แสนสิริปลื้มยอดขายในกลุ่มลูกค้าต่างชาติพุ่ง 8 เดือนทะลุ 8,500 ล้านบาท ลูกค้าหลักมาจากฮ่องกง-สิงคโปร์-รัสเซีย คาดแตะเป้า 1,100 ล้านบาทได้ภายในสิ้นปีนี้
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่าบริษัทประสบความสำเร็จในการสร้างฐานลูกค้าชาวต่างชาติโดยที่ผ่านมามียอดขายที่เกิดจากผู้ซื้อชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันมียอดขายรวมกว่า 8,500 ล้านบาท ในขณะที่ยอดขายรวมในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้จากลูกค้าชาวต่างชาติอยู่ที่ 585 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 460% ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายในเซ็กเมนต์ดังกล่าวได้ตามเป้าที่วางไว้ที่ 1,100 ล้านบาทภายในช่วงสิ้นปีนี้แน่นอนเนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ
สำหรับกลุ่มลูกค้าต่างชาติรายใหญ่ของบริษัท ได้แก่ ผู้ซื้อจากฮ่องกง สิงคโปร์ และรัสเซีย โดยประเภทของห้องชุดที่ได้รับความนิยมในผู้ซื้อกลุ่มนี้ได้แก่ห้องชุดขนาด 1-2 ห้องนอนสำหรับโครงการในกรุงเทพฯ ในขณะที่ดีมานด์สำหรับโครงการในทำเลเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ ในต่างจังหวัดนั้นจะเป็นห้องทุกขนาด
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้าชาวต่างชาติให้เพิ่มมากขึ้น
“ยอดขายจากลูกค้าชาวต่างชาติในปัจจุบัน (ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2557) คิดเป็น 5% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งตัวเลขดังกล่าว เป็นยอดขายที่มาจากการขายห้องชุดจำนวน 1,500 ยูนิตให้กับลูกค้าจาก 55 ประเทศ โดย 5 ชาติแรกที่เป็นผู้ซื้อรายใหญ่ ประกอบด้วย ฮ่องกง 9.6% (820 ล้านบาท), สิงคโปร์ 5.6% (480 ล้านบาท), รัสเซีย 5.5% (470 ล้านบาท), อังกฤษ 4.7% (400 ล้านบาท) และฝรั่งเศส 4.3% (370 ล้านบาท) โดยยอดขายในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้จากลูกค้าในกลุ่มนี้เพียงกลุ่มเดียวอยู่ที่ 585 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา ซึ่งมียอดรวมอยู่ที่ 127 ล้านบาทถึง 460%”
นายเศรษฐากล่าวว่าแม้เมืองไทยจะประสบกับภาวะเศรษฐกิจผันผวนอันเป็นผลมาจากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาจนมาถึงช่วงกลางปีนี้ แต่นักลงทุนชาวต่างชาติยังคงมีความมั่นใจต่อการลงทุนด้านอสังหาฯ ในเมืองไทย เนื่องจากนักลงทุนเหล่านั้นมีความคุ้นชินกับสถานการณ์การเมืองไทยเป็นอย่างดีทำให้เข้าใจว่าปัจจัยลบที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว
“ผู้ซื้อชาวต่างชาติเลือกซื้ออสังหาฯ ในเมืองไทยเพราะได้ผลตอบแทนการลงทุนที่ค่อนข้างสูงและราคาที่ไม่แพงจนเกินไปเมื่อเทียบกับอสังหาฯ ในสิงคโปร์ ฮ่องกง หรือเมืองอื่นๆ และที่สำคัญนักลงทุนต่างชาติเชื่อมั่นว่ามูลค่าของอสังหาฯ ในเมืองไทยเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี” นายเศรษฐากล่าว
สำหรับเหตุผลในซื้อของกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาตินั้น นายเศรษฐากล่าวว่าแตกต่างกันออกไปตามทำเลที่เลือกซื้อ โดยหากเป็นการซื้อโครงการในกรุงเทพฯ และปริมณฑลส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อเพื่อลงทุน ในขณะที่หากเป็นโครงการในต่างจังหวัดมักจะเป็นการซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง หรือเพื่อเป็นที่อยู่ในวัยเกษียณ
“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ฐานลูกค้าต่างชาติของเราเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเรายังคงให้ความสำคัญในการขยายฐานลูกค้า อย่างต่อเนื่อง ในช่วง low-season เราจะจัดโร้ดโชว์เดินสายโปรโมทโครงการในต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และมาเลเซีย ซึ่งปีนี้เราได้ไปเจาะตลาดใหม่อย่าง จีนและรัสเซีย หลังจากเริ่มเห็นกำลังซื้อของกลุ่มนักลงทุนในประเทศเหล่านั้น โดยการโร้ดโชว์ในแต่ละครั้งก็ประสบความสำเร็จในด้านยอดขายและยอดผู้เข้าชมตามที่เราวางเป้าไว้ด้วยจำนวนคนเข้าชมโรดโชว์วันละ 50 – 100 คนและยอดขายประมาณ 100 – 200 ล้านบาทต่อโรดโชว์หนึ่งครั้ง
“นอกจากนั้น ในช่วง high-season ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวของประเทศไทยในช่วงไตรมาส 4 เรามีการจัดกิจกรรมทางการตลาดและมอบโปรโมชั่นพิเศษแก่ลูกค้าต่างชาติ รวมทั้งจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น เอเจนซี่ในต่างประเทศให้นำลูกค้าต่างชาติมาเยี่ยมชมโครงการ และอีลิทการ์ด (Elite Card) เพื่อมอบสิทธิประโยชน์และเอกสิทธิ์เหนือระดับแก่ลูกค้าของแสนสิริ เป็นต้น ซึ่งเรามั่นใจว่ายอดขายจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติในปีนี้จะอยู่ที่ 1,100 ล้านบาทตามเป้าที่วางไว้ได้แน่นอน” นายเศรษฐา กล่าวสรุป
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
