อาร์เค ยึดหัวหาดกรุงเทพตะวันออก ปั้นโครงการใหม่ พร้อมบุ๊ครายได้ทั้งปี’59 ปิดที่ 1,500 ล้านบาท
นายวรยุทธ กิตติอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทรุ่งกิจ เรียลเอสเตท จำกัด หรืออาร์เค พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ในปี 2559 ทางอาร์เค เตรียมเปิดโครงการใหม่ราว 3 โครงการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2,250 ล้านบาท โดยจะเน้นโครงการโซนกรุงเทพตะวันออก ประกอบด้วย1.โครงการ The Eiffel รามคำแหง ซอยมิสทีน เป็นโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น อยู่ใกล้ถนนกรุงเทพกีฑา มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท 2.ทาวน์โฮม 3 ชั้น บนเนื้อที่ 11 ไร่ ราคาเริ่มที่ 5.9 ล้านบาท เปิดตัวไตรมาส 4/59 ราคาเริ่ม 3.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการอยู่ที่ 400 ล้านบาท และ3.โครงการบนถนนรามอินทรา 109 พัฒนาเป็นทาวน์โฮม มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมงบในการซื้อที่ดินเพิ่มอีกหลายแปลง ประมาณ 600 – 700 ล้านบาท ซึ่งทางบริษัทจะดูเรื่องของความเสี่่ยงที่จะเกิดด้วย อาจจะยืดหยุ่นการซื้อที่ดินได้ตามความเหมาะสม ประกอบกับราคาต้นทุนที่ดินย่านกรุงเทพโซนตะวันออกมีการปรับตัวสูงขึ้นมาก ณ วันนี้ ราคาต่อตารางวาอยู่ที่ 1 แสนกว่าบาท ขณะที่ที่ดินย่านรามคำแหง จากเดิมเมื่อปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 50,000 บาทต่อตารางวา ปัจจุบันราคาที่ดินปรับเพิ่มเป็น ตารางวาละ 75,000 บาท
ปัจจุบัน ทางบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย 10 โครงการ ซึ่งในปีนี้จะมีการปิดการขายโครงการหลายแห่ง เช่น โครงการ RK โฮม พาร์ค 2 พระราม 9-รามคำแหง รูปแบบบ้านเดี่ยว RK Biz Center มอเตอร์เวย์-แอร์พอร์ตลิงก์ RK พาร์ค วัชรพล-สายไหม และ RK พาร์ค ซาฟารี เฟส 2 และโครงการ The Eiffel รามคำแหง บ้างส่วนในปีนี้ด้วย
ล่าสุดโครงการ RK park วัชรพล ที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่ทั้งหมด 17 ไร่ 86 ตารางวา 3 งาน พัฒนาเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ชั้น และ 4 ชั้น ทั้งหมด 173 ยูนิต ราคาเริ่ม 2.69 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายกว่า 50% (เปิดขายเมื่อปีที่ผ่านมา) เน้นกลุ่มลูกค้าอายุตั้งแต่ 32 ปีขึ้นไป และมีรายได้ต่อครัวเรือน 60,000 – 80,000 บาทต่อเดือน จุดเด่นของโครงการนี้ จะเน้นฟังก์ชั่นพื้นที่การใช้สอยที่ให้มากกว่า มี 3 – 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องนั่งเล่น พร้อมที่จอดรถ 1 – 2 คัน
ฟังก์ชั่นภายในบ้านจะเพิ่มพื้นที่ห้องชั้นล่างสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน หรือรองรับห้องผู้สูงอายุได้ นอกจากนี้ยังโดดเด่นเรื่องของทำเลอยู่ติดถนนใหญ่ ทำให้การเดินทางสะดวก ไม่ต้องใช้ shuttle bus เพราะมีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าปีนี้ ทางบริษัทจะสามารถรับรู้รายได้ 1,500 ล้านบาท เติบโตประมาณ 15-20% เมื่อเทียบกับปี 58 ขณะที่ในช่วงไตรมาส1/59 นั้น ผลประกอบของบริษัทค่อนข้างได้รับการตอบรับที่ดีโดยมียอดรับรู้รายได้อยู่ที่ 400 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในเรื่องของแผนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้น ตามแผมเดิมวางไว้ปี 2559 ต้องชะลอออกไปก่อนเนื่องจากสภาวะไม่เอื้ออำนวย ทำให้ต้องขยับการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ไปเป็นปี 2560
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี้