วิธีสร้างความมั่นคง-มั่งคั่งง่ายๆสไตล์มนุษย์เงินเดือน

เคยสงสัยไหมว่างบประมาณที่รัฐบาลแถลงออกมาเป็นหลักแสนล้านทำไมไม่ทำให้ชีวิตมนุษย์เงินเดือนอย่างเราดีขึ้นแต่อย่างใด แล้วถ้าไม่เกี่ยวกับเราแล้ว เงินงบประมาณเหล่านั้นมันเทไปกับเรื่องอะไรบ้าง วันนี้ DDproperty พร้อมไขข้อข้องใจว่าทำไมคนที่มีสถานะ “มนุษย์เงินเดือน” จึงมักถูกมองข้ามจากนโยบายอุ้มชูของภาครัฐ พร้อมทางออกท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในปัจจุบัน

ทำไมรัฐถึงให้ความสำคัญกับคนกลุ่มรากหญ้ามากกว่า?

ดร.ธานี ชัยวัฒน์ นักวิชาการเศรษฐศาสตร์การเมืองจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเคยกล่าวถึงเรื่องการวางนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านๆ มาว่า ในประเทศที่ใช้ระบบประชาธิปไตย ฐานเสียงส่วนใหญ่จะมาจากคนในกลุ่มรากหญ้า ดังนั้นเวลารัฐบาลจะออกนโยบายอะไรจึงต้องอิงไปที่กลุ่มคนเหล่านั้น จะเห็นได้ว่าคนที่มีรายได้น้อยจะมองว่ารัฐน่าจะเรียกเก็บภาษีจากชนชั้นกลางซึ่งมีรายได้ให้มากขึ้นเพื่อที่จะได้นำเงินนั้นมาจัดสรรเป็นโครงการช่วยเหลือตนได้มากขึ้น

แล้วมนุษย์เงินเดือนที่เป็นกลุ่มชนชั้นกลางเดือดร้อนอย่างไร?

อย่าลืมว่าถึงแม้สัดส่วนของประชากรบ้านเราจะมีคนรายได้น้อยเป็นกลุ่มใหญ่ แต่สำหรับภาคการใช้จ่าย กลุ่มคนที่ใช้เงินไปในเรื่องต่างๆไม่ว่าจะเป็นการซื้อของ บริการ ที่มีการหักภาษีเข้าสู่รัฐบาลเพื่อนำไปช่วยเหลือคนรายได้น้อย มาจากกลุ่มพวกเราชาวมนุษย์เงินเดือน คำถามที่เกิดขึ้นมาระหว่างทางก็คือ “แล้วเราได้ประโยชน์อะไรจากเงินภาษีที่จ่ายไปไหม?” หากให้นึกภายใน 3 วินาที น้อยคนมากที่จะนึกออก

ตัวอย่างง่ายๆ ที่เราแทบจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจของกลุ่มมนุษย์เงินเดือน

พนักงานออฟฟิศทั่วไป
เงินเดือนเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีก่อน = 15,000 บาท
ผ่านมา 10 ปี อัตราเงินเดือนยังคงที่ นั่นคือเริ่มต้นที่ 15,000 บาท
แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว
10 ปีก่อนก๋วยเตี๋ยมชามละ 20 บาท ขายได้เฉลี่ยต่อวันที่ 30 ชาม รายได้เฉลี่ยประมาณ 15,000 (กรณีหยุดขายวันอาทิตย์วันเดียว) บาท หักค่าต้นทุนที่ 20%= 3,000 บาท แม่ค้าคนนี้มีรายได้สุทธิที่ 15,000 – 3,000 = 12,000 บาท
10 ปีถัดมาราคาก๋วยเตี๋ยวเพิ่มขึ้นเป็น 35 บาท ขายได้เฉลี่ยต่อวันที่ 30 ชาม รายได้เฉลี่ยประมาณ 27,000 บาท หักต้นทุนที่ 20% เช่นเดียวกัน 27,000 – 5,400 = 21,600 บาท

วินมอเตอร์ไซค์
10 ปีก่อนวิ่งเที่ยวละ 10 บาท วันละ 30 เที่ยว รายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 7,800 บาท (กรณีหยุดวิ่งวันอาทิตย์)
10 ปีถัดมาเพิ่มราคาเที่ยวเป็น 20 บาท ถึงแม้ราคาน้ำมันจะถูกลงกว่า 70% จากเมื่อ 10 ปีก่อน เหตุใดค่าวินจึงยังสูงอยู่ รายได้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท
เห็นไหมครับใครแบกภาระเยอะสุด คำตอบคือ มนุษย์เงินเดือน นั่นเอง หากคุณไม่ใช่บุคคลที่โดดเด่นอะไรในองค์กรฐานเงินเดือนอาจจะนิ่งอยู่กับที่ และคุณอาจจะรู้สึกว่าทำไมถึงจนลงทุกทีจากราคาก๋วยเตี๋ยวและค่าวินที่เพิ่มสูงขึ้น

หนทางสู่การเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มั่งคั่ง

หากเราจะรอให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้คงจะอีกนาน แต่เรายังพอมีหนทางเอาชนะทางตันของมนุษย์เงินเดือนได้โดยขั้นแรกคือตั้งเป้าและศึกษาว่าเราจะเก็บเงินก้อนหนึ่งเพื่อลงทุนอะไร ด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ต่ำทำให้เราต้องมองหาโอกาสอื่นเพื่อทำให้เงินของเรามันงอกงาม เมื่อมีเป้าหมายแล้วไม่ว่าจะเป็นจะลงทุนในเรื่องของอสังหาริมทรัพย์, กองทุนหุ้นทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ, ทองคำ ซึ่งตัวเลือกเหล่านี้มีอัตราผลตอบแทนที่ค่อนข้างน่าสนใจ แต่ทั้งนี้ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีในหน่วยที่ตนเลือกลงทุน แค่นี้เราจะมีช่องทางรายได้เพิ่มเข้ามาเป็นเกราะป้องกันชั้นดี หากประเทศเรายังคงอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย และถึงแม้เงินเฟ้อถูกปรับขึ้นจริงอสังหาฯ คือการลงทุนที่ดีที่ผลตอบแทนจะปรับตามตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น

หากอยากเป็นคนที่มั่งมีในวันข้างหน้า ถึงเวลาที่คุณจะต้องเริ่มเก็บออมและลงทุนในวันนี้