หลังจากเมื่อปลายปีที่แล้ว มีข่าวคราวไม่ค่อยสู้ดีนัก เกี่ยวกับอดีตผู้บริหาร นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด ประกาศลาออกอย่างเป็นทางการ
ซึ่งทางบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) (AQ) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2558 ดังนี้ 1.นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 2.นายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการและกรรมการผู้จัดการ แต่ยังคงดำเนินงานในตำแหน่งผู้จัดการอยู่ และ 3. นายฉวิวัชร์ พีชผล ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการของ บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป
แต่อย่างไรก็ตาม “บอร์ดเอคิว” ได้ออกมาชี้แจงการลาออกในครั้งนี้ของผู้บริหารทั้ง 3 ท่านว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท เนื่องจากคณะกรรมการชุดใหม่ที่เข้ามาสานงานต่อเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้มั่นใจได้ว่า สามารถดำเนินงานในอนาคตให้สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตามแผนการที่ได้วางเอาไว้ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นให้ได้รับประโยชน์สูงสุด
ด้านนายภพ เพชรสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ล่าสุดคณะกรรมการของ บมจ. เอคิว เอสเตท ได้เห็นชอบแผนการปรับกลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการที่มุ่งเน้นโครงการที่สามารถโอนและรับรู้รายได้อย่างรวดเร็ว จึงเน้นพัฒนาโครงการในแนวราบประเภทบ้านและคอนโด Low Rise
ปัจจุบันมีโครงการอยู่ระหว่างการขาย 3 โครงการ ภายใต้แคมเปญ U-District เป็นที่อยู่อาศัยติดถนนใหญ่พหลโยธินในย่านพหลโยธิน-รังสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น ม.ธรรมศาสตร์, ม.กรุงเทพ, ม.รังสิต
1.โครงการ เอคิว เชดิ เป็นบ้านเดี่ยวสไตล์ โมเดิร์นเน้นกลุ่มอาจารย์จากมหาวิทยาลัยและผู้ปกครองที่บุตรหลานเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำเหล่านี้ ในราคาเริ่มต้น 4.35 ล้านบาท
2. โครงการ กฤษดาแกรนด์ พาร์ค เป็นบ้านเดี่ยวในสวนสวยขนาดใหญ่ ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 70-200 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท
3. โครงการ รังสิต บิซพาร์ค เป็นโฮมออฟฟิศแห่งเดียวที่ตั้งบนถนนพหลโยธิน เหมาะสำหรับเป็นสำนักงาน พร้อมสามารถพักอาศัยได้จริง ด้วยราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท พร้อมที่จอดรถได้ถึง 6 คัน ซึ่งทั้ง 3 โครงการ ของ U-District มีมูลค่าโครงการรวมประมาณ 1,370 ล้านบาท ทั้งหมดเป็นโครงการสร้างเสร็จก่อนขาย พร้อมโอน เข้าอยู่ได้ทันที
นอกจากนี้ AQ ยังเปิดตัวโครงการใหม่ในย่านพระราม 9 ซึ่งเป็น NEW CBD แห่งใหม่ ถึง 2 โครงการได้แก่ โครงการ เอคิว เอซิล เรสซิเดนซ์แอนด์ โฮเทล อยู่ติดโรงพยาบาลกรุงเทพเหมาะที่จะรองรับตลาดMedical Tourism มีจำนวนจำกัดเพียง126 ยูนิต จึงให้ผลตอบแทนการลงทุนที่คุ้มค่าและ โครงการ Welle เป็นบ้านเดี่ยวใจกลางเมืองพร้อมสวนขนาดใหญ่ระดับExclusiveรองรับการทำงานและการพักอาศัยของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ มีจำนวนจำกัดเพียง 22 หลังพร้อมที่จอดรถที่สามารถรองรับได้ถึง100คันจึงต่างจากโครงการอื่นโดยสิ้นเชิง มูลค่ารวม 2 โครงการนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท นอกเหนือจากการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยAQ ยังดำเนินธุรกิจโรงแรม ซึ่งปัจจุบันมี 3 คือ โรงแรม Shasa Samui โรงแรม Malibu Samuiพร้อมร้าน pizza Peppina ตั้งอยู่ริมหาดเฉวง
และล่าสุดที่กำลังจะเปิดตัวในเดือนกรกฎาคมนี้ คือการกลับมาของตำนานสวนดอกไม้เมืองหนาว กฤษดาดอย การ์เด้นท์ และ โรงแรม Flora creekเชียงใหม่ เนื่องจากตลาดการท่องเที่ยวที่กำลังบูมในช่วงนี้ทำให้ธุรกิจโรงแรมเดินหน้าได้อย่างดี ทั้งตลาดเอเชีย จีน และยุโรป คาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจโรงแรม 200 ล้านบาทต่อปี
ขณะเดียวกัน คอนโดมิเนียม AQ Aria Asoke ซึ่งตั้งอยู่บนถนนอโศก-ดินแดงนั้น ได้มีการขายให้กับกลุ่มชีวาทัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทางชีวาทัยเองเคยให้ข่าวว่าอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อขายโครงการอสังหาฯซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการหนึ่ง มูลค่า ณ ตอนนั้น 479 ล้านบาท แต่ปัจจุบันที่ได้ทำสัญญาซื้อขายกันสรุปปิดตัวเลขกันที่ 586 ล้านบาท และได้เปลี่ยนชื่อเป็นที่เรียบร้อยจาก AQ Aria Asoke มาเป็นโครงการ CHEWATTHAI RESIDENCE ASOKE ภายใต้การบริหารงานโดย บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน)
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี้
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com