รีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance) คือ การทำสัญญาสินเชื่อกู้ซื้อที่อยู่อาศัยกับอีกธนาคารหนึ่ง เมื่อเกิดการสิ้นสุดสัญญาสินเชื่อที่มีอยู่กับธนาคารหนึ่งไปแล้ว โดยผู้ขอสินเชื่อสามารถเลือกธนาคารได้เองตามแต่ว่าธนาคารใดจะให้ข้อเสนอที่น่าจูงใจมากกว่ากัน โดยส่วนใหญ่จะมีการรีไฟแนนซ์ หรือขอลดดอกเบี้ยบ้าน ก็ต่อเมื่อผ่อนบ้านไปแล้ว 3 ปีขึ้นไปหรือตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญากู้บ้าน ดังนั้นการรีไฟแนนซ์จึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเนื่องจากช่วยลดดอกเบี้ยบ้าน และภาระในการผ่อนได้
นอกจากนั้น ยังมีอีกวิธีการหนึ่งที่ช่วยลดภาระในการแบกรับอัตราดอกเบี้ยได้ คือ รีเทนชั่น (Retention) หรือขอลดดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารเดิม โดยการพิจารณานั้นทางธนาคารจะตรวจสอบประวัติการผ่อนชำระของผู้กู้ที่ผ่านมา ข้อดีก็คือผู้กู้สินเชื่อบ้านสามารถดำเนินธุรกรรมกับธนาคารเดิมได้โดยไม่ต้องมีภาระในการจัดเตรียมเอกสารใหม่ เพื่อขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ ทำให้การรีเทนชั่นใช้ระยะเวลาไม่นานในการพิจารณาอนุมัติการขอลดดอกเบี้ยบ้าน
รีเทนชั่น (Retention) หรือ (Refinance) แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน
เมื่อผู้กู้ผ่อนบ้านมาเป็นเวลา 3 ปี ผู้กู้มักจะมีการขอลดอัตราดอกเบี้ยในการผ่อนบ้านกับธนาคารเก่าหรือธนาคารใหม่ที่เรียกว่าการ Retention กับ Refinance นั่นเอง
DDproperty ได้รวบรวมข้อมูลอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารไหนดี 2568 อัปเดตประจำเดือน สิงหาคม จากหลากหลายธนาคาร มาเปรียบเทียบให้เห็นกันไปเลยว่า รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไหนดี ธนาคารไหนให้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านต่ำที่สุด ถูกที่สุด และขอลดดอกเบี้ยบ้าน มีเงื่อนไขอะไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของผู้กู้สินเชื่อบ้าน คอนโดฯ ที่กำลังจะรีไฟแนนซ์ หรือ รีเทนชั่น พร้อมเครื่องมือคำนวณอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านที่จะช่วยให้การพิจารณาอัตราดอกเบี้ยใหม่ของคุณง่ายขึ้น
อัปเดตอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารไหนดี 2568 ประจำเดือน สิงหาคม ธนาคารส่วนใหญ่ใช้อัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อบ้าน MRR เป็นเกณฑ์ในการลดอัตราสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน คอนโดฯ ซึ่งทาง DDproperty ก็ได้นำอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีที่ต่ำที่สุดมาจัดอันดับ โดยมีอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ของธนาคารที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ต้องการขอลดดอกเบี้ยบ้าน ดังนี้
ตารางอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารไหนดี 2568 ประจำเดือน สิงหาคม
1.ธนาคารอาคารสงเคราะห์
2.70%
วงเงินกู้ตามเกณฑ์หลักประกันให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อ (ลูกค้ารายย่อยทั่วไป ลูกค้าสวัสดิการไม่มีเงินฝาก / ผู้กู้มีรายได้ (Gross) ตั้งแต่ 70,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป) / ลูกค้าที่มีวงเงินนิติกรรมรวมทุกบัญชีภายใต้หลักประกันเดียวกันตั้งแต่ 7,000,000 บาทขึ้นไป
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.495% (ประกาศ ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2568)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.495% (ประกาศ ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2568)
2.ธนาคารทหารไทยธนชาต
2.89%
วงเงินขั้นต่ำ 500,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 50,000,000 บาทและไม่เกิน 100% ของราคาประเมินธนาคาร (กรณีสมัครพร้อมผลิตภัณฑ์เสริม 3 ประเภท)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.555% (ประกาศ ณ วันที่16 พฤษภาคม 2568)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.555% (ประกาศ ณ วันที่16 พฤษภาคม 2568)
