สิงห์ เอสเตท รุกอสังหาฯครบวงจร ปักหมุดขยายโรงแรมแถบยุโรป

12 ก.พ. 2559

“สิงห์ เอสเตท” หวังเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น เดินหน้าไม่ยั้งขยายธุรกิจโรงแรม ปักธงประเทศแถบยุโรป เผยงบลงทุนปีนี้ 1.88 หมื่นล้านบาท รุกธุรกิจอสังหาฯแบบครบวงจร จับเฉพาะตลาดซุปเปอร์ลักซูรี่

นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “S” พูดถึงแผนดำเนินการในปี 59 ว่า ทางบริษัทตั้งงบเพื่อการลงทุน 1.88 หมื่นล้านบาท เป็นแผนการลงทุน 5 ปีของบริษัท โดยแบ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจ Hospitality มากที่สุดไว้ที่ 8,000 ล้านบาท ธุรกิจที่พักอาศัย 5,100 ล้านบาท และอีก 5,700 ล้านบาท ใช้ลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า พื้นที่ค้าปลีก คลังสินค้าและโลจิสติกส์

นอกจากนี้ บริษัทยังคงเน้นการเข้าซื้อและควบรวมกิจการ (M&A) เหมือนปีที่ผ่านมา โดยสามารถลงทุนเองได้ทั้งหมดหรือการร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งเป้าหมายยังคงเป็นธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศ อย่างเช่นประเทศอังกฤษปัจจุบันมีทั้งหมด 26 แห่ง และคาดว่าจะขยายการลงทุนในแถบยุโรป เช่น เยอรมัน , สเปน โดยทางบริษัทฯมองว่า 2 ประเทศนี้มีความน่าสนใจ เนื่องจากเป็นประเทศที่เป็นเมืองแห่งท่องเที่ยว และเศรษฐกิจดี ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มโรงแรมเข้ามาในพอร์ต 5-6 แห่งในปีนี้

ขณะนี้กำลังเจรจากับพันธมิตรอยู่อย่างน้อย 10 ดีล ซึ่งหวังว่าจะจบได้ 6-7 ดีล โดยแบ่งเป็นต่างประเทศ 1 ดีล และที่เหลือเป็นในประเทศทั้งหมด ธุรกิจที่คุยจะเป็นค้าปลีก 2 ดีล นิคมอุตสาหกรรม คลังสินค้า 2-3 ดีล โดยแต่ละดีลจะอยู่หลักพันล้าน

สำหรับแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ เน้นตลาดระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ อย่างน้อย 3 โครงการ มูลค่ารวม 14,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการคฤหาสน์หรูหรา บนถนนประดิษฐ์มนูญธรรม (เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา) ซึ่งเป็นทำเลทองสำหรับตลาดเซ็กเมนท์เอบวก บนเนื้อที่ 45 ไร่ โดยขนาดที่ดินจะเริ่มตั้ง 1 ไร่ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอยภายในเริ่มตั้งแต่ 800 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 150 ล้านบาท ทั้งหมด 24 ยูนิต คาดว่าจะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2559

โครงการ 2 เป็นประเภทอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกหัวบนมุมถนนอโศก-เพชรบุรี (สิงห์ คอมเพล็กซ์) ที่จะเป็นอีกหนึ่งสำนักงานที่หรูหรา ทันสมัย และดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ภายในบริเวณประกอบด้วยส่วนค้าปลีก ที่จะมีร้านอาหารชั้นนำ ร้านบริการต่างๆ รวมทั้งธนาคาร เพื่อรองรับความต้องการของพนักงานออฟฟิศ และผู้อาศัยใกล้เคียง โดยส่วนออฟฟิศสูง 44 ชั้น เป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ คาดว่าราคาเช่าจะสูงกว่าตารางเมตรละ 1,000 บาท ซึ่งขณะนี้ทางกลุ่มบุญรอดบริวเวอรี่ได้ทำสัญญาเช่าระยะยาว 6 ชั้นบนสุดไปแล้ว คิดเป็นประมาณร้อยละ 30

และโครงการสุดท้ายคอนโดมิเนียมซูเปอร์ ลักชัวรี่ บนเนื้อที่ 2 ไร่เศษ จะอยู่ภายในบริเวณสิงห์ คอมเพล็กเช่นกัน โดยมีให้เลือก 1 – 2 ห้องนอน และห้องเพนเฮ้าส์ ขนาด 35 – 120 ตารางเมตร กำหนดจะเปิดจองราวไตรมาส 4 และราคาขายน่าจะอยู่ที่ตารางเมตรละ 3 แสนบาท

นายนริศ กล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายในการดำเนินงานในปี 59 บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถมีกำไรจากการดำเนินงาน จากปี 2558 ที่ยอมรับว่ายังคงขาดทุน โดย 9 เดือน ปี 2558 ขาดทุน 179.79 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้จะรับรู้กำไรจากการลงทุนในโรงแรมเมอเคียว ที่ประเทศอังกฤษ จำนวน 26 แห่งเต็มปี และค่าเช่าจากซัน ทาวเวอร์

ส่วนในปี 59 ทางบริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 7,000 ล้านบาทซึ่งมากกว่าปี 2558 ที่คาดมีรายได้ราว 3,000 ล้านบาท โดยรายได้หลักจะยังมาจากบริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จะที่เข้ามาราว 3,000-4,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 50% นอกจากนี้ยังรับรู้รายได้จากสินทรัพย์เดิมที่ได้ลงทุนไป และจากการซื้อสินทรัพย์ใหม่ที่จะเข้ามา

ทั้งนี้ ในช่วงปลายปีนี้บริษัทฯ จะจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) มูลค่ากองไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท โดยจะนำสินทรัพย์ คือ โรงแรม วิลเลจไอร์แลนด์ บีช รีสอร์ท จังหวัดกระบี่ เข้าจัดตั้งกอง และในปี 2560 คาดว่าจะนำโรงแรมสันติบุรี ขายเข้ากองทรัสต์เพิ่ม

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่sineewan@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

 

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

DDproperty Show เปิดฉากวันนี้หวังปลุกกำลังซื้ออสังหาฯ Q1

DDproperty.com ร่วมปลุกกำลังซื้ออสังหาฯ ช่วง Q1 จัดงาน DDproperty Show ครั้งแรกของปีวอก ภายใ

อ่านต่อ11 ก.พ. 2559