หนึ่งปีผ่านพ้นไปไวเหมือนโกหก 365 วันที่กำลังจะผ่านไป สุขภาพการเงินของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?
“การตั้งเป้าการออมให้ชัดเจนและเป็นไปได้จริง” นั่นคือสิ่งที่นักวางแผนการเงิน Neil Krishnaswamy แห่งบริษัท Exencial Wealth Advisors เท็กซัส กล่าวแนะนำ นอกจากวิธีง่ายๆ อย่าง “ฟุ่มเฟือยให้น้อยลงและออมมากขึ้น” แล้ว วันนี้ DDproperty มีทิปส์ที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเราสามารถทำได้ง่ายๆ เป็นก้าวแรกๆ สู่ความมั่นคั่งของชีวิต
1.หนี้มีก็ชำระก่อน
เห็นดอกเบี้ยสหรัฐขึ้นบางคนถึงกับหนาว เพราะกังวลว่าธนาคารแห่งประเทศไทยของเราจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นด้วยหรือไม่ คำตอบคือ ยังครับ สาเหตุเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจและตัวเลขภาวะหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูงทำให้ไม่สามารถปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นได้ นั่นหมายความว่าเรายังคงจ่ายหนี้ในอัตราดอกเบี้ยที่เท่าเดิม (1.5%) แต่สำหรับเรื่องสินเชื่อหรือหนี้บัตรเครดิตให้เลือกชำระกรณีที่มีดอกเบี้ยสูงและใกล้กำหนดก่อนที่จะโดนปรับโทษและสร้างหนี้เพิ่มโดยไม่จำเป็นได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าให้เรียงลำดับความสำคัญของหนี้ที่ต้องชำระให้ดีเพื่อภาวะไร้หนี้ที่สดใสในอนาคต เราไม่รู้เลยว่ารัฐจะออกมาปรับอัตราดอกเบี้ยเมื่อไร แต่แน่นอนต้องรอให้อะไรดีขึ้นก่อนถึงจะปรับได้ แต่คงไม่ใช่เร็ววันหรือเร็วปีนี้ หากยังเป็นหนี้แล้วจะออมให้สบายใจได้อย่างไร?
2. จัดสรรเงินฉุกเฉิน
หากคุณเลือกลงทุนระยะยาวอย่าง RMF (Retirement Mutual Fund) คุณต้องพยายามประคับประคองกระแสเงินลงทุนที่จะเข้าไปในแต่ละปี (15%) ของรายได้ประเมินประจำปีและต้องข่มใจไม่ถอนออกมาใช้ฉุกเฉิน (emergency fund) มิเช่นนั้นอาจจะโดนปรับโทษอย่างเช่นโดนเรียกจ่ายภาษีคืนในช่วงที่ได้รับการลดหย่อนจากการลงทุนประเภทนี้แถมยังโดนดอกเบี้ยอีกต่างหาก
ดังนั้นควรจะมีเงินก้อนที่เข้าถึงง่ายโดยอาจจะเป็นในรูปของเงินสดหรือบัญชีออมทรัพย์เพื่อที่ว่าคุณจะได้ดึงออกมาใช้ในยามฉุกเฉินได้อย่างชิลๆ ไม่ต้องรับโทษใดๆ
แบบไหนถึงเรียกว่าฉุกเฉิน? “ตัวอย่างง่ายๆ โดนๆ เลยก็คือภาวะไร้งานทำ โดยเงินก้อนสำรองฉุกเฉินนั้นควรจะอยู่ในจำนวนที่พาคุณอยู่รอดได้ภายในระยะเวลา 3-6 เดือนหรือในช่วงหางานทำนั่นเอง” Stuart Ritter รองประธานบริษัทจัดการการลงทุน T. Rowe Price Investment Services กล่าว ยิ่งหากคุณมีรายได้แค่ช่องทางเดียวแล้วควรจะเพิ่มจำนวนเงินสำรองฉุกเฉินจะเป็นการดี
3. เงินหลังเกษียณ
ใครๆ ก็อยากจะใช้ชีวิตหลังวัยทำงานแบบสบายๆ แต่ก่อนจะสบายก็ต้องรู้จักเก็บก่อน โดยข้อแนะนำคือแต่ละเดือนให้ออม
เข้าบัญชีหรือหน่วยลงทุนเพื่อการเกษียณไว้อย่างน้อย 10% ไม่มีใครไม่ต้องการเงินไว้ใช้ตอนแก่หรอก น่าขันกับคนที่ชอบคิดว่าช่วงหนุ่มสาวนี่แหละคือวัยที่ต้องเสพสุขโดยใช้เงินกินเที่ยวให้เต็มที่ แล้วตอนแก่คุณไม่ต้องใช้อย่างนั้นหรือ… แหม่
4. หมั่นประเมินแผนลงทุนเป็นระยะ
เริ่มต้นลงทุนกับหุ้นน่ะดีแล้วแต่ให้คอยเช็คว่าหน่วยลงทุนที่เลือกยังสอดคล้องกับแผนการลงทุนตอนแรกหรือไม่รวมถึงระดับความเสี่ยงที่สามารถแบกรับได้ ไม่ใช่ทิ้งเงินไว้ในหน่วยลงทุนยาวเดี๋ยวมันจะน้อยใจติดลบไปไม่รู้ตัว
Christopher Krell นักวางแผนทางการเงินบริษัท Cassaday & Company ถึงขนาดเคยเจอกรณีสามี-ภรรยาคู่หนึ่งบอกว่าตนเลือกลงทุนหลากหลายกองทุนผ่านตัวแทน บลจ. (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน) ที่ต่างกันเพื่อกระจายความเสี่ยงแต่หารู้ไม่ว่าไอ้หลากกองทุนน่ะมันเป็นกลุ่มหุ้นตัวเดียวกัน!
5. กรมธรรม์ประกันชีวิต
เมื่อรูปแบบการใช้ชีวิตเปลี่ยนจากโสดเป็นมีครอบครัวไปจนถึงมีลูก แต่ละช่วงชีวิตควรจะมีรูปแบบประกันชีวิตที่ต่างกันรวมถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ
จำนวนเงินประกันและผลประโยชน์ทั้งในช่วงรับปันผลต่อปีหรือจำนวนรวมหลังครบอายุคุ้มครองควรจะเพิ่มตามอัตราส่วนของสมาชิกในครอบครัว เช่นกรณีคุณมีครอบครัว กรมธรรม์ไม่ควรจะเป็นเช่นเดียวกันกับเมื่อตอนคุณยังโสด
เช่นเดียวกันหากชีวิตคู่พลิกผันไปสู่การหย่าร้าง ควรศึกษากรมธรรม์ที่ถืออยู่ว่าจะเปลี่ยนไปตามรูปแบบการใช้ชีวิตหรือไม่
มาถึงตรงนี้แล้ว ลองสำรวจตัวคุณเองอีกทีสิว่า สุขภาพการเงินของคุณ ณ ตอนนี้ อยู่ในระดับที่ปลอดภัยหรือใกล้วิกฤต ยังไงก็จะปีใหม่กันแล้ว ยังไม่สายนะครับ หากคุณคิดจะเริ่มวางแผนการเงินเพื่อความสุขในการใช้ชีวิตทุกๆ ช่วงวัย
เรื่องข้างต้นเรียบเรียงโดย ชัยสิทธิ์ บุนนาค Content Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chaiyasit@ddproperty.com