3.ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
2.95%
วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน (สำหรับลูกค้าที่ทำประกัน MRTA/MLTA ไม่ฟรีค่าจดจำนอง)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 8.530% (ประกาศ ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2568)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 8.530% (ประกาศ ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2568)
4.ธนาคารกสิกรไทย
2.95%
ไม่เกิน 100% ของราคาประเมินหลักประกัน (สินเชื่อบ้านผู้มีบัญชีเงินเดือนกสิกรไทย กรณีทำประกันตามเงื่อนไข)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.030% (ประกาศ ณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2568)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.030% (ประกาศ ณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2568)
5.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
2.983%
วงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาประเมิน (สำหรับหลักประกันประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ห้องชุดพักอาศัย ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.120% (ประกาศ ณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2568)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.120% (ประกาศ ณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2568)
6.ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
3.117%
วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน วงเงินอนุมัติสูงสุด 50 ล้านบาท
(อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน KKP ดอกเบี้ยคงที่ปีแรก)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MLR = 7.900% (ประกาศ ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2568)
(อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน KKP ดอกเบี้ยคงที่ปีแรก)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MLR = 7.900% (ประกาศ ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2568)
7.ธนาคารกรุงเทพ
3.25%
วงเงินกู้สูงสุดเท่ากับ 100% ของภาระหนี้คงเหลือ และไม่เกินอัตราส่วนวงเงินสินเชื่อสูงสุดตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (กรณีหลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยในกลุ่มโครงการที่มีข้อตกลงกับธนาคาร และวงเงินอนุมัติตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับกรณีหลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยทั่วไป)
*พิเศษ รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษปีแรก 0.5% เพียงสมัครสินเชื่อบ้านบัวหลวงพร้อมประกันชีวิตคุ้มครองเครดิต โฮมเฟิสต์ พลัส (ฉบับปรับปรุง) หรือประกันคุ้มครองเครดิต โฮมเฟิสต์ เอ็กตร้า
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.900% (ประกาศ ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2568)
*พิเศษ รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษปีแรก 0.5% เพียงสมัครสินเชื่อบ้านบัวหลวงพร้อมประกันชีวิตคุ้มครองเครดิต โฮมเฟิสต์ พลัส (ฉบับปรับปรุง) หรือประกันคุ้มครองเครดิต โฮมเฟิสต์ เอ็กตร้า
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.900% (ประกาศ ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2568)
8.ธนาคารกรุงไทย
3.29%
วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมินหลักประกัน (กรณีขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ 3 ล้านบาท ขึ้นไป และสามารถเลือกผ่อนต่ำล้านละ 3,500 บาท/เดือนในปีที่ 1 ได้ และต้องทำประกันคุ้มครองสินเชื่อ)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.750% (ประกาศ ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2568)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.750% (ประกาศ ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2568)
