เราทุกคนต่างรู้ว่า ในหลวงฯ พระองค์ท่านนั้นทรงงานหนักเพื่อให้พสนิกรชาวไทยพระราชกรณียกิจ นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นประมุขแห่งประเทศไทย เป็นต้นมา พระองค์ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์แก่ปวงชนชาวไทยตลอดพระชนมายุของพระองค์
โดยพระราชกรณียกิจหลักของพระองค์ คือ การเสด็จพระราชดำเนินเยือนประชาชนในท้องถิ่นต่าง ๆ ของประเทศ ทั้งในถิ่นทุรัดกันดาล ห้วย หนอง คลอง ภูเขา เพื่อให้ได้ทรงทราบว่าเป็นอยู่กันอย่างไร ทุกครั้งที่เสด็จฯไปยังสถานต่างๆจะทรงมีสิ่งของประจำพระองค์อยู่ 3 สิ่ง คือ แผนที่ซึ่งทรงทำขึ้นเอง (ตัดต่อเอง ปะกาวเอง) กล้องถ่ายรูป และดินสอ ที่มียางลบ เพื่อจะได้รู้ว่าแต่ละท้องที่เป็นอย่างไร ประสบปัญหาอะไร และพระองค์จะทรงแก้ปัญหานี้อย่างไร
หลังจากที่พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนถิ่นทุรัดกันดาลต่างๆ ทั่วประเทศ ก็จะกลับมายังห้องทรงงานของในหลวง ห้องทรงงานนี้อยู่ใกล้ห้องพระบรรทมบนชั้น 3 ของพระตําหนัก ห้องทรงงานของในหลวงในความคิดของคนทั่วไป อาจจะมีโต๊ะพระอักษร พระเก้าอี้ที่ดูหรูหรา แต่แท้จริงแล้ว หาเป็นเช่นนั้นไม่ พระเก้าอี้นั้นมี แต่พระองค์มิได้ประทับเวลาทรงงานเลย เวลาทรงงานจะประทับบนพื้น เพราะทรงวางสิ่งของต่างๆ ได้สะดวก และเวลาทรงหาข้อมูลหรือ รับสั่งกับผู้เฝ้าถวายงาน จะทรงถนัดกว่าประทับอยู่บนพระเก้าอี้
ห้องทรงงานเป็น ห้องเล็กๆ ขนาด 3 x 4 เมตร เรียบๆ ซึ่งไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลย ผนังห้องทรงงานโดยรอบจะเป็นแผนที่ทาง อากาศแสดงถึงพื้นที่หมู่บ้าน แม่น้ํา ภูเขาและป่าอย่างละเอียด เพื่อให้ทรงทราบว่าในแต่ละภูมิภาคของประเทศเป็นเช่นไร
ภายในห้องทรงงานจะมีวิทยุ โทรทัศน์ โทรสาร โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ เทเล็กซ์เครื่องบันทึกเสียง เครื่องพยากรณ์ อากาศ และอื่นๆ อย่างครบวงจร ทั้งนี้ก็เพื่อไว้ติดต่อ ทรงงาน ติดตามข่าว เพื่อจะได้ทรงสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ทันท่วงที
เพราะพระองค์ทรงนึกถึงแต่ประชาชน แม้กระทั่งวันที่พระองค์ทรงกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดกระดูกสันหลังในอีก 5 ชั่วโมง (20 กรกฎาคม 2549) ยังทรงรับสั่งให้ ข้าราชบริพารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์เดินสายออนไลน์ไว้ เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศ พระองค์จะได้มอนิเตอร์ เผื่อน้ำท่วมจะได้ช่วยเหลือทัน
บางเวลาทรงใช้ห้องนี้เป็นที่ทรงสมาธิด้วย แถมมีพระที่นั่งเล็กๆ กว้าง สัก 2 ศอก ยาว 2 ศอก หนาประมาณ 2 เซนติเมตร สําหรับทรงเอน ในบางครั้ง ห้องนี้ถือเป็นห้องทรงพระสําราญ ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดเข้าไปได้ นอกจาก จะต้องขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต
ข้างๆ ห้องจะเป็นเฉลียงเล็กๆ กว้างสัก 3 วา ยาว 4 วา ที่เฉลียงนี้ ทรงปลูกไม้เพาะทดลองไว้หลายพันธุ์ คราวหนึ่งทรงปลูกถั่ว พระองค์เฝ้ามองการเจริญเติบโต พอถั่วออกผลก็จะทรงเก็บเมล็ดถั่ว ให้นกกินด้วย
ครั้งหนึ่ง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กราบบังคมทูลถามว่า เคยทรงเหนื่อยทรงท้อบ้างหรือไม่ ?
ในหลวงทรงตอบว่า “ความจริงมันน่าท้อถอยอยู่หรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่พระองค์ทรงทำเพื่อพวกเราทุกคน พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างในเรื่องของความเสียสละ ความพอเพียง และเป็นแบบอย่างให้กับปวงชนชาวไทย คงไม่มีพระมหากษัติย์พระองค์ใดทรงงานหนักเท่ากับในหลวงของเราอีกแล้ว แล้วเราล่ะ!! ได้ทำอะไรเพื่อตอบแทนความรักที่พระองค์ทรงมีให้บ้าง? คุณเคยทำอะไรเพื่อประเทศชาติบ้างหรือยัง?
บทความข่าวที่คุณอาจสนใจ เรื่อง: เปิด 5 จุดจอดรถส่วนตัวรองรับคนตจว.
หรือสามารถชมรีวิวโครงการใหม่ๆ ได้ที่นี่… เพื่อศึกษาของมูลโครงการที่คุณสนใจ
เรื่องข้างต้นเขียนโดย วัชระ วงศ์สง่า Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ Watchara@ddproperty.com