้น้อย-ปานกลาง มักให้ความสนใจและเข้าถึงโครงการที่อยู่อาศัยกลุ่มราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม โดยพบว่า ที่อยู่อาศัยกลุ่มราคาดังกล่าวมียอดสต็อกคงค้างรวมกันสูงถึง 50%

ด้วยเหตุนี้ กลุ่มที่อยู่อาศัยใหม่สร้างเสร็จพร้อมโอนระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทจะได้รับประโยชน์จากมาตรการ ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ของตลาดที่อยู่อาศัยและส่วนใหญ่เป็นรูปแบบคอนโดมิเนียมและทาวน์เฮ้าส์ โดยเฉพาะในพื้นที่รอบนอกของกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย หรือ AREA พบว่า หน่วยที่อยู่อาศัยเหลือขาย (ทั้งที่สร้างเสร็จและกำลังก่อสร้าง) ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ณ กลางปี 2019 มีหน่วยเหลือขายราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท อยู่ทั้งสิ้น 107,646 หน่วย หรือคิดเป็น 53% ของหน่วยเหลือขายทั้งหมด ซึ่งหน่วยเหลือขายราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียมถึง 52% ของหน่วยเหลือขายราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาททั้งหมด รองลงมาคือทาวน์เฮาส์มีสัดส่วน 43%

 

ธอส. จัดสินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยต่ำสุด 2.5% คงที่ 3 ปี

ไม่เพียงแต่มาตรการจากภาครัฐเท่านั้น แต่ยังมีสถาบันการเงินต่าง ๆ ออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เช่นกัน โดยเน้นไปที่เรื่องการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อให้สอดคล้องกับการปรับลดค่าธรรมเนียมอสังหาฯ จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ปรับนโยบายสินเชื่อบ้านโดยเริ่มต้นจากสถาบันการเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจอย่างธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งอยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง ดำเนินนโยบายประชารัฐทำให้คนไทยมีบ้าน

โดย ธอส. สนับสนุนการปล่อยสินเชื่อให้คนไทยมีบ้านง่ายกว่าที่เคยในระดับราคาที่เหมาะสม และกำหนดอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำแบบคงที่ภายใต้กรอบระยะเวลา ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักด้วยแรงซื้อในตลาดอสังหาฯ หากมีดีมานด์ซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น ย่อมมีเงินทุนไหลเวียนในระบบคล่องตัวและยังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว

 

GH_Bank

 

สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของ ธอส. เน้นไปที่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง จากกรอบวงเงินสนับสนุนถึง 50,000 ล้านบาท ช่วยให้ธนาคารสามารถออกมาตรการสินเชื่อที่อยู่อาศัยด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุด (และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ทั่วไป)

โดย 1-3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะคงที่อยู่ที่ 2.50% ต่อปี ปีที่ 4-5 อัตราจะคงที่ 4.625% ต่อปี ส่วนปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้เงิน หากเป็นกรณีสวัสดิการ MRR จะอยู่ที่ 1.00% ต่อปี กรณีรายย่อย MRR จะอยู่ที่ 0.75% ต่อปี ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในตลาดเช่นกัน (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. เท่ากับ 6.625% ต่อปี)

อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำของสินเชื่อที่อยู่อาศัย ธอส. จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้กู้ที่มีรายได้น้อย-ปานกลาง ในช่วง 1-3 ปีแรก โดยผู้กู้จะชำระดอกเบี้ยคืนธนาคารเริ่มต้นเพียง 3,300 บาทต่องวดเท่านั้น สำหรับวงเงินกู้ 1 ล้านบาท ผู้กู้จะสามารถประหยัดเงินงวดได้จำนวน 80,400 บาท หรือหากเทียบกับการผ่อนชำระอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อปกติในช่วง 5 ปีแรก ผู้กู้สามารถประหยัดเงินงวดได้ถึง 123,600 บาทเลยทีเดียว

 

aerial view of beautiful home village and town settlement

 

การซื้อบ้านจะไม่ใช่เรื่องยากและเป็นอุปสรรคอีกต่อไปสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน มีรายได้จำกัด และประชาชนทั่วไปที่ต้องการมีบ้าน หรือคอนโดมิเนียม ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยเสียดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัยในระดับต่ำ ดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี คงที่ 3 ปีแรก พร้อมได้ส่วนลดค่าโอน ค่าจดจำนอง เหลือ 0.01% ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายไปได้มากจึงเป็นโอกาสของผู้ที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเองอย่างแท้จริง

ผู้ที่สนใจพลาดไม่ได้ ต้องรีบกู้ รีบไป รีบซื้อ อยากมีบ้านไปที่ ธอส. ทุกสาขา หรือสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ โทร. 0-2645-9000 หรือ ghbank.co.th และ Facebook Fanpage: ธนาคารอาคารสงเคราะห์

 

สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า 

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

ชี้เป้าทำเลบ้านไม่เกิน 3 ล้าน รับมาตรการรัฐ

ชี้เป้าทำเลที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เอาใจคนอยากซื้อบ้าน หลังภ

อ่านต่อ13 พ.ย. 2562