9.ธนาคารไทยพาณิชย์
3.39%
วงเงินสินเชื่อเคหะเท่ายอดหนี้เดิม และวงเงินเอนกประสงค์ กู้เพิ่มไม่เกิน 3% ของยอดหนี้วงเงินเคหะเดิมต้องไม่เกินวงเงินสินเชื่อเคหะเท่ายอดหนี้เดิม
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.025% (ประกาศ ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2568)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.025% (ประกาศ ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2568)
*** อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์เฉลี่ย 3 ปี คำนวณแบบค่าเฉลี่ยทางคณิตศาสตร์เท่านั้น***
ที่มาอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารไหนดี 2568 เฉลี่ย 3 ปี สามารถดาวน์โหลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านของแต่ละธนาคาร และชมรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น อัตราดอกเบี้ยรายปี วงเงินกู้ และข้อมูลอื่น ๆ ได้ที่ : ดาวน์โหลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านฉบับเต็มได้ที่นี่
9 อันดับธนาคารน่าสนใจ ที่มีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีต่ำที่สุด ประจำเดือน สิงหาคม 2568
1. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank)
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ขอลดดอกเบี้ยบ้าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ มีผลิตภัณฑ์ สินเชื่อบ้าน GHB Precious Plus ปี 2568 ผู้กู้มีรายได้ (Gross) ตั้งแต่ 70,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป สินเชื่อบ้าน Life Begins with GHB ปี 2568 สำหรับลูกค้ารายย่อยทั่วไป/ลูกค้าสวัสดิการ ที่เป็นสมาชิกของสภาวิชาชีพ/สมาคมวิชาชีพ ที่ทำข้อตกลงความร่วมมือกับ ธอส. และ สินเชื่อบ้าน Premier Home สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินนิติกรรมรวมทุกบัญชีภายใต้หลักประกันเดียวกันตั้งแต่ 7,000,000 บาทขึ้นไป มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 2.70% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1 = 1.79% อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 2 = 2.80% และอัตราดอกเบี้ยปีที่ 3 = 3.50% โดยให้วงเงินกู้ตามเกณฑ์หลักประกันให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อ
นอกจากนั้น ยังมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ และให้อัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอด 3 ปี คือ โครงการสินเชื่อ Senior Home 4U ปี 2568 สำหรับผู้กู้ต้องมีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 2.47% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 = 2.00% ปีที่ 2 = 2.50% และปีที่ 3 = 2.90% และให้วงเงินกู้ตามเกณฑ์รายได้ให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อ
สำหรับ ลูกค้าสวัสดิการไม่มีเงินฝาก และลูกค้ารายย่อยทั่วไป สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ปี 2568 กรณีทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 2.90% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยพิเศษในปที่ 1 = 0.99% ปีที่ 2 = 3.50% ปีที่ 3 = 4.20% โดยให้วงเงินกู้ตามเกณฑ์หลักประกันให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อ และวงเงินกู้ตามเกณฑ์รายได้ให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อ
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.495% (ประกาศ ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2568)
2. ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB)
สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ขอลดดอกเบี้ยบ้าน ธนาคารทหารไทยชาต (TTB) มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีต่ำที่สุดอยู่ที่ 2.89% สำหรับสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ทีทีบี (สำหรับลูกค้าที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี TTB Payroll) กรณีสมัครพร้อมผลิตภัณฑ์เสริม 3 ประเภท ลูกค้าจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ นาน 3 ปี แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 = 0.99% ปีที่ 2-3 = 3.84% พร้อม ฟรี ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย มูลค่าประมาณ 1,000 บาทต่อปี ต่อราคาบ้าน 1 ล้านบาท / ฟรี ค่าจดทะเบียนจำนอง มูลค่า 1% ของเงินกู้ สูงสุด 200,000 บาท / ฟรี ค่าธรรมเนียมธนาคารของสินเชื่อบ้าน: ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์, ค่าดำเนินการสินเชื่อ, ค่าทำนิติกรรมจำนอง
นอกจากนั้น ธนาคารทหารไทยชาต (TTB) ยังมีสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ โปรแกรมผ่อนดีมีรางวัล อัตราดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับคนผ่อนดี ไม่มีประวัติผิดนัดชำระหนี้ ผ่อนดีต่อเนื่องตลอด 3 ปีแรก ปีที่ 4 ไม่ปรับขึ้น ด้วยดอกเบี้ยพิเศษ MRR-4.215% เรทเดียวตลอดสัญญา โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3.34% ต่อปี และให้วงเงินขั้นต่ำ 2,000,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 50,000,000 บาทและไม่เกิน 100% ของราคาประเมินธนาคาร และมีเงื่อนไขคือผู้กู้สินเชื่อต้องสมัครพร้อมผลิตภัณฑ์เสริมครบ 4 ประเภท ได้แก่
- 1) สมัครประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อบ้าน สไมล์ โฮม หรือ สไมล์ โฮม พลัส
- 2) สมัครใช้บริการหักบัญชีอัตโนมัติผ่าน บัญชีออมทรัพย์ ทีทีบี เพื่อผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน
- 3) สมัครบัตรเดบติ ทีทีบี(กรณีที่มี่บัตรเดบิต ทีทีบีแล้ว ไม่ต้องสมัครเพิ่ม)
- 4) สมัครบัตรกดเงินสด ทีทีบี บ้านแลกเงิน (สำหรับใช้เป็นวงเงินฉุกเฉิน Undo ค่าโปะ และฟรีค่าจดจำนอง)
หากสมัครผลิตภัณฑ์เสริมครบตามเงื่อนไขของธนาคารจะได้รับฟรีค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย มูลค่าประมาณ 1,000 บาทต่อปี ต่อราคาบ้าน 1 ล้านบาท / ฟรีค่าจดทะเบียนจำนอง มูลค่า 1% ของเงินกู้ สูงสุด 200,000 บาท (เมื่อเลือกทางเลือกที่ 2 และ ทำตามเงื่อนไข) และฟรีค่าธรรมเนียมธนาคารของสินเชื่อบ้าน ซึ่งประกอบไปด้วย ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ ค่าดำเนินการสินเชื่อ ค่าทำนิติกรรมจำนอง โดยมีระยะเวลาส่งเสริมการขายสำหรับลูกค้าที่ยื่นกู้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2568 ถึง 31 สิงหาคม 2568 และจดจำนองภายใน 30 กันยายน 2568 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.555% (ประกาศ ณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2568)
3. ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank)
ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.95% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก = 1.59% ปีที่ 2-3= 3.63% สำหรับลูกค้าที่ทำประกัน MRTA/MLTA แบบไม่ฟรีค่าจดจำนอง ส่วนลูกค้าที่ทำประกัน MRTA/MLTA และต้องการให้ธนาคารออกค่าจดจำนองให้ มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีต่ำสุดอยู่ที่ 3.15%
นอกจากนั้น การขอลดดอกเบี้ยบ้านกับ ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ยังมีสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์สำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการทำประกัน MRTA/MLTA และไม่ต้องการให้ธนาคารออกค่าจดจำนองให้ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีอยู่ที่ 3.05% และสำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการทำประกัน MRTA/MLTA ในรูปแบบ ฟรีค่าจำนอง มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีอยู่ที่ 3.25% โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่กล่าวมาให้วงเงินกู้ 100% ของภาระหนี้คงเหลือจากสถาบันการเงินเดิม แต่ไม่เกินราคาประเมินหลักประกัน
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 8.530% (ประกาศ ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2568)
4. ธนาคารกสิกรไทย (Kbank)
