หลังหมดน้ำยากระตุ้นอสังหาฯ คาดทั้งปีตลาดโต 5%

28 เม.ย. 2559

รมช.คลัง ชี้หมดสิทธิ์ลุ้นต่อมาตรการกระตุ้นอสังหาฯลดค่าธรรมเนียมการโอน/จดจำนอง เชื่ออสังหาฯเดินต่อเองได้ แนะภาคเอกชนพัฒนาที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ และ สิ่งแวดล้อม

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัชมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเปิดการสัมมนาและปาฐกถาพิเศษ “แนวทางการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล” ในงานสัมนา”ปิดฉากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯไปทางไหน” ว่า จากมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% ซึ่งได้เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.58 – 28 เม.ย.59 เป็นระยะเวลา 6 เดือน ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจของประชาชนในการซื้อที่อยู่อาศัย โดยใน 2 เดือน (พ.ย.-ธ.ค.58) เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มีขยายตัวเพิ่มขึ้น 31% และขยายตัวเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับเดือนต่อเดือน ขณะที่ยอดการโอนเพิ่มขึ้นถึง 13% อย่างไรก็ดี เมื่อสิ้นสุดมาตรการในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ ซึ่งทางรัฐบาลคงจะไม่ต่ออายุมาตรการดังกล่าวแล้ว เนื่องจากมองว่าทิศทางของธุรกิจภาคอสังหาฯ ณ ขณะนี้ สามารถเดินหน้าต่อไปได้พอสมควรแล้ว ซึ่งการให้ยากระตุ้นแรงตลอดระยะ 6 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าเป็นเวลาที่สมควรแล้ว ซึ่งอย่างไรก็ตามหากใช้ยากระตุ้นแรงๆ และต่อเนื่องอาจทำให้เกิดอาการดื้อยาได้”

นอกจากนี้ ยังได้เสนอแนะเกี่ยวกับการจัดทำระบบข้อมูลบ้านมือสอง ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่เป็นระบบเท่าที่ควร โดยเมื่อสร้างที่อยู่อาศัยมากขึ้นจะต้องมีข้อมูลได้ว่าบ้านหลังนั้นราคาเท่าไร รูปแบบบ้านเป็นอย่างไร และสร้างปีไหน ซึ่งจะต้องมีผู้ที่เข้ามาดูแลในส่วนนี้อันจะถือเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคที่มีความต้องการซื้อบ้านด้วย

ทั้งนี้ รมช.คลัง ยังได้ให้แนวความคิดให้กับผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับผู้สูงอายุรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น รวมถึงบ้านสำหรับคนพิการ หรือคิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต่อยอดจากโครงการบ้านประชารัฐเพื่อผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัย ซึ่งแนวคิดนี้ผู้ประกอบการเอกชนสามารถพัฒนาในที่ดินของตัวเองหรือพัฒนาบนที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ได้โดยมองว่าหลังจากที่รัฐบาลได้มีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ออกมาทำให้ผู้ประกอบการมีผลประกอบการที่ดีขึ้นจึงอยากให้ผู้ประกอบการเอกชนควรที่หันมาดูแลสังคมด้วย

โดยรูปแบบนั้น ต้องการให้มีการสร้างในลักษณะเป็น Complex ให้ผู้สูงอายุเช่าในราคาถูก ซึ่งรัฐมีที่ดินที่ราชพัสดุมารองรับ เพื่อให้ผู้ประกอบการเอกชนพัฒนา เช่น ภาคเหนือ และส่วนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่จะให้ผู้ประกอบการเอกชนเข้ามาพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุนั้นขณะนี้กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างพิจารณา

ด้านนายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวในหัวข้อ “หลังสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นของรัฐ จะไปทางไหน” มองว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเติบโตได้ แต่คงไม่คึกคักเหมือนช่วงที่รัฐบาลออกมาตรการ ซึ่งในกรุงเทพฯและปริมณฑลบริษัทอสังหาริมทรัพย์คงจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ แต่หลังจากที่รัฐบาลไม่มีมาตราการกระตุ้น บริษัทต่างๆ จะเน้นขายบ้านลดล้างสต็อกเป็นหลัก ส่วนในตลาดต่างจังหวัดยังมองว่าตลาดคอนโดมิเนีนยมจะมีการปรับมากขึ้น ซึ่งยังมีบางบริษัท เช่น CPN ยังเดินหน้าในการเปิดตัวคอนโดฯ ในต่างจังหวัด เช่น ชียงใหม่ ระยอง ขอนแก่น จำนวนยูนิต 300 – 400 ยูนิต รวมถึงบริษัท Local นั้นด้วย สำหรับพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจากการลงพื้นที่ของตนนั้น เห็นว่าตามแนวชายแดนพบว่าจังหวัดตากนั้นมีความพร้อมมากสุด เริ่มมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ทุนใหญ่เข้าไปลงทุนในพื้นที่ และเชื่อว่าจะเห็นภาพการเข้าไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษอย่างเต็มที่ในช่วงปี2560

ขณะที่ นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย และกรรมการผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจพรีเมี่ยม บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) ได้มีการคาดการณ์ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 จะเติบโตอยู่ที่ 5% และมีมูลค่าทั้งหมด 3.55 แสนล้านบาท บ้านเดี่ยวโตขึ้น 4-5% ส่วนทาวน์เฮ้าส์โตขึ้น 12% ซึ่งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล บริษัทอสังหาริมทรัพย์คงจะมีการออกโครงการใหม่ๆ ทั้งนี้จากข้อมูลใน 10 บริษัทใหญ่มีโครงการรวม 67 โครงการ มูลค่ารวม 1.2 แสนล้านบาท และเตรียมจะเปิดตัวในช่วง 8 เดือนที่เหลือของปีนี้ เน้นการเปิดตัวโครงการใหม่ โดยเฉพาะตลาดกลาง – ล่างเป็นหลัก

สำหรับตลาดต่างจังหวัดนั้น เชื่อว่าหลายบริษัทยังไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ และคงเร่งทำการตลาดกับอสังหาริมทรัพย์ที่ยังเหลืออยู่ในสต็อก ทั้งนี้ อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการขยายตลาดอสังหาริมทรัพย์ คือการเดินหน้าระบบขนส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่จะเริ่มให้บริการได้ในปีนี้ และเมกะโปรเจกของภาครัฐที่ทยอยออกมานั้น จะเป็นส่วนช่วยในการขยายตลาดธุรกิจอสังหาฯให้เติบโตได้ยิ่งขึ้น

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี้

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