อสังหาฯ เชียงใหม่- ลำพูน รายใหญ่แห่ลงทุนคึก

9 พ.ค. 2559

ตลาดอสังหาฯ เชียงใหม่ – ลำพูน หลังจากหมดมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ  คาดดีเวลลอปเปอร์ยังคงเดินหน้าเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง และร้อยละ 80 เป็นกลุ่มทุนรายใหญ่จากกทม. ลงพื้นที่พัฒนาโครงการ

นายนนท์ หิรัญเชรษฐ์ เลขาธิการสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่ – ลำพูน เปิดเผยว่า สำหรับมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองช่วยกระตุ้นการซื้อขายในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่งหมดลงนั้น ที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดค่อนข้างคึกคัก ทั้งยังทำให้ประชาชนสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้กว่า 11,000 ล้านบาท โดยสามารถนำเงินส่วนลดนี้ไปต่อยอดในการจับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ประกอบธุรกิจการลงทุนหรือหมุนเวียนในธุรกิจรวม ทั้งนำไปจ่ายค่าหนี้สินต่างๆ ถือเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้ มองว่าทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเติบโตได้คงจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆแต่หลังจากที่รัฐบาลไม่มีมาตรการกระตุ้น บริษัทต่างๆ จะเน้นขายบ้านลดล้างสต็อกเป็นหลักยังเป็น อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นด้านอสังหาริมทรัพย์ซึ่งจากการลงพื้นที่เห็นว่าส่วนใหญ่กลุ่มทุนจากส่วนกลาง(มหาชน)จะมีสัดส่วนการตลาดมากกว่าร้อยละ 80% มีความพร้อมมากที่สุดและยังเชื่อว่าจะมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ทุนใหญ่เข้าไปลงทุนในพื้นที่ และจะเห็นภาพการเข้าไปลงทุนอย่างเต็มที่ในช่วงปี 2560 เป็นต้นไป นักลงทุนผู้ประกอบการท้องถิ่นเตรียมรับมือกันด้วย

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์-ลำพูนได้มีการสำรวจเก็บข้อมูลเกี่ยวกับโครงการตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ พบว่ามีโครงการบ้านจัดสรร ซึ่งอยู่ระหว่างการขาย 135 โครงการมีหน่วยในผังโครงการรวมกันประมาณ 15,100 หน่วย เหลือขายประมาณ 5,040 หน่วย เทียบกับปีก่อนหน้ามี 123 โครงการ หน่วยในผัง 13,100 หน่วย เหลือขายประมาณ 5,100 หน่วย

และถ้าแบ่งตามพื้นที่ พบว่าโครงการบ้านจัดสรรกระจายอยู่ใน 4 อำเภอหลัก คือ อำเภอสันกำแพง 31 โครงการ มีหน่วยในผัง 4,100 หน่วย เหลือขาย 2,030 หน่วย อำเภอเมืองเชียงใหม่ 29 โครงการ 1,930 หน่วย เหลือขาย 1,100 หน่วย อำเภอสันทราย 28 โครงการ 2,450 หน่วย เหลือขาย 790 หน่วย อำเภอหางดง 27 โครงการ 2,750 หน่วย เหลือขาย 1,030 หน่วย อำเภอสารภี 11โครงการ 1,650 หน่วย เหลือขาย 610 หน่วย อำเภอดอยสะเก็ด 9 โครงการ 980 หน่วย เหลือขาย 210 หน่วย อำเภอแม่ริม 4 โครงการ 460 หน่วย เหลือขาย 160 หน่วย

พร้อมระบุว่า สำหรับผู้ประกอบการจะพิจารณาทำเลที่ตั้งที่จะลงทุนโครงการ โดยแบ่งเป็นหลายส่วนด้วยกัน เช่น 1.อสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่า ขณะนี้คงจะขายลำบากมากขึ้นเพราะว่าในการจะซื้อขายที่ดินจะมีเรื่องของผังเมืองมาเป็นตัวกำหนดสินเชื่อที่ดินเปล่าภาคสถาบันการเงินยังคงมีมาตรการเข็มงวด ปัจจุบันประกาศบังคับใช้ผังเมืองถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ปิดกั้นโอกาสในการพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มเติม เพราะมีข้อจำกัดต่างๆ มากมาย เช่น ในเขตเมืองแม้จะเป็นพื้นที่สีแดงสามารถใช้ที่ดินด้านพานิชยกรรมแต่ก็ถูกบล็อกไปหลายจุดด้วยข้องปลีกย่อยไม่สามารถก่อสร้างอาคารหรือคอนโดมิเนียมสูงเกิน 12เมตรได้

2. ธุรกิจห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่คงอิ่มตัวถ้าจะเกิดก็คงเปลี่ยนมือเพราะการเทคโอเวอร์มากกว่า 3. ในอนาคตคอนโดมิเนียมต้องมืออาชีพจริงจึงจะไปรอด 4.โครงการประเภทตึกแถว อาคารพาณิชย์ก็ขึ้นอยู่ที่ทำเลและงบการลงทุนถ้ากู้เงินมาทำจะเหนื่อยเพราะปัจจุบันขายออกตัวยากหลายโครงการ และ5. ธุรกิจที่เกี่ยวกับโรงพยาบาลคิดว่าแนวโน้มในเชียงใหม่ น่าจะมีการแข่งขันสูงกว่านี้มีโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงมาเปิดเพิ่มด้วย

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี้

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กองบรรณาธิการ DDproperty.com 

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

กลุ่มรับเหมาชิงเค้กก้อนใหญ่ 5 เส้นทางรถไฟรางคู่

หลังจากที่ประชุมครม.มีมติและสร้างความชัดเจนให้กับโครงการรถไฟทางคู่ ล

อ่านต่อ9 พ.ค. 2559