ขอลดดอกเบี้ยบ้าน ธนาคารกสิกรไทย (Kbank) มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.95% สำหรับ สินเชื่อบ้านผู้มีบัญชีเงินเดือนกสิกรไทย กรณีทำประกันตามเงื่อนไข แบ่งเป็น 2 ผลิตภัณฑ์ คือ รูปแบบที่ 1 มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1 = 1.80% ปีที่ 2 = 2.95% และปีที 3 = 4.10% และ รูปแบบที่ 2 มีอัตราดอกเบี้ย = 2.95% เท่ากันทั้ง 3 ปี และธนาคารออกค่าธรรมเนียมจดจำนองให้ 1% ของวงเงินอนุมัติกู้ สูงสุดไม่เกินรายละ 200,000 บาท หากลูกค้ายกเลิกและไถ่ถอนหลักประกันภายในระยะเวลา 3 ปีแรก นับจากวันที่ทำสัญญา ธนาคารจะเรียกคืนค่าธรรมเนียมจดจำนองจากผู้กู้ตามจำนวนเงินที่ธนาคารได้ชำระค่าธรรมเนียมจดจำนองให้
นอกจากนั้น สำหรับลูกค้าที่ทำประกันเพื่อคุ้มครองสินเชื่อบ้านตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด วงเงินกู้ ตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป ธนาคารมีทางเลือกผ่อนต่ำปีที่ 1-3 ล้านละ 3,500 บาท โดยใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่เป็นตัวกำหนดเท่ากันทั้ง 3 ปีอยู่ที่ 3.10% และสำหรับลูกค้าที่ไม่ประสงค์ทำประกันเพื่อคุ้มครองสินเชื่อ วงเงินกู้ ตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป มีทางเลือกผ่อนต่ำปีที่ 1-3 ล้านละ 4,000 บาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอด 3 ปีอยู่ที่ 3.30%
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์จาก ธนาคารกสิกรไทย ให้วงเงินกู้ไม่เกิน 100% ของราคาประเมินหลักประกัน และมีระยะเวลาให้กู้ สูงสุดไม่เกิน 30 ปี (อายุผู้กู้ไม่เกิน 70 ปี)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.030% (ประกาศ ณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2568)
5. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY)
สำหรับการขอลดดอกเบี้ยบ้าน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำหรับหลักประกันประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ห้องชุดพักอาศัย ราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป มีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีอยู่ที่ 2.983% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอด 3 ปี คือ ปีที่ 1 = 2.35% ปีที่ 2 = 2.95% และปีที่ 3 = 3.65% วงเงินกู้สูงสุดที่ 95% ของราคาประเมิน และจะได้รับฟรีค่าประเมินหลักประกัน มูลค่า 3,210 บาท สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA/MLTA) รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี เฉพาะในปีที่ 1
นอกจากนั้น ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ยังมีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์สำหรับหลักประกันประเภท อาคารพาณิชย์วงเงินกู้ตั้งแต่ 1 ล้านบาทแต่ไม่ถึง 5 ล้านบาท ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 5.05% และ อาคารพาณิชย์วงเงินกู้ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 4.80% โดยให้วงเงินกู้สูงสุด 90% ของราคาประเมิน
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.120% (ประกาศ ณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2568)
6. ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP)
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) มีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจในกรณีที่ผู้กู้ประสงค์ทำประกันอยู่ที่ 3.117% ประกอบด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1 = 1.99% และอัตราดอกเบี้ยลอยตัวปีที่ 2 = MLR-4.475% และปีที่ 3 = MLR-3.965% และ สำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการทำประกันมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 3.417% โดยธนาคารออกค่าประเมิน ค่าอากร ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย 3 ปี และฟรีค่าจดจำนอง โดยทั้ง 2 รูปแบบให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมินหรือวงเงินอนุมัติสูงสุด 50 ล้านบาท
นอกจากนั้น ยังมีผลิตภัณฑ์ สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าที่ต้องการอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอด 3 ปี ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยคงที่เฉลี่ย 3 ปีอยู่ที่ 3.60% สำหรับกรณีที่ผู้กู้ประสงค์ทำประกัน และ 3.85% สำหรับผู้กู้ที่ไม่ประสงค์ทำประกัน โดยทั้ง 2 รูปแบบให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมินหรือวงเงินอนุมัติสูงสุด 50 ล้านบาทเช่นกัน
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MLR = 7.900% (ประกาศ ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2568)
7. ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
สำหรับอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน ขอลดดอกเบี้ยบ้าน ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เฉลี่ยต่ำสุด 3 ปี มีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.25% แบ่งเป็น 2 ผลิตภัณฑ์ด้วยกัน คือ กรณีหลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยในกลุ่มโครงการที่มีข้อตกลงกับธนาคาร และวงเงินอนุมัติตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับกรณีหลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยทั่วไป โดยใช้อัตราดอกเบี้ยแบบเดียวกัน คือ ปีที่ 1-3 = 3.25% โดยให้วงเงินกู้สูงสุดเท่ากับ 100% ของภาระหนี้คงเหลือ และไม่เกินอัตราส่วนวงเงินสินเชื่อสูงสุดตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย
นอกจากนั้น ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ยังมีสินเชื่อบ้านบัวหลวงสำหรับลูกค้ารีไฟแนนซ์ เฉพาะวงเงินอนุมัติต่ำกว่า 2 ล้านบาท (กรณีหลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยทั่วไป) ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ต่ำสุดอยู่ที่ 4.02% และสินเชื่อบ้านบัวหลวงสำหรับลูกค้ารีไฟแนนซ์ เฉพาะวงเงินอนุมัติตั้งแต่ 2 – 3.99 ล้านบาท (กรณีหลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยทั่วไป) ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ต่ำสุดอยู่ที่ 3.60% โดยให้วงเงินกู้สูงสุดเท่ากับ 100% ของภาระหนี้คงเหลือ และไม่เกินอัตราส่วนวงเงินสินเชื่อสูงสุดตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่กล่าวมาทั้งหมด ฟรี ค่าสํารวจและประเมินหลักประกัน ขั้นต่ำ 3,000 บาท (ไม่รวม VAT) ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 30 ปี (เฉพาะพนักงานประจำผ่อนชำระสูงสุด 35 ปี) และมีระยะเวลากู้ รวมอายุผู้กู้สูงสุด 65 ปี และสามารถรับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษปีแรก 0.5% เพียงสมัครสินเชื่อบ้านบัวหลวงพร้อมประกันชีวิตคุ้มครองเครดิต โฮมเฟิสต์ พลัส (ฉบับปรับปรุง) หรือประกันคุ้มครองเครดิต โฮมเฟิสต์ เอ็กตร้า
อ้างอิงประกาศธนาคาร MRR = 6.900% (ประกาศ ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2568)
8. ธนาคารกรุงไทย (KTB)
สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ขอลดดอกเบี้ยบ้าน ธนาคารกรุงไทย มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีอยู่ที่ 3.29% สำหรับ กรณีขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ 3 ล้านบาท ขึ้นไป และสามารถเลือกผ่อนต่ำล้านละ 3,500 บาท/เดือนในปีที่ 1 ได้ และต้องทำประกัน แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1 = 1.99% ปีที่ 2 = 3.39% และปีที่ 3 = 4.49%
นอกจากนั้น ธนาคารกรุงไทย (KTB) ยังมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน แบบไม่ทำประกัน ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีต่ำที่สุด 3.39% สำหรับ กรณีขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ 3 ล้านบาท ขึ้นไป และสามารถเลือกผ่อนต่ำล้านละ 3,500 ได้เช่นกัน แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1 = 2.29% ปีที่ 2= 3.39% และปีที่ 3 = 4.49% โดยผลิตภัณฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์ทั้งหมดที่กล่าวมาให้วงเงินกู้สูงสุดอยู่ที่ 100% ของราคาประเมิน และมีระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 40 ปี
อ้างอิงตามอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเงินให้ MLR = 6.750% (ประกาศ ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2568)
9. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
ธนาคารไทยพาณิชย์ สำหรับวงเงินสินเชื่อเคหะเท่ายอดหนี้เดิม และวงเงินเอนกประสงค์ กู้เพิ่มไม่เกิน 3% ของยอดหนี้วงเงินเคหะเดิมมีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์เฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.39% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปี่ที่ 1 = 1.49% ปีที่ 2-3 = MRR-2.69% ลดดอกเบี้ยสูงสุด 0.50% ต่อปี กรณีทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (Credit Life) กำหนดให้ทำจำนวนเงินเอาประกันภัยไม่น้อยกว่า 70% ของวงเงินกู้ และระยะเวลาเอาประกันภัย 70% ของระยะเวลากู้ตามสัญญา โดยกำหนดให้ระยะเวลาเอาประกันภัยขั้นต่ำ 10 ปี (กรณีระยะเวลากู้ตามสัญญาต่ำกว่า 10 ปี กำหนดให้ระยะเวลาเอาประกันภัยเท่ากับระยะเวลากู้ตามสัญญา)
ส่วนอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์ แบบไม่ทำประกัน มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 3.89% สำหรับวงเงินสินเชื่อเคหะเท่ายอดหนี้เดิม และวงเงินเอนกประสงค์ กู้เพิ่มไม่เกิน 3% ของยอดหนี้วงเงินเคหะเดิม แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปี = 1.99% ปีที่ 2-3 = MRR-2.19% โดยผลิตภัณฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์ทั้งหมดของ ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 100% ของมูลค่าหลักประกันตามราคาประเมิน สำหรับบ้านหลังแรกที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท (สัญญาที่ 1) สำหรับวงเงินสินเชื่อเคหะเท่ายอดหนี้เดิม และวงเงินเอนกประสงค์ กู้เพิ่มไม่เกิน 3% ของยอดหนี้วงเงินเคหะเดิม
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ยังมีโปรโมชั่น SCB สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ฟรี 3 ต่อ คือ ฟรี ค่าประเมินหลักประกัน / ฟรี ประกันอัคคีภัย คุ้มครองนาน 3 ปี / ฟรี ค่าจดจำนอง สูงสุด 100,000 บาท โดยมีเงื่อนไข คือ ลูกค้าจะต้องผ่านการอนุมัติสินเชื่อเบื้องต้นตามเงื่อนไขของธนาคาร หรือได้รับอนุมัติสินเชื่อ วงเงินตั้งแต่ 2,000,000 บาทขึ้นไป และทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (Credit Life) กำหนดให้ทำทุนประกันไม่น้อยกว่า 70% ของวงเงินกู้ และระยะเวลาเอาประกัน 70% ของระยะเวลากู้ตามสัญญาที่สมัครสินเชื่อภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 และเบิกใช้วงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติภายใน 10 วันทำการนับจากวันที่ 31 ธันวาคม 2568
ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าทั่วไป ลูกค้าโครงการ / ลูกค้าองค์กร จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ขึ้นอยู่กับประเภทโครงการ หรือ ประเภทองค์กร และเป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคาร โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่ SCB.CO.TH
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.025% (ประกาศ ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2568)
*อัตราสินเชื่อบ้านโดยส่วนใหญ่จะเปลี่ยนแปลงไม่บ่อยมากนัก ประมาณ 1 ไตรมาส หรือ ครึ่งปีต่อครั้ง ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนของอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านขึ้นอยู่กับปัจจัยที่แตกต่างกันระหว่างธนาคารแต่ละที่ด้วย
8 ขั้นตอนในการรีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance) ขอลดดอกเบี้ยบ้าน
- ติดต่อกับธนาคารเดิมเพื่อขอรายการสรุปยอดหนี้สินเชื่อบ้าน โดยค่าใช้จ่ายในขั้นนี้ขึ้นอยู่กับธนาคารนั้น ๆ บางธนาคารอาจไม่มีค่าใช้จ่าย
- หลังจากได้รายการยอดหนี้ที่ต้องการแล้วก็นำเอกสารดังกล่าวไปยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่ (ในกรณีที่คุณพิจารณาแล้วว่าการรีเทนชั่นอาจจะคุ้มกว่าก็สามารถยื่นกับธนาคารเดิมได้)
- ไม่ต่างกับการกู้ซื้อบ้านที่เคยทำในช่วงแรก เจ้าหน้าที่จะต้องมาประเมินบ้านหรือทรัพย์สินที่เราต้องการรีไฟแนนซ์
- รอฟังผลการอนุมัติจากธนาคาร
- หากได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้ว เดินหน้าติดต่อกับธนาคารเก่านัดวันไถ่ถอนที่สำนักงานที่ดิน นำเอกสารไปไถ่ถอนบ้านจากสินเชื่อเดิม คิดยอดที่ต้องจ่ายเป็นเงินต้นบวกดอกเบี้ย (นับจนถึงวันไถ่ถอน)
- ติดต่อกับธนาคารใหม่ที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อทำสัญญาสินเชื่อใหม่ โดยนัดวันทำสัญญาและโอนบ้านที่ใช้จำนอง อย่าลืมนัดทั้ง 2 ธนาคารมาภายในวันเดียวกัน เพื่อชำระหนี้
- ไปที่สำนักงานที่ดิน ณ เขตที่ตั้งของทรัพย์สิน เพื่อทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ โดยมีเจ้าหน้าที่จากทั้งสองธนาคารไปด้วย
- ขั้นตอนสุดท้าย มอบโฉนดที่ได้มาจากสำนักงานที่ดินให้กับธนาคารใหม่ เป็นอันเสร็จสิ้น
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้าน ขอลดดอกเบี้ยบ้าน
- ลดดอกเบี้ยที่ต้องเสีย ดอกเบี้ยที่ถูกลงถือเป็นประโยชน์หลักที่เห็นได้ชัดที่สุดหากอัตราดอกเบี้ยผ่อนบ้านของธนาคารใหม่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยของธนาคารเก่า เช่น สัญญาเดิมมีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6.5 แต่สัญญาใหม่มีอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 3.5 เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง จำนวนดอกเบี้ยที่ต้องเสียต่อเดือนและดอกเบี้ยรวมทั้งสัญญาก็จะลดลงตามไปด้วย
- หักเงินต้นได้มากขึ้น เมื่อภาระดอกเบี้ยน้อยลง ค่าผ่อนบ้านในแต่ละเดือนก็จะถูกนำไปหักเงินต้นคงเหลือได้มากขึ้น ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในเดือนต่อไปก็จะลดลงอีก เช่น ผู้ขอสินเชื่อผ่อนบ้านเดือนละ 20,000 บาท ในสัญญาเดิมต้องหักดอกเบี้ย 12,000 บาท เหลือหักต้นเพียง 8,000 บาท แต่สัญญาใหม่หักดอกเบี้ย 7,000 บาท ก็จะเหลือหักต้นเพิ่มขึ้นเป็น 13,000 บาท เป็นต้น
- ค่าผ่อนบ้านที่น้อยลง สัญญาใหม่จะเป็นไปตามการประเมินจากธนาคารและตามการตกลงของผู้ขอสินเชื่อ ซึ่งอาจทำให้ค่าผ่อนบ้านในสัญญาใหม่ของผู้ขอสินเชื่อลดลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยลดลงหรือการขยายระยะเวลาในสัญญาใหม่นานขึ้น เช่น สัญญาเก่าผ่อนเดือนละ 20,000 บาท เหลือ 25 ปี สัญญาใหม่ที่ขยายเวลาเป็น 30 ปีทำให้เหลือผ่อนเพียงเดือนละ 15,000 บาท เป็นต้น
อัปเดตอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน MRR MLR MOR ล่าสุด
ข้อมูลอัปเดตอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อบ้าน MRR MLR MOR อัปเดตปี 2568 จากหลากหลายธนาคาร เช่น ธ.กสิกรไทย ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย ธ.ออมสิน ธ.ทหารไทย ธ.กรุงศรีอยุธยา
ทั้งนี้ การรีไฟแนนซ์ (Refinance) หรือขอลดดอกเบี้ยบ้านนั้น สามารถช่วยประหยัดดอกเบี้ยให้ผู้ขอสินเชื่อได้อย่างมากก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าการรีไฟแนนซ์จะสามารถลดดอกเบี้ยได้เสมอไป ดังนั้นก่อนจะรีไฟแนนซ์ แนะนำให้ผู้ขอสินเชื่อศึกษารายละเอียดของสินเชื่ออย่างละเอียดรอบคอบ โดยประเด็นหลักที่จะต้องพิจารณา คือ อัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสินเชื่อของสินเชื่อรีไฟแนนซ์จะต้องต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยตลอดสินเชื่อปัจจุบัน
อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการรีไฟแนนซ์ (Refinance) เช่น ค่าธรรมเนียมการจดจำนอง ค่าอากร ค่าประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ รวมไปถึง ค่าประกันอัคคีภัยหรือประกันสินเชื่อ (MRTA) ซึ่งมีเงื่อนไขแตกต่างกันตามแต่ละธนาคาร ที่สำคัญอย่าลืมต้องตรวจสอบเงื่อนไขการไถ่ถอนสินเชื่อจากธนาคารเดิมด้วยว่ากำหนดให้ผู้ขอสินเชื่อสามารถรีไฟแนนซ์ได้ตั้งแต่ปีที่เท่าไรของการกู้ เพราะมิฉะนั้นแล้วผู้กู้จะต้องถูกปรับจากธนาคารเดิม หากผู้ขอสินเชื่อไถ่ถอนหนี้ก่อนกำหนด
